จาก แรดบิน IP:58.8.162.44
พฤหัสบดีที่ , 6/12/2550
เวลา : 23:41
อ่านแล้ว = 9150 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
เปิดดูภาพตามลิ้งนี้ http://www.youtube.com/watch?v=1VNBySTChh8
Rainforest-Challenge Terengganu 2007 ครบรอบ 10 ปี สุดยอดการผจญภัยออฟโรดหฤโหดนานาชาติที่มีจอมยุทธออฟโรดจาก 16 ชาติ หลายทวีปมาลงบู๊สมรภูมิป่าดงดิบในประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2550 ได้แก่ออสเตรเลีย สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี เดนมาร์ก โปแลนด์ กรีซ ศรีลังกา อาเจนตินา เลบานอน เกาหลี ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน ใต้หวัน มีรถยนต์ออฟโรดหลากหลายสายพันธุ์ลงบู๊จำนวนมากถึง 45 คัน แต่หากรวมนับรถยนต์ที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งของผู้จัด กรรมการ นักข่าวและผู้ติดตามชมการแข่งขันนั้น จะมีไม่น้อยกว่า 200 คันมากกว่า 25 ชาติ การแข่งขันรถยนต์ออฟโรดรายการนี้จึงยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อรูปแบบออฟโรดนานาชาติที่มีชาติต่างๆมารวมกันมากที่สุดในโลก
ศูนย์ผู้ใช้รถยนต์ออฟโรดแห่งประเทศไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันทุกปีครบรอบ 9 ปีไม่มีขาดไม่มีเกิน และปีนี้ได้สนับสนุนส่งแชมป์ออฟโรดภาคใต้รุ่นปีกนกคุณสุชาติ คำวาสี คุณธีระชัย จันทร์ทิพย์ จากชมรมระนองออฟโรด และนักบู๊ออฟโรดเลือดสตอใจกล้าเกินร้อย คุณหย่ง ตันอาวัชนการ คุณสุริยา เพชรฤทธิ์ จากชมรมบูมเมอแรงตรังไปลงสมรภูมิสู้เก็บเกี่ยวความฝันระดับวงการออฟโรดโลก หนึ่งครั้งในชีวิตออฟโรด หากใครได้ไปสัมผัสย่อมถูกนับเป็นหนึ่งผู้กล้าสูงสุดเมกกะออฟโรดของแท้ของจริง!
การเดินทางของทีมไทยนั้น นักเที่ยวออฟโรดพันธุ์แท้สัญชาติฝรั่งอังกฤษแดนชะอำ คุณคอลลิน เวปและภรรยาสายเลือดไทยได้อาสาพาหลบหลีกหนีเส้นทางยะลา นราธิวาส ปัตตานี ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ชวนเสียวสยองทั้งๆที่เส้นทางนี้สั้นและสถานที่แข่งขันอยู่ใกล้ที่สุดห่างจากชายแดนไทยสุไหงโกลกเพียงแค่ 100 กว่ากิโลเมตรต้นๆเท่านั้น ด้วยความจำใจดังกล่าว จึงหันมาใช้ชายแดนไทย-มาเลเซียด่านสะเดา ลุยดะฉลุยมาตามเส้นทางด่วนประมาณ 90 ก.ม.แล้วต้องแยกทางซ้ายไปสุไหงปัตตานีและสะลัง เพื่อใช้เส้นตัดข้ามฟากมาเลเซียเวลากว่า 7 ชั่วโมงคิดเป็นระยะทางประมาณ 600 ก.ม.ผ่านเส้นทางเมืองบาหลิ่ง ,กรอค,เจลี,ทานาเมอราฮ์,กัวตาบารู, จนกระทั่งได้ไปถึงที่พักอะโกรรีสอร์ท ในเมืองบันดาร์ เพอร์ไหมสุรี รัฐเทรังกานู ซึ่งตามไล่หลังด้วยสุดยอดออฟโรดจากกำแพงเมืองจีนจอมยุทธออฟโรดฮอค โนวิงหรืออินทรีไร้ปีก และคุณไรโนหรือคุณแรด ที่มีแรดบิน นิวทรอน คอยประสานตามประกบร่วมมือมิตรภาพออฟโรดไทย-จีนกันมาตั้งแต่อุดรธานี จันทบุรีจนมาถึงมาเลเซียช่วงเวลาเช้ามืด ก่อนวันแข่งขันหนึ่งวัน
การตรวจสภาพรถยนต์ปีนี้ค่อนข้างไม่ละเอียดจู้จี้ยิบยับ แต่ยังคงเน้นความแข็งแรง ความปลอดภัยเป็นหลัก และน่าแปลกใจรถยนต์แข่งออฟโรดหลายคันพากันตัดส่วนกะบะท้ายหายไป เพื่อลดน้ำหนักคล้ายรถยนต์รุ่นซุปเปอร์เมืองไทย รวมทั้งผู้ลงแข่งขันทุกคนต้องใส่หมวกกันน๊อคหนแรกปีนี้ จึงดูเหมือนคล้ายกับการแข่งขันเมืองไทยบางส่วนไปมีอิทธิพลเกิดการเลียนแบบตามอย่างในวงการออฟโรดด้วยแล้ว! สำหรับทีมไทยมีเพียงทีมบูมเมอแรงตรัง ที่ต้องรีบไปทำเหล็กฉากกั้นหลังกระจกกันสิ่งของกระแทกด้านหลังกระบะ แล้วกลับมาสอบผ่านการตรวจสภาพไปได้ด้วยความลุ้นตื่นเต้น!
วันแรกของการแข่งขันมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาในตัวเมือง เมืองบันดาร์ เพอร์ไหมสุรีและวิ่งย้อนกลับไปสนามแข่งขันซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 3 ก.ม. การแข่งขันกำหนดแข่งขันโปรล็อคสองวันแรกจำนวน 10 SS และเดินทางผจญภัยในป่าอีกประมาณ 9 SS ระยะทางแข่งทั้งหมดประมาณ 300 ก.ม. ซึ่งเป้าหมายสุดยอดอยู่ที่บริเวณแดนสนธยาและหลุมช้างอภิมหาโหดกลางป่าดงดิบลึก แดนประวัติศาสตร์ออฟโรดชิวิตหนึ่งต้องมาสัมผัสถึงแม้นบางคนอาจจะผ่านความหฤโหดไปไม่ได้ก็ตาม!
การแข่งขันวันที่ 1 ธ.ค. เปิดฉากโปรล็อคแข่งพร้อมกัน 6 SS จอมยุทธออฟโรดทั้งหลายจึงถูกเฉือนแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ลงสมรภูมิออฟโรดละเลงโคลนเดือดเปื้อนเละเทะไปทั้งสนาม ซึ่งมีสภาพชื้นแฉะจากฝนมรสุมที่ตกเรื่อยเปื่อยมาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว อุปสรรคส่วนใหญ่มักเป็นเนินต่ำเนินสูงชัน มีไอ้เข้ขวางคลอง ทำเป็นหลุมขุดให้ชันลึก มีทั้งขวางยาวสั้นสลับกัน น้ำโคลนไม่ลึกถึงหน้าอก แต่ไปยากจากดินอ่อนเละเหลว การใช้สมอบกหากสร้างใว้ไม่แจ๋วฝังดินได้จริง หมดโอกาศหลุดผ่านกับดักมรณะในแต่ละSSไปได้ เส้นทางทั้งหมดจะสั้นๆไม่เกิน 100 เมตร แต่ยากที่จะผ่านไปได้ง่ายๆนอกจากเหาะไปหรือคว่ำอยู่ตรงนั้น อันตรายสุดๆเป็นกับดับสะพานท่อนซุงข้างละต้น ใครมือสั่นได้ลื่นตกสะพานทันที และน่าชื่นใจทีมไทยไม่มีใครตกสะพาน ถึงแม้นจะผ่านSSหฤโหดนี้ไปไม่ได้ครบทั้งหมดเส้นทาง แต่ต้องปรบมือให้ทีมจีนจอมยุทธอินทรีย์ไร้ปีกกับไรโน่ ที่สามารถเก็บคะแนนSSนี้ไปได้ ทั้งๆนักบู๊ออฟโรดฝรั่งตาน้ำข้าวที่มีนิ้วครบสิบ ยังพลาดตกสะพานซุง หรือ ตกเนินพลิกคว่ำไป การแข่งขันวันแรกนี้ทำได้ไม่เสร็จสิ้น 6 SSในวันแรก ซึ่งได้หยุดการแข่งขันไปก่อนมืด และถึงแม้นจะเร่งรีบแข่งขันต่อมาในวันที่สองก็ทำได้แค่เพียงจบการแข่งได่เพียง 6 SS หลังจากบ่ายสองโมงครึ่งจึงพากันยกทัพออฟโรดเข้าไปลงสมรภูมิลึกในป่าดงดิบธรรมชาติหฤโหดเร้าใจของจริงที่รอคอยผู้กล้าท้าทายอยู่
การแข่งขันวันที่ 3 ธ.ค.ทีมไทยได้เกิดอาการของขึ้นบู๊ลืมตัวลืมพังกลางป่า ปรากฏว่าทีมระนองออฟโรดเจอSSด่านนักฆ่ามหาภัยป่าฮูรู เทรังกานู วิ้นขึ้นเนินสูงชันเสียวจนขนลุกเขย่าหัวใจ สู้จนเพลาขาดทั้งหน้าและหลังพร้อมกัน ต้องดั้นด้นออกมาจากป่าเพื่อหาอาหลั่ยมาซ่อมแซมรถยนต์เพื่อเข้าไปลงบู๊ต่อไปอีก ทั้งๆที่เก่งภาษาไทยเพียงภาษาเดียว ยังเอาตัวรอดกลับเข้าไปในป่าเชิดหน้าสู้ท้าทายด่านมรณะกับดักนักฆ่ามหาภัยให้หัวใจสั่นระรัวเร้าใจซ้ำซากได้อีก!
นี่เป็นศึกออฟโรดระดับโลกที่มีเกียรติประวัติทีมไทยเข้าไปบู๊สู้แหลกเป็นวันที่สามในขณะนี้ที่กลางป่าดงดิบประเทศมาเลเซีย ซึ่งแรดบินจะพยายามนำความมันส์มาเล่าสู่กันให้จนครบจบสิบวัน!
|