คำตอบที่ 1
สวัสดีโจ้... (ผม Manit นะ)
ครับ ISUZU รหัส UBS ที่ตรีเพชรนำเข้ามาขายในเมืองไทย(ส่วนใหญ่)จะเป็นตัวเครื่องยนต์เบนซิน V 6 ขนาด 3.2 ลิตร มีชื่อทางการค้าใช้ Troooper เป็นสเป็คเดียวกับเครื่องยนต์เบนซินที่มีขายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเซียและโอเชียเนียบางโซน ส่วนในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกรย์มาร์เก็ตบางประเทศก็ใช้ชื่อทางการค้าต่างกันไป อย่างเช่นในญี่ปุ่นสเป็คเครื่องยนต์ดีเซล 3.1 จะมีชื่อทางการค้าว่า Bighorn หรืออย่างอังกฤษ ไอร์แลนด์ เวลล์ ที่โจ้บินไปมาบ่อยๆ จะมีเครื่องยนต์เบนซิน V 6 ขนาด 2.5 ลิตร(เป็นที่ถวิลหาของคนแถวนี้)
นี่คือรายละเอียดของ ISUZU รหัส UBS ที่มีชื่อต่างกันในแต่ละประเทศ
The Isuzu Trooper was a mid-size SUV produced by the Japanese automaker Isuzu between 1981 and 2002. It was exported worldwide as the Isuzu Bighorn, Isuzu Trooper, Isuzu Trooper II , Isuzu Caribe 442, Acura SLX, Chevrolet Trooper, Subaru Bighorn, Honda Horizon, Opel/Vauxhall Monterey, Holden Jackaroo and Holden Monterey.
There were two generations of the Trooper: the first 1981 through 1991, and the second from 1992 through 2002 when Isuzu ceased export of the model. It began its production run being somewhat primitive and underpowered, offered only with a 4 cylinder motor, standard 5 speed manual transmission, and part-time four-wheel drive system. As the first generation progressed, it became more luxurious, and offered more amenities, including a V6 engine. The second generation was more refined, and was available with two-wheel drive.
The Opel Monterey was a Japanese-built four-wheel drive Sports Utility Vehicle produced by General Motors. It was visually identical to the Isuzu trooper, but was only sold in Europe. Production began in 1994, with versions sold on Mainland Europe wearing Opel badges, and the British version being sold as a Vauxhall.The Vauxhall version of the car was withdrawn from sale at the end of 1998, though the Opel version continued to sell on the continent until 2002.
ทีนี้ก็มาเข้าประเด็นครับ
ตัวเครื่องยนต์ V 6 /3.2 L อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ถึง 5.5 กม./ลิตร ในเส้นทางนอกเมืองหรือทางไกล ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมือง 4 กว่าๆ ถึง 4.5 กม./ลิตร สามารถใช้แก็สโซลีน 91 ได้ตามผกติ
ส่วนเรื่องติดแก็สตามคำถาม"ติดแก๊สแล้วเวิร์ครึป่าวครับ ทั้งในเรื่องความประหยัดและอัตราเร่งเพื่อการขับขี่ในเมืองและเที่ยวแบบออฟโรดครับ"
แน่นอนว่าติดแล้วเวิร์คครับ!! เพราะขืนวิ่งด้วยเบนซินอย่างเดียว กระเป๋ารั่วแน่ ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่คนที่มีความรู้รอบตัวมาก.. น่าติดระะบบหัวฉีดดีที่สุด!! ประหยัด ถ้าวิ่งบ่อย ระยะไม่เกินปีก็ถึงจุดคุ้มทุน!! ปัญหาน้อย ใช้ขับเที่ยวรอบไทยไม่มีปัญหา
คันผมนี่ใช้มา 4 ปี เที่ยวทั่วไทยวิ่งไปเกือบๆ สามแสนโลแล้ว บ่เป็นหยังดอก ไม่เคยเสียหรือซ่อมกลางทาง นอกจากไปนอนถอดเพลาส่งหน้าที่ภูหินร่องกล้าครั้งเดียว(ช่างแกลืมใส่น้ำมันเฟืองหน้าให้ผม กร๊ากกกก เศร้าChip ช่วงนี้เลยไม่ค่อยสมบูรณ์ทั้งกายและใจ
สรุปติดแก็สยี่ห้อดีๆที่มันExpert ไม่คาดประหยัดเกิน วิ่งฉิวไม่ต่างน้ำมัน คันผมเองแม้จะหันกลับมาใช้ระบบฟิกซ์์แบบแปรผันของฟูนากิ ยังวิ่งค่อนข้างมัน แต่อย่าเอาตามอย่างนะครับ กินแก็สบรรลัย!!
ถ้าโจ้จะเลือกChoice เป็นทรูเปอร์แบบออกลุยได้ด้วย หาตัว"ตาเหยี่ยว" รหัส SE เครื่องยนต์ดีเซล 4JX ปีตั้งแต่ 2001 (ล็อตสุดท้ายของตรีเพชร2002-2003 จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ อินเตอร์คูล เบาะไฟฟ้า)
อยู่ที่ใจชอบครับระหว่าง"ดีเซล"กับ"เบนซิน" ถ้าโจ้ต้องออกงานกลับกลุ่มDogTagบ่อยๆน่าจะดีเซล แต่ถ้าเฉลี่ยในเมืองมากกว่า 80 % เชียร์เบนซิน
หมายเหตุ : มีอยู่ทริปหนึ่งผมไปทุ่งใหญ่นเรศวรกับพัศ กร พี่อ็อด ฯลฯ เข้าทินวย จะแก ผ่ากลางออกทิไล่ป้า เกาะสะเดิ่ง สะเนพ่อง ขากลับวิ่งแก็สกลางลำธารเครื่องสั่นสะอึกหลายเที่ยว เนื่องพัดลมพัดเอาน้ำขึ้นมาโดนคอยล์จุดระเบิดด้านหน้า ต้องวิ่งด้วยเชื้อเพลิงเบนซินถึงไม่สั่น แต่ก็รอดปากเหยี่ยวปากกาตลอดทริป
ยืนยันครับ... ทรูเปอร์ถ้าไม่โหดแบบฮาร์ดคอร์ห้าดาว ไปไดและไปถึงครับ!