WeekendHobby.com


มงคลชีวิต ให้ทุกคนได้อ่านกันนะ
ปู่เฟืองจำปีคนเดิม
จาก ปู่เฟืองจำปี
พฤหัสบดีที่ , 11/9/2551
เวลา : 10:42

อ่าน = 435
58.10.149.131
      
ณ. เวลานี้บ้านเมืองมัยยำ่แย่จริงๆ.....

ผมไปเวปแลนด์ครุยเซอร์ ...ไปเจอกระทู้นี้เข้าโพสก์โดยคุณ Toom 99
ซึ่งผมเห็นว่าน่าเผยแพร่ บางคนอาจได้อ่านกันแล้ว บางคนอาจไม่รู้เกี่ยวกับพระองค์ท่าน
ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้เป็นอย่างมากมากเลยครับ

อ่านให้จบเน้อเป็นมงคลชีวิตจริงๆ

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
      
1.ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.

2.นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ
ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์
ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์

3.พระนาม 'ภูมิพล'
ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

4.พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช

5.ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก

6.ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี
เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา
ทรงเคยเข้าเรียนที่ โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี
มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า
'H.H Bhummibol Mahidol'หมายเลขประจำตัว 449


7.ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือ
สมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า
'แม่'

8.สมัยทรงพระเยาว์
ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง


9.แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์
แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย
เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม


10.สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข
กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง
แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต


11.สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย
ทรงตั้งชื่อให้ว่า'บ๊อบบี้'


12.ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม
10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกต เห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์ต้องลุกขึ้นบ่อยๆ

13.สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง
หากสมเด็จย่าจะลงโทษจะเจรจากันก่อนว่า
โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะ ทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2
ทีพอแล้ว

14.ระหว่างประทับอยู่
สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส
แต่จะใช้ภาษาไทยกับ สมเด็จย่าเสมอ

15.ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก
'การให้'โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า

'กระป๋องคนจน' เอาไว้
หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไรจะต้องถูก 'เก็บภาษี'หยอดใส่
กระปุกนี้ 10%ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร
เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด
มอบให้เด็กกำพร้าหรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน

16. ครั้งหนึ่ง
ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน
เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขามีจักรยานกัน
สมเด็จย่าก็ตอบว่า'ลูกอยากได้จักรยาน
ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิหยอดกระป๋องวันละเหรียญ
ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน'


17.กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง
คือ Coconet Midget
ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์
เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา

18.ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง

19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง
มีพื้นฐานมาจาก 'การเล่น'
สมัยทรงพระเยาว์เพราะหากอยากได้

ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง
หรือ ประดิษฐ์เอง
ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา
ซื้อชิ้น ส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ
แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุแล้วแบ่งกันฟัง

20.สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย
โดยโปรดเกล้าฯให้

โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ
เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่น
เป็นจิ๊กซอว์


21.ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด
เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน
แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรี

ชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ
หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)


22.ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์
14-15 พรรษาทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น
โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง
และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้

23.ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ
เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส


24.ทรงพระราชนิพนธ์พลงครั้งแรก
เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา
เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ
'แสงเทียน'จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด
48 เพลง

25.ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง
บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย
อย่างครั้งหนึ่งทรง เกิดแรงบันดาลพระทัย
ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5
เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น
กลาย เป็นเพลง 'เราสู้'

26. รู้ไหม...?
ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร
: เหมือนสมเด็จย่า และ
รัชกาลที่5

27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว
ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย
ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วน

พระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย
ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล

รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโ
ปลิโอและโรคเรื้อนด้วย

28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง
'นายอินทร์' และ 'ติโต'
ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์
แล้วให้เสมียน พิมพ์ แต่ 'พระมหาชนก'
ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด
แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่
แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรง

เคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค
ในกีฬาแหลมทอง

(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น'กีฬาซีเกมส์')
ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510

30. ครั้งหนึ่ง
ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง
และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า


เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า
ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์
ทั้งๆที่ไม่มีใคร เห็น
แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน

31.ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ์
คิดค้นเครื่องกลเติม

อากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย
หรือ 'กังหันชัยพัฒนา'
เมื่อปี 2536

33.ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน
เช่น แก๊ส โซฮอล์,ดีโซฮอลล์ และ
น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์
ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว

34. องค์การสหประชาชาติ
ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์
แด่ในหลวงเมื่อ วัน ที่ 26 พฤษภาคม 2549
เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของ

ประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี
อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ
เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตน เอง

35. พระนามเต็มของในหลวง :
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา
มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลา
ธิเบศรรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร
สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

36. รักแรกพบ
ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์
แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น
สมเด็จพระ

บรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า'น่าจะเป็น
เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ
เนื่องเพราะรับสั่งว่า
จะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง
แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม
ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง

37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริ กิติ์
กิติยากร เมื่อวันที่ 19
กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธี

ราชาภิเษกสมรส
ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28
เมษายน 2493
โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป


ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง
ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์
เสียค่าธรรมเนียม 10
บาท

37. หลังอภิเษกสมรส
ทรง'ฮันนีมูน'ที่หัวหิน

38. ทรงผนวช ณ
พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในพระบรมมหาราชวัง
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ
วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน

39. ระหว่างทรงผนวช
พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง
คือ สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช

40.ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม
ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่

จำเป็นจะต้องเป็นของแพง
อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น

41. เครื่องประดับ :
ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ
เช่น แหวน สร้อยคอของมีค่าต่างๆ
ยกเว้น นาฬิกา

42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว :
ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร
อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้
สร้างวัตถุมงคล
เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ

43. หลอดยาสีพระทนต์
ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ
โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยัง

ปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด
ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด
และ กด เป็นรอยบุ๋ม

44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด
คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต
มีหนังสือเล่าไว้ว่าวันนั้นในหลวงไปเฝ้า
แม่ถึงตีสี่ตีห้าพอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ
เมื่อถึงวังทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า
สมเด็จย่าสิ้น พระชนม์แล้ว
ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล
เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง
ในหลวงคุกเข่าเข้าไป
กราบที่อกแม่
ซบหน้านิ่งอยู่นาน
ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง

45.โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000
โครงการ

46.ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่
3 สิ่ง คือแผนที่ซึ่งทรงทำขึ้น
เอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง)
กล้องถ่ายรูป
และดินสอที่มียางลบ


47.ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษ
ที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน

48. เก็บร่ม :
ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่
เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึงปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก
ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน
เมื่อทรง เห็นดังนั้น
จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม
แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรท่ามกลางสายฝน

49.ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน
โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ
ร่วมกับข้อมูลจาก ต่างประเทศที่หามาเอง
เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน

50. โครงการส่วนพระองค์
สวนจิตรลดา
เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน
32,866.73บาท ซึ่ง

ได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์
จากการขายนมวัว
ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามา

จนเป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้

51.เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา
ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบาย
ด้วยพระองค์เองเนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด

52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
กราบบังคมทูลถามว่า
เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่
ในหลวงตอบ ว่า'ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก
บางเรื่องมันน่าท้อถอย
แต่ว่าฉันท้อไม่ได้เพราะเดิมพันของเรา
นั้นสูงเหลือเกินเดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง
คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ

53. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน
แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก
5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549)
ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้

เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ
พระองค์จะได้มอนิเตอร์
เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน

54. อาหารทรงโปรด :
โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น
ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก
ผัดถั่วลันเตา

55. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี
ต้นหอม และตังฉ่าย

56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง
เป็นพระกระยาหารหลัก

57. ไม่เสวยปลานิล
เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย
โดยใช้สระว่ายน้ำในพระ

ตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง
แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง

58. เครื่องดื่มทรงโปรด :
โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ
เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง

59. ทีวีช่องโปรด
ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส
ของยูบีซีเพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก

60. ทรงฟัง จส.100
และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน
กทม.ไปที ่ จส.100ด้วย โดย
ใช้พระนามแฝง

61. หนังสือที่ในหลวงอ่าน :
ตอนเช้าตื่นบรรทม
ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ

ทุกฉบับและก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส
นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ
ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก

62. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ
ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย
ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อ

ในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501
เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี
ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ
มาถวายงาน
ต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว

63. ห้องทรงงานของในหลวง
อยู่ใก ล้ห้องบรรทม บนชั้น 8
ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ

ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ
โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร
คอมพิวเตอร์
เครื่องบันทึกเสียง
เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ

64. สุนัขทรงเลี้ยง
นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด
สุนัขประจำรัชกาล
ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกล

กังวล แล้ว
ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว

65. ในหลวง
เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ว่า 'นายหลวง' ภายหลัง
จึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง

66. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ
ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ
เยอรมัน และ สเปน

67. อาชีพของในหลวง
เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดให้กรอกในช่อง
อาชีพ ของพระองค์ว่า 'ทำราชการ'

68.ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา
เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์
สวิตเซอ ร์แลนด์
รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง
ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา
ตอนนั้นมีอายุ เพียง 20 พรรษา
และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว
ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน
ชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี

69.ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า
แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็น


แซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์
ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า'อันนี้ไม่จริงเลย
สมมติว่าจริงก็จะ
หนักมาก ยกไม่ไหวหรอก'

70. ปีหนึ่งๆ
ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง
ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด

71. หัวใจทรงเต้นไม่ปรกติ
ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ
เนื่องจากติดเชื้อ ไมโครพลาสม่า
ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี

72. รู้หรือไม่ว่า
ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง

ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์

73.ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติ

ครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค
มีประชาชนเข้าชมรวม 6ล้านคน

74.ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี
พ.ศ.2493 จน 29
ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่า
เสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490
ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม.
ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน

470,000 ครั้ง
น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3
ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน

75. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ
ดอกดาวเรือง

76. สีประจำพระองค์คือ
สีเหลือง

77. นั่งรถหารสอง :
ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า
การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลื
อง จึง ให้นั่งรวมกัน
ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด



ปู่เฟืองจำปีคนเดิม จาก ปู่เฟืองจำปี  58.10.149.131  พฤหัสบดี, 11/9/2551 เวลา : 10:45   


คำตอบที่ 2
       อ่านแล้วตื้นตันใจ.....(ตรงกันข้ามเกลียดนักการเมืองชั่วๆ ที่คิดทำลายสถาบันเพิ่มเข้าไปอีก)



จาก RC152  203.185.68.195  พฤหัสบดี, 11/9/2551 เวลา : 11:44   


คำตอบที่ 3
       ขอบคุณมากนะคะ...สำหรับสาระดีๆ "อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยล่ะคะ...พี่ปู่ "



จาก yui  222.5.129.41  พฤหัสบดี, 11/9/2551 เวลา : 17:00   


คำตอบที่ 4
       ดีมากเลยครับ ทำให้คิดอะไรมากอีกเยอะเลย



nes จาก นายเนส  125.213.229.146  พฤหัสบดี, 11/9/2551 เวลา : 21:48   


คำตอบที่ 5
      



pencil จาก pencil  124.120.86.145  ศุกร์, 12/9/2551 เวลา : 01:07   


คำตอบที่ 6
       เป็นกำลังใจสู้กะ 350D แบบพอเพียง



ch_boon จาก Nhui  58.181.153.195  อาทิตย์, 14/9/2551 เวลา : 10:30   


คำตอบที่ 7
       อ่านแล้วรู้สึกรักพระองค์ท่านมากๆ อุปกรณ์ถ่ายภาพใดๆ ที่ยังดี ยังใช้งานได้ ก็จะใช้ต่อไม่คิดฟุ่มเฟือยหาซื้อเพิ่มเกินความจำเป็นครับ จะออกใหม่กี่ล้านกี่สิบล้านพิกเซลก็เรื่องของกล้องเถอะครับ ผมขอใช้สิ่งที่ผมมีอยู่ดีกว่า ผมไม่อยากตกเป็นทาสพ่อค้านักธุรกิจ จะดำเนินชีวิตนักถ่ายภาพสมัครเล่นอย่างพอเพียงดีกว่า



sirikul777 จาก ธีรยุทธ เบ้าแดง  202.91.19.192  ศุกร์, 19/9/2551 เวลา : 11:47   


คำตอบที่ 8
       -ขอบคุณครับ



skpg จาก SKPG  202.12.118.61  ศุกร์, 19/9/2551 เวลา : 11:52   


คำตอบที่ 9
       ขอจงทรงพรเจริญยิ่งยืนนาน



semork จาก สีหมอก  124.157.140.64  ศุกร์, 19/9/2551 เวลา : 12:50   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 14/9/2554 5:10:24

Error processing SSI file