TOYOTA HILUX
VIGO
10 เซียนประจัญบาน
THE MAGNIFICENT TEN 2011
การแข่งขันรถยนต์ออฟโรดภายใต้ชื่อรายการ “10 เซียนประจัญบาน” ซึ่งดำเนินการจัดการแข่งขันโดย นิตยสารออฟโรด ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือเป็นตำนานหน้าสำคัญของวงการออฟโรดเมืองไทย การแข่งขันรถยนต์ออฟโรดที่รวบรวมเหล่าบรรดานักแข่งระดับมือพระกาฬระดับประเทศ จากทั่วทุกสารทิศมาร่วมประชันฝีมือ ทักษะ การชิงไหวชิงพริบในเชิงออฟโรด และการวัดขนาดของหัวใจ เพื่อค้นหา จัดอันดับเพียง 10 สุดยอดนักแข่งออฟโรดประจำปีนั้นๆ ที่จะได้รับการจารึกชื่อเป็นหนึ่งในสุดยอดของแต่ละปี เกียรติยศ และความใฝ่ฝันสูงสุดที่เหล่าจอมยุทธในวงการออฟโรดต่างปรารถนาที่จะได้ร่วมการแข่งขัน กระทั่งในปี 2006 การแข่งขันรายการ 10 เซียนประจัญบาน จึงได้เปลี่ยนชื่อรายการแข่งขันใหม่ โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลัก ชื่อการแข่งขัน และรูปแบบการแข่งขันจึงมีการเปลี่ยนแปลงให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้น
ในปี 2011 นี้ การแข่งขันรายการ TOYOTA HILUX VIGO 10 เซียนประจัญบาน THE MAGNIFICENT TEN 2011 คณะผู้จัดได้ปรับปรุง และพัฒนารูปแบบการแข่งขันใหม่ มุ่งเน้นทักษะ ฝีมือ ความสามารถในเชิงออฟโรด โดยจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ในสภาพเส้นทางธรรมชาติมาไว้ในสนามแข่งขัน เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้ประชันฝีมือในการแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการใช้อุปกรณ์ออฟโรดอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นเกมส์การแข่งขันในรูปแบบออฟโรดอย่างแท้จริง ใน 8 SS ความมันส์ที่ถูกกำหนดขึ้น และ ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์วงการออฟโรดที่ได้จัดสนามแบบผสมผสาน ออฟโรดรูปแบบใหม่ ที่ใช้การแข่งขัน GYMKHANA OFF ROAD CHALLENGE และ QUAIFY LAP OFF ROAD TROPHY เข้ามาประยุครวมกัน ในเส้นทางดินและพื้นปูนที่เน้นเฉพาะด้านความเร็ว ในอีก 4SS ที่มันส์เร้าใจและไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน
ใคร...จะได้เป็นจ้าวแห่งวงการออฟโรดปี 2011 ร่วมพิสูจน์ขนาดหัวใจได้ในการแข่งขัน
TOYOTA HILUX
VIGO
10 เซียนประจัญบาน THE MAGNIFICENT TEN 2011
ชื่อรายการ
TOYOTA HILUX
VIGO
10 เซียนประจัญบาน
THE MAGNIFICENT TEN 2011
ผู้ให้การสนับสนุนหลัก
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
ผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน
นิตยสารออฟโรด ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
รูปแบบการแข่งขัน และสนามแข่ง
- สนามแข่งขันรถยนต์ออฟโรด ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ในงาน THE
BANGKOK
INTERNATIONAL MOTOR SHOW ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 24-27 มี.ค 2554 โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 รุ่น
1. TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างปีกนก
2. TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างคานแข็ง
3. OFF ROAD CLUB
4. OFF ROAD SUPER OPEN
ซึ่งในแต่ละสนามแข่งขัน (TRACK) จะแยกออกเป็น 2 เส้นทาง ตามสรีระ และรูปแบบการแข่งขันในแต่ละรุ่นโดยจะแบ่งแทร็กซ์การแข่งขันออกเป็น 2 กลุ่ม ด้วยกันคือ
- กลุ่ม A จะใช้สำหรับทำการแข่งขันในรุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
ทั้ง 2 รุ่น
- กลุ่ม B จะใช้สำหรับทำการแข่งขันในรุ่น OFF ROAD CLUB และ OFF ROAD SUPER OPEN
การแข่งขัน 4 รุ่น แข่งขันทั้งหมดรวม 13 SS
- การแข่งขันในรุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างปีกนก และช่วงล่างคานแข็ง ประเภทบุคคลแบบปล่อยคู่ ซึ่งในที่นี้ขอระบุกลุ่มการแข่งขันออกเป็น “กลุ่ม A” ทำการแข่งขันทั้งหมดจำนวน 13 SS เช่นเดียวกับในรุ่นอื่น แต่ความแตกต่างของรูปแบบการแข่งขันเก็บคะแนนกลุ่มนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบการแข่งขัน คือ
1. การแข่งขันรูปแบบ GYMKHANA
2. การแข่งขันในลักษณะ OFF ROAD CHALLENGE
3. การแข่งขันรูปแบบ QUAIFY LAP OFF ROAD TROPHY
ทั้งนี้ เพื่อมิให้รถแข่งที่ได้รับการปรับแต่งสรีระแตกต่างกัน เกิดความได้เปรียบ – เสียเปรียบ ในเชิงสรีระและเชิงทักษะ เพื่อความเท่าเทียมเสมอภาค ก่อนที่จะเข้าไปทำการแข่งขันแบบปล่อยคู่ในลักษณะแพ้คัดออกใน SS ที่ 13
- การแข่งขันในรุ่น OFF ROAD CLUB และ OFF ROAD SUPER OPEN ซึ่งในที่นี้ขอระบุกลุ่มการแข่งขันออกเป็น “กลุ่ม B” เป็นประเภทบุคคลปล่อยเดี่ยวและปล่อยคู่ เก็บคะแนนสะสมทั้งหมด 13 SS (Special States) สำหรับการแข่งขันแบ่งเป็นปล่อยเดี่ยว 8 SS และแข่งขันต่ออีก 4 SS ในลักษณะปล่อยคู่ รวม 12 SS
- Special States (SS) ที่ 13 ตัดรถ 16 คันที่ทำคะแนนสะสมสุงสุด 12 SS มาแบ่งสายจับคู่แข่งในลักษณะปล่อยคู่ในสนามดินผสมปูน แพ้คัดออกแต่คะแนนยังคงสะสมต่อจนจบ
ใน SS ที่13 ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ (ช่อง 11) เป็นการแข่งแบบน๊อคเอ๊าท์ แพ้คัดออกเพื่อหาผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ของแต่ละรุ่นใน SS ที่ 13
กำหนดการแข่งขัน
วันที่ 24-27 มี.ค 2554 รวมจำนวน 13 SS
ณ สนามแข่งขันรถยนต์ออฟโรด ริมทะเลสาป เมืองทองธานี
วันที่/เวลา รายละเอียด – สถานที่
วัน พฤหัสบดี ที่ 24 มี.ค. 2554
08.00-15.00 น. รับสมัครพร้อมตรวจสภาพรถแข่งทุกรุ่น ณ สนามแข่งรถยนต์ออฟโรด
ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี
16.00-20.00 น. ทำการแข่งขัน SS 1- SS2 จำนวน 2 SS ทุกรุ่น
วันศุกร์ ที่ 25 มี.ค. 2554
13.00-17.00 น. ทำการแข่งขันต่อใน SS 3 – SS 6 จำนวน 4 SS ทุกรุ่น
ตั้งแต่ 19.00 น. ทำการแข่งขัน NIGH SS ใน SS 7 จำนวน 1 SS ทุกรุ่น
วันเสาร์ ที่ 26 มี.ค. 2554
11.00-22.00 น. ทำการแข่งขันต่อใน SS 8 – SS 12 จำนวน 5 SS ทุกรุ่น
วันอาทิตย์ ที่ 27 มี.ค. 2554
ภาคเช้า
09.30-12.00 น. ทำการแข่งขันรอบตัดเชือกแบบปล่อยคู่แพ้คัดออก หาคู่ชิงชนะเลิศ เพื่อนำไป ถ่ายทอดสดในภาคบ่าย
ภาคบ่าย
12.30-13.00 น. พิธีเปิดการแข่งขัน
14.00-15.30 น. นักแข่งนำรถเข้าจุดปาร์คเฟิร์มเพื่อทำการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
ทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศใน SS ที่ 13 ทั้ง 4 รุ่น แข่งขันแบบปล่อยคู่ในแต่ละรุ่น
1. รุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างปีกนก แข่งขัน 4 คู่ (8 คัน)
2. รุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างคานแข็ง แข่งขัน 4 คู่ (8 คัน)
3. รุ่น OFF ROAD CLUB แข่งขัน 2 คู่ (4 คัน)
4. รุ่น OFF ROAD SUPER OPEN แข่งขัน 2 คู่ (4 คัน)
หมายเหตุ มอบรางวัลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 2 เมษายน 2554 ตั้งแต่เวลา 18.00น. ที่สนามแข่งขันรถยนต์ออฟโรดริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ภายในงาน THE
BANGKOK
INTERNATIONALMOTOR SHOW ครั้งที่ 32
คุณสมบัตินักแข่ง / กติกาเทคนิครถแข่ง
CLASS 1 TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างปีกนก
1. คุณสมบัติรถแข่ง
1.1 เป็นรถยนต์ปิคอัพ Toyota Hilux Vigo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ใช้เครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน ที่มีสายพานการผลิตควบคู่มากับตัวรถซึ่งผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยดูข้อมูลจำเพาะได้จากแคตตาล็อคของรถที่ผลิตออกจำหน่ายทั่วไป (Series Production)
1.2 ตัวถัง (BODYSHELL) และโครงสร้าง (CHASSIS) ต้องเป็นของเดิมจากโรงงานผู้ผลิตในรถรุ่นนั้นๆ ห้ามใช้ไฟเบอร์หรือวัสดุอื่นๆ ทดแทน (ห้ามถอดฝาปิดกระบะท้าย)
1.3 ต้องเป็นรถที่จดทะเบียนเพื่อใช้บนถนนสาธารณะทั่วไป
1.4 สภาพเส้นทางแข่งขันเป็นแบบจำลองอุปสรรคจากธรรมชาติ รถทุกคันของรุ่นHILUX
VIGO
สามารถแข่งขันได้ ไม่บังคับติดตั้ง WINCH แต่หากรถแข่งคันใดติดตั้ง WINCH จะต้องเป็น WINCH ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ไม่มีการจำกัดกำลังฉุดลากของ WINCH ส่วนรถที่มีการติดตั้งวินช์เพลาจะต้องทำการตัดระบบการทำงานของวินช์ออกให้ชัดเจน และรถที่ติดตั้ง WINCH จะต้องมี สมอบก สแน็ชบล็อก ผ้ากระสอบ ถุงมือหนังคลุมเต็มใบ สำหรับจับสายสลิง เป็นอุปกรณ์เสริม
1.5 อุปกรณ์ช่วยเหลือที่ต้องมี คือ ถังดับเพลิงน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 2 กิโลกรัม ติดตั้งอย่างแน่นหนาในตำแหน่งที่สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย
1.6 ต้องมีการติดตั้งขอลากสำหรับการช่วยเหลือ พร้อมติดสติ๊กเกอร์บ่งชี้ตำแหน่งที่ชัดเจน และเห็นได้ง่าย
1.7 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่มีจุดยึดอย่างน้อย 3 จุด และสามารถใช้งานได้โดยไม่ขัดข้อง
2. การปรับแต่งเครื่องยนต์
2.1 ตัวเทอร์โบ (โข่งไอดี โข่งไอเสีย และ CENTER-SECTION) สามารถปรับเปลี่ยน และทำการตกแต่งได้
2.2 ระบบหล่อเย็นอากาศไอดี (INTERCOOLER) สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดได้ แต่การติดตั้งต้องยึดในตำแหน่งของเดิมจากโรงงานผู้ผลิต
2.3 ชิ้นส่วนและวัสดุข้อต่อท่อ INTERCOOLER ท่อน้ำ ท่อน้ำมัน ท่ออากาศ อนุญาตให้ เปลี่ยนได้แต่ยังคงลักษณะทิศทางเดิมเอาไว้
2.4 สามาถติดตั้งตัวปรับแรงดันเทอร์โบภายในห้องโดยสารได้ หรือตำแหน่งที่ปรับได้ระหว่างขับ
2.5 ระบบหัวฉีด ปั๊มดีเซล ปรับแต่งได้ แต่ห้ามเปลี่ยนแปลงระบบคอมมอนเรล
2.6 ห้ามติดตั้งระบบ DRY-SUMP, SUPERCHARGER และ/หรือ NITROUS OXIDE
2.7 ระบบท่อร่วมไอดี ต้องเป็นของเดิมจากโรงงานผู้ผลิต ท่อไอเสียอนุญาตให้ปรับเปลี่ยนได้ แต่ปลายท่อไอเสียต้องออกท้ายรถ และไม่เป่าลงดิน
2.8 หม้อกรองอากาศ และไส้กรองอากาศอนุญาตให้เปลี่ยนได้
2.9 อนุญาตให้เปลี่ยนหรือปรับขยายหม้อน้ำได้ แต่ต้องติดตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิม (สามารถติดตั้งพัดลมไฟฟ้าเพิ่มเติมได้)
2.10 กล่อง ECU ต้องใช้ของสแตนดาร์ดที่ติดมากับรถ อนุญาตให้โมดิฟาย หรือต่อพ่วงกล่องเพิ่มจากกล่องเดิมได้
3. ระบบส่งกำลัง
3.1 เสื้อเกียร์ต้องใช้ของเดิมจากโรงงานผู้ผลิต ปรับแต่งอัตราทดเกียร์ได้ แต่ห้ามใช้เฟืองเกียร์แบบ “DOG- ENGAGEMENT”
3.2 ต้องใช้เสื้อเฟืองท้ายเดิมที่ติดรถมาจากโรงงานผู้ผลิต แต่ปรับปรุงชิ้นส่วนภายในได้
ไม่อนุญาตให้ติดตั้งอุปกรณ์เสริมดังต่อไปนี้
- แอร์ล็อคเกอร์
- ดิ๊ฟล็อค
- อีซี่ล็อค
- ล็อคไลท์
4. ช่วงล่าง
4.1 ห้ามเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานของช่วงล่าง
4.2 อนุญาตให้เปลี่ยนขนาดของเหล็กกันโคลง แหนบ คอยล์สปริง แต่ต้องติดตั้งในตำแหน่งจุดยึดเดิม (สามารถปรับปรุงจุดยึดต่างๆ ให้แข็งแรงขึ้นได้)
4.3 อนุญาตให้เปลี่ยน SHOCK-ABSORBER หรือติดตั้งเพิ่มเติมได้ไม่เกินข้างละ 2 ตัว
(รวมทั้งคันไม่เกิน 8 ตัว) และให้คงไว้ตำแหน่งจุดเดิมข้างละ 1 จุด
4.4 รถแข่งสามารถติดตั้งชุดยกขนาดต่างๆ ได้ โดยจะต้องคงระบบพื้นฐานเดิมของช่วงล่างทั้งด้านหน้า (อิสระปีกนก) และหลัง รวมถึงเสื้อเพลาท้ายทั้งด้านหน้า – หลัง
4.5 อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ จะต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ของรถรุ่นอื่น (ข้ามรุ่น)
5. ระบบเบรก
5.1 ระบบห้ามล้อต้องคงรูปแบบเดิม คาร์ลิเปอร์ต้องคงเดิมจากโรงงานผู้ผลิต อนุญาตให้
เปลี่ยนผ้า เบรก-จานเบรค และสายส่งน้ำมันเบรกได้ (รถที่มี ABS หรือ DYNAMIC STABILITY CONTROL เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงงาน อนุญาตให้ตัดระบบการทำงานดังกล่าวออกก็ได้)
5.2 ระบบเบรคมือ สามารถปรับแต่งแยกอิสระได้
6. ขนาดของยาง
6.1 ยาง ต้องมีขนาดไม่เกินกว่า 37 นิ้ว และต้องไม่ใช้ยางสำหรับการเกษตร
7. ภายในห้องโดยสาร
7.1. ภายในห้องโดยสาร อุปกรณ์ระบบควบคุม และแผงหน้าปัดเรือนไมล์ของโรงงานผู้ผลิต ต้องคงสภาพเดิมไว้ แต่เบาะนั่งและแผงประตู พรมปูพื้น และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ถอดออกได้
8. คุณสมบัตินักแข่ง
นักแข่งที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นนี้ สามารถลงทำการแข่งขันได้ แต่คุณสมบัติของรถแข่งจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่ 1.1 – 1.7 เท่านั้น
นักแข่งที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น หรือหาก อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น
CLASS 2 TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างคานแข็ง
1. คุณสมบัติรถแข่ง
คุณสมบัติรถแข่งเหมือนในรุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
ช่วงล่างปีกนก ทุกประการ (ข้อ 1.1-1.7)
2. การปรับแต่งเครื่องยนต์
สามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ ได้ตามกติกาในรุ่น ช่วงล่างปีกนก (ข้อ 2.1-2.10)
3. การปรับแต่งระบบช่วงล่าง และระบบส่งกำลัง
3.1 จะต้องเป็นรถที่ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ คานแข็ง เท่านั้น
3.2 เสื้อคานหน้า – หลัง สามารถเปลี่ยนมาใช้ของรถรุ่นอื่นได้
3.3 ระบบรองรับการสั่นสะเทือนเลือกแบบแหนบแผ่นซ้อน หรือคอยล์สปริงได้
3.4 เปลี่ยนโช้คอัพใหม่ได้และดับเบิ้ลโช้คได้ แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 8 ต้น ทั้งด้านหน้า-หลัง
3.5 ยางที่ใช้จะต้องมีขนาดตั้งแต่ 32 นิ้ว ขึ้นไป แต่ต้องไม่เกิน 37 นิ้ว และต้องไม่ใช้ยางสำหรับการเกษตร
3.6 ติดตั้งอุปกรณ์เสริมระบบส่งกำลังอาทิ ดิฟล็อก, แอร์ล็อกเกอร์ หรือลิมิเต็ดสลิปได้
3.7 สามารถปรับแต่งเบรกมืออิสระได้
4. คุณสมบัตินักแข่ง
นักแข่งที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นนี้ สามารถลงทำการแข่งขันได้ แต่คุณสมบัติของรถแข่งจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่ 1.1 – 1.7 เท่านั้น
นักแข่งที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น หรือหาก อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น
CLASS 3 OFF ROAD CLUB
คุณสมบัตินักแข่ง
- ขอสงวนสิทธิ์นักแข่งที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดรายการ OFF ROAD TROPHY และการแข่งขันรายการ 10 เซียนประจัญบาน รวมไปถึงการแข่งขันรถยนต์ครอสคันทรี่ เก็บคะแนนชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งเคยติดอันดับติดอันดับ 1 - 10 ประจำปีของการแข่งขันรุ่นใดก็ได้ ย้อนหลังไปถึงปี 2006 ไม่สามารถทำการแข่งขันในรุ่นนี้ได้
- อนุญาตให้นักแข่งที่เคยเข้าทำการแข่งขันในรุ่น 4x4 มือใหม่โอเพ่นในปีที่แล้ว สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้
- นักแข่งมือใหม่ที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
คุณสมบัติรถแข่ง
1.1 ต้องเป็นรถที่มีการจดทะเบียน / ต่อภาษีถูกต้องตามกฏหมาย และสามารถขับขี่บนถนนปกติได้ รถที่เข้าร่วมการแข่งขันไม่จำกัดยี่ห้อในประเภทขับเคลื่อน 4ล้อ ยกเว้นรถยนต์ปิคอัพที่เป็นคู่แข่งทางการตลาดกับ บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทย ซึ่งมีคู่มือจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2006-2011 ห้ามลงทำการแข่งขัน แต่รถยนต์ในตระกูลโตโยต้าสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ไม่จำกัดทั้งรุ่นและปี
1.2 จะเป็นรถที่มีการตกแต่งช่วงล่างแบบปีกนก หรือคานแข็งก็ได้
1.3 รถที่เข้าทำการแข่งขันทุกคัน สามารถติดตั้งวินช์ประเภทใดก็ได้ จำนวนไม่เกิน 3 เครื่อง
1.4 บอดี้รถ สามารถบ่งบอกรุ่นได้ชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน
1.5 อนุญาตให้รถที่มีเลขแชสซีส์ และเลขตัวถังซึ่งไม่ตรงรุ่นสามารถทำการแข่งขันได้
1.6 รถทุกคันจะต้องมีการติดตั้งถังดับเพลิงประจำรถ อย่างน้อยขนาด 2 กิโลกรัม ในจุดที่หยิบใช้งานง่าย และมีการติดตั้งแน่นหนา ไม่หลุดกระเด็นง่าย
1.7 เครื่องยนต์อนุญาตให้ปรับแต่ง หรือเปลี่ยนใหม่ได้ ไม่จำกัดความจุกระบอกสูบ และประเภทของเครื่องยนต์ กรณีเปลี่ยนเครื่องยนต์จะต้องมีเอกสารใบอินวอยที่ถูกต้องแนบประกอบด้วย
1.8 ยางสำหรับรถที่เข้าแข่งขันจะต้องไม่เกิน 37 นิ้ว ห้ามใช้ยางเพื่อการเกษตรในการแข่งขัน
1.9 สามารถตัดร่นกระบะ หรือส่วนท้ายของบอดี้รถได้ แต่ต้องมีกระบะและไม่ผิดเพี้ยนจากสภาพรูปลักษณ์เดิมของรถพร้อมทั้งต้องมีไฟหน้าและไฟท้ายส่องสว่างชัดเจน สามารถตัด/ต่อแชสซีส์ได้ แต่ต้องไม่ร่นจนก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
1.10 การปรับแต่งระบบช่วงล่าง สามารถทำได้เต็มที่ รวมถึงสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมสมรรถนะของระบบส่งกำลัง อาทิ ดิฟล็อก แอร์ล็อกเกอร์ และลิมิเต็ดสลิปได้
1.11 ต้องติดตั้งขอลากหน้า-หลัง สำหรับการช่วยเหลือ พร้อมติดสติ๊กเกอร์บอกตำแหน่งที่ชัดเจน และเห็นได้ง่าย
1.12 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่มีจุดยึดอย่างน้อย 4 จุด สามารถใช้งานได้โดยไม่ขัดข้อง พร้อมการติดตั้งชุดโรลบาร์ดามห้องโดยสาร จะเป็นการติดตั้งโรลบาร์ด้านใน หรือด้านนอกก็ได้ แต่ต้องมีขนาดความหนาของเหล็กไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร
1.13 หมวกกันน๊อคต้องมีตรามาตราฐานอุตสาหกรรม และต้องมีการ์ดปกปิดใบหน้าที่มิดชิด
CLASS 4 OFF ROAD SUPER OPEN
คุณสมบัตินักแข่ง
นักแข่งที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น หรือหาก อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น
คุณสมบัติรถแข่ง
1.1 เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ทั้งเบนซิน และดีเซล ไม่จำกัดความจุ ซี.ซี. และแรงม้าเครื่องยนต์
1.2 ตัวถัง ระบบช่วงล่างปรับแต่งได้อิสระ
1.3 รถแข่งทุกคันจะต้องมีเอกสารการจดเลขทะเบียนเครื่องยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
1.4 อุปกรณ์ช่วยเหลืออิสระ
1.5 จะติดตั้งขอลากหน้า-หลัง (MATCH BOX) และสวิตช์ตัดไฟที่เห็นได้ชัดเจน
1.6 จะต้องติดตั้งโรลบาร์ความหนาไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตรขึ้นไป
1.7 รถแข่งทุกคันจะต้องมีการติดตั้งสวิตช์ตัดไฟบริเวณด้านนอกในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนอย่างน้อย 1 จุด และภายในห้องโดยสารในตำแหน่งที่สามารถเลือกใช้งานได้ชัดเจน 1 จุด
1.8 ต้องมีถังดับเพลิงที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้ ปลอดภัยติดตั้งอย่างแน่นหนา และใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
1.9 มีสมอบกติดตั้งประจำรถในสภาพพร้อมใช้งานยึดกับตัวรถอย่างแน่นหนา
1.10 รถแข่งทุกคันจะต้องมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย (SAFETY BELT) ที่มีจุดยึดร่างกายให้แนบกับเบาะโดยสารไม่น้อยกว่า 4 จุด
1.11 หมวกกันน๊อคต้องมีตรามาตราฐานอุตสาหกรรม และต้องมีการ์ดปกปิดใบหน้าที่มิดชิด
การตรวจสภาพ
รถแข่งทุกคันต้องผ่านการตรวจสภาพ และเซ็นต์รับรองบนสติ๊กเกอร์ OK จึงจะมีสิทธิ์ทำการแข่งขัน กรรมการ ตรวจสภาพมีสิทธิ์จะขอตรวจเช็ครถแข่งได้ตลอดเวลา ตั้งแต่รับสมัคร จนสิ้นสุดการแข่งขัน
รูปแบบการคิดคะแนนการแข่งขันในรอบต่างๆ
การคิดคะแนนบุคคล คะแนนสะสม (SS ที่ 1-12)
อัตราคะแนนสะสม SS 1-12 (100 คะแนน)
ลำดับที่
|
คะแนน
|
ลำดับที่
|
คะแนน
|
1
|
100
|
9
|
72
|
2
|
95
|
10
|
69
|
3
|
90
|
11
|
67
|
4
|
87
|
12
|
65
|
5
|
84
|
13
|
63
|
6
|
81
|
14
|
61
|
7
|
78
|
15
|
59
|
8
|
75
|
16
|
57
|
- อันดับที่ 17 เป็นต้นไป คะแนน 55 คะแนน
- รถที่ไม่จบการแข่งขันใน SS นั้นๆ ถือว่า DNF (DID NOT FINISH) ได้คะแนน 35 คะแนน
- รถที่ไม่สามารถเข้าจุดสตาร์ทภายในเวลาที่กำหนด ( 5นาที ) จะถือว่า DNS (DID NOT START) ได้ 0 คะแนน
อัตราคะแนน SS KNOCK OUT (ปล่อยคู่ แพ้คัดออก) รถจำนวน 16 คันในแต่ละรุ่น คะแนนมีดังนี้
รอบ 16 คันสุดท้ายแข่งแบบแพ้คัดออก
รอบ 16 คัน ได้คะแนน 84 คะแนน
รอบ 8 คัน ได้คะแนน 87 คะแนน
รอบ 4 คันสุดท้าย ได้คะแนน 90 คะแนน
รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้คะแนน 95 คะแนน
ชนะเลิศ ได้คะแนน 100 คะแนน
ข้อบังคับ และการปรับโทษการแข่งขัน
1. นำรถแข่งเข้าจุดสตาร์ทของแต่ละช่วงช้าเกินกว่า 5 นาที ถือว่าสละสิทธิ์ และไม่มีเวลา และคะแนนสะสมในช่วงการแข่งขันนั้น
2. การลัดเส้นทางโดยเจตนา หรือไม่ก็ตาม (ตลอดการแข่งขัน) ปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน (โดยล้อออกจากเส้นทางทั้ง 4 ล้อ) ถือว่าเป็นการ DNF ในช่วงทดสอบนั้น ๆ
3. รถแข่งที่กำลังทำการแข่งขัน แต่ไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปในเส้นทางการแข่งขัน จะต้องช่วยเหลือตนเองด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือตามที่กำหนดในกติกา หากไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้เคลื่อนที่ต่อไปในเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่สนามจะทำการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายรถแข่งให้ออกจากเส้นทาง และปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน ถือว่า DNF ในช่วงทดสอบนั้นๆ
4. ในกรณีที่รถแข่งไม่สามารถเข้าจุดสตาร์ท เพื่อทำการแข่งขันในช่วงทดสอบนั้นๆ จะถือว่า DNS และไม่มีคะแนนสะสมในช่วงทดสอบนั้นๆ
5. ไม่ออกสตาร์ทหลังกรรมการให้สัญญาณภายใน 5 นาที ปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน และถือว่าเป็นการ DNF ในช่วงทดสอบนั้น ๆ
6. กรณีชนเชือกขาด หรือเสาหลักล้มลงกับพื้นเอียงเกิน 45 องศา จะถูกบวกเวลาเพิ่มจุดละ 30 วินาที ทันทีโดยไม่ต้องลงมาซ่อมแซม
7. ในกรณีทีชนไพล่อน (กรวย) จนขยับออกมานอกจุดที่กำหนด ในเส้นทางที่เป็นปูน กรรมการจะบวกเวลาเพิ่ม ไพล่อนละ 2 วินาที
8. ลากสลิงโดยไม่สวมถุงมือ บวกเวลาเพิ่ม 30 วินาที (ทุกครั้งที่มีการจับสลิง)
9. ลอด หรือข้ามสลิงขณะที่ตะขอสลิงเกี่ยวกับเชือก – สมอบก ขณะวินช์ทำงาน บวกเวลาเพิ่ม 30 วินาที ต่อ ครั้ง
10. การแต่งกายต้องรัดกุม ใส่กางเกงต้องเลยระดับหัวเข่าลงไป รองเท้าจะต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้นเป็นอย่างน้อย
11. ระหว่างการแข่งขันสามารถถอดหรือโยน แว่นออกมานอกตัวรถได้ (เพื่อความปลอดภัยในการแข่งขัน)
12. กติกาอื่นๆ ใด ที่ไม่ได้ระบุในเอกสาร คณะกรรมการเห็นว่าไม่ปลอดภัยจะแจ้งให้ทราบ ก่อนการแข่งขัน และใช้บังคับต่อไป หรืออยู่ในดุลพินิจของนายสนาม และผู้จัด
13. ไม่มีการแจ้งซ่อมทั้งก่อนการแข่งขันและในระหว่างการแข่งขัน
14. ห้ามทีมแข่ง และ คนทั่วไปเข้าไปในสนามแข่งโดยเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนจะยุติการแข่งขันทันที และจะแข่งต่อเมื่อไม่มีคนภายนอกในสนามแข่งขัน (เพื่อความปรอดภัยของผู้ชมและนักแข่ง)
การปรับโทษให้ออกจากการแข่งขัน
1. ผู้เข้าทำการแข่งขันทำการหยุดเวลา หรือกระทำการใดๆ ที่ทำให้ผู้แข่งขันของตนเสียโอกาส (อยู่ในดุลพินิจของนายสนาม) ถือว่าต้องออกจากการแข่งขัน
2. เข้าไปในเขตเก็บรถ PARK FIRM โดยไม่ได้รับอนุญาต
3. แสดงมารยาทไม่สุภาพต่อคณะกรรมการ
4. เจตนากลั่นแกล้งคู่แข่งในระหว่างการแข่งขัน
5. ดื่มสุรา, เสพของมึนเมา, ยาเสพติด ในระหว่างการแข่งขัน
6. ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกในระหว่างการแข่งขัน (ขึ้นอยู่ในดุลพินิจของนายสนามหรือผู้ควบคุมการแข่งขัน)
7. ไม่สวมหมวกนิรภัยให้ออกจากการแข่งขัน
8. โค-ไดรเวอร์ขึ้นไปยืนอยู่บนกระบะหลังรถในขณะทำการแข่งขันในสถานการณ์แข่งขันปกติ โดยที่มิได้มีอุปสรรคใดขวางหน้า
9. ไม่ติดสติ๊กเกอร์บังคับตามตำแหน่งของผู้จัดการแข่งขันระบุ นายสนามมีสิทธิ์พิจารณาถอนสิทธิ์การแข่งขันในรถแข่งคันนั้นๆ
10. ห้ามติดสติ๊กเกอร์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นคู่แข่งทางการค้าของโตโยต้า
การแข่งขันในแต่ละ STATION จะคิดคะแนนดังนี้
1. ไม่ลงทำการแข่งขัน หรือไม่ออกสตาร์ทด้วยกำลังเครื่องยนต์ ไม่มีเวลา และไม่มีคะแนนในช่วงทดสอบนั้นๆ
2. การแข่งขันแต่ละ STATION หากรถแข่งคันใดไม่สามารถแข่งขันได้จบภายในเวลา TARGET TIME ที่กำหนด จะถือว่า DNF และถ้าการแข่งขันใน STATION นั้น มีรถแข่งไม่จบการแข่งขันตามเวลาที่กำหนดเกินกว่า 1 คัน ให้วัดระยะทางหาตำแหน่งผู้ชนะเพื่อทำการแข่งขันใน STATION ถัดไป
3. ถ้าคะแนนสะสมของนักแข่งในรุ่นนั้นๆ มีคะแนนเท่ากัน ให้นับเวลา STATION สุดท้ายเป็นผู้ชนะ
4. ถ้าคะแนนยังเท่ากันอยู่ ให้นับเวลาใน STATION แรกเป็นผู้ชนะ
5. ถ้าคะแนนยังเท่ากันอยู่ ให้นับเวลาใน STATION ที่สองเป็นผู้ชนะ
6. ถ้าคะแนนยังเท่ากันอยู่ ให้จับฉลากหาผู้ชนะ
การประท้วงการแข่งขัน
การประท้วงจะกระทำได้เฉพาะผู้ที่มีชื่อเข้าร่วมการแข่งขันในรถที่ทำการแข่งขันประท้วงเท่านั้น หรือผู้จัดการทีม ผู้อื่นไม่สามารถทำการประท้วงได้ การประท้วงจะต้องทำเป็นจดหมายต่อนายสนาม และสามารถทำได้ในข้กำหนดดังต่อไปนี้
1. การประท้วงคุณสมบัติ ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน, รถแข่ง, ส่วนประกอบรถแข่ง และอุปกรณ์ต่อพ่วง ให้ยื่นประท้วงก่อนการแข่งขัน 30 นาที
2. การประท้วงผลการแข่งขันให้ยื่นประท้วงภายในเวลา 30 นาที นับจากเวลาการประกาศผล
3. การประท้วงเรื่องเวลา ให้ประท้วงกับกรรมการ ณ จุดนั้นๆ และทำจดหมายแจ้งต่อนายสนามภายในเวลา 15 นาที หรือหลังจากรถแข่งคันนั้นจบการแข่งขันช่วงนั้นๆ
4. การประท้วงต้องแนบเงินค้ำประกันการประท้วงจำนวน 5,000 บาท พร้อมจดหมายการประท้วง ถ้าคะแนนประท้วงถูกต้องตามคำประท้วง จะคืนเงินค้ำประกันให้ตามจำนวน แต่ถ้าคำประท้วงไม่เป็นผล จะริบเงินทั้งหมด และจะต้องจ่ายค่าเสียหายในการพิสูจน์ เพื่อเป็นการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ค่าสมัครการแข่งขัน
Class 1:
TOYOTA
Hilux Vigo ช่วงล่าง ปีกนก 5,000 บาท
Class 2:
TOYOTA
Hilux Vigo ช่วงล่างคานแข็ง 5,000 บาท
Class 3: Offroad Club Open 5,000 บาท
Class 4: Offroad Super Open 5,000 บาท
* ค่าสมัครในรุ่น TOYOTA Hilux Vigo ช่วงล่าง ปีกนก และ
TOYOTA
Hilux Vigo ช่วงล่างคานแข็ง
ทั้ง 2 รุ่น ลดราคาพิเศษ 50% สำ หรับ 20 คันแรกในแต่ละรุ่น เหลือค่าสมัครเพียง 2,500 บาท เท่านั้น
รางวัลผู้ชนะเลิศอันดับต่างๆ จะได้รับ
CLASS 1 รุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
CLASS A ปีกนก คะแนนสะสมสูงสุด 5 อันดับ
CLASS 2 รุ่น TOYOTA HILUX
VIGO
CLASS B คานแข็ง คะแนนสะสมสูงสุด 5 อันดับ
CLASS 3 รุ่น OFF ROAD CLUB OPEN คะแนนสะสมสูงสุด 5 อันดับ
CLASS 4 รุ่น 4X4 SUPER OPEN คะแนนสะสมสูงสุด 5 อันดับ
อันดับที่ เงินรางวัล (บาท)
1 60,000
2 40,000
3 25,000
4 15,000
5 10,000
เงื่อนไขการจ่ายเงินรางวัล
ประเภทบุคคล
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต่อรุ่นมีจำนวนตั้งแต่ 10 คันขึ้นไป เงินรางวัล 1- 5 รางวัล
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต่อรุ่นตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป แต่ไม่ถึง 10 คัน เงินรางวัล 1- 3 รางวัล
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต่อรุ่นไม่ถึง 5 คัน เงินรางวัล 1-3 รางวัล และหักลบ เงินรางวัลตามสัดส่วน 20 %
หมายเหตุ รถทั้งหมดที่เข้าร่วมการแข่งขันในแต่ละรุ่นต้องทำการแข่งขันอย่างน้อย 75 % ของการแข่งขันจึงจะมีสิทธิรับรางวัลตามเงื่อนไขที่กำหนดหรืออยู่ภายใต้ดุลพินิจของผู้จัดการแข่งขัน
ถ้วยรางวัล-โล่ห์รางวัล ในทุกรุ่น
อันดับที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล
อันดับที่ 2-5 ได้รับโล่ห์รางวัล พร้อมเงินรางวัล
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นิตยสารออฟโรด บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
4/299 หมู่ 5 ซ.ลาดปลาเค้า 66 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทร. 0-2522-1731-8 หรือ 0-2971-6450-60 ต่อ 364 และ 356 แฟ็กซ์ 0-2522-1730
ติดต่อสอบถาม ฐิติพงศ์ จินต์สวัสดิ์ 087-8038097 โชติศีล รัตนวราหะ 081-9207819 (กองบรรณาธิการ)
สามารถชำระค่าสมัครได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขารามอินทรา
เลขที่บัญชี 060-6-01844-1 (กระแสรายวัน) แล้วแฟกซ์ใบ PAY IN มาที่ 02-522-1730
ไม่มางานนี้ เสียดายแย่....
รวมพลออฟโรดขาซน ร่วมขยับเกียร์โฟร์ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
ขอเชิญชวนพี่ - น้อง ฝองเพื่อนชาวออฟโรดจากทั่วประเทศ ร่วมขยับต่อมเกียร์โฟร์ในงาน 32nd THE BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2011 ในวันที่ 1 เมษายน 2554 ณ ลานกิจกรรมออฟโรด ริมทะเลสาบเมืองทองธานี พบกับกิจกรรมฮาเฮจากเหล่าสมาชิกสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย ทั้งความมันในรูปแบบฟรีสไตล์ ที่เหล่าออฟโรดสามารถเนรมิตกิจกรรมได้เต็มพิกัด และกิจกรรมวัดใจสุดท้าทาย สำหรับออฟโรดผู้ชอบเหาะเหินเดินอากาศ กับการแข่งขัน V.V.P. HILL JUMPING CHALLENGE 2011 พร้อมของรางวัลใหญ่ติดมือกลับบ้านจากการสนับสนุนของช็อปแต่งออฟโรดดังของประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ นิตยสารออฟโรด บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โทร. โทรศัพท์ 0-2522-1731 -8, 0-2971-6450-60 ต่อ 356, 364 หรือ 0-87803-8097 ฐิติพงศ์, 0-81920-7819 โชติศีล
แล้วพบกันในงานนะคร้าบบบบ.....