คำตอบที่ 1
       ผมเป็น(ชอบ)แต่ถ่ายให้รูปออกโทนมืดๆ เหมือนมีแสงทางเดียว เน้นมิติบนใบหน้า แต่มีข้อเสียคือจะขับริ้วรอบที่เล็กๆให้เด่นขึ้น ทั้งที่ผิวน้องเขาสวยดีอยู่แล้วเมื้อมองด้วยตา

คำตอบที่ 2
       แต่แนวสวยใสก็ถ่ายบ้าง กันลืม แต่ไม่ถนัดเลย

คำตอบที่ 3
       ถ่ายเก็บฉาก จริงๆถ่ายมาเยอะมุมหลายจุด แต่เก็บเอาไว้พาคนธรรมดาทั่วไปมาถ่าย

คำตอบที่ 4
       มุมนิยม อีกมุม

คำตอบที่ 5
       มุมกล้องที่เน้นมุมหน้า ปกติไม่ค่อยได้ใช้กับคนทั่วไป แต่ถ้าออกทริปจะชอบหัดถ่ายมาก ้อาไปใช้กับถ่ายอย่างอื่นได้ดี เช่นมาโคร

คำตอบที่ 6
       เน้นสีหน้าแววตา ที่สื่อออกมา

คำตอบที่ 7
       ประตูทองที่ใครก็ต้องมาถ่าย เลยหามุมแปลกๆถ่ายมา(แต่ก็มีคนถ่ายเยอะ)

คำตอบที่ 8
       เห็นโลเคชั่นบ้าง

คำตอบที่ 9
       วัดแสงแบบผม นางแบบหันหน้าผิดมุมหรือเอามือบังแสงนิดเดียว รูปอันเดอร์เลย

คำตอบที่ 10
       ในตึกรูปบนอันเดอร์แล้ว เลยพาออกมาชมรอบๆตึกใช้แสงแดดอ่อนๆขับผิว

คำตอบที่ 11
       ถ่ายแบบไม่มองกล้อง แต่สื่ออะไรออกมาจากท่าทาง

คำตอบที่ 12
       เน้นริมไลท์ โดยการถ่ายย้อนแสง ได้กำแพงเป็นฉากสะท้อนแสงเปิดเงาในหน้า

คำตอบที่ 13
       ลองอีกมุม

คำตอบที่ 14
       น้องกอล์ฟนิสัยร่าเริงมากๆ มำให้ทริปนี้สนุกแซวกันตลอดไม่เครียด

คำตอบที่ 15
       ดูแนวเซ่อๆผมยุ่งๆมั่ง

คำตอบที่ 16
       เน้นใบหน้าอีกครั้ง

คำตอบที่ 17
       แนวไม่มองกล้อง

คำตอบที่ 18
       ลากันด้วยภาพนี้ครับ แนวมีคนบัง(ลองหัดถ่ายแบบมีคนบังเพราะมีปัญหามากๆเวลาออกทริป)
ขอขอบคุณเว็บที่เอื้อเฟื้อพื้นที่และความรู้
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาชมครับ ขอคำแนะนำด้วยนะครับ

ปล.ถ่ายนางแบบก็ชอบดีครับ แต่ที่อยากถ่าย อยากถ่ายคนธรรมดาดีกว่า เพราะคิดว่าเราก็คนธรรมดาที่อยากถ่ายรูป เขาก็คนธรรมดาที่อยากได้รูป

แนะนำตรงๆแรงๆได้เลยครับ ชอบแบบนั้น

คำตอบที่ 19
       อยากถ่ายคนธรรมดาดีกว่า เพราะคิดว่าเราก็คนธรรมดาที่อยากถ่ายรูป
นางแบบน่ารัก ตากล้องฝีมือ แจ่มค่ะ...

คำตอบที่ 20
       สวยงามอีกแล้วครับ กว่าจะจบทริปเล่นเอานางแบบมอมแมมเลยนะครับ

ช่วงนี้แนวบุคคลมาแรงจัง

คำตอบที่ 21
       เหมือนมีบางรูป หลุดโฟกัสหรือป่าวครับ หลายรูปแสงสวยมาก

โดยรวมชอบครับ

คำตอบที่ 22
       ใช่ครับ มีหลุดโฟกัส เพราะเปลี่ยนกล้องกับเลนส์กับเพื่อนใช้(เลนส์85-1.8)ไม่เคยใช้มาก่อน เลยหลุดไปเยอะ (ใช้กล้อง3ตัวถ่าย)

บางรูปคุมเดฟพลาดไป ตาซ้ายตาขวาชัดข้างเดียว เพราะได้กล้องใหม่ D700 พอเป็นฟูลเฟลม เดฟมันแคมมากๆ จากที่เคยใช้ จะเหลือแค่ครึ่งเดียว กำลังหัดให้คุ้นมืออยู่ครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่มีค่าครับ คุณนัน

ขอบคุณครับคุณYUI
นางแบบทุ่มเท ไปหน่อย ฝุ่นเลยเลอะตามตัว

คำตอบที่ 23
       แจ่มมาก ๆ เลยครับ....แสงเงา นางแบบ แจ่มดี ดูมีมิติดีครับ....ฝีมือ ๆ

ผมถ่ายภาพแนวนี้ไม่เป็นน๊ะ.....คราวหน้าต้องแบกกล้องตามหลังคุณก้างไปบ้างแล้ว

คำตอบที่ 24
       อ่า....แบบนี้ผมก็ไม่เป็นเอาซะเลย ....แล้วยายกล้องไม่ไปด้วยเหรอครับ

คำตอบที่ 25
       คุณMOPถ้าสนใจถ่ายแนวพร๊อตเทรต ก็บอกได้นะครับ ไปหัดถ่ายด้วยกัน

คุณNhui จริงๆทริปนี้ผมพาแฟนไปหัดถ่ายแนวพร๊อตเทรต ผมเป็นพี่เลี้ยงให้เขา แต่ก็ถ่ายมาบ้างเท่าที่เห็นครับ แต่ถ้าผมจะไปคนเดียวก็ไปได้ครับ มีข้อแม้ข้อเดียว ห้ามมีส่วนหนึ่งส่วนใด โดนตัวนางแบบ ส่วนไหนโดนตัวส่วนนั้นทิ้ง เหอะๆ ยายกล้องบอกบอก(สั่ง ขู่ กำชับ)มา

คำตอบที่ 26
       แจ่มทุกภาพเลยครับ...(แต่ไม่รู้เป็นอะไรชอบภาพที่ 3 มากเลย)....ตึกอะไรครับ..สวยดี นางแบบสวยมากเลยครับ....

คำตอบที่ 27
       ตึกสถานีดับเพลิงบางรักครับ คุณRC152

คำตอบที่ 28
       โดยรวม สวยครับ ทั้งแบบ และภาพถ่าย

คำตอบที่ 29
       คุณ.ก้างครับพอจะบอกข้อมูลในการถ่ายบ้างได้มั้ยครับ เช่น กล้อง,เลนส์,F stop,Speed และวีธีการวัดแสง ใช้ระบบไหนฯจะได้ถ่ายภาพสวยๆแบบคุณก้างบ้างครับ..ขอบคุณครับ..

คำตอบที่ 30
       ตอบคุณ169/22นอ กล้อง 3ตัว2รุ่น ปรับค่าหลังกล้องไม่เท่ากัน กล้องนิคอนทั้ง3ตัว มีD700 1ตัวD3002ตัว สลับกล้องกันถ่ายกับเพื่อน เลนส์ที่ใช้มี 70-200-2.8 /24-70-2.8/14-24-2.8/ แล้วก็85-1.8 ส่วนวิธีวัดแสง ผมถ่ายแนวโลว์คีย์(ให้เกิดแสงเงาที่ชัดเจนระหว่างด้านที่โดนแสง(มาก)กับด้านที่ไม่โดนแสงหลัก(ได้แสงจากทางอื่นมาเปิดเงา) ถ่ายแนวนี้ ต้องใช้การปรับหลังกล้องช่วยอีกทาง(เลนส์ที่ผมใช้ก็ช่วย) คือเปิดระบะไดนามิกเร็น(เขียนไม่ถูก)จะช่วยเก็บรายละเอียดส่วนมืดได้ดีขึ้น
แต่ถ้าเป็นกล้องธรรมดาเลนส์ธรรมดา ก็ถ่ายได้ครับ แต่ต้องเดินเข้าไปวัดแสงให้ถูกจุด ก็จะไล่ระดับแสงได้เหมือนกัน
วิธีวัดแสงที่ผมใช้ ผมวัดส่วนสว่างสุด ของนางแบบ คือบริเวณด้านขวาของนางแบบ(แก้มขวานางแบบ)วัดให้พอดี แล้วเดินกลับมาถ่ายมุมนี้ ส่วณใหญ่ในรูปผมจะใช้วิธีวัดแสงแบบนี้ แต่จะใช้ได้ดี เมื้อมีแสงหลักที่ชัดเจน ครับ
ปล.รูปตัวอย่างประกอบ

คำตอบที่ 31
       นี้คือรูปที่เพื่อนผมถ่าย มุมเดียวกันแสงเดียวกัน เวลาถ่ายห่างกันไม่ถึง20นาที เขาใช้กล้องแคนนอล5DII +เลนส์85-1.2
ถ่ายแบบเพื่อนคือถ่ายโทนรูปไฮคีย์(เน้นสว่าง) เพื่อนใช้วิธีวัดแสงตรงข้ากลับผมทุกอย่าง คือวัดที่ส่วนมืด(ฝั่งซ้ายตัวแบบ) จะทำเปิดเงาในส่วนมืด ก็จะทำให้รูปสว่างขึ้น

คำตอบที่ 32
       แบบที่สาม แบบทั่วไป คือวัดแสงที่ส่วนกลางของแบบ แสงจะเฉลี่ยกันสองด้าน ไม่มืดไปไม่สว่างไป วิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน

คำตอบที่ 33
       สรุปมีวิธีวัดแสงหลักๆอยู่3แบบ

วิธีวัดแสงของผม ผมวัดส่วนสว่างที่บริเวณใบ้หน้านางแบบซีกขวา(ขวานางแบบ)(แนวแสงเงาโลว์คีย์)ข้อดีคือทำให้ใบหน้ามีมิติ ข้อเสียคือจะเห็นร่องรอยชัดเจนเกินจริง และโอกาสรูปอันเดอร์มีสูงถ้าแบบหันหน้าไม่ตรงแสง
วิธีวัดแสงของเพื่อนผม คุณกิตวัดแสงส่วนมืดที่ซีกซ้ายของตัวแบบ(แนวโทนสว่างไฮคีย์)มีข้อดีคือ รูปจะใสเคลียดูสบายตา ลบรอยต่างๆบนตัวแบบได้ดี ข้อเสียคือทำให้มิติบนใบหน้าลดลง ถ่ายคนหน้าแบนแบบเอเชียลำบาก โอกาสรูปโอเวอร์มีสูงถ้าตัวแบบขยับเข้าใกล้แหล่งแสง
วิธีที่คุณโต้งใช้ คุณโต้งวัดแสงที่ตัวแบบตรงๆด้านหน้าตรงๆ(แบบแนวปกติ) ข้อดีคือ วัดแสงง่ายไม่ต้องเข้าใกล้แบบ โอกาสผืดพลาดน้อย แต่ขาดจุดเด่นที่ชัดเจน มันกำ่กึ่งระหว่างมืดกับสว่าง เหมาะที่จะใช้ในบริเวณที่แสงสว่างเพียงพอจากหลายด้าน หรือหลายแหล่งแสง
ส่วนวธีวัดแสงแบบที่4และที่5 นั้นจะเกินความจำเป็น แต่ถ้าสนใจก็จะนำมาบอกได้นะครับ(กำลังหัดวิธีที่4และ5อยู่มันยากมากสำหรับผม)

คำตอบที่ 34
       ขอบคุณมากๆครับคุณก้าง 5DMark II ก็เป็นกล้องในฝันของผมตัวนึงครับ..ตอนนี้ยังบ่มีปัญา..เลยใช้ Eos 3 รุ่นเก่าไปพรางๆก่อนครับ..แล้วอย่าลืมเรื่อง F stopและชัตเตอร์สปีดด้วยนะครับ..อยากรู้จริงๆครับ..

คำตอบที่ 35
       เป็นผม ๆ โดดคร่อม ...เอ๊ย!!!...ถ่ายคร่อมไว้หมดเลยครับ

วัดแสงหลากหลายทิศทาง แล้วค่อยมาเลือกทีหลัง

คำตอบที่ 36
       จริงๆ ก็ไม่ได้ลืมนะครับ แต่ไม่อยากแนะนำเพราะผมกับเพื่อนๆก็ไม่ได้ถ่ายค่านี้ ตลอด เพราะค่าF มันขึ้นกับความชอบของคนถ่าย แต่ที่ผมใช้บ่อยก็2.8แต่ต่อไปถ้าใช้กับกล้องฟูลเฟรม คงใช้ที่ 3.2-4 แทนเพราะมันคุมช่วงความชัด(เดฟ) ได้ง่ายกว่า แต่ก็อีกนั้นแหละ ค่าFจะใช้ที่เท่าไหร่ มันก็ขึ้นกับว่าใช้เลนส์ช่วงไหน ไวด์หรือนอร์มอล หรือซูม แล้วก็ระยะห่่างจากตัวแบบ องศามุมกล้อง แล้วก็ตัวแบบอยู่ห่างจากฉากหน้าฉากหลังเท่าไหร่ แล้วก็ตัวแบบยืนทำมุมกับกล้องยังไงด้วยครับ ตัวแปรมันเยอะ แต่ถ้าเราฝึกคุมช่วงความชัด(เดฟ)ชัดตื้นหรือชัดลึก จนชำนาญ(ผมยังไม่ชำนาญเลยแหะๆ) ก็จะกำหนดได้เองว่าเราจะให้ระยะชัด ไปถึงไหนสิ้นสุดที่ตรงไหน รูปชุดนี้ ผมก็พลาดไปเยอะ ตาซ้ายตาขวา ชัดข้างเดียว บางรูปถึงกับหลุดโฟกัสไปเลย
เอารูปเปิดเป็นตัวอย่าง ผมพลาดตรงที่ไปโฟกัสที่หางตาขวา ทำให้ช่วงความชัด อยู่แค่ตาขวา ถึงสันจมูก พอเลยสันจมูกไป ก็จะเริ่มชัดน้อยลงๆ พอถึงเกือยหางตาซ้าย ก็เริ่มหลุดโฟกัสไปแล้ว ตอนถ่ายคิดว่าจะเน้นดวงตาข้างขวาให้คมชัดสุดตาซ้ายแต่ชัด แต่พลาดไป ถ้าแก้ตัวใหม่ ก็จะโฟกัสที่หางตาขวาก็พอ หางตาซ้ายก็จะแค่พอชัด ตาข้างขวาก็ยังเด่นเหมือนเดิม แต่ตาซ้ายก็จะพอที่แค่ชัดต่ไม่คมชัด ปกติ ทุกวันนี้ ผมก็ยังฝึกคุมระยะช่วงความชัด อยู่ครับ ว่างๆก็เอากระป๋องโค้ก2กระป๋องมาตั้งชิดกัน แล้วก็ฝึกคุมระยะชัด เพราะขนาดของกระป๋องโค๊กจะใกล้เคียงกับใบหน้าคน ก็เริ่มฝึกว่าจะให้ชัดถึงไหน หรือจะไม่ให้ชัดตรงไหน ย้ายมุมกล้องไปเรื่อยๆ ครับ

คำตอบที่ 37
       มาต่อเรื่องสปีดชัดเตอร์ สปีดที่ผมใช้ขั้นต่ำสุด ก็คือเท่ากับระยะเลนส์ ถ้าผมใช้ช่วง70-200 ขั้นต่ำสำหรับผมก็คือ 200 ไม่ว่าจะใช้ที่ระยะเท่าไหร่ แต่ถ้าคนตัวอ้วนหรือไม่สูง(มั่นคงกว่า) ก็สามรถใช้ตามระยะเลนส์ได้เลย แต่ความเร็วชัดเตอร์ มีผลต่อแสงในรูปยกตัวอย่างรูปเปิด ถ้าผมใช้สปีดที่ต่ำเช่น ไม่ถึง125 แสงจะเริ่มสว่างไปถึงใบหูซ้ายนางแบบ แต่ด้านขวานางแบบจะยังรับแสงพอดี แล้วกำแพงข้างหลังก็จะสว่างมาขึ้น สปีดยิ่งช้าก็จะเปิดให้แสงน้อยๆมีเวลาเข้ากล้องมากขึ้น แต่ในรูปผมนิยมถ่ายโทนมืด ผมจึงใช้สปีดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะดันISOขึ้นไปได้แล้วก็ไม่มีนอย์ส ในรูปมุมนี้ ผมใช้ตั้งแต่ 350-800 แล้วความเร็วชัดเตอร์ ยังมีผลต่อแสงที่อยู่ไกล(ฉากหลัง) เอาไปใช้ได้กรณีอยากให้ฉากหลังมืดลงหรือเรียกว่าหลังดำแต่แสงต้องมีความต่างกันเกิน 1.5สต๊อป
พิมไปอ่านเอง ยังงงเลย แหะๆ เอางี้ครับ ถ้าต้องการศึกษา ผมยินดีแนะให้ครับ โดยไม่คิดอะไร กับขอเวลา 2วัน วันละ 4-5ชม. วันแรกเอาทฎษฎีไปก่อน วันที่สองลงมือถ่ายเอง ตามโจทย์ แค่สองวัน ก็ทำได้แล้ว ทั้งวัดแสง เข้าใจเรื่องเดฟ เข้าใจเรื่องสปีด เข้าใจเรืองมุมแสง
แต่จะชำนาญแค่ไหน ก็ขึ้นกับการฝึกฝน ครับ เพราะตัวผมก็ยังต้องฝึกฝน อยู่
ปล.ขอเพิ่มเติมของคุณMOP การถ่ายคร่อม มีผลดีคือเราได้รูปตามต้องการแน่นอน แต่เหมาะสำหรับ ถ่ายวัตถุที่อยู่นิ่ง แต่ถ่ายนางแบบหรือวัตถุที่เคลื่อนไหว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือจังหวะ จังหวะมีผลต่ออารมรูป เช่นนางแบบจะโพสได้สวยสุดในช่วงเวลาสั้นๆเวลานั้นเราต้องถ่ายให้ได้จังหวะนั้น แล้วก็จะซับซ้อยขึ้นเมื้อเราถ่ายอะไรที่เคลื่อนไหวเร็วขึ้น มุมที่พอดี มีแค่โอกาศกดชัดเตอร์ได้1ครั้ง เช่นถ่ายสัตว์ อีกแนวที่ถ่ายคล่อมลำบากก็คือ อยู่ในพื้นที่ที่มีความต่างของแสงกันอย่างมาก แล้วตัวแบบเครื่อนไหวผ่านไปผ่านมา ฝึกแบบยากๆก่อนแล้วหลังๆมันจะง่ายกว่า ครับ
สรุปที่พิมพ์มาเป็นแค่เทคนิค แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความเป็นศิลป์ พวกองค์ประกอปภาพองค์ประกอปศิลป์ เทคนิคเป็นแค่ตัวทำให้ได้รูป แต่ความเป็นศิลป์(มุมมอง) ทำให้สวย
ด้วยความเครพ ที่อธิบายก็เพราะอยากแบ่งปัน ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งหรือถ่ายสวยนะครับ เพราะทุกวันนี้ ผมยังลงเรียนตามคอส์ทพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่เลยครับ แล้วก็ยังต้องมานั่งฝึกถ่ายตามที่อธบายมาเหมือนกัน ครับ

คำตอบที่ 38
       ลืมบอกข้อสำคัญมากๆไปข้อนึง คือคนถ่ายรูปคือคนวาดแสงลงในภาพ หรือ คนถ่ายรูปคือคนกำหนดแสง เทคนิคหรือมุมมองที่ดี ก็เปล่าวประโยชน์ ถ้ารูปนั้นถ่ายมาแล้วไร้แสง ถ่ายรูปเราต้องเป็นคนกำหนดแสง จากที่ตาเห็น โดยใช้เครื่องมือ3ตัว สปีด ค่าF แล้วก็ISO
รูปตัวอย่างทั้ง3รูป คนกำหนดแสง(ตากล้อง)ต่างใช้วิธีต่างกันเพื่อวาดแสงลงในรูป ทำให้รูปที่ได้ต่างกันแม้ถ่ายในมุมเดียวกันช่วงเวลาเดียวกัน

คำตอบที่ 39
       ทำลายน้ำไว้บ้างก็ดีครับ...เผื่อไปเจอรูปตัวเองที่ถ่ายมากับมือแต่ประทับตราคนอื่นมันจะยิ่งเจ็บใจครับเห็นหลายรูปยังไม่มี..ถือว่าเป็น profile ส่วนตัวด้วยครับ

โดยรวมแล้วถือว่าเยี่ยมครับ

คำตอบที่ 40
       ก็เคยคิดหลายครั้งว่าจะใส่ลายเซ็นดีไหม แต่ตัดสินใจแล้วว่าช่วงนี้ยังไม่ใส่ เพราะคิดว่า คำชมที่ดีที่สุดคือการก๊อปปี้ ตอนนี้เลยขอไม่ใส่ก่อน ยกเว้นบางแนว ที่ต้องบอกสถานที่ถึงจะใส่ครับ แต่ต่อไปก็คงใส่ครับ ถ้าเขาเอารูปนางแบบไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ คุณKEMM

ปล.รูปตัวอย่างสองรูปที่มีลายเซ็น เป็นของเพื่อนผมครับ รูปที่ไม่มีลายเซ็นเป็นของผมถ่ายเองครับ

คำตอบที่ 41
       แสงสวย นางแบบหน้าหวาน สถานที่ชอบเลยครับ สวยทุกรูปเลยครับพี่ เสียดายพลาดทริปนี้ เลยไม่ได้เจอพี่ก้างเลยครับ ไว้คราวหน้าครับ

คำตอบที่ 42
       คุณซ้งลงทริปไหน บอกด้วยนะครับ จะได้ลงตามจะได้เจอคุณซ้ง แหะๆ

คำตอบที่ 43
       โอวววว....มีประโยชน์มากมายเลยครับคุณ the_ก้าง

อ่านแล้วนึกภาพตาม เหมือนดูหนังเลย

เอาไว้ก่อนปีใหม่ ออกทริปยาว ๆ คงต้องรบกวน พี่ปู่ฯ ...คุณthe_ก้าง ...คุณซ้ง เปิดคอร์สให้เพื่อนสมาชิกให้บ้านเล็ก ๆ หลังนี้ได้ออกไปเก็บเกี่ยวภาพสวย ๆ มาแบ่งปันกันแล้วครับ

คำตอบที่ 44
      

อืมแนว นี้ไม่ถนัดเลยครับ ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ....ภาพเปิดถ้าคมชัดนะแจ่ม

คำตอบที่ 45
       ชอบทุกรูปเลย

คำตอบที่ 46
      
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ แนวนี้ไม่มีความรู้เลยต้องหาโอกาศนำไปทดลองซะแล้ว ..

คำตอบที่ 47
       แสงงามมากครับ สถานที่และแบบก็สวย

คำตอบที่ 48
       แจ่มจังครับ..

คำตอบที่ 49
       สวยจัง

คำตอบที่ 50
       ดีมากๆเลยครับ อ่านแล้วทำให้เข้าใจเรื่องของจุดที่จะใช้วัดแสงเลยครับ
ผมมีคำถามครับ
1.ถ้าเราวัดแบบพี่ก้างนี่ เราต้องเดินเอากล้องเข้าไปจ่อใกล้ๆนางแบบรึเปล่าครับ
2. "เรื่องสปีดชัดเตอร์ สปีดที่ผมใช้ขั้นต่ำสุด ก็คือเท่ากับระยะเลนส์ ถ้าผมใช้ช่วง70-200 ขั้นต่ำสำหรับผมก็คือ 200 ไม่ว่าจะใช้ที่ระยะเท่าไหร่ แต่ถ้าคนตัวอ้วนหรือไม่สูง(มั่นคงกว่า) ก็สามรถใช้ตามระยะเลนส์ได้เลย " อันนี้คือถ้าผมใช้เลนส์ 50 f1.8 ผมจะสามารถใช้สปีดชัดเตอร์ต่ำสุดที่50 ใช่รึเปล่าครับ แล้วถ้าเราใช้สปีดชัดเตอร์ที่ 15หรือ 30 มันจะมีผลยังไงกับรูปบ้างครับ

ปล. ขอบคุณครับ แล้วถ้าพี่จะเปิดสอนวันไหนบอกด้วยนะครับจะเข้าไปขอคำแนะนำด้วยคน

คำตอบที่ 51
       ตอบคุณเนสครับ

1.ถ้าเอาไปจ่อใกล้ๆได้ก็จะแม่นยำขึ้นครับ หรือใช้ช่วงซูมสุดเท่าที่เลนส์มี หรือวัดแสงจากหลังมือตัวเอง(แต่ต้องเข้าใจมุมแสง) หรือซูมแล้ววัดแสงเอาก็ได้ แต่ผมจะใช้วิธีซูมที่แก้ม ฝั่งที่จะวัดแสงกับวัดหลังมือตัวเอง(ที่เทียบสีผิวกับค่าเทากลางแล้ว) แล้วควบคุมแสง ที่เหลือจากค่า2สต๊อปเอาครับ

2.สปีดที่ใช้ตำ่สุด คิดตามช่วงเลนส์ ที่ต้องคูณ1.5ในกล้องที่ไม่ฟูลเฟรม ถ้าระยะ50 ก็ต้องใช้ประมาน เกิน80เป็นอย่างน้อย
แต่ในทางปฏิบัติ ขึ้นกะกายภาพของคนถ่าย กับการฝึกฝนในการกดชัดเตอร์ให้นุ่มนวล ท่ายืนมั่นคงไหม มีอะไรให้ตัวเราพิง และอีกเยอะ

ถ้าใช้สปีดที่ต่ำ อย่างแรกเลย จะมีผลต่อแสงในรูป ในค่าคู่แสง เดียวกัน สปีดต่ำกับสปีดที่สูง มีผลต่อแสงอย่างมาก
อย่างที่สองสปีดต่ำ อาจจะทำให้รูปไม่คม (ชัดแต่ไม่คม) จนบางทีเรานึกว่ากล้องหรือเลนส์เราไม่ดี หรือมากกว่านั้นทำให้รูปไหวไปเลย

สปีดชัดเตอร์ หลักๆก็มีผลต่อรูปประมานนี้ครับ จรองๆมีผลต่อเดฟ(ช่วงความชัด) อีกแต่มันจะมากความเกินครับ แหะๆ แต่ถ้าจะถ่ายรูปเพื่อความก้าวหน้ามันก็สำคัญนะครับ

ส่วนแรื่องการเปิดสอน ผมคงไม่อาจเอื้อมครับ แต่ถ้าอยากแลกเปลี่ยนเฉพาะเรื่องวัดแสง ผมก็ให้คำแนะนำน้องๆที่เรียนนิเทศบ่อยๆ ครับ

เมล์มาได้เลยครับ THAI389@hotmail.com ยินดีอย่างยิ่งครับ

คำตอบที่ 52
       ตัวอย่างรูปที่1

คำตอบที่ 53
       ตัวอย่างรูปที่2

คำตอบที่ 54
       ตัวอย่างทั้งสองรูปสปีดมีผลต่อแสงสีในรูปยังไง(ถ่ายให้น้องคนนึงดูเป็นคำตอบที่ถามคำถามนี้เหมือนกัน) ถ่ายด้วยแสงเดียวกันระยะเวลาถ่ายห่างกันไม่เกิน10วินาที ค่าคู่แสงคือค่ากล้องที่เราถ่ายต่างกันแต่วัดแสงที่ตัวแบบเท่ากัน

รูปตัวอย่างที่1และ2ใช้ค่าคู่แสงเท่ากัน จากF5ลงลงไปที่F2.8 ห่างกัน1เศษ2/3 สต๊อป (5ขีดเล็ก) ก็ปรับจาก F.2.8 iso100 Speed1/500 ไป1 เศษ2/3สะต๊อป(5ขีดเล็ก) จะได้ค่าคู่แสงอีกค่า คือรูปที่2 ถ่ายที่F5 iso200 Speed1/320 (มีหลายค่าคู่แสง) จะทำให้แสงที่วัดได้เท่ากัน แต่แสงที่ได้ต่างกัน สีที่ได้ต่างกัน ลองสังเกตุดูนะครับ

ปล.ค่าเอฟที่ต่างกันก็มีผลต่อแสงสีในรูปเช่นกัน

ปล.พิมพ์เองอ่านเองยังงง แหะๆ จริงๆมันไม่ได้ยากหรือซับซ้อนเท่าที่คิด(เท่าที่อ่าน) ถ้ามาอธิบายด้วยคำพูดและลองถ่ายกันเดี๋ยวนั้นเลยก็จะเข้าใจง่ายและเร็ว

ปล.ถ้าผมเข้าใจและถ่ายได้ ใครในโลกนี้ก็ถ่ายได้ เพราะผมไม่มีพรสวรรค์ผมก็เป็นแค่คนธรรมดา เชื่อได้เลยครับ ว่าคุณหรือใครก็ทำได้

คำตอบที่ 55
       เข้ามาอ่านแล้ว ได้ความรู้มากมายเลยครับ
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 56
       พี่the_ก้างครับ ถ้าผมบอกว่า งง พี่อย่าว่ากันนะ
ไอ้ค่าคู่แสงนี้มันคืออะไรครับ
แล้วค่าคู่แสงของ F.2.8 iso100 Speed1/500 มาเท่ากับ ที่F5 iso200 Speed1/320 ได้ไงครับ

คำตอบที่ 57
       เป็นคำถามที่พิมพ์ให้เข้าใจยากมากๆ แต่ถ้าเจอกัน5-10นาทีก็เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้ ผมอ่านค่นคู่แสงมาเป็น10รอบก็ไม่เข้าใจ จนมาลองกะกล้อง ค่อยถ่ายค่อยๆทำความเข้าใจ พอรู้ก็คิดไม่น่าไปนั่งอ่านเลย มาเรียนเรื่องสต๊อปแสงก่อนจะเข้าใจเรื่องค่าคู่แสง ไม่ยากเลย

แต่ผมไม่ขี้เกียจพิพ์ เพราะน้าๆหลายๆท่านในนี้ เคยพิมพ์สิ่งดีๆให้ผมอ่านมาเยอะ ผมก็จะขอเดินรอยตามท่านเหล่านั้น เพื่อเป็นการตอบแทนทุกๆท่านที่พิมพ์มาให้ผมอ่าน

ค่าคู่แสง แบบเดิม มีสองค่าคือ สปีดชัดเตอร์กับค่าเอฟโดยเราไม่สามารถเลือกค่าISOได้เพราะถูกกำหนดมาจากม้วนฟิลม์แล้ว จึงเรียกว่าค่าคู่แสง

แต่พอเรามาใช้กล้อง ดิจิตอล ที่ทำให้เราเลือกค่าISOได้ จึงต้องเอามาร่วมเป็นอีกค่า แต่ยังเรียกเหมือนเดิมว่าค่าคู่แสง นี้คือที่มาของคำนี้
ก่อนจะเข้าเรื่องค่าคู่แสง กล้องเราโดยส่วนใหญ่ จะปรับการรับแสงได้ที่ละ1แก๊ก ปรับ3แก๊กเท่ากับ1สต๊อป<---จำตัวเลขนี้นะครับ

โจทย์ สมมุติว่าผมถ่ายรูป ดอกกล้วยไม้ ผมวัดแสงได้ที่ค่า สปีด1/500 iso500 เอฟ5.6 จะได้แสงที่ดอกกล้วยไม้พอดี แต่ยังมีค่าคู่แสงอีกหลายค่าที่ได้แสงเท่ากัน เช่น ผมลดสปีดลงเหลือ 1/250 ก็จะปรับไป3แก๊ก(เท่ากัย1สต๊อป) กล้องก็จะได้รับแสงมากขึ้น(โอเวอร์ไป1สต๊อป) ผมก็ต้องปรับให้กล้องรับแสงน้อยลง ก็คือลดISOลงไป3แก๊ก(1สต๊อป) ก็จะได้ค่าISO250 กล้องจะได้รับแสงพอดีแล้ว โดยไม่ต้องไปปรับค่าเอฟ แต่ยังมีค่าคู่แสงอีกหลายค่า ลองมาดูที่ตารางนะครับ โดยจะเริ่มจากไม่เปลี่ยนค่าเอฟเลย (ปล.ที่ล๊อกค่าFที่5.6เพราะ เลนส์ทุกตัวทำได้ครับ)

ค่าเริ่มต้น S 1/500 ISO 500 F 5.6
1/250 250 F 5.6
1/1000 1000 F 5.6
1/320 320 F 5.6
ทุกค่าถ่ายออกมาดอกกล้วยไม้ ได้แสงเท่ากันครับ แต่ค่าคู่แสงยังมีอีกหลายสิบค่าเลยครับที่จะถ่ายให้ดอกกล้วยไม้ได้แสงเท่าเดิม แต่แสงนอกตัวดอกหรือฉากหลังหรือสีสันจะไม่เท่ากัน แม้แต่แสงหรือสีในดอกกล้วยไม้ก็ไม่เท่ากัน นี้แหละครับทำไมคนถ่ายรูปเดียวกันถึงได้รูปไม่เหมือกัน ถ้ายังสงสัยหรืออยากรู้อะไรเพิ่มอีก โทรมาถามได้เลยครับ อะไรที่ผมพอรู้ก็จะตอบให้ แต่ถ้าไม่แน่ใจหรือไม่รู้จะถามผู้รู้ให้ครับ ทุกๆคำถามที่ถามมา ทำให้ผมได้ประโยชน์ไปด้วยครับ ฉะนันไม่ต้องเกรงใจ ครับ โทรมาได้เลย ตั้งแต่ บ่ายโมงถึงเที่ยงคืนครับ แต่ถ้าอยากเข้าใจง่ายๆและเร็วๆ ก็แวะมาได้ครับ ยินดีตอนรับครับ 081 933 3366 ผมอยู่แถวลาดพร้าวครับ

คำตอบที่ 58
       เห็นคุณเนส สนใจเรื่องแสง ถ้ามีเวลานัดกัน ก็ดีนะครับ ผมจะปูพื้นเบสิคเรื่องแสง ให้ทั้งหมด

เช่น แสงมีสองชนิด มีแสงตกกระทบ กับแสงสะท้อน เรื่องเบสิคสุดๆที่เกิน90% ของตากล้อง มองข้ามไป แต่ถ้ารู้ก็จะเข้าใจเรื่องแสงได้มากขึ้น

วิธีวัดแสง ว่าจะวัดระบบไหนดี วันเฉพาะจุด หรือเฉลียกลาง หรือเฉลียทั้งภาพ
วัดแสงตรงไหน ถึงจะได้แสงแบบนั้นแบบนี้
วิธีวัดแสง ถึงตอนนี้ มี5แบบที่ผมรู้
วิธีชดเชยแสง กับสีต่างๆ แล้วก็วิธีชดเชยแสง ในแสงต่างๆ (ไมไ่ด้ชดเชยแสงเฉพาะสี ต้องรู้วิธีชดเชยแสงในแสงแบบต่างๆด้วย)
วิธีดูแสง ทางแสง ชนิดแสง ก่อนจะวัดแสง
ปล. ขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เก่งหรืออวดเก่ง แค่อยากแบ่งปันความรู้เรื่องแสง เป็นความรู้นะครับไม่ใช่ความสารถ ตัวผมยังไม่สารถแปลงมาเป็นความชำนาญได้ หรือแปลกไปอีกขั้นจนไปเป็นความสารถ ทุกวันนี้ ผมก็ยังถ่ายรูปอันเดอร์โอเว่อร์อยู่เลย ด้วยความเครพ ครับ

คำตอบที่ 59
       อืมม์....นัดพบปะสังสรรค์แบบไม่เป็นทางการกันซักคราก็ดีครับ.....เอาแบบเร่งด่วนวันอาทิตย์นี้เลยมั๊ยครับ

ให้เกียรติคุณก้าง เป็นผู้เลือกสถานที่ ขอเป็นร้านอาหาร แอร์เย็น ๆ หน่อยครับ ....นายเนส โอเคป่าว ชวนสีหมอกมาด้วย ดูเหมือนจะชอบถ่ายแนวพร๊อตเทรต ......พี่ปู่ฯ - คุณนัน ก็น่าสนใจน๊ะเพิ่มทักษะทางด้านนี้อีกหน่อย เพราะเรื่อง Land Scape นั้นแจ๋วอยู่แล้ว

ถ้าโอเคก็ตั้งกระทู้ใหม่เลยครับ

คำตอบที่ 60
       ถ้าเป็นการนัดพบกันเพื่อพบปะ ก็ยินดีและอยากไปเจอน้าๆเพื่อนๆร่วมเว็บครับ สถานที่ ขอเสนอเป็นร้านฐิตารี ตรงสวนรถไฟอยู่ขวามือทางเข้าสวนรถไฟเลยครับ เข้าไปในสวนจอดรถ แล้วเดินไปเหมือนจะเข้าไปในสวนรถไฟ ร้านจะอยู่ขวามือ มีห้องแอร์ ส่วนเวลา ผมว่างตั้งแต่ เที่ยงเป็นต้นไปครับ ถ้าจะตั้งกระทู้ใหม่ ขอรบกวนคุณMOPตั้งดีกว่านะครับ เพราะเป็นที่รู้จักมากกว่าผม

ปล.ถ้าตั้งกระทู้ใหม่ ให้คุณMOPลงเบอร์โทรเป็นสื่อกลางด้วยนะครับ

คำตอบที่ 61
       ดีครับ แต่เป็นอาทิตย์หน้าได้รึเปล่าครับ อาทิตย์นี้ทำงานน่ะครับ

คำตอบที่ 62
       ผมเข้าใจเรื่อง ค่าคู่แสงแล้วครับ พี่ the_ก้าง
ผมลองใช้โหมด M แล้วพอวัดแสง ที่ ISO100 แล้วผมก็ปรับความไวชัตเตอร์ ให้ขีดที่แถบวัดแสงมาอยู่ตรงกลาง ผมอ่านค่าได้ F3.5 ความไวชัตเตอร์ 1/6
แล้วพอปรับ ISO มาที่ 200 ขีดที่แถบวัดแสงก็ขยับมาที่ +1 แล้วพอปรับความไวชัตเตอร์มา 3แก๊ก ให้ขีดที่แถบวัดแสงมาอยู่ตรงกลางพอดีเลย ผมอ่านค่าได้ F3.5 ความไวชัตเตอร์ 1/13

นี่คือค่าคู่แสงใช่มัยครับ F3.5 ความไวชัตเตอร์ 1/6 ISO100 คือค่าแสงเดียวกันกับ F3.5 ความไวชัตเตอร์ 1/13 ISO200 ในสถานการ หรือ จังหวะนั้นๆ
และการปรับความไวชัตเตอร์ 3แก๊ก เท่ากับ 1สต๊อป พอดี

เรื่องแสงนี่เป็นเรื่องที่ผมอากรู้มากเลยครับ ที่พี่the_ก้าง บอกมาแต่ละเรื่องน่าสนใจจริงๆเลยครับ

คำตอบที่ 63
       ยินดีด้วยครับ คุณเนสเข้าใจถูกแล้ว เรื่องค่าคู่แสง ส่วนเรื่องนัดเจอ อาทิตย์หน้าผมไม่ว่างครับ ติดงานถ่าย แต่ถ้าจะนัดเจอกันเรื่องแสง วันธรรมดาก็ได้ครับ ตอนกลางคืนก็ได้ จะจัดไฟให้จะได้ลองถ่ายไปด้วย ครับ

คำตอบที่ 64
       ดูท่าทางการนัดหมายจะเร่งด่วนเกินไปครับ....เอาไว้ค่อยนัดกันอีกทีดีกว่าครับ

ขอบคุณคุณก้างมาก ที่ให้เกียรติถ่ายทอดความรู้กับเพื่อนสมาชิกครับ

คำตอบที่ 65
       คงอย่างงั้นครับคุณMOP ไว้โอกาสหน้าแล้วกันครับ แต่ก็เสียดายอดได้เจอเพื่อนๆน้าๆ เลยว่าจะไปขอความรู้ในหหลายๆเรื่องซะหน่อยครับ งั้นรบกวนคุณMOPช่วยนัดวันด้วยนะครับ

คำตอบที่ 66
       พี่ก้างครับ ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลา นานๆจะได้ขึ้นไปกรุงเทพซะที
วันนี้ก็ทำงาน
ผมอยากรบกวนให้พี่ช่วยอธิบายเรื่องที่เกี่ยวกับแสงให้หน่อยได้มัยครับ
เอาที่ล่ะหัวข้อก็ได้
เริ่มที่หัวข้อของ "แสงมีสองชนิด มีแสงตกกระทบ กับแสงสะท้อน เรื่องเบสิคสุดๆที่เกิน90% ของตากล้อง มองข้ามไป" ก่อนเลย
ถ้าพี่โอเค เดี๋ยวผมเปิด กระทู้ใหม่ให้ดีมัยครับ เผื่อให้เพื่อนๆในเวปได้เข้ามาดูด้วย

คำตอบที่ 67
       ถูกใจภาพ 7 กับ 15 มากๆเลยครับ วันหลังขออนุญาติตามไปเป็นเด็กยกของด้วยได้มั๊ยครับ น้องใหม่ฝีมือยังไม่ถึงขั้น ถ่ายสาวทีไร มือสั่น ภาพเบลอตลอดเลยครับ

คำตอบที่ 68
       คุณเนส อยู่จังหวัดอะไรครับ เผื่อผมผ่านไป ครับ

เรื่องตั้งกระทู้ใหม่อธิบายเรื่องแสง ผมเคยคิดหลายๆรอบ ว่าจะตั้งดีไหม 1ผมรู้เรื่องแสงดีพอจะตั้งไหม? 2.พิมพ์ไปจะเป็นความรู้ที่ถูกต้องไหม? 3.ถ่ายรูปสวยพอจะมีคนเชื่อไหม? 4.ชื่อผมจะมีคนมาอ่านไหม? 5.จะเป็นกระทู้ล่อเป้าไหม?. 6.ถ้าตั้งกระทู้ต้องใช้เวลาไปถ่ายรูปมาประกอปคำอธิบาย ต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะครบหมวดแสง 7.เรื่องแสงเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยสนใจกัน วัดแสงตามกล้องหรือตามสูตร เขาก็ว่าพอแล้ว

ปล.ไม่รู้จะคุ้มกับความเสี่ยงที่จะโดนล่อเป้าไหมนะครับ(อันนี้ผมกลัวที่สุด) คุณเนสลองช่วยคิดอีกทางดูนะครับ ถ้ายังสนใจเรื่องแสงผมก็ยังแนะนำให้มาเจอกันดีกว่าครับ เพราะจะเป็นง่ายกว่า มีน้องๆที่มาเรียนวัดแสงตัวต่อตัวกะผม เกิน10คน มี3คนที่เข้าใจดี นอกนั้นท้อไปหมด แหะๆ(ผมสอนเข้าใจยากแฟนผมบอก) แต่ถ้าคุณเนสคิดว่าตั้งกระทู้ดีกว่า ผมขอเรื่องนึงถ้าเป็นกระทู้ล่อเป้าคุณเนสต้องออกมารับคำเหน็บแนมกะผมนะครับ ถ้าทำได้ คุณเนสก็ตั้งกระทู้ได้เลย แนะนำให้หาเสื้อเกราะมาใส่รอได้เลยครับ

คำตอบที่ 69
       ขออนุญาติพี่ the_ก้าง แนะนำกระทู้ที่สอนให้เข้าใจโหมดวัดแสงแบบที่คิดว่าเข้าใจง่ายมาเป็นตัวอย่างให้ดูหน่ะครับ หากไม่เหมาะสมหรืออย่างไร ขออภัยด้วยนะครับ

RBJ's Pix : Basix Metering
http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=1612

Dust talk : การวัดแสง (อันนี้อ่านแล้วอ่านจะงงนิดหน่อย หากยังไม่เข้าใจ basic มากเท่าไร่หน่ะครับ หลายหน้าหน่อย)
http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=20109

คำตอบที่ 70
       เป็นกระทู้ที่ดีมากๆครับ ได้เทพตัวจริงมาอธิบาย กระทู้นั้นผมก็อ่านมาเหมือนกันครับ หลายๆรอบ ทุกวันนี้ ก็ยังแวะเวียนไปอ่าน ครับขอบคุณครับคุณKeN

คุณเนสลองอ่านดูนะครับ ถึงแม้จะไม่มีแสงตกกระทบกับแสงสะท้อน ก็ใช้ได้ แต่ผมก็ยังแนะนำให้ทำความเข้าใจเรื่องแสงทั้ง2ชนิดก่อน ทุกอย่างก็จะตามมาเอง แบบถ่ายให้มากกว่าที่ตาเห็นได้เลยครับ

คำตอบที่ 71
       มาอธิบายเพิ่มอีกรอบ วิธีวัดแสงที่ผมใช้ คือดูแสงก่อนว่าจะถ่ายแสงไหน ตรงไหน ถึงจะเลือกจุดวัดแสง แล้วค่อยเลือกระบบวัดวัดแสง แล้วค่อยเลือกให้รูปออกมาโทนไหน(จะพอดีหรือโลว์คีย์หรือไฮคีย์หรือจะระบบที่4ที่5) ซึ้งถ้าจะถ่ายแบบผม ต้องรู้เรื่องแสงตกระทบกับแสงสะท้อน(ที่กล้องและตาเรามองเห็นแสงนี้) ซึ้งจะยุ่งยากมากเวลาจะหัด แต่พอเข้าใจ เราก็จะเขาใจแสงทุกที่ ทุกเวลา ทุกชนิด ทุกชนิดของแหล่งกำเนิดแสง ขอย้ำนะครับว่าผมไม่ได้บอกวิธีที่ ที่จะถ่ายรูปให้สวยขึ้นแค่บอกวิธีที่จะทำให้ถ่ายรูปได้ง่ายขึ้น ครับ

คำตอบที่ 72
       the_ก้าง : ขอบคุณมาก ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาก
นางแบบสวยมากเลยครับ คนถ่ายก็ถ่ายเก่งให้แสงดีครับ

คำตอบที่ 73
       ขอบคุณครับพี่ก้าง ถ้าพี่ก้างไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะลองศึกษาเรื่องแสงเอาเองจากกระทู้ที่คุณ เคน ลงไว้ให้ก่อน
แล้วจะค่อยๆ เอารูปมาแชร์ แล้วค่อยให้พี่มาแน่ะนำดีกว่า แต่ขอทำความเข้าใจเรื่องแสงก่อนนะครับ
ผมอยู่แถวชลบุรีครับ แต่พอดีช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง งานเยอะๆ นานจะมีงานซะที