จาก บรรจง TCT212 IP:202.57.156.200
จันทร์ที่ , 10/3/2551
เวลา : 07:43
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
เนื่องจากเบอร์โทรที่เราโพส์ตกันในบอร์ดอาจจะเป็นเบอร์ที่ให้กลุ่มมิจฉาชีพ นำเบอร์เราไปใช้ในทางที่ผิดตามข้อความข้างล่างนี้ อย่างไรก็ระมัดระวัง
อนึ่งถ้าเป็นไปได้ท่านประธานน่าจะเริ่มต้นการคุยกับเว็ปมาสเตอร์ ในการให้ล็อคอินทุกครั้งเพื่อป้องกันอีกแนวทางนะครับ ลองพิจารณานะครับ
เรื่องจากคมชัดลึก (เริ่มก่อคดี ตังแต่ปลายปีก่อนแน่ะ )
แก๊งตุ๋นอ้างทวงหนี้บัตรเครดิตระบาดหนัก
โดย คม ชัด ลึก วัน พุธ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 00:00 น.
แก๊งทวงหนี้บัตรเครดิตหนักระบาดเชียงใหม่ เดือนเดียวถูกหลอกแล้ว 50 ราย ล่าสุดอดีตผู้กำกับฝ่ายศิลป์บ.ผลิตละครโร่แจ้งความที่ สภ.เมือง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 พ.ย. นายชุมพล แสงจันทร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12-4 หมู่10 เขตบางแค แขวงบางแค กรุงเทพฯ อดีตผู้กำกับฝ่ายศิลป์บริษัทผลิตละครโทรทัศน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.อนุภาพ ชัยศิริ รอง สว.สส. สภ.เมืองเชียงใหม่ว่าถูกแก๊ง 18 มงกุฎโทรศัพท์มาหลอกลวงแจ้งว่าติดหนี้บัตรเครดิตในวงเงินร่วมแสนบาทขอให้ผู้เสียหายไปโอนเงินชำระหนี้ เพื่อจะไม่ถูกดำเนินคดี โดยแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 3 คน
นายชุมพล ผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้(7พ.ย.) ได้มีชายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารยูโอบี โทรศัพท์เข้ามาในมือถือของตนโดยแจ้งว่าตนเป็นหนี้บัตรเครดิตยอดเงินรวมกว่า 1 แสนบาท ขอให้ไปโอนเงินชำระหนี้ให้ทางธนาคารด้วย หลังรับสายตนเองถึงกับงง เพราะที่ผ่านมาย้ายมาอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และไม่เคยทำบัตรเครดิตกับธนาคารยูโอบีมาก่อน อีกทั้งชายที่โทรศัพท์มายังบอกว่าหากไม่เชื่ออีก 15 นาทีจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง โทรศัพท์มาหา
หลังวางหูไปอีก 15 นาทีต่อมาได้มีชายอีกคนที่ชื่อนายอัมรินทร์ อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของธนาคารแห่งประเทศไทยโทรศัพท์ เข้ามาแจ้งว่าตนเป็นหนี้บัตรเครดิตจริง ขอให้แจ้งข้อมูลชื่อนามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงพยายามจะสอบถามบัญชีของธนาคารที่ตนมีเงินฝากอยู่ในปัจจุบันและยังแนะนำว่าหากกลัวว่าจะเป็นการหลอกลวงก็ให้ไปเปลี่ยนรหัสบัตรเอทีเอ็มเสีย
แต่ตนไม่หลงเชื่อจึงไม่ยอมบอกหมายเลขบัตรประชาชนและข้อมูลใดๆให้ ชายคนดังกล่าวยังหลอกอีกว่า หากไม่เชื่อให้โทรศัพท์ไปตรวจสอบได้ที่อีกเบอร์ เมื่อตนได้เบอร์โทรศัพท์จากชายดังกล่าวได้โทรไปตรวจสอบปรากฏว่า มีผู้หญิงรับสายและแจ้งว่าเป็นธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการพูดกับใคร จากนั้นแกล้งโอนสายไปให้กับนายอัมรินทร์
นายชุมพล กล่าวว่า หลังวางสายตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ของธนาคารยูโอบีและธนคารแห่งประเทศไทยกับทาง 1133 เพื่อตรวจสอบซ้ำ ปรากฏว่าหมายเลขโทรศัพท์ไม่ตรงกันกับที่โทรศัพท์มา และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดในที่สุดจึงทราบว่าสองเบอร์ที่คนร้ายใช้โทรมาตอนแรกนั้นไม่มีอยู่ในสารบบ จึงมั่นใจว่าถูกหลอก
เมื่อสอบถามไปยังธนาคารยูโอบีที่กรุงเทพพร้อมกับแจ้งเรื่องให้ทราบ เจ้าหน้าที่ของธนาคารยูโอบีรายหนึ่งได้ถามว่า \"เบอร์ที่โทรไปหาคุณใช่เบอร์ 02-8500946 หรือไม่ ?\" ตนตอบว่าใช่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าที่ผ่านมามีหลายคนถูกหลอกแบบนี้แล้วโทรมาถามกับธนาคารอยู่หลายครั้ง เพื่อความแน่ใจตนได้โทรศัพท์ไปตรวจสอบกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยที่กรุงเทพฯ อีกครั้งได้รับข้อมูลยืนยันว่าตนไม่มียอดหนี้กับบัตรเครดิตของธนาคารยูโอบีแต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าเป็นฝีมือของแก๊งมิจฉาชีพที่โทรมาหลอกเพื่อจะขอข้อมูลไปขโมยเงินในบัญชีของตน จึงรีบมาแจ้งความไว้ถึงแม้จะยังไม่ได้โอนเงินไปให้คนร้าย แต่ที่ต้องเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์นั้นเนื่องจากกลัวว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้จะไปหลอกลวงประชาชนรายอื่นอีก
ร.ต.อ.อนุภาพ ชัยศิริ รอง สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตำรวจรับแจ้งเป็นคดีความยังไม่ได้ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่ถูกลักทรัพย์ไปจากธนาคาร แต่ได้ให้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วและจากการตรวจสอบข้อมูลของบันทึกประจำวันของ สภ.เมืองเชียงใหม่นั้น ทราบว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีประชาชนเข้ามาร้องทุกข์ในลักษณะดังกล่าวแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ราย
โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียหายมาแจ้งแล้วถึง 20 ราย แต่ลักษณะของการหลอกลวงของแก๊ง 18 มงกุฏจะคล้ายกัน แต่ส่วนใหญ่คนร้ายจะอ้างตัวเป็นฝ่ายเร่งรัดหนี้ของธนาคารต่าง ๆโทรศัพท์ไปหลอกทวงหนี้บัตรเครดิต บางรายอ้างหมายศาลอาญาไปขู่เอาเงินผู้เสียหาย รวมถึงการอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรโทรมาขอเลขที่บัญชีเพื่อที่จะโอนเงินคืนภาษีย้อนหลังให้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวขณะนี้ทางชุดสืบสวนได้รวบรวมข้อมูลและอยู่ระหว่างติดตามประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจับกุมแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว
|