WeekendHobby.com


ป้ายล้มที่ วิภาวดีครับ
PCT50
จาก
พฤหัสบดีที่ , 28/6/2550
เวลา : 22:47

อ่าน = 7921
124.120.125.62
       ผมนั่งรถผ่านไปพอดี ล้มมาอย่างนี้น่ากลัวมาก ไม่รุมีใครเป้นไรบ้างรือเปล่า

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       อ้าว ทำไมจำกัดรูปแค่100เค นึกว่า200 แล้วนะนี่





PCT50 จาก PCT50  124.120.125.62  พฤหัสบดี, 28/6/2550 เวลา : 22:52   


คำตอบที่ 2
       อ้าว อันนี้ลงได้200 เค





PCT50 จาก PCT50  124.120.125.62  พฤหัสบดี, 28/6/2550 เวลา : 22:53   


คำตอบที่ 3
      





PCT50 จาก PCT50  124.120.125.62  พฤหัสบดี, 28/6/2550 เวลา : 22:54   


คำตอบที่ 4
       สุดท้ายแล้วครับ





PCT50 จาก PCT50  124.120.125.62  พฤหัสบดี, 28/6/2550 เวลา : 22:55   


คำตอบที่ 5
       น่ากลัวมากเลยครับ ไม่รู้ว่ามีใครเป็นอะไรบ้างรึเปล่า....ขอบคุณ คุณPCT50 มากครับ



จาก Supermop  58.8.133.119  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 06:29   


คำตอบที่ 6
       ได้ข่าวว่าตาย 1 แต่ไม่รู้ตรงไหน บาดเจ็บก็หลาย
รถที่จอดอยู่ก็โดนกันไป....



ปู่เฟืองจำปีคนเดิม จาก ปู่เฟืองจำปี  58.10.149.47  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 08:11   


คำตอบที่ 7
       เศร้า...จริง ๆ ครับ...เห็นพูดเรื่องการจัดระเบียบป้ายโฆษณากันมานาน....สุดท้ายคงทำไม่ได้...๑๕๐๐ ป้าย...ทั่ว กทม. ..... ล้มสัก ๑๐ ป้ายก็แย่แล้ว....ครับ



2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:38   


คำตอบที่ 8
       ณ ขณะนี้ก็เริ่มเข้าหน้าฝนกันอีกแล้ว ท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะคุ้นเคยกันดีกับข่าวที่ ว่า เกิดลมพัดป้ายพัง ถล่มทับคนตายหรืออาจโชคดีแค่บาดเจ็บ ที่มักจะมาพร้อมๆกันกับหน้า ฝนทุกๆปี หลายท่านเมื่อทราบข่าวแล้ว ก็คงเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่าสาเหตุที่ป้ายพัง นั้น มาจากสาเหตุใด ลมพายุพัดรุนแรงผิดปกติ? ป้ายเก่าจนชำรุดทรุดโทรมมาก? วิศวกรออกแบบ ผิดพลาด? ป้ายสร้างผิดแบบ? ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักมีแต่คำถามแต่ไม่มีคำตอบ! แต่คำถาม หนึ่งที่ทุกคนคงจะมีเหมือนๆกัน ก็คือ ป้ายที่เราพบเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ มีความปลอดภัยเพียง พอและถูกกฎหมายหรือไม่?





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:51   


คำตอบที่ 9
       จากประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่าปัญหาของการเกิดป้ายพังถล่มลงมานั้น มีเกิดขึ้นบ่อยๆใน ทุกๆปี แต่มักจะพบว่านานๆครั้งจึงจะเป็นข่าว ทั้งนี้ก็เพราะโชคดีที่ป้ายนั้นไม่ได้ล้มลง มาทับคนตาย จึงไม่มีนักข่าวคนใดสนใจมาทำข่าว และก็มักจะมีการปิดข่าวกันเนื่องจากกลัวเสีย ชื่อเสียงหรือกลัวว่าจะมีคดีความกัน





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:52   


คำตอบที่ 10
       ท่านผู้อ่านคงเคยเห็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ตามข้างทางสัญจรอยู่บ่อยๆ โดยที่บางป้ายอาจมีความ ยาวมากกว่า 50 เมตร แต่ท่านทราบหรือไม่ ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า ห้ามก่อสร้างป้ายโฆษณาที่มี ความยาวเกิน 32 เมตร!





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:53   


คำตอบที่ 11
       คำถามที่ตามมาคือ ป้ายที่มีขนาดมากกว่า 32 เมตร เขาสามารถสร้างกันได้อย่างไร? คำตอบคือ เค้าใช้วิธีเลี่ยงกฎหมายโดยการขอสร้างป้ายหลายๆป้ายใกล้ๆกันแล้วทำการต่อเชื่อมกันในภาย หลัง แต่กระนั้นป้ายดังกล่าวก็ยังเข้าข่ายผิดกฎหมายอยู่ดี เนื่องจากตามกฎหมายป้ายจะต้อง สร้างห่างกันไม่น้อยกว่า 6 เมตร!





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:54   


คำตอบที่ 12
       จากกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543)
ข้อ 13 ป้ายที่ติดตั้งอยู่บนพื้นดินโดยตรง ต้องมีความสูงไม่เกินระยะที่วัดจากจุดที่ติด ตั้งป้ายไปจนถึงกึ่งกลางถนนสาธารณะ ที่อยู่ใกล้ป้ายนั้นที่สุด และมีความยาวของป้ายไม่ เกิน 32 เมตร
ข้อ 48 การก่อสร้างอาคารใกล้อาคารอื่นในที่ดินเจ้าของเดียวกัน พื้นหรือผนังของอาคารสำหรับ อาคารสูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องห่างอาคารอื่นไม่น้อยกว่า 4 เมตร และสำหรับอาคารที่สูง เกิน 9 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ต้องห่างอาคารอื่นไม่น้อยกว่า 6 เมตร





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:55   


คำตอบที่ 13
       การที่นำป้ายตั้งแต่ 2 ป้าย มาเชื่อมต่อกันนั้น วิศวกรหลายคนอาจคิดว่าสามารถทำได้โดยไม่ ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ โดยที่ป้ายดังกล่าวน่าจะมีพฤติกรรมเสมือนป้ายขนาดใหญ่ที่มีขา 2 ขา เหมือนกับ 1+1 = 2 แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้ว พฤติกรรมของป้ายที่รับแรงลมอาจไม่เป็นเช่น นั้น เนื่องจากหน่วยแรงลมมักไม่ได้กระทำสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งป้าย ดังเช่นในกรณีที่ลมไม่ได้ พัดเข้าปะทะป้ายตรงๆ แต่กระทำเป็นมุมเฉียงแทน ในกรณีนี้หน่วยแรงลมที่กระทำบริเวณพื้นที่ใกล้ ขอบด้านหนึ่งของป้าย จะมีค่ามากกว่าพื้นที่บริเวณกลางป้ายและพื้นที่บริเวณขอบด้านตรงกัน ข้าม ซึ่งกรณีดังกล่าวเสาต้นแรกอาจต้องรับแรงลมมากถึง 75% ของแรงลมทั้งหมด ในขณะที่เสาอีก ต้นรับแรงลมเพียง 25% เท่านั้น ซึ่งถ้าวิศวกรมิได้คำนึงถึงและไม่ได้ออกแบบโครงสร้างให้ เตรียมรับสถานการณ์เช่นนี้ไว้ตั้งแต่แรก เสาต้นแรกที่รับแรงลมมากเป็นพิเศษก็อาจถึงกับวิบัติได้





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 09:56   


คำตอบที่ 14
       ป้ายโฆษณาอันนี้เกิดจากการนำป้ายเดี่ยว 2 ป้าย มาต่อกันเป็นป้ายเดียว





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:02   


คำตอบที่ 15
       ป้ายโฆษณาอันนี้เกิดจากการนำป้ายเดี่ยว 5 ป้าย มาต่อกันเป็นป้ายเดียว





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:03   


คำตอบที่ 16
       ป้ายโฆษณาอันนี้เกิดจากการนำป้ายเดี่ยวจำนวน 6 ป้าย มาต่อกันเป็นป้ายเดียว





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:05   


คำตอบที่ 17
       ป้ายหลายแห่งมักทำการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบ เช่น ตามแบบระบุให้ก่อสร้างด้วยวิธีการ เชื่อม แต่ก่อสร้างจริงใช้วิธียึดด้วยน๊อต ซึ่งสาเหตุก็เพราะพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งป้าย นั้นเป็นพื้นที่เช่า เมื่อหมดสัญญาแล้วก็ต้องย้ายป้ายนั้นออกไป ดังนั้นหากใช้วิธียึดด้วย น๊อตแล้ว จะสามารถถอดประกอบโยกย้ายนำไปใช้ที่อื่นได้ง่าย แต่ข้อเสียก็คือ พฤติกรรมของโครง สร้างที่ใช้วิธีเชื่อมกับวิธียึดด้วยน๊อตนั้น มีความแตกต่างกันอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อระยะ เวลาผ่านไปนาน น๊อตจะคลายตัว ซึ่งจำเป็นต้องกลับมาขันใหม่เป็นระยะๆ หากเจ้าของป้ายปล่อย ปละละเลยไม่มีการบำรุงรักษา ก็จะทำให้ความมั่นคงแข็งแรงของป้ายลดลงและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:06   


คำตอบที่ 18
       ประเด็นต่อมาที่น่าจะมีวิศวกรจำนวนไม่น้อยสงสัย ก็คือ มาตรฐานหรือข้อกำหนดที่ใช้ในการออก แบบโครงสร้างรับแรงลม ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้น คลอบคลุมและมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่?
เนื่องจากวิศวกรผู้ออกแบบจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างป้ายให้สามารถต้านทานแรงลมที่สูงที่สุด ที่จะเกิดขึ้นกับป้ายได้อย่างปลอดภัย และเพื่อการนี้ กฎกระทรวงฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2527) ออก ตามความใน พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 รวมทั้งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบ คุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2522 ได้อนุญาตให้วิศวกรใช้หน่วยแรงลมดังต่อไปนี้ในการคำนวณหา “แรงลมสูงสุด”





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:07   


คำตอบที่ 19
       แต่ในสภาพความเป็นจริงนั้น ค่าหน่วยแรงลมสูงสุดที่กระทำต่อป้ายอาจมีค่าแตกต่างจากค่าที่ กฎหมายกำหนด โดยถ้ามีค่าน้อยกว่า ป้ายก็ควรจะตั้งอยู่ได้อย่างปลอดภัย หรือแม้แต่ในกรณีที่ มีค่ามากกว่าที่กฎหมายกำหนดเล็กน้อย ป้ายก็ควรที่จะสามารถต้านทานได้ เพราะมาตรฐานการออก แบบทางวิศวกรรมได้กำหนดให้มีการเผื่อไว้สำหรับความไม่แน่นอนของกำลังวัสดุโครงสร้างในระดับ หนึ่ง แต่ถ้าแรงลมสูงสุดมีค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไปมาก โครงสร้างป้ายก็อาจต่านทานไม่ไหว จนอาจทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้

* ความสูงของตำแหน่งอุปกรณ์วัดลมเหนือพื้นดิน
** คำนวณโดยใช้ความหนาแน่นของอากาศเท่ากับ 1.22 กก. ต่อ ลบ.ม. และค่า Aerodynamic Drag Coefficient เท่า กับ 1.45 จากบทความเรื่อง “Wind loads on rectangular signboards and hoardings” เขียน โดย Dr. C.W. Letchford ลงพิมพ์ใน Journal of Wind Engineering and Industrial Aerodynamics ฉบับที่ 89 ค.ศ. 2001

จากข้อมูลและเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สามารถชี้ให้เห็นได้ว่า แม้ป้ายโฆษณา ที่ได้รับการออกแบบอย่างถูกต้อง ตามมาตรฐานและข้อกำหนดในกฎหมาย รวมทั้งได้รับอนุญาต อย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็อาจพังทลายล้มคว่ำลงมาได้ถ้าเกิดมีลมพายุที่รุน แรงในระดับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยที่ความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นถ้าคุณภาพของ การก่อสร้างป้ายนั้นต่ำกว่ามาตรฐาน





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:08   


คำตอบที่ 20
       ป้ายโฆษณาแห่งหนึ่งก่อสร้างอยู่บนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น โดนลมพัดพังลงมา
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2547 ในขณะฝนตกหนัก โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:10   


คำตอบที่ 21
       เมื่อประมาณเดือน ตุลาคม 2546 ป้ายโฆษณาอันหนึ่ง โดนลมพัดล้มทับเสาไฟฟ้าทำให้
เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งตัวป้ายตั้งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่มาก โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

วันที่ 26 มิถุนายน 2545 เกิดเหตุป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สูง 47 เมตร ยาว 82 เมตร บริเวณตลาดสด บางนา หักโค่นลงมาทับอาคารบ้านเรือนในขณะที่เกิดพายุฝน จนเป็นเหตุให้เด็กหญิงวัย 7 ขวบ คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีการสอบสวนจนทราบ ว่าป้ายดังกล่าวก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ได้ยื่นขออนุญาตจากทาง กทม. โดยในแบบที่ได้ขออนุญาต ไว้นั้นเป็นป้ายขนาด 22x31.5 เมตร จำนวน 2 ป้าย ห่างกัน 4 เมตร วางอยู่บนดิน ตัวโครงเหล็ก ยึดกันด้วยวิธีการเชื่อม แต่การก่อสร้างจริง ป้ายดังกล่าวมีขนาด 42x82 เมตร ตัวโครงเหล็ก ยึดกันด้วยวิธีใช้น๊อตขัน ดังนั้นเจ้าพนักงานสอบสวนจึงตั้งข้อหากับสถาปนิกและวิศวกรผู้ออก แบบและวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้างว่าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่พึงกระทำ และกระทำการโดยประ มาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งผลสรุปของกรณีนี้ลงเอยด้วยการที่ วิศวกรผู้ออกแบบถูก ลงโทษตักเตือนและยกข้อกล่าวหาวิศวกรผู้ควบคุมงาน
ภายหลังจากเหตุการณ์นี้ ทางกทม. ได้จัดตั้งทีมงานพิเศษ 3 ชุดออกตรวจสอบป้ายโฆษณาทั่วทั้ง กรุงเทพฯ เพื่อดูว่าป้ายใดบ้างที่สร้างผิดจากแบบที่ได้รับอนุญาต หรือสร้างโดยไม่ได้ขอ อนุญาต รวมทั้งทำการตรวจสภาพโครงสร้างป้ายในเบื้องต้นเพื่อดูความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งผลจาก ตรวจสอบป้ายโฆษณาจำนวน 1,059 ป้าย ทางกทม.รายงานว่ามีจำนวนถึง 327 ป้ายที่เข้าข่าย “ไม่ ปลอดภัย” โดยที่ป้ายเหล่านี้เกือบทั้งหมดก่อสร้างโดยไม่ทำการขออนุญาตหรือก่อสร้างผิดแบบ และมีป้ายบางส่วนที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหรือมีสภาพทรุดโทรมเพราะขาดการบำรุงรักษา


บทสรุป
เมื่อพิจารณาจากตัวบทกฎหมายแล้ว จะเห็นได้ว่าการที่จะก่อสร้างป้ายที่มีขนาดใหญ่กว่า 32 เมตร นั้น กฎหมายในปัจจุบันไม่อนุญาตให้ทำได้ ซึ่งสวนทางกับความต้องการในปัจจุบัน เนื่อง จากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทต้องการที่จะโฆษณาสินค้าของตนเอง ตามจุดต่างๆที่มีผู้คนผ่าน ไปมาเป็นปริมาณมาก และจะต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย ดังนั้นบริษัทที่รับ สร้างป้ายจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงกฎหมาย ใช้ช่องทางต่างๆ รวมทั้งอาจติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อให้สามารถก่อสร้างได้ ทั้งนี้เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าเหล่านั้น แต่ทั้ง นี้ป้ายโฆษณายิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมีอันตรายมากตามไปด้วย
ผู้เขียนมีความเห็นว่า กฎหมายและมาตรฐานต่างๆ สมควรที่จะต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้ สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน เนื่องจากกฎหมายและมาตรฐานเดิมได้ร่างไว้เป็นเวลานานแล้ว ซึ่งในขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการด้านผลกระทบจากแผ่นดินไหวและแรงลม ของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่ง ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) ได้กำลังแก้ไขมาตรฐานการออกแบบโครงสร้างรับแรงลมขึ้น ใหม่ โดยใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จากที่ผู้เขียนได้กล่าวมาทั้งหมด ผู้เขียนต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่าปัญหาของการก่อสร้าง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่นั้น ไม่ใช่ปัญหาไกลตัวแต่เป็นปัญหาใกล้ตัวของเราทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของ วิศวกรหรือเจ้าหน้าที่แห่งรัฐเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย ที่จะต้องคอยดูแลเอาใจ ใส่ สังเกตและตรวจสอบว่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่พบเห็นกันอยู่ทุกวันนั้น ก่อสร้างถูกต้องตาม กฎหมายหรือไม่ มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นอีก





2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:12   


คำตอบที่ 22
       ขออภัย...ที่อาจจะใช้พื้นที่...ผิดที่ผิดทางไปหน่อยครับ...แต่เห็นเปิดประเด็นมาก็ไม่เกี่ยวกับภาพถ่าย...เลยขอร่วมด้วย...เห็นว่าเป็นประโยชน์...และส่วนตัวสะเทือนใจกับกรณีนี้มาก..ขอขอบคุณ
http://www.tumcivil.com/engfanatic/article_gen.php?article_id=303&hit=1
อย่างสูง....ครับ



2075 จาก ครูหาดใหญ่  125.27.128.97  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 10:16   


คำตอบที่ 23
       กฎหมายเมืองไทยยังล้าสมัยอยุ่ มากครับ เช่นพวกตึกสุงต่างๆ ระเบียบไม่เข้มงวด ไม่มีมาตการรองรับแผ่นดินไหวสำหรับตึกสุง ถ้าแผ่นดินเลื่อนเพราะโลกร้อนขึ้นมา รอยเลื่อนที่กาญจณบุรี จะเป้นเหตุการที่ร้ายแรงเทียบเท่า Tsunami เมื่อหลายปีก่อน



PCT50 จาก PCT50  124.120.114.215  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 11:15   


คำตอบที่ 24
       ผมเองตระเวณใน กรุงเทพฯมานานแล้ว...เคยคิดเล่นๆ ว่าถ้ากรุงเทพฯไม่มีป้ายพวกนี้มาก คงสวยงามกว่านี้อีกเยอะเลย...แต่ก็ได้แต่คิดเน้าะ..... .........เห็นภาพจากเมืองสวยๆ ที่เขาถ่ายกันมา...มักไม่ค่อยเห็นอภิมหาป้ายแบบบ้านเรา....แค่นี้แหละครับ........แห่ะ...แห่ะ........



คุณเอ294 จาก khunaspix  125.24.19.3  ศุกร์, 29/6/2550 เวลา : 22:26   


คำตอบที่ 25
       we can't dip into the future



จาก yui  222.5.130.110  เสาร์, 30/6/2550 เวลา : 13:47   


คำตอบที่ 26
       อ่านในหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่า ป้ายส่วนใหญ่ใน กทม. ออกแบบให้ต้านทานแรงลมได้ราว 30 กม./ชม.
แต่จากสภาวะโลกร้อน อากาศแปรปรวน ทำให้ลมที่พัดเมื่อปลายเดือน มิ.ย. ซึ่งทำให้ป้ายพังลงมานั้น มีความเร็วลมราว 50 กม./ชม.

ที่อยากตั้งข้อสังเกตก็คือ โอกาสเกิดลมแรงเกิน 30 กม./ชม. ในปีหนึ่งๆนั้นมีมากขนาดไหน ถ้ามันมีโอกาสเกิดมาก ก็น่าจะแก้ไขกฎการตั้งป้ายจากทนได้ 30 กม./ชม. เป็นสัก 50 กม./ชม. และบังคับใช้อย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด!

อยากตั้งข้อสังเกตอีกข้อหนึ่งคือ... การที่ป้ายล้มไปทับคนตายนั้น มีผู้รู้บอกว่า หากพิสูจน์ได้ว่าป้ายนั้นมีการก่อสร้างตามแบบ ซึ่งสามารถทนแรงลมได้ตามมาตรฐาน (30 กม./ชม.) แล้ว การที่ป้ายล้มเพราะถูกลมแรง 50 กม./ชม. พัดถล่ม ถือเป็น "ภัยธรรมชาติ" (สรุปง่ายๆว่า "ตายฟรี")

อยากรู้จัง ถ้าออกกฎหมายให้เจ้าของป้ายต้องปลูกบ้านหรือมีที่พักอยู่ใต้ป้ายที่ตนเองเป็นเจ้าของ ป้ายนั้นมันจะสร้างให้ทนแรงลมได้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือเหนือกว่ามาตรฐาน?



เฌอเขียว จาก เฌอเขียว  58.8.83.45  อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 16:25   


คำตอบที่ 27
       เห็นด้วยกับพี่เณอเขียว...ต้องเล่นไม้นี้



จาก pct50  124.120.117.146  อังคาร, 3/7/2550 เวลา : 17:08   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 14/9/2554 5:08:34

Error processing SSI file