คำตอบที่ 527
วันที่สิบสี่ วันเสาร์ 26 สิงหาคม คอนวอยออกเดินทางตั้งแต่แปดโมงเช้า เส้นทางยังคงเป็นทางออฟโรดกระเทือนหัวส่ายโยกย้ายไปมา บางช่วงลื่นโคลนเละร่องลึก วิวทิวทัศน์สองฝั่งสวยงามเป็นภูเขาสูง ได้หยุดพักกลางทางเที่ยวชมบ่อเกลือของตำบลบูดุก บุย(Buduk Bui Salt) ของชาวบาเคลาลันอีกหนึ่งกลุ่ม ได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างเต็มที่อีกครั้งตามแบบฉบับของชาวบาเคลาลัน ด้วยการมีชาวบ้านมาเข้าแถวยาว การแสดงเต้นรำต้อนรับขุดใหญ่ อาหารพร้อมชากาแฟเต็มที่ เป็นที่ประทับใจในน้ำใจมิตรไมตรีอย่างดีแบบนี้ หาได้ยากในสังคมคนเมืองไปแล้ว ต่อจากนั้นเดินทางผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า จนได้หยุดอีกครั้งเมื่อถึงจุดชมวิวทิวทัศน์สวย วาคาฟ จูรูเทรา(Wakaf Jurutera) และเดินทางออฟโรดจนกระทั่งเวลาประมาณบ่ายห้าโมงเย็นมาถึงกระท่อมน้ำพุร้อนเมราแรพ(Merap Hot Spring Loge) พักค้างแรมอย่างผ่อยคลายสบายตัวที่นี่ ด้วยการแช่น้ำพุร้อน ล้อมรอบด้วยป่าเขาธรรมชาติแท้จริงที่มีตัวทากคอยดูดเลือดคนที่เผลอ และยังติดแม่น้ำสีเหลืองขุ่นไหลแรงดูน่ากลัวลึกลับ ภายในน้ำฝนเย็นหมอกสีขาวปกคลุมป่าแต่ไม่มีใครหนีหายไปจากการแช่น้ำพุร้อนเลย ซึ่งวันนี้ได้พบกับชาวออฟโรดชมรมแลนด์โรเวอร์ซาราวัค เดินทางมาต้อนรับที่กระท่อมน้ำพุร้อนด้วย
Day 14 Saturday, In the early morning Convoy moved about 200 k.m. or 6 hours to Buduk Bui Salt , the beautiful Wakaf Jurutera view point and campsite in Merap Hot Spring Loge (Lilian Chin , Weina Lin and Kathie Renjus)