คำตอบที่ 21
เมื่อประมาณเดือน ตุลาคม 2546 ป้ายโฆษณาอันหนึ่ง โดนลมพัดล้มทับเสาไฟฟ้าทำให้
เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งตัวป้ายตั้งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่มาก โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 26 มิถุนายน 2545 เกิดเหตุป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สูง 47 เมตร ยาว 82 เมตร บริเวณตลาดสด บางนา หักโค่นลงมาทับอาคารบ้านเรือนในขณะที่เกิดพายุฝน จนเป็นเหตุให้เด็กหญิงวัย 7 ขวบ คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีการสอบสวนจนทราบ ว่าป้ายดังกล่าวก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ได้ยื่นขออนุญาตจากทาง กทม. โดยในแบบที่ได้ขออนุญาต ไว้นั้นเป็นป้ายขนาด 22x31.5 เมตร จำนวน 2 ป้าย ห่างกัน 4 เมตร วางอยู่บนดิน ตัวโครงเหล็ก ยึดกันด้วยวิธีการเชื่อม แต่การก่อสร้างจริง ป้ายดังกล่าวมีขนาด 42x82 เมตร ตัวโครงเหล็ก ยึดกันด้วยวิธีใช้น๊อตขัน ดังนั้นเจ้าพนักงานสอบสวนจึงตั้งข้อหากับสถาปนิกและวิศวกรผู้ออก แบบและวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้างว่าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่พึงกระทำ และกระทำการโดยประ มาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งผลสรุปของกรณีนี้ลงเอยด้วยการที่ วิศวกรผู้ออกแบบถูก ลงโทษตักเตือนและยกข้อกล่าวหาวิศวกรผู้ควบคุมงาน
ภายหลังจากเหตุการณ์นี้ ทางกทม. ได้จัดตั้งทีมงานพิเศษ 3 ชุดออกตรวจสอบป้ายโฆษณาทั่วทั้ง กรุงเทพฯ เพื่อดูว่าป้ายใดบ้างที่สร้างผิดจากแบบที่ได้รับอนุญาต หรือสร้างโดยไม่ได้ขอ อนุญาต รวมทั้งทำการตรวจสภาพโครงสร้างป้ายในเบื้องต้นเพื่อดูความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งผลจาก ตรวจสอบป้ายโฆษณาจำนวน 1,059 ป้าย ทางกทม.รายงานว่ามีจำนวนถึง 327 ป้ายที่เข้าข่าย ไม่ ปลอดภัย โดยที่ป้ายเหล่านี้เกือบทั้งหมดก่อสร้างโดยไม่ทำการขออนุญาตหรือก่อสร้างผิดแบบ และมีป้ายบางส่วนที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหรือมีสภาพทรุดโทรมเพราะขาดการบำรุงรักษา
บทสรุป
เมื่อพิจารณาจากตัวบทกฎหมายแล้ว จะเห็นได้ว่าการที่จะก่อสร้างป้ายที่มีขนาดใหญ่กว่า 32 เมตร นั้น กฎหมายในปัจจุบันไม่อนุญาตให้ทำได้ ซึ่งสวนทางกับความต้องการในปัจจุบัน เนื่อง จากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทต้องการที่จะโฆษณาสินค้าของตนเอง ตามจุดต่างๆที่มีผู้คนผ่าน ไปมาเป็นปริมาณมาก และจะต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย ดังนั้นบริษัทที่รับ สร้างป้ายจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงกฎหมาย ใช้ช่องทางต่างๆ รวมทั้งอาจติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อให้สามารถก่อสร้างได้ ทั้งนี้เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าเหล่านั้น แต่ทั้ง นี้ป้ายโฆษณายิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมีอันตรายมากตามไปด้วย
ผู้เขียนมีความเห็นว่า กฎหมายและมาตรฐานต่างๆ สมควรที่จะต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้ สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน เนื่องจากกฎหมายและมาตรฐานเดิมได้ร่างไว้เป็นเวลานานแล้ว ซึ่งในขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการด้านผลกระทบจากแผ่นดินไหวและแรงลม ของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่ง ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) ได้กำลังแก้ไขมาตรฐานการออกแบบโครงสร้างรับแรงลมขึ้น ใหม่ โดยใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จากที่ผู้เขียนได้กล่าวมาทั้งหมด ผู้เขียนต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่าปัญหาของการก่อสร้าง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่นั้น ไม่ใช่ปัญหาไกลตัวแต่เป็นปัญหาใกล้ตัวของเราทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของ วิศวกรหรือเจ้าหน้าที่แห่งรัฐเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย ที่จะต้องคอยดูแลเอาใจ ใส่ สังเกตและตรวจสอบว่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่พบเห็นกันอยู่ทุกวันนั้น ก่อสร้างถูกต้องตาม กฎหมายหรือไม่ มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นอีก