คำตอบที่ 1
       ใช้แก๊สปล่อยน้ำมันแห้งถัง ปั๊มติ๊กไม่ได้ตัดรึเปล่าครับ ถ้าใช่ไปตัดปั๊มติ๊กก่อนเถิดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณครับคุณtct363.
น้ำมันมีประมาณเกือบครึ่งถัง..ตลอด
เติม 91..
ปกติสตาร์ทน้ำมัน..แล้วค่อยตัดไปเป็นแก๊ส..ครับ
..............................................................
ปั๊มติ๊กไม่ใด้ตัดครับ....ตอนเปลี่ยนปั๊มติ๊กตัวเก่า ว่าจะติดตั้งตัวตัดปั๊มติ๊ก...
ของVERSUS....แต่หาข้อมูลตามที่ต่างๆ
แล้วเลยไม่ติด
ถ้าคุณtct363..ติดตั้งตัวตัดปั๊มติ๊กแล้วรบกวนแชร์ข้อมูลและประสบการณ์บ้าง
จะขอบพระคุณครับ
รูปตัวตัดปั๊มติ๊ก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ใช้อยู่ครับ ให้ช่างต่อบัดกรีพันเทปดีๆก็ใช้ได้ครับ เคยพันเทปไว้เฉยๆสายไฟรูดชนกันช๊อต รวนไปหมดวูบๆวาบๆ หาสาเหตุเจอบัดกรีพันเทปใหม่ให้แน่นหนาก็ยังไม่มีปัญหาอะไรนะครับ แต่การตัดปั๊มทำได้หลายวิธีไม่ต้องเจาะจงว่า versus หรอกครับ ของทำในนี้นะ ผมว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ใช้รีเลย์ตัดปั๊มติ๊กเวลาใช้แก๊สแล้วปั๊มติ๊กไม่เคยเสียเลยครับ แต่ตอนไม่ตัดเคยเสีย 2ครั้งครับ ให้คุณเจตน์เพื่อนสมาชิกช่วย เปลี่ยนปั๊มติ๊กให้ตัวหนึ่งจำได้ว่าไม่เกิน 1000 น่ะครับ กวนแกบ่อยกลัวแกเบื่อครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ของพ่อผม.. ต่อปั๊มนอกถังครับ.. หาปั๊มของรถ 6 สูปมาแปลงใส่ครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ผมไม่เข้าใจครับ ถ้ามีน้ำมันอยู่มากกว่าครึ่งถัง เวลาใช้แก็สโดยไม่ตัดปั๊มติ๊ก ทำไมปั๊มติ๊กมันถึงได้เสียบ่อยครับ ผมคิดว่าปั๊มติ๊กมันจะหมุนเวียนน้ำมันตลอดเวลา เพียงแต่ไม่ถูกฉีดออกไปเผาไหม้เท่านั้นเองซะอีก รบกวนขอความรู้หน่อยครับ

ปล. ของผมไม่เคยเสียครับ ช่างที่ติดตั้งแก็สตัดปั๊มติ๊กให้ด้วย เพียงแต่ยังไม่เข้าใจครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ
ผมเปลี่ยนปั๊มติ๊กใส่แล้วคราวนี้เป็นของ2j
ตัวเก่ามันไม่เสียแต่หมดกำลังไปเฉยๆ..........
สงสัยอาจเป็นที่อายุการใช้งานนะครับ.........
....................................................
ส่วนการตัดปั๊มติ๊กนี่ถ้าตัดไปเลยเมื่อตอนวิ่งแก๊สอาจเกิดปัญหา
กรณีที่แก๊สหมดแล้วระบบตัดมาที่น้ำมันก็จะไม่มีแรงดันน้ำมันในท่อส่งน้ำมันทำให้รถอาจกระตุกอย่างรุนแรงใด้
ระบบที่workที่สุดคิดว่าเป็นระบบที่ตัดปั๊มติ๊กเป็นบางจังหวะซึ่งพอจะช่วยยืดอายุการใช้งานปั๊มติ๊กออกไปใด้
การทำงานคร่าวๆคือเมื่อผ่อนคันเร่ง(ตอนวิ่งแก๊ส)รีเลย์จะตัดปั๊มติ๊กแล้วเมื่อเหยียบคันเร่งรีเลย์จะต่อปั๊มติ๊กเหมือนเดิมเพื่อรักษาระดับแรงดันน้ำมันไปเลี้ยงหัวฉีด...........เป็นหลักการทำงานคร่าวๆตามที่อ่านมานะครับ
ผิดถูกโปรดชี้แนะด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ถ้ามั่นใจว่าเลือกปั๊มติ๊กดีแล้ว

ลองตรวจสอบ Reley ในกล่องในห้องเครื่องยนต์ด้านหน้ารถด้วยครับ

เมื่อก่อน ผมก็เปลี่ยนปั้มติ๊ก 2 - 3 เดือนครั้ง

บางครั้ง เปลี่ยนเสร็จ กลับถึงบ้านก็เสียอีก

ตอนหลังช่างเห็นว่า ไม่น่าะจะใช่ปั้มติ๊กแล้ว เลยเช็คที่ Reley ในกล่องในห้องเครื่องยนต์

ตอนนี้ใช้มาจะเกือบปีแล้วครับ ไม่มีปัญหา

รถผมไม่ได้ตัดปั๊มติ๊ก ครับ น้ำมันเหลือเกิน 1 ใน 4 ถังตลอด เติม 91 ครับ

ปั้มติ๊กไม่ได้เสียกันง่ายๆ หรอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมคิดเช่นเดียวกันครับว่าปั๊มติ๊กไม่น่าจะเสียง่ายๆ อันที่จริงการให้ปั๊มติ๊กทำงานตลอดเวลาขณะใช้แก๊สน่าจะเป็นผลดีกับทั้งตัวปั๊มติ๊กและหัวฉีดน้ำมันด้วยซ้ำ เพราะมีการหมุนเวียนของน้ำมันตลอดเวลาขณะเครื่องยนต์ทำงาน เพียงแต่ต้องแน่ใจว่ามีน้ำมันในถังเสมอ เพื่อไม่ให้ปั๊ม Run Dry ครับ

ผมเองกะว่าจะหาเวลาว่างต่อวงจรกลับไปให้ปั๊มติ๊กทำงานตลอดอยู่เหมือนกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ท่านtct153...คำตอบที่8....ครับ
ถ้าเป็นที่relay นี่เราต้องเปลี่ยนใหม่เลยใหม๊ครับ..
ถ้าเปลี่ยน....ตัวละประมาณเท่าใหร่ครับ...
ต้องตรวจสอบอย่างไรบ้างครับ...สำหรับข้อสันนิษฐานว่ารีเลย์เสีย.....
ขอบคุณครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       โทษทีครับ เพิ่งเข้ามาดู

ผมก็ดูไม่เป็นเหมือนกันครับว่าเสีย หรือดี เพราะเคยแกะออกมาดูก่อนหน้านี้ ก็ดูไม่ออก

ถ้าเสียก็เปลี่ยนไปเลยครับ กี่สตางค์จำไม่ได้แล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ต้องเติมน้ำมันที่สะอาด อย่าบ่อยให้น้ำมันหมดถัง ตัดปั้มติ๊กด้วยกล่องตัดออโต้ แก้ไขได้ 0823554883

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราใช้เป็นแบบจุ่มอยู่ในถัง ทำหน้าที่สร้างแรงดันเพื่องส่งน้ำมันเชื้อเพลิงมายังรางหัวฉีด โดยมีตัวเรกกูเรเตอร์(กัลวานอร์ ช่างไทยเรียกรำมะนาตามรูปร่าง)
๑.กัลวานอร์นี้ทำหน้าที่รักษาแรงดันให้คงที่ตลอดเวลา ทำงานโดยใช้แรงดูด(แว๊คคั่ม)จากท่อร่วมไอดีมาควบคุมไดอะแฟรม หากเครื่องยนต์ทำงานรอบสูงหรือเร่งเครื่อง จะปล่อยแรงดันสูงสุดของเชื้อเพลิงเพื่อให้ปริมาณน้ำมันเข้าหัวฉีดทั้งหกตัวอย่างเพียงพอ หากเดินเบาจะเปิดวาล์วน้ำมันเชื้อเพลิงไหลกลับไปยังถังน้ำมัน
๒.การตรวจสอบการทำงานของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องใช้เกจวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงต่อเข้ากับหัวลูกศร(คล้ายหัวเติมน้ำยาแอร์)อยู่บนรางหัวฉีด หากปั๊มมีสภาพดีต้องมีแรงดันไม่น้อยกว่า 30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว(Psi) หากแรงดันน้อยกว่านี้อาจเกิดจากปั๊มเสื่อมสภาพ หรือตัวการอีกอันหนึ่งคือกรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน
๓.สาเหตุของปั๊มเชื้อเพลิงชำรุด นอกจากการเสื่อมสภาพตามอายุแล้ว ยังอาจเกิดจากการที่กรองเชื้อเพลิงตัน ทำให้มีแรงดันต้านหรือปั๊มอั้น(back pressure) ปั๊มจึงทำงานหนักตลอดเวลา หรืออาจเกิดจากเรกกูเรเตอร์(กัลวานอร์)เสื่อมสภาพ ไม่สามารถรักษาแรงดันให้คงที่และไม่สามารถปล่อยเชื้อเพลืงไหลกลับอย่างอิสระ จึงเกิดอาการปั๊มอั้น
๔.สุดท้ายอาการหัวฉีดค้าง สึกหรอ เปิดปิดไม่สนิท เปิดค้างน้ำมันหยดเข้าผสมกับแก๊สตลอดเวลา(เพราะไม่ตัดการทำงานของปั๊มติ๊กขณะใช้แก๊ส) น้ำมันจึงหายไปเรื่อยๆทั้งๆที่ใช้แต่แก๊ส หรือหัวฉีดเปิดไม่สุดทำให้เครื่องยนต์เดินสะดุดตอนใช้น้ำมัน
ดังนั้นควรตรวจสอบแรงดันน้ำมันในรางหัวฉีดโดยใช้เกจ(อู่ใหญ่ๆจะมีอุปกรณ์) ตรวจสอบการทำงานของหัวฉีดทุกหัว(ถอดมาล้างแล้วใช้เครื่องมือตรวจสภาพการปิดเปิด) เปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงทุกๆห้าหมื่นกิโลฯ ตรวจสอบการทำงานของเรกูเลเตอร์ว่าสมารถรักษาแรงดันในรางหัวฉีดแม้ดับเครื่องยนต์แล้วได้หรือไม่ หากรั่ว เครื่องยนต์จะสตาร์ทด้วยน้ำมันยาก บางท่านจึงเลิกใช้น้ำมัน ไปใช้แก๊สถาวร จบชีวิตปั๊มติ๊กไปเลย สุดท้ายอย่าลืมเปลี่ยนสายน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้แบบทนแก็สโซฮอลซะด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ต่อมาเรื่องของรถใช้แก๊ส นอกจากน้ำมัน"เน่า"แล้ว การปล่อยให้ปั๊มทำงานตลอดเวลาแม้ขณะใช้แก๊สนั้น ทำลายอาายุการใช้งานของปั๊มจากอาการปั๊มอั้นเนื่องจากหัวฉีดปิดตลอดเวลา(โดนช่างตัดหัวฉีด แต่ขี้เกียจตัดปั๊มติ๊ก บางท่านไม่ยอมให้ช่างตัดปั๊มเพราะกลัวเวลาสลับกลับมาใช้น้ำมันแล้วต้องรอน้ำมันวิ่งมาถึงรางหัวฉีด แบบว่าไม่ทันใจโก๋แก่)
อันตรายอีกประการหนึ่งที่ท่านคาดไม่ถึงคือ การเกิดอุบัติเหตุท่อยางน้ำมันเชื้อเพลิงเสื่อมสภาพ ฉีก แตก ขาดทำให้น้ำมันเบนซินร้อนๆรั่วออกมาฉีดเป็นฝอยๆเต็มห้องเครื่อง กลายเป็นรถไฟแบบไม่เต็มใจ หายไปครึ่งคันบ้าง ทั้งคันบ้าง

รู้แล้วอย่านิ่งเฉยนะครับ แก้ได้ง่ายนิดเดียว อย่ารอให้มันพังอีก หรือรอให้มันเผารถเราซะก่อนล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย