คำตอบที่ 1
ตั้งแต่น้ำเริ่มท่วม ได้ออกวิ่งช่วยเหลือชาวบ้านละแวก ธรรมศาสตร์ ปทุมธานี สามโคกตั้งแต่น้ำแค่ตาตุ่ม วิ่งช่วยอยู่เกือบเดือนน้ำเริ่มเท่าเอวเข้า-ออกพื้นที่อยู่เกือบทุกวัน อีกทั้งที่บ้านเองก็เริ่มถูกน้ำเข้าท่วม จอดรถแช่น้ำตลอดครับ จนน้ำท่วมมิดยาง 35 จึงตัดสินใจยุติภาระกิจ นำรถขึ้นไปจอดยังที่สูง โดยก่อนจอดก็ได้ทำการถ่ายน้ำมันดังนี้
1เฟืองหน้าหลัง
2เกียร์เมน
3เกียร์ทรานสเฟอร์
ทั้งสามจุดที่เปิดออกมา มีแต่น้ำครับย้ำว่ามีแต่น้ำ เพราะน้ำมันมัน ลีค ออกไปหมดแล้ว (ไม่ใช่น้ำผสมน้ำมันแบบโอวัลติน)
ไอ้เหิมจอดนิ่งอยู่กว่าเดือนครึ่ง พอระดับน้ำเริ่มลดลงมาอยู่ที่เอว (จากสูงสุดเท่าอกหรือประมาณ 160 เซนต์) ก้ ได้นำไอ้เหิมลงมาวิ่งช่วยเหลือ เป้นงานเก็บกู้ครับ อีกทั้งยังเข้าพื้นที่ช่วยแจกสิ่งของหลังน้ำลด โดย ก่อนปฏิบัติภาระกิจก้ถ่ายน้ำมัน 3 จุดดังกล่าวอีกรอบ ซึ่งคราวนี้เป้นสีโอวัลติน จึงอนุมานว่าอาจจะมีน้ำตกค้างจากการถ่ายครั้งก่อน
เมื่อปฏิบัติภาระกิจเสร็จสิ้น ประมาณ วันที่ 2 ธค. ก่อนปีใหม่2555 ได้ทำการเปลี่ยนถ่ายของเหลวอีกครั้ง ครั้งนี้ ก็ มีน้ำผสมน้ำมันไหลออกมาพอสมควรเป็นโอวัลตินครับ คิดว่าน่าจะเรียบร้อยไม่มีปัญหา
รวมถ่ายของเหลว 3 รอบ
วันที่ 7 มกราคม 2555 ได้นำรถไปลงสนามที่สนามแลนด์ตะนาวศรี ปรากฏว่าเฟืองท้ายแตก ช่างประจำรถได้ชักเพลาข้างออกและมีน้ำไหลออกมาทางเหลาข้างคร่าวๆๆประมาณข้างละลิตร จอดสนิท เดี้ยงเลย ขับหน้ากลับ กทม
เมื่อมาถึงอู่ ชักลูกเฟืองออกมาดู ปรากฏว่า สนิมกัดกร่อนลูกเฟือง ดอกจอก บายศรี เดือยหมู เป็นตามด กร่อนผุจากการกัดของน้ำสกปรกอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เหล็กที่ควรจะแข็งแรงก็อ่อนแอไป มีร่องรอยของการเกิดออกซิไดซ์ในชั้นผิวของเนื้อเหล็กอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ขอให้อย่าประมาทกับน้องน้ำนะจ๊ะ อิๆๆๆ