จาก หมี ดำเนิน
IP:222.123.33.112
พฤหัสบดีที่ , 21/2/2551
เวลา : 16:10
อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
 แจ้งลบ
 ส่งหาเพื่อน
|
จากการที่สมาชิกใหม่ได้โทรมาสอบถามและพูดคุยหลังจากที่ได้เจ้าทรูปเปอร์มาไว้ในครอบครองแล้วควรจะทำอะไร อย่างไรกับมันดีบ้าง ก็เลยคิดว่าสรุปเอาไว้ให้สมาชิกท่านอื่นหรือท่านที่กำลังเป็นสมาชิกได้เป็นความรู้และเป็นแนวทางในการที่จะดำเนินการกับเจ้าตัวใหญ่ทรูปเปอร์ที่ได้มาได้ถูกต้องและมันจะได้ไม่มีปัญหาเมื่อเรานำมันไปใช้ เพราะโดยส่วนใหญ่เท่าที่พูดคุยกับทุกท่านที่ซื้อมาก็เพื่อที่จะใช้เป็นรถคันที่ 2 เอาไว้ท่องเที่ยว เพราะว่ามันขับทางไกลสบาย ก็สรุปเป็นข้อๆเอาไว้ก็แล้วกัน สมาชิกท่านใดมีอะไรเสริมเพิ่มเติมก็เชิญเลยนะครับช่วยๆกัน จะได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมากๆครับ
1.อันดับแรกก็คงจะไม่พ้นเรื่องของเครื่องยนต์ หลังจากที่เราได้เจ้าตัวใหญ่มาแล้ว ก้ลองตรวจสภาพด้วยตาเปล่าของเราเองให้ทั่วจริงๆ อย่าเพิ่งไปปลื้มกับมันมากนัก จนลืมที่จะตรวจหาสิ่งผิดปกติ เช่น มีคราบของการรั่วของน้ำมันเครื่อง,น้ำหล่อเย็น,น้ำมันเบรค,น้ำมันเกียร์,น้ำมันเฟืองท้าย หรือไม่ ดูให้ทั่วเลยครับหากเจอจะได้แก้ไขได้ทันทีก่อนจะเสียหายไปกันใหญ่ และก็ตรวจในเรื่องของเกจบนหน้าปัทม์และไฟแสดงต่างว่ามันขึ้นหรือแสดงครบหรือไม่ เช่น เกจความร้อนขึ้นหรือเปล่า เกจบอกระดับแรงดันน้ำมันเครื่องขึ้นหรือไม่ ไฟเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ หรือเกียร์ ไฟบอกสถานะของการทำงานในระบบต่างๆ เช่น ไฟขับ4 หรือไฟสูง เป็นต้น ดูให้ครบเลยครับ และให้ทดลองเปิดไฟต่างๆให้ครบ ไฟหน้า สูง/ต่ำ ไฟเลี้ยว เบรค หรี่ ไฟในห้องโดยสารตรงกลางด้านหลัง ตรวจสอบให้ครบเลยนะครับ
2.เมื่อหมดความตื่นเต้นจากการที่ได้รถมาแล้ว ให้ทดลองขับจริงๆอีกครั้ง อันนี้หมายถึงต้องตั้งใจขับจริงๆ หาเส้นทางที่ค่อนข้างรถไม่มากและก็ไม่ต้องไกลมาก หากระดาษมาเตรียมจดในสิ่งที่เราคิดว่าผิดปกติเพื่อที่เวลาเอารถเข้าเช็คจะได้บอกอาการให้กับช่างถูก เตรียมตัว เตรียมของเรียบร้อย ก็เริ่มดำเนินการได้เลย สตาร์ทเครื่องและสังเกตุสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ตอนสตาร์ท ไฟบนหน้าปัทม์ดับหมดหรือไม่ เกจบอกค่าต่างๆขึ้นตามปกติหรือเปล่า ปล่อยให้เครื่องเดินเบาประมาณสัก 10 นาที แล้วก็สังเกตุว่าเครื่องยนต์มีอาการอย่างไรบ้าง เดินเบาเป็นอย่างไร รอบเครื่องนิ่งดีหรือไม่ เปิดแอร์ดูว่ามันทำงานปกติหรือไม่ รอบเครื่องยนต์ตกลงมามากหรือเปล่าเมื่อเปิดแอร์ ทดลองเหยียบเบรคดูว่ามันทำงานเป็นปกติหรือไม่โดยการลองเหยียบค้างเอาไว้แล้วสังเกตุดูว่าเท้าที่เราใช้เหยียบเบรคอยู่นั้นมันจมลงไปมากกว่าเดิมตอนที่เหยียบครั้งแรกหรือไม่ หากจมลงไปเรื่อยๆ ก็แสดงว่าเบรครถเราไม่ปกติเสียแล้ว ต้องรีบดำเนินการซ่อมเป็นเรื่องแรก หากดูแล้วปกติดี ก็ลองเข้าเกียร์ให้มาอยู่ในตำแหน่ง D โดยที่เท้าเรายังเหยียบเบรคไว้ เบรคมือต้องดึงขึ้นเอาไว้ เพื่อที่จะดูว่ารอบเครื่องยนต์ของเราตอนเปิดแอร์และเข้าเกียร์รอบตกลงมามากหรือน้อย แล้วก็เพิ่มโหลดเข้าไปอีกด้วยการเปิดไฟหน้า ดูว่ารอบตกลงมามากหรือไม่อย่างไร แต่หากรอบสวิงลงมาแล้วกลับขึ้นไปที่เดิมก็ถือว่า ปกติดี หลังจากนั้นก็ปลดเบรคมือ แล้วลองออกตัวแล้วก็เบรคแรงๆดู แล้วสังเกตุสิ่งผิดปกติต่างๆ หากผมสิ่งใดที่ไม่แน่ใจก็จดเอาไว้ก่อน เช่น เบรคอยู่หรือไม่ รถออกตัวดีหรือไม่ มีอาการสดุดหรือไม่ หรือว่าเครื่องมีอาการที่จะดับหรือไม่เมื่อเบรคแรงๆ เบรคอยู่ดีหรือไม่ ก็ลองสังเกตุกัน หลังจากนั้นก็ขับไปจริง โดยสังเกตุในเรื่องของการเปลี่ยนเกียร์ สังเกตุดูว่าการเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละเกียร์มีอาการอย่างไรบ้าง เช่นกระตุกหรือไม่ หรือกว่าจะเปลี่ยนนานเกินไปหรือไม่ มีเสียงดังแปลกๆเกิดขึ้นจากใต้ท้องรถเราหรือเปล่า ทดลองขับทุกๆความเร็วรอบของเครื่องยนต์เท่าที่ทำได้ เช่น ที่ 1000 รอบต่นาที 2000 ต่อนาที แล้วสังเกตุดูอาการต่างๆ อันไหนไม่แน่ใจจดเอาไว้ก่อนครับ ลองทำความเร็วสูงสุด(ถ้าทำได้นะครับ)ว่าได้เท่าไหร่ เข้าโค้งเป็นอย่างไร ตกหลุม ลงคอสะพานมีเสียงอะไรหรือเปล่า เบรคแล้วมีอาการปัดหรือไม่ เบรคแล้วมีเสียงดังหรือเปล่า แล้วก็สังเกตุเกจวัดค่าต่างๆว่าขึ้นปกติหรือไม่ ทดลองใช้อุปกรณ์ต่างๆให้ครบ เช่น สวิทช์ล็อคความเร็วหากใช้ไม่ถูกก็จดไว้เอาไปถามช่าง กระจกมองข้างพับเก็บได้หรือไม่ ที่ปัดกระจกไฟหน้าทำงานปกติหรือเปล่า ใบปัดน้ำฝนกระจกหน้า หลัง น้ำฉีดกระจก ทำงานครบทั่วหรือไม่ พยายามทดลองใช้ให้ครบทุกอย่างครับ และก้จดปัญหาที่เราเจอหรือสิ่งที่เราสงสัยเอาไว้ให้หมดครับ
3.เมื่อได้ทดลองขับอย่างมีสติแล้วก็เตรียมสตางค์ที่จะเอาเจ้าตัวใหญ่ของเราไปดำเนินการปรุงแต่งให้เป็นไปตามที่เราต้องการ อย่างแรกก็ของเหลวทั้งหมด เปลี่ยนถ่ายเสียให้หมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง เกียร์ เฟืองท้าย เพาเวอร์ เบรค ทุกอย่างที่เป็นของเหลวครับ
4.หลังจากใช้งานได้สักระยะและเก็บเงินได้พอสมควรแล้วหรือห
|
