คำตอบที่ 1
รัฐบาลเมืองตุงชวน(Dongchuan Government)ร่วมกับไชน่าตุงชวนออโต้สปอร์ต(China Dongchuan Auto Sport) จัดศึกออฟโรดพันธุ์ผสมแรลลี่ครอสโคตรหฤโหดปีที่ 6 ไชน่าตุงชวนออฟโรดสปอต China Dongchuan Off-road Sport 2009 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน 3 พฤษภาคม 2552 เป็นการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดลุยน้ำโคลน หินของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน(The Mud Rock Flow Off-Road Car Racing Of China)ในสมรภูมิสนามต้นแม่น้ำธรรมชาติหฤโหดเฉียวเจียงมีระยะทางยาวประมาณ 130 ก.ม. มีความกว้างใหญ่กว่าแม่น้ำเจ้าพระยาสองเท่าแต่บางจุดอาจมากกว่าสี่ถึงห้าเท่า สายน้ำนี้ไหลลงไปชนกับแม่น้ำทรายสีทองซำเจียงหรือจินชาเจียง(Golden Sand River)จนกระทั่งไหลไปรวมกับแม่น้ำสายอื่นๆจนกลายเป็นแม่น้ำนานาชาติล้านช้างหรือที่รู้จักกันทั่วโลกว่าแม่น้ำโขง ความสวยงามตระการตาของหน้าผาและภูเขาสูงชันมากๆ ที่ขนาบสองข้างตลอดลำแม่น้ำ สร้างสีสันต์แปลกตา เกิดจากแร่ธาตุต่างๆ แถวนี้อุดมไปด้วยทั้งแร่ทองคำ ทองแดง และหินสวยงามรูปร่างแปลกตา พื้นที่แห่งนี้จึงถูกยกย่องจัดว่าเป็นเส้นทางแข่งขันออฟโรดธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งไม่ซ้ำแบบใคร และยังเป็นสมรภูมิออฟโรดที่จอมยุทธและนักบู๊ต่างรูปแบบต่างสไตล์ทั้งออฟโรด แรลลี่และครอสคันทรี่ มานัดพบประลองวัดฝีมือกัน ในสนามออฟโรดร้อยเปอร์เซ็นแต่ใช้กติกาแรลลี่ครอส ซึ่งรับรองการแข่งขันจากสมาพันธ์กีฬารถยนต์แห่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนFASC (Federation Of Automobile Sport Of China) นี่คือสุดยอดออฟโรดสไตล์ตุงชวน ที่ได้รับการยกย่องว่า ตุงชวนสรวงสวรรค์แห่งการผจญภัยออฟโรด คนและรถยนต์ที่ต้องโคตรทรหดอดทนและทนทานเท่านั้นถึงจะผ่านสมรภูมินี้ไปได้!
ปีนี้การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.ประเภทจอมยุทธและนักบู๊มังกรจีนล้วนๆ แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ 1.รุ่นD(Diesel)ดีเซล ไม่จำกัดซี.ซี. 2.รุ่นP(Petrol)เบนซิน ไม่จำกัดซี.ซี. ซึ่งมีเหล่าจอมยุทธและนักบู๊มาร่วมประลองยุทธออฟโรด100 กว่าทีม มากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย อาทิเช่นทีมหงเหอ , วอเตอร์มาร์คซิตี้ , เกรทวอล , 3 วอเตอร์ , หูหนาน ไทเกอร์ , เฟยเยี่ย , เชงจุ้ , อันลิมิเต็ด , หลงอี้ , ฟลายไทเกอร์ , เหรินไอแลนด์ , หัวชุ่ยบีช , ลี่เจียง ,ฮัม , ออฟโรดยูเนียน, เอ็กซทรีม , เซียะเหมิน , เฮงหยวน ,ฉางฟงเตียเป้ามิตซูบิชิ , จงฉิงปิคอัพ , ไทเกอร์หัวหนานหู , หย่งต๋า ,ต้าเสวียกู๋ , โถฟัง ,ไค่ท้งตุงชวน และนักบู๊ทั้งหลายครั้งนี้มาจากเมืองต่างๆอาทิเช่นเมืองหูหนาน , คุนหมิง , เป่ยจิง , เจ้อเจียง , เจียงซู , กว่างชี้ , เซี๊ยะเหมิน , ซานตุง , กุ้ยหลิน , หูเป่ย ,ไห่หนาน , เหยเป่ย ,กวางตุ้ง , ลี่เจียง , ฮ่องกง , ไต้หวัน ,ซื่อชวนและตุงชวน
การแข่งขันประเภทเฉพาะมังกรจีนมีเงินรางวัลโอเวอร์ออลถึงประมาณ 500,000 บาท และระดับแชมป์และรองแชมป์รุ่นต่างๆได้รางวัลประมาณรุ่นละ 400,000 บาท 300,000 บาท 200,000 บาท และ100,000 บาท ลดหลั่นกันมาตามลำดับ
2.ประเภทจอมยุทธและนักบู๊ออฟโรดต่างชาติ ไม่จำกัดประเภทรุ่นและซีซี รวมทั้งไม่มีเงินรางวัล ซึ่งเป็นการเชิญจอมยุทธและนักบู๊ต่างชาติมาดวลความมันส์หฤโหดหนแรก มี6ทีมมาจากฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ไทยและจีนร่วมสร้างประวัติศาสตร์หนแรกนี้ โดยตัวแทนจอมยุทธออฟโรดประเทศไทยมาจากเชียงใหม่ได้แก่พงศ์ธน ไวยประสิทธิ์ และสุทธิพันธ์ สร้อยสังวร แรดบิน นิวทรอน เป็นผู้จัดการทีมไทย ประชา ชัยยะ และจุฑารัตน์ อุ้มญาติ นำทีมทำข่าวทีวีและนิตยสารติดตามทีมไทย
การแข่งขันได้กำหนดเอาใว้ทั้งหมด 8SS ผู้จัดการแข่งขันได้กล้าท้าทายตั้งรางวัลพิเศษสำหรับทีมใดกี่ทีมก็ได้ หากสามารถทรหดอึดทนทานจนสามารถรอดผ่านได้ทั้งหมด 8SS โดยไม่มีDNFเลย จะได้เงินรางวัลพิเศษไปทันทีจำนวน 4,000 หยวนหรือประมาณ 20,000 บาท!
วันที่ 28 เม.ย. เป็นวันสุดท้ายสำหรับการตรวจสภาพรถยนต์ของเหล่าจอมยุทธและนักบู๊แดนมังกร รวมทั้งฝรั่งและไทย ซึ่งกติการถยนต์ส่วนใหญ่จะเหมือนกับของFIA และคล้ายกับ4x4 Coucil แต่สิ่งสำคัญสำหรับจอมยุทธนานาชาติจะต้องมี 1.ธงชาติขนาดใหญ่ 2.ติดสติกเกอร์ธงชาติข้างรถยนต์ 3.ติดสติกเกอร์ชื่อคนขับและผู้ช่วย พร้อมกรุ้ปเลือด 4.สายนิรภัย 4 จุด 5.ธงแดงและธงเขียว 6.ถุงมือและหมวกกันน๊อคมาตราฐาน 7.โรลบาร์ในรวมด้านข้างคนขับและผู้ช่วย
วันที่ 29 เม.ย. เปิดโอกาสให้จอมยุทธและนักบู๊ออฟโรด แรลลี่ ครอสคันทรี่ทุกทีม ลงตรวจสอบทดลองบู๊ในเส้นทางแข่งขันของจริงตลอดลำแม่น้ำเฉียวเจียงหฤโหด ปรากฏว่าเพียงดูแค่เส้นทางระยะ 80 กว่ากิโลเมตร ก็มีทั้งรถยนต์พลิกคว่ำ เครื่องหรือช่วงล่างพังกันไปก่อนแข่งบู๊จริงไม่น้อยกว่า 7-8 คัน และโชคร้ายที่ทีมไทยมีปัญหานำรถยนต์คู่มือคู่เท้าเข้ามาในจีนไม่ได้ จึงมัวแต่สาละวนวุ่นวายหารถยนต์จีนมาลงสู้ จนสุดท้ายกว่าจะได้รถยนต์มาจากทีมแชมป์จิ๋งกู่ ก็ทำให้มีเวลาฝึกซ้อมแค่ไปวิ่งแตะพื้นแม่น้ำไม่เพียงกี่ร้อยเมตร ทำความคุ้นเคยกับการขับพวงมาลัยซ้ายได้ไม่ถึงชั่วโมง จากนั้นเวลาก็ล่วงเลยมืดค่ำจึงหมดโอกาศซ้อมทางยาว แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีเหมือนกัน นั่นทำให้ทีมไทยผ่านการซ้อมสมรภูมิในวันแรกโดยรถยนต์ไม่พัง!
วันที่ 30 เม.ย. พิธีเปิดการแข่งขันมาจัดบริเวณปากทางเข้าเมืองตุงชวนเหมือนปีที่ผ่านมา บนเวทีขนาดยักษ์อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นท่านเถียน เหวิน ผู้ว่าราชการเมืองตุงชวน ได้ให้เกียรติเริ่มต้นทำพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางชาวเมืองตุงชวนและแฟนออฟโรดพันธุ์แท้ต่างถิ่นมากมายจำนวนเป็นหมื่นคน หากเทียบกับวงการออฟโรดเห็นทีต้องนับว่า ที่นี่ขนาดไม่มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีเหมือนปีที่ผ่านมา ก็ยังคงเป็นการจัดงานเปิดศึกออฟโรดยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ดี!
หลังจากรถยนต์ทุกคันผ่านซุ้มมังกรแดงคะนองศึก ได้มุ่งหน้าเลี้ยวขวาออกจากตัวเมืองตุงชวนไปบริเวณเจี่ยงเจียโก้วในแม่น้ำเฉียวเจียง ซึ่งหากมองเจี่ยงเจียโก้วจากผาสูงลิบลิ่วด้านบนสุดจะเห็นการแข่งขันได้ทั่วไกลๆในวิวทิวทัศน์สวยงามแปลกตาของแม่น้ำและภูเขามากๆ
SS 1 เริ่มประมาณสิบเอ็ดโมงเช้า มีเส้นทางยาวประมาณไม่เกิน 2 ก.ม. พื้นแม่น้ำแห้งแข็งขรุขระเป็นบ่อเล็กบ่อใหญ่ เต็มไปด้วยก้อนกรวดหินปนดินทรายและฝุ่น เส้นทางวกวนไปมาตามทางเส้นทางบังคับ โดยไม่ได้กำหนดเวลาTarget time แล้วคัดเลือกเอาเวลาดีที่สุดมาเรียงลำดับกัน เพื่อบู๊กันในSS 2ต่อไป และสมรภูมิครึ่งแรกของวันนี้ ดูเหมือนได้หลอกตาว่าง่ายๆเหมือนเอากล้วยเข้าปาก เพียงแค่ขับรถยนต์บู๊สลาลมมันส์ๆตามเส้นทางวกวนไปมาจนฝุ่นตลบ แต่พื้นท้องน้ำที่แข็งและก้อนกรวดนั้นได้คายพิษ จนเห็นชัดเจนทันทีว่า มันแฝงซ่อนฤทธิ์มหันตภัยร้ายกาจกว่าที่คิด จึงมีจอมยุทธและนักบู๊ทั้งออฟโรด แรลลี่และครอสคันทรี่ทั้งแดนมังกรเจ้าถิ่นและต่างชาติ ช่วงล่างต่างเริ่มพังกันระเนระนาด รวมทั้งรถยนต์ของทีมไทยที่เช่ามาบู๊สู้ขัดตาทัพ น๊อตแท่นเกียร์หลุดกระจาย ต้องรีบกลับเข้าอู่ในเมืองตุงชวนซ่อมแซมประเดิมผ่านSSแรก อย่างบอบช้ำแล้ว
SS 2 เริ่มประมาณสี่โมงเย็น เส้นทางอาหวั่ง- ไคว่เหอ ระยะทางประมาณ 31.74 ก.ม. เวลากำหนดเอาใว้ 1.30 ช.ม. ซึ่งสะพานอาหวั่งจุดเริ่มต้นจะอยู่ที่หมู่บ้านอู่หลงหรือมังกรดำ ช่วงต้นๆของแม่น้ำเฉียวเจียง พื้นน้ำแถวนี้จะมีน้ำใสสะอาดไหลแตกแยกออกเป็นลำธารเล็กๆขวางแม่น้ำใหญ่ไปมา พื้นกรวดเล็กใหญ่และร่องน้ำยังไม่ลึกไหลไม่รุนแรง แต่ได้เริ่มหยุดความคึกคะนองศึกของเหล่าจอมยุทธออฟโรดและนักบู๊ออฟโรด แรลลี่และครอสคันทรี่แดนมังกรและต่างชาติได้เพิ่มขึ้นอีกหลายทีม ซึ่งทีมไทยแม้นจะกลับมาบู๊ต่อได้ทัน ขนาดขับประคองเหมือนไข่ในหิน รถยนต์เช่าดันมาพังเอาเกือบถึงเส้นชัยมะรอมมะร่อDNFดับความหวังประเดิมชัยชนะขอแค่ผ่านไปได้ของจอมยุทธออฟโรดเชียงใหม่อดีตแชมป์ออฟโรดนานาชาติRFCในวันแรกจนได้!
วันที่ 1 พ.ค. วันฉลองกรรมกรของชาวจีนทั่วไป จึงเป็นวันเที่ยวของชาวจีนทุกคน ดังนั้นวันนี้เลยมีผู้ชมคราคร่ำเนื่องแน่นตามท้องถนนและสองข้างทางเส้นทางแม่น้ำเหยียดยาวทั้งพื้นราบและหน้าผาสูงชัน
SS3 เริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้า เส้นทางอาหวั่ง เก๋อเลอะ ระยะทางยาวประมาณ 81.81 ก.ม. เวลากำหนดใว้ 4 ช.ม. ความหฤโหดของแม่น้ำเฉียวเจียงวันนี้ได้แผลงฤทธิ์ปราบเหล่าจอมยุทธและนักบู๊พันธ์ผสมอย่างเต็มที่ ความยากลำบากของการผ่านกับดักร่องน้ำลึกไหลเชี่ยว มีหินเล็กใหญ่ดักใต้น้ำ ต้องเจอแล้วเจออีก ช่วงล่างโช้คอัพแหนบต้องแบกรับน้ำหนักกระแทกกระทั้นรุนแรงสุดขีดทุกๆวินาที ยางถูกหินเบียดและบาดพร้อมถูกหินฉีกตลอดเวลา ความเหนื่อยล้ามือเท้าไหล่คอและตลอดทั้งตัว ท้าทายความกล้าทรหดอดทนและแข็งแกร่งอย่างยาวนานทั้งคนและรถยนต์ถึงจะพากันรอดเข้าถึงเส้นชัย น่าเสียดายทีมไทยอีกหน เห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้าแต่หมดท่า รถยนต์พังในร่องน้ำสุดท้ายไปไม่รอด DNFไปอีกหน!
SS 4 เริ่มช่วงเวลาบ่ายโมง เส้นทางอาหวั่ง ไท่เหยา ระยะทางยาวประมาณ 33.40 ก.ม. เวลากำหนดใว้ 2 ช.ม. ความหฤโหดดูเหมือนเบาและสั้นกว่าตอนช่วงเช้า แต่ก็ยังได้พบเห็นรถยนต์ของเหล่าจอมยุทธและนักบู๊ทั้งหลายจอดพังสนิทตามเส้นทางท้องแม่น้ำ เห็นได้เป็นระยะๆซึ่งรวมทั้งรถยนต์ฮัมวี่สายพันธุ์แท้อเมริกันของนักบู๊มังกรจีน ก็พังคาแม่น้ำเช่นเดียวกัน
คืนนี้ตามอู่ซ่อมรถยนต์ทั่วเมืองตุงชวน จึงเต็มไปด้วยรถยนต์แข่งที่รอคิวซ่อมแซมกันแน่นขนัด ประมาณคร่าวๆเอาใว้รถยนต์ที่ลงแข่งขันพังไปแล้วเกินครึ่งของทั้งหมดกว่าร้อยคัน และยังมีปัญหาจอมยุทธและนักบู๊หลายทีมเจอใบสั่งจากกล้องตำรวจ ตรวจจับระหว่างวิ่งบนถนนทางดำปกติ ซึ่งห้ามวิ่งเกิน 60 ก.ม. / ช.ม. ทำให้ต้องเสียค่าปรับคันละ 500 หยวน หรือประมาณ 2,500 บาท ดังนั้นจึงมีคำสั่งจากผู้จัด ต่อไปหากใครถูกจับแล้วยังจะต้องถูกทำโทษหักแต้มอีกด้วย!
วันที่ 2 พ.ค. การแข่งขันยังคงใช้เส้นทางหฤโหดซ้ำเดิม แต่กลางคืนได้มีฝนตกหลายแห่ง ทำให้ปลายแม่น้ำมีระดับน้ำสูงขึ้น และอากาศเย็นยะเยือกตลอดคืนจนถึงกลางวัน
SS 5 เส้นทางอาหวั่ง เก๋อเล่อะ ระยะทางยาวประมาณ 81.81 ก.ม. เวลากำหนดใว้ 4 ช.ม. ปรากฏว่ามีจอมยุทธและนักบู๊หลายทีมหายหน้าไปหลายทีม เนื่องจากส่วนมากซ่อมไม่ทันรวมทั้งทีมใหญ่ตัวเก่งจากออสเตรเลีย ไม่สามารถลงมาบู๊สู้ต่อได้ในวันนี้จากสาเหตุน้ำเข้าเครื่องยนต์ทำให้พังสนิท สำหรับทีมไทยยังสุดยอดหาญกล้านักสู้ออฟโรด เอารถยนต์เช่าที่ซ่อมได้ทันกลับลงมาบู๊เล่นต่อได้อีกหน แต่ถึงแม้นจะลุยมาอย่างทรหดได้จนถึงกับดักวังน้ำนรกหล่อกุงท้อ ห่างจากปลายทางเก๋อเลอะเพียงแค่สิบกว่ากิโลเมตร สามารถลุยบู๊ผ่านหนีกับดักหฤโหดไปได้ แต่แท้งค์น้ำมันเครื่องที่เป็นรูโหว่จากเพลาขาดกระเด็นไปแทงงัดจนทะลุ ทำให้น้ำมันเครื่องไหลจนหมด ทีมจอมยุทธออฟโรดไทยจึงหมดฤทธิ์ท้ายกับดักวังน้ำนรกหล่อกุงท้อนี่เอง!
SS 6 เส้นทางอาหวั่ง ไท่เหยา ระยะทางยาวประมาณ 33.40 ก.ม.เวลากำหนดใว้ 2 ช.ม. การแข่งขันช่วงบ่ายมีจอมยุทธและนักบู๊เหลือไม่ถึงครึ่งที่ผัดเปลี่ยนสลับหน้ากันมาลงสู้ต่อหลังจากซ่อมแซมรถยนต์กันได้ทัน ตอนนี้การบู๊สู้ในสมรภูมิซ้ำไปซ้ำมาในแม่น้ำเฉียวเจียงหฤโหดจนถึงวันที่สาม จึงได้กลายเป็นสุสานเฟือง เพลา ยาง และเครื่องยนต์ตามโค้งคุ้งน้ำแทบทุกกิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตามค่ำคืนหลังการแข่งขันวันที่สาม ได้มีการประกวดตัดสินมิสมอเตอร์โชว์ของการแข่งขันรถยนต์เมืองตุงชวน ให้ความคึกคักกระชุมกระชวยแก่เหล่าจอมยุทธและนักบู๊ออฟโรด แรลลี่ และครอสคันทรี่กันถ้วนหน้า
วันที่ 3 พ.ค. สมรภูมิพันธุ์ผสมออฟโรด แรลลี่และครอสคันทรี่หฤโหดได้มาถึงช่วงวันสุดท้าย การแข่งขันต้องถือว่าไม่หฤโหดมากเนื่องจากเส้นทางแข่งอยู่บริเวณช่วงต้นแม่น้ำมาจนถึงเลยใกล้ตัวเมืองเล็กน้อย
SS 7 ช่วงเวลาเช้าเส้นทางอาหวั่ง ไคว่เหอ ระยะทางยาวประมาณ 31.74 ก.ม. กำหนดเวลาประมาณ 1.30 ช.ม.
SS 8 ช่วงเวลาบ่ายสมรภูมิสุดท้ายของการแข่งขันยังคงเป็นเส้นทางอาหวั่ง ไคว่เหอ ระยะทางยาวประมาณ 31.74 ก.ม. กำหนดเวลาประมาณ 1.30 ช.ม. ซึ่งเหล่าจอมยุทธและนักบู๊ออฟโรด แรลลี่ และครอสคันทรี่หลังจากผ่านSS 7 มาได้ จะต้องขับรถยนต์วิ่งบนถนนปกติย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่อาหวั่งเพื่อซ้ำเส้นทางเดิมอีกหน ไม่น่าเชื่อยังมีมังกรทรหดหลายทีมฮึดกลับมาสู้ต่ออีก ทั้งที่หายหายหน้าไปก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมทั้งจอมยุทธออฟโรดจากเชียงใหม่ ที่กลับมาบู๊สู้ส่งท้ายได้ในSS7แล้วหมดฤทธิ์ใกล้เส้นชัยจากแผลเก่าก้นแท้งค์น้ำมันเครื่องรั่วอีกหน! ซึ่งต้องนับถือความใจสู้ทรหดอดทนเกินร้อยของทีมไทย ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ของตัวเอง แต่สามารถลงบู๊สู้ได้ทุกวันถึงแม้นพังทุกวันก็ยังหวลกลับไปสู้เสมอ!
และนี่คือการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ไม่อันตรายแต่โคตรมันส์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกวงการออฟโรด ซึ่งรอท้าทายผู้กล้าทรหดอดทนและแข็งแกร่งทั้งคนและรถยนต์เท่านั้น จึงจะผ่านไปได้!