คำตอบที่ 121
       หายไปพอสมควร กำลังยุ่งกับการติดตั้งแก๊สให้กับรถลูกค้า แคมรี่2.4 ติดเป็นหัวฉีดนะครับ ก็เลือกเป็นของ Bedini อิตาลีแท้ และก็ได้มีโอกาศเข้าไปพูดคุยกับกรรมการบริษัทที่นำเข้า ก็ขอความเชื่อมั่นนะครับว่าเขาจะไม่ทิ้งกันไปง่ายๆ อุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ มีไว้บริการอย่างครบถ้วนหรือเปล่า และที่สำคัญ การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเรา ว่าเค้าเต็มใจที่จะบอกมากน้อยแค่ไหน ราคาก็สูงตามแบบอิตาลีแท้ 4 สูบ ติดตั้งเสร็จ ก็ 4 หมื่นกว่า 6 สูบสำหรับพวกเราชาวสมาชืกทรูปเปอร์ยังไม่ได้คุยนะครับว่าราคาเท่าไหร่ คิดว่าจะขอราคาพิเศษสักหน่อย เผื่อเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวทรูปเปอร์ที่ใช้แก๊สอยู่แล้วจะอัฟเกรดเป็นหัวฉีดได้ในราคาประหยัดและได้สินค้าที่ดีไปด้วย คงต้องของเวลาสักระยะที่จะพูดคุยกับทาง Bedini เขา สงสัยต้องเอาตัวเลขไปนำเสนอสักหน่อยไม่แน่อาจจะได้ราคาที่ดี ถ้ายังงั้น ถ้าใครสนใจก็แจ้งกันมาผมจะได้เอาตัวเลขไปต่อรองเค้า แจ้งกันเข้ามานะครับเห็นใจหลายคนที่ใช้แก๊สแล้วปวดหัวอยู่นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 122
       แจ้งให้ทราบกันครับสำหรับการติดตั้งแก๊ส หัวฉีด BEDINI
ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรบางท่านอาจจะสงสัยว่าผมคงจะเปลี่ยนไป ก็ได้รับรู้อะไรที่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีก็เอามาบอกกล่าวกันนะครับ อย่างเรื่องการติดตั้งระบบหัวฉีดแก๊สนี่ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกหลายท่านมีปัญหาการใช้งานกันอยู่ก็พยายามหาบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายจริงๆจะได้ต่อรองกันได้สะดวกหน่อย และก็จะเป็นการที่สำหรับสมาชิกที่มีความคิดที่จะติดแก๊สด้วย ก็เล่าเลยแล้วกันเดียวจะโฑดนแซวว่าขายของ ผลการติดตั้งก็จบลงเรียบร้อยดี เพียงแต่ตอนลงโปรแกรมก็มีติดขัด แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือและประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทเค้าเป็นอย่างดีมีการสอบถามปัญหาต่างๆไปยังอิตาลีจนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ มันต้องอย่างนี้ซิถึงเรียกว่ามีการรับผิดชอบกันจริงๆ ก็โดนใจผมนะครับ เพราะผมมองว่าในอนาคตข้างหน้าหากเกิดมีปัญหาแล้วหาอะไหล่ไม่ได้ รับรองได้ตายหมู่แน่ๆ ก็เอาเป็นว่าถ้าใครจะติดตั้งระบบหัวฉีดแล้วล่ะก้อ ขอแนะนำ BEDINI ครับ รับรองจะประทับใจ ส่วนเรื่องปัญหาต่างๆของท่านสมาชิกก็มีการโทรเข้ามาสอบถามและแจ้งข่าวบ้างพอสมควรแต่ก็ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน สงสัยตอนนี้อยู่ดีมีสุขกันทั่วหน้า ก็ดีใจด้วยครับ ก็ขอให้ขับสนุกลุกนั่งสบายกันทุกคันนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 123
       ทักทายกันเมื่อเข้าหน้าฝน
วันนี้มีเกร็ดเล็กๆในการขับขี่รถยนต์ช่วงหน้าฝนมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่เล่าสาวกทรูปเปอร์จะได้นำไปใช้กัน การขับขี่รถในช่วงหน้าฝนเราจะพบกับปัญหาการขับขี่ในขณะฝนตก ไม่ว่าจะมาก กลาง หรือน้อยก็ตามที เราจะรู้สึกได้ถึงการที่รถเราไม่ค่อยจะยึดเกาะกับถนนเท่าที่ควร บางท่านก็เข้าใจไปว่า เมื่อฝนตกก็ให้ใส่เกียร์ขับสี่แล้วจะเกาะดีขึ้น(อันนี้มีส่วนแต่ไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็น) รถขับเคลื่อน 4 ล้อที่ผลิตกันออกมาจำหน่ายมีอยู่ 2 แบบ ด้วยกันคือ ขับ 4 บาง เวลา(PART TIME) และ ขับ 4 ตลอดเวลา(FULL TIME) ข้อแตกต่างของรถขับสี่บางเวลากับขับ4ตลอดเวลาก็อยู่ตรงที่เมื่อรถทั้งสองแบบขับ4ล้อเหมือนกันมันจะไม่เหมือนกัน คือในแบบขับ4บางเวลาจะไม่มีการแบ่งการส่งกำลังไปยังเพลาขับหลังและหน้า แต่จะส่งกำลังไปแบบเท่าๆกันทั้งสองเพลา แล้วไปแบ่งกำลังที่เฟืองท้ายเอาเอง ไม่เหมือนกับขับ 4 ตลอดเวลา จะมีการแบ่งกำลังตามความต้องการของเพลาหลังและเพลาหน้า ที่ต้องการกำลังไม่เท่ากัน เช่นเดียวกับทรูปเปอร์ปี 2001 ที่มีระบบ TOD หรือ ทอร์คออนดีมาน ซึ่งเป็นระบบที่ทรูปเปอร์นำการแบ่งจ่ายกำลังให้กับเพลาหลังและเพลาหน้าตามความต้องการของแต่ละเพลาที่ไม่เท่ากันในแบบขับ4ตลอดเวลามาไว้ในรถขับ4บางเวลา(งงกันหรือเปล่าก็ไม่รู้) ดังนั้นรถขับ4บางเวลาเมื่อเข้าเกียร์ขับ4ล้อแล้ว วิ่งด้วยความเร็วสูงในขณะฝนตกจะเกิดอันตรายมาก เนื่องจากในขณะเข้าโค้งล้อหน้าจะดึงตัวรถไปด้านหน้าด้วยกำลังที่เท่ากับเพลาหลังและเพลาหลังก็จะดันรถไปด้านหน้าด้วยกำลังที่เท่ากัน เมื่อเป็นดังนี้รถที่ขณะเข้าโค้งล้อทั้งสี่ที่ยึดเกาะถนนมีความต้องการกำลังที่แตกต่างกัน ในอัตราส่วนที่พอเหมาะแต่ระบบส่งกำลังไม่รับรู้ได้ก็จะทำเกิดอาการ รถแหกโค้ง ลองสังเกตุง่ายๆตอนที่เราขับ4ล้อ แล้วขับช้าๆลองหักเลี้ยวดูเราจะรู้สึกได้ทันทีว่า มันรู้สึกฝืนกันเอง ดังนั้นรถขับ4แบบบางเวลาไม่มีระบบ TOD เมื่อขับ4แล้ววิ่งบนถนนที่มีฝนตกต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งตอนช่วงเข้าโค้ง ควรจำกัดความเร็วไม่ควรเกิน 100 กม./ชม.เมื่อขับทางตรง ส่วนตอนเข้าโค้งก็ควรลดลงมาอีก ที่บอกกล่าวกันมาก็เพื่อที่จะให้สมาชิกทุกท่านได้อย่างมั่นใจมากนักยามขับขี่บนถนนเปียกแล้วเข้าขับ 4 ไว้ สุดท้ายไม่ว่าจะขับกี่ล้อก็ตาม ควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งยามขับบนถนนเปียกหรือฝนตก อย่าประมาทเป็นดีที่สุดครับ ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยรถ ทรูปเปอร์ ในช่วงหน้าฝนอย่างปลอดภัยถึงที่หมายด้วยสวัสดิภาพกันทุกท่านนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 124
       คุณหมีดำเนินครับ พอรู้เรื่องกระจกไฟฟ้าบ้า่งไหม ตอนนี้กระจกคู่หน้าแยกตัวเป็นอิสระไปแล้วควบคุมจากด้านคนขับไม่ได้เลย ส่วนคู่หลังอิสระกว่านอกจะควบคุมจากด้านคนขับไม่ได้แล้ว ยังกดลงได้อย่างเดียวอีก เดือดร้อนเวลาใช้งานเป็นอย่างยิ่งครับ อยากจะไล่วงจรดูก็คงต้องใช้หลายเพลาอยู่ แนะนำด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 125
       คต 123 กระจกไฟฟ้า ทำงานไม่ประสานกัน
เริ่มต้นก็ใจเย็นๆก่อน สวิทช์ควบคุมกระจกไฟฟ้าทั้งหมดมันจะมารวมกันอยู่ที่สวิทฃ์หลักคือข้างคนครับ ดังนั้นเมื่อหน้าคอนแทคของสวิทช์หลักมันไม่ต่อสพานไฟกันไว้อันอื่นก็จะทำงานไม่ได้ ไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่า มันคล้ายกับสวิทช์สองทางในบ้านนะครับ คือเมื่อเราเปิดที่สวิทช์ตัวที่1มันก็สามารถไปดับที่สวิทฃ์ตัวที่2ได้หรือเราจะดับที่สวิทช์ตัวที่1เองก็ได้(อย่างนี้คงพอเข้าใจนะครับ) ดังนั้นเราก็ถอดชุดสวิทช์ควบคุมข้างคนขับออกมาก่อนแล้วค่อยๆถอดนะครับเปิดด้านในออกมาทำความหน้าคอนแทคทั้งหมดโดยใช้กระดาษทรายขัดทำความสะอาด แล้วก็ประกอบกลับเข้าไปให้เหมือนเดิม แล้วนำชุดสวิทฃ์ประกอบเข้าที่เดิมต่อสายไฟแล้วลองดูใหม่นะครับ ก็บอกตั้งแต่ทีแรกแล้วไงว่าต้องใจเย็นๆนะครับ ส่วนเรื่องสายไฟตัดปัญหาทิ้งไปเลย คิดว่าไม่หน้าจะมีปัญหาครับ แล้วหลังจากทำใจเย็ยได้อีกรอบก็ถอดสวิทช์ควบคุมทุกตัวที่เกิดปัญหาออกมาทำเหมือนเดิมไล่ไปให้ครบทุกตัวที่มีปัญหา เข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมต้องใจเย็น แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหวจริงๆก็ต้องพึ่งพาช่างละครับ ลองหาช่างที่เราคุ้นเคยและสนิทกันเสียหน่อยแล้วบอกให้เค้าทำตามที่ผมบอก จะประหยัดตังค์ไปได้มากเลยครับ คืนสุ่มสี่สุ่มห้าไปหาช่างทั่วไปก็เปลี่ยนอย่างเดียวนะครับ แต่เมื่อทำอย่างที่ผมบอกแล้วไม่หายจริงๆ ก็เซียงกงเลยครับโดยเริ่มจากสวิทช์ควบคุมหลักก่อน ไม่ต้องซื้อมาทีเดียวทั้งหมดครับ อ่านถึงตรงนี้คงจะใจเย็นแล้วนะครับ เมื่อใจเย็นแล้วก็ลงมือกันเลย ทดลองทำดูนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 126
       ขอถามพี่หมีหน่อยครับ เวลาผมเปิดที่ปัดน้ำฝนพอผมผลักสวิตส์กลับมาที่ off เจ้าใบบัดกลับค้างอยู่ในจังหวะที่ปิดสวิตส์ไปทาง off ครับ แทนที่จะกลับมาอยู่แนวระนาบเหมือนเดิม จะทำยังไงดีครับมีวิธีแก้ไขไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 127
       คต 125 ใบปัดน้ำฝนไม่กลับมาอยู่ที่เดิมเมื่อปิดสวิทช์
ไม่เข้ามาดูหลายวันมั่วแต่ยุ่งอยูกับรถเปอร์โยนะครับขออภัยที่ตอบช้า ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าได้ไปเปลี่ยนมอเตอร์ปัดน้ำฝนมาหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนมาคงจะไม่ต้องรุ่นนะครับ แต่ถ้าไม่ได้เปลี่ยนต้องเริ่มตรวจที่ชุดรีเลย์ปัดน้ำฝน มันอยู่ด้านหน้าต้องเปิดฝากระโปรงออก แล้วลองมองหากล่องพลาติกสีดำ กว้างประมาณ 10 ซม. ยาว ประมาณ 15 ซม. หนาประมาณ 5 ซม. แล้วมีปลั๊กไฟเสียบอยู่(ไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่าไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี) ถ้าเจอก็ลองหาเปลี่ยนดูนะครับ และอีกจุดที่ต้องตรวจก็ที่ตัวมอเตอร์ปัดน้ำฝนครับ ในชุดเฟืองขับใบปัดจะมีสพานไฟที่จะคอยปรับใบปัดให้กลับอยู่ในตำแหน่งเริ่มต้นเสมอถึงแม้เราจะปิดสวิทช์ตอนไหน คิดว่าชุดสะพานไฟคงจะไม่สะอาดลองให้ช่างตรวจและทำความสะอาดดูนะครับ และอีกส่วนที่ต้องตรวจก็สายไฟที่เข้าตัวมอเตอร์ครับดูว่ามีการชำรุดหรือเปล่า แต่ถ้าหาไม่เจอ ก็แนะนำว่าควรไปหาช่างครับในศูนย์ของอีซูซุก็ได้ คงไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่อะไรมากเพราะใบปัดยังทำงานได้ให้ช่างเค้าตรวจจะดีกว่านะครับ เข้าร้านข้างนอกอาจโดน.........ได้นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 128
       ขอบคุณพี่หมีมากครับ เดี๋ยวผมจะลองเช็คดูครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 129
       ขอรบถามด้วยคนนะครับ ได้รถมาแล้ว (อยากได้มาก) แต่ไม่รู้ว่า โดนหลอก หรือ เขาไม่ใช้จริงครับ เรื่องคือว่า ผมเร่งเครื่อง 2 พันกว่ารอบ เกียร์ถึงเปลี่ยน แต่พอขับไปนานเครื่องร้อน เปลี่ยนเกียร์ ปกติ แต่รู้สึกเหมือนรถไม่ค่อยมีแรง เดิมเจ้าของเป็นผู้หญิงขับรถไม่เคยเร่งเร็วหรือแรง ขับแบบไป เรื่อยๆ รถปี 1998 วิ่งไปจริงๆ 8 หมื่นกว่าโล เอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 130
       ตอนนี้สมาชิกชาวทรูปเปอร์ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็หน้าดีใจแทนอีซูซุเค้านะครับ ตอนเป็นป้ายแดงขายไม่ออก แต่พอผ่านงานไปแล้วกลับขายดี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตอีซูซุจะนำเข้ามาขายกันอีกหรือเปล่า แต่ถ้ามาขายคงจะแพงหน้าดูชม หรือบางทีอาจจะเปิดสายการผลิตที่เมืองไทยเลยก็เป็นได้ หน้าฝนเต็มตัวแล้วใช้รถใช้ถนนก็ระมัดระวังกันให้มากๆนะครับ เวลาใช้รถในกรุงเทพก็ให้ระวังกันหน่อยอย่าโมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ขับรถขึ้นฟุตบาทไปชนคนอย่างที่เป็นข่าวอยู่ละ ใจเย็นๆกันหน่อยก็ดีนะครับ ตอนนี้เงินทองก็หากันยากขึ้น ไม่มีอะไรมาบอกกล่าวกันว่างๆ ก็มาบ่นให้ฟังกันเล่นๆ ใครมีอะไรก็ถามกันมาได้นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 131
       คุณหมีครับ ผมอยู่แถวแยกแครายนนทบุรี มีอู่ไหนที่ทำช่วงล่างดี ไม่ขูดเลือด ขอคำแนะนำหน่อยครับ อ้ออยากเปลี่ยนสายพานใหม่ทั้งหมดราคาประมาณเท่าไรครับแนะนำอู่ด้วยครับ (เพื่อน ๆ สมาชิกถ้ารู้ขอความเห็นด้วยครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 132
       คต 130 อยากซ่อมช่วงล่างและเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง
เรื่องอู่ใกล้ๆบ้านท่านคงต้องรบกวนถามท่านประธานตี๋นะครับเพราะท่านประธานแกอยู่ กทม.หน้าจะรู้จักร้านดีและแนะนำได้ดีด้วย ส่วนราคาในเรื่องช่วงล่างผมแนะนำอย่างนี้ครับ ช่วงล่างคิดว่ารถรุ่นนี้ยังไม่มีอะไรเสียหายมากนัก ถ้าจะซ่อมกันจริงๆก็ เปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ทั้ง 4 ล้อเลยครับเลือกของที่ดีหน่อย ชุดล้อหน้าก็ไม่หน้าเกิน 1500 บาท ล้อหลังก็ไม่หน้าเกิน 1000 บาท แล้วก็โช๊คอัฟครับ ทั้ง 4 ตัวเลย หาเอาตามที่เราชอบ แต่ที่ผมเปลี่ยนไปให้เพื่อนสมาชิกไปแล้วใช้ได้เลย ก็เป็นของ การ์เบี่ยน รุ่น เรดคาร์บอนอี ราคา คู่ละ ประมาณ 3800 บาท ราคาก็ไม่สูงเกินไปนัก เท่านี้ก็ได้ช่วงล่างที่เนียบแล้วครับ ส่วนราคาสายพานไทม์มิ่งรวมสายพานหน้าเครื่องด้วย ก็อยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 5000 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนปั้มน้ำด้วยก็คิดว่าเพิ่มเติมอีกประมาณ 2500 บาท ครับ ก็ลองสอบถามราคากันก่อน เอาราคาของผมเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน แต่ที่ กทม. หน้าจะแพงกว่านี้นะครับ ถ้าในศูนย์ก็ตัวเบาไปละครับ ลองถามหลายร้านก็แล้วกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 133
       คต 130 อยากซ่อมช่วงล่างและเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง
เรื่องอู่ใกล้ๆบ้านท่านคงต้องรบกวนถามท่านประธานตี๋นะครับเพราะท่านประธานแกอยู่ กทม.หน้าจะรู้จักร้านดีและแนะนำได้ดีด้วย ส่วนราคาในเรื่องช่วงล่างผมแนะนำอย่างนี้ครับ ช่วงล่างคิดว่ารถรุ่นนี้ยังไม่มีอะไรเสียหายมากนัก ถ้าจะซ่อมกันจริงๆก็ เปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ทั้ง 4 ล้อเลยครับเลือกของที่ดีหน่อย ชุดล้อหน้าก็ไม่หน้าเกิน 1500 บาท ล้อหลังก็ไม่หน้าเกิน 1000 บาท แล้วก็โช๊คอัฟครับ ทั้ง 4 ตัวเลย หาเอาตามที่เราชอบ แต่ที่ผมเปลี่ยนไปให้เพื่อนสมาชิกไปแล้วใช้ได้เลย ก็เป็นของ การ์เบี่ยน รุ่น เรดคาร์บอนอี ราคา คู่ละ ประมาณ 3800 บาท ราคาก็ไม่สูงเกินไปนัก เท่านี้ก็ได้ช่วงล่างที่เนียบแล้วครับ ส่วนราคาสายพานไทม์มิ่งรวมสายพานหน้าเครื่องด้วย ก็อยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 5000 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนปั้มน้ำด้วยก็คิดว่าเพิ่มเติมอีกประมาณ 2500 บาท ครับ ก็ลองสอบถามราคากันก่อน เอาราคาของผมเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน แต่ที่ กทม. หน้าจะแพงกว่านี้นะครับ ถ้าในศูนย์ก็ตัวเบาไปละครับ ลองถามหลายร้านก็แล้วกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 134
       ลองเข้าไปอ่านกันดู
http://www.oknation.net/blog/bigshop/2007/07/16/entry-1

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 135
       คุณหมีครับ
1. รถผม stada grandis 4X4 ปี2001 ได้ยินว่าถ้าไปติด Free lock แล้วจะทำให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้นจริงหรือป่าวครับ (เหมือนคำตอบที่ 67 หรือป่าวครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 136
       คต 133 ใส่ฟรีล็อคแล้วประหยัดน้ำมันขึ้นจริงหรือเปล่า
อันนี้เป็นรถ มิตซู ขับ4 เครื่อง 2800 โดยปกติรถรุ่นนี้ค่อนข้างจะกินน้ำมันอยู่แล้ว แต่ตามที่ท่านถามมาว่าถ้าใส่ฟรีล็อคแล้วจะประหยัดขึ้นหรือไม่ ก็ประหยัดครับแต่ไม่มากจนคุ้มค่ากับที่เราลงทุนครับ และไม่สะดวกสบายเวลาใช้งานด้วยครับ เลยไม่แนะนำให้ทำอย่างที่ท่านคิดไว้นะครับ แต่มันก็มีหลายๆทางที่พอจะทำให้ประหยัดขึ้นมาได้นะครับ เท่าที่ทราบมาก็มีการติดตั้งเทอร์โบเพิ่มเข้าไป แทนที่จะกินน้ำมันเพิ่มกลับทำให้ประหยัดขึ้นอันนี้คงจะงงและหน้าสงสัย ไม่ต้องงงหรอกครับเพราะว่ารถท่านขับ 4 และก็ 4ประตูด้วย แน่นอนเวลาออกตัวก็อืดอาจเชื่องช้าเป็นธรรมดา ตรงนี้แหละที่ทำให้รถของเรากินน้ำมันมากเพราะกว่ารถจะลอยตัวได้ก็กินไปหลายลิตร พอเราเพิ่มเติมเทอร์โบเข้าไปก็จะทำให้แรงม้าของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นการออกตัวดีขึ้นและก็ลอยตัวเร็วขึ้น สามารถที่จะลงเกียร์ 5 ได้ไวกว่าเดิม เท่านี้ก็ประหยัดมากครับ แต่ก็มีเงื่อนไขเหมือนกันว่าอย่างติดตั้งเทอร์โบที่ใหญ่จนเกินไปเพราะจะทำให้เป็นภาระนะครับ ลองศึกษาดูก่อนแล้วก็ดูต้นทุนที่จะลงทุนด้วยจะได้คุ้มทุนอย่างรวดเร็วและเครื่องยนต์ไม่เสียหายครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 137
       คต.130 k.tommy ลองโทรไปที่ พี่ตุ้มดูครับ ลองสอบถามราคาดูก่อนครับ ผมทำมาเกือบ 2 ปีแล้วครับ อยู่แถวจรัญสนิทวงศ์ 081-622-0374 ครับ ลองโทรสอบถามกันดูครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 138
       ลองเข้าไปอ่านกันดูครับ http://www.oknation.net/blog/bigshop

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 139
       สะ-บายดีหรือเปล่า ข่าวคราวไม่เคยรู้ เพื่อนคนนี้ยังอยู่ ยังไม่หายไปไหน เอ้า ?กลับมาแล้วครับผม รถเข้าซ่อมสีรอบ ๆคันเพราะประกันกำลังจะหมดอายุก็เก็บสีทั่ว ๆไปที่เค้าทำมาไม่ถูกใจ เสร็จแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตอนนี้ตากแดดทั้งวันในเวลาราชการ มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาขับรถอยู่ๆ ดีเกิดขยันมากกว่าปกติเลยล้างรถและดันไปล้างในห้องเครื่อง(สมน้ำหน้าคนรักสะอาด)พอเอามาขับปรากฏว่าเครื่องสะดุด backfire ตลอดทุกย่านความเร็ว
โมโหเลยชนท้าย Jeep เข้าให้ก็พังคนละเล็กน้อยถึงปานกลางเพราะมัวแต่พะวงอยู่กับการbackfire เมื่อเป็นดังนั้นจึงวิ่งไปหาเจ้าของสายหัวเทียนHerricaneทาง บ. จึงนำสายหัวเทียนที่เพิ่งเปลี่ยนมาไม่ถึง 3 เดือนไปเช็คให้ปรากฏว่าไม่เสียแต่ก็ทำความสะอาดให้ ย้ำหัวสายให้พอขับออกมาจาก บ. ก็ปกติดีได้ประมาณ 20 กม.ก็เป็นอีกทีนี้สงสัยจะเป็นที่ คอยล์ เพราะเคยมีประวัติว่าคอยล์อาจจะไม่ค่อยดีที่เคยเช็คกันนั่นแหละอุตส่าห์ถอดคอยล์ไปเช็คที่กองโรงงาน กรมการขนส่งเลยนะ ปรากฏว่าไม่เสียอีกแล้วมันเป็นอะไร(วะ)ปวดหัวเวลาติดเครื่องเดินเบารอบเครื่องจะไม่นิ่ง สูงๆต่ำๆ(เดี๋ยวหกเดี๋ยวเอี่ยว)อยู่อย่างนั้นพอเปลี่ยนเป็นแก๊สก็ ปัง! เหมือนเดิมไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเอาสายหัวเทียนกับคอยล์มานั่งพินิจพิเคราะห์(ปลงอยู่นั่นแหละ)จะไล่เปลี่ยนคอยล์มันก็หลายตังค์อยู่เหลือบไปเห็นสายหัวเทียนตรงปลายจุ๊ปที่เสียบหัวเทียนสูบที่1ข้างขวาเป็นรอยคล้าย ๆสนิมแดงๆเหมือนลูกรังโดนน้ำแห้งติดอยู่เลยไปถอดหัวเทียนมาดู โป๊ะเช๊ะ หัวเทียนเต็มไปด้วยสนิมปนน้ำตามสูบที่บอกเลยขอหัวเทียนเก่า ๆของเพื่อนแถวนั้นมาลองเปลี่ยนดู โอ้โห! พระเจ้า หายเป็นปลิดทิ้ง นิ่ง เงียบ ไม่ backfire อีกเลย เพื่อนบอกไม่ต้องเอาหัวเทียนมาคืนเพราะเขาทิ้งแล้วแต่ผมยังใช้อยู่ทุกวันนี้เกือบสัปดาห์แล้วยังไม่เกิดปัญหาอะไรเลยก็แปลกนะที่ บ.Herricane ไม่เห็นคราบดังกล่าวปัญหาเส้นผมบังภูเขาจริง ๆ โล่งอกไป นึกว่าโดนคอยล์อีกแล้ว หนาววววว ซึ่งปัญหาจริง ๆคือน้ำไหลเข้าไปในเบ้าหัวเทียนแล้วขังอยู่ในนั้น หัวเทียนก็เลยช๊อตเครื่องก็ติดไม่ครบสูบเวลาแก๊สเข้าไปก็เผาไหม้ไม่หมดเหลือกิน ก็เลย ปัง! นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นคนรักสะอาดโดยเฉพาะกับเครื่องยนต์บางครั้งก็เป็นผลร้ายที่คาดไม่ถึงนี่ถ้าเป็นคนมีตังค์มากหน่อยก็คงเข้าศูนย์และก็คงโดนหลักหมื่นแน่นอนเพราะต้องจับเปลี่ยนคอยล์แน่ๆ เพราะฉะนั้นช่วยเตรียมหัวเทียนอะไรเดี้ยม ๆที่ว่า7-800.-ไว้ให้ด้วย จะไปเปลี่ยนพร้อม นม.เครื่อง เกิน กม.แล้วไม่เห็นคนดูแลประวัติจะโทร.มาเตือนเลยสงสัยมัวแต่เก็งหวยอยู่ นานๆ จะเข้ามาที่เลยฝอยมากไปหน่อย ใครมีอาการอย่างผมก็ไม่ต้องตกใจนะครับ(หรือผมจะตกใจอยู่คนเดียวก็ไมรู้) ก็เลยเล่าสู่กันฟัง (ขึ้นต้นด้วย xyz จบด้วย เบิร์ด)
ปล.แล้วจะรีบไปหา คิดถึงทุกคน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 140
       คต 137 มีแต่คนถามหา
ผู้ชายพายเรือหายไปเสียนานโทรก็ไม่ไทรมาคุยก็เลยเดากันว่าน่าจะตกเรือจมน้ำไปแล้ว แต่มานึกอีกทีก็ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ เพราะท่านเองก็เป็นมนุษย์น้ำอยู่แล้วเลยเบาใจกันไปทุกคน ก็สมควรแล้วกับคนขยันเกินเหตุ แล้วก็ไม่โทรมาถามด้วยนะ เก่งจริงๆเลย ก็อย่างที่เข้าใจนั้นแหละท่าน จุ๊บยางที่กันน้ำบนเบ้าหัวเทียนกับที่คอยล์ ถ้ายางมันปิดไม่สนิทเวลาเราทำความสะอาดห้องเครื่องด้วยน้ำ น้ำก็จะเข้าไปอยู่ในเบ้า แล้วไฟมันก็ไม่ไปกระโดดที่เขี้ยวหัวเทียนแต่มันจะวิ่งผ่านน้ำไปลงที่เครื่องแทน ผลก็เป็นอย่างที่ท่านเป็นนั้นแหละแต่ถ้าเป็นรถที่ไม่ใช้แก๊สก็จะมีอาการเหมือนกันเพียงแต่มันจะสดุดตอนเดินเบาหรือบางครั้งก็วิ่งไม่ออกนะครับ เรื่องหัวเทียนก็ใช้แบบธรรมดาก็พอถูกตังค์ดีเพราะถึงแม้จะเป็นหัวเทียนอิรีเดียมแล้วมีน้ำเข้าอย่างท่านก็ไม่หายหรอกครับ ทางที่ดีก็อย่าเอาน้ำไปล้างเครื่องก็แล้วกัน แล้วจะมาเมื่อไหร่ลูกน้องสุดที่รักของผมก็กลับมากินเหล้าแล้ว(สรุปมันโดนปูกัด) ส่วนผมเองก็หาคนกินโอสถทิพย์ด้วยยากเหลือเกิน 5555

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 141
       คุณหมี ผมยังติดงานอยู่ รอประมาณ อีก เดือนนะครับ เพราะไม่มีคนแทน เลยยังไม่ได้กลับไปบ้าน คาดว่า เสร็จงานแล้วจะรีบไปพบ ครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 142
       คต 139
ไม่เป็นไรไม่มีปัญหา ว่างเมื่อไหร่ก็โทรนัดล่วงหน้าก็แล้วกันนะครับจะได้เตรียมอะไหล่เอาไว้ให้ด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 143
       ฝากเอาไว้ด้วยครับ ผมเปิดเว็ปของร้านผมเองครับ มีปัญหาอะไรก็เข้าไปสอบถามได้ครับ แล้วก็จะเอาข้อมูลต่างๆของทรูปเปอร์ไปลงไว้ให้อ่านกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 144
       ฝากเอาไว้ด้วยครับ ผมเปิดเว็ปของร้านผมเองครับ มีปัญหาอะไรก็เข้าไปสอบถามได้ครับ แล้วก็จะเอาข้อมูลต่างๆของทรูปเปอร์ไปลงไว้ให้อ่านกันครับ http://www.bigshopservice.com/

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 145
       http://salcarservice.com

ศูนย์รวมช่างซ่อมรถยนต์ ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ
รับปรึกษา ซ่อมรถยนต์ โดยช่างผู้ชำนาญ ทุกปัญหาทุกอาการ
บริการซ่อมรถยนต์นอกสถานที่
มีปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ ปรึกษาเราได้นะคะ
เราบริการ ใน ราคาย่อมเยาว์ รับประกันสินค้า และคุณภาพอะไหล่
HotLine : 089-076-9075 : 089-985-2424
Fax : 02--2596-7000 ต่อ 089-985-2424
Email : info_salcar@yahoo.co.th

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 146
       มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ กับ civic ตาโต ปี 96 อาการ คือเหมือนเครื่องสะอึก เหมือนๆจะดับ แต่ก็ไม่ดับ เลยถามพี่ที่ทำงานที่เดียวกัน เขาบอกว่า ลิ้นวาร์ลรอบเดินเบา มีปัญหา
จริงหรือเปล่า เป็นบ่อย ขับๆอยู่ก็เป็น ว่าจะเข้าศุนย์เลยดีหรือเปล่า ขอคำปรึกษาด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 147
       คต 144 คุณ jom
อาการที่เล่ามาขอรบกวนสอบถามเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับว่า มีการติดตั้งใช้แก๊สหรือเปล่าครับ แล้วอาการที่ว่าตอนเครื่องยนต์เดินเบาเป็นหรือเปล่าครับ และหากสดุดตอนวิ่งอยู่ก็อาจจะมีปัญหาที่ในส่วนของหัวเทียนและถ้าใช้แก๊สก็อาจจะเกิดจากระบบแก๊ส แต่ถ้าไม่ได้ใช้แก๊สก้อาจจะเป็นที่กรองเบ็นซิน แต่ถ้าอาการเกิดตอนเดินเบาก็จะเกิดได้2ส่วนก็คือหากติดตั้งแก๊สก็จะเป็นที่หัวเทียนได้หรือเกิดจากการจูนแก๊ส และอีกส่วนก้จะเป็นที่ตัวปีกผีเสื้อนะครับ หากทำเองได้ลองถอดชุดปีกผีเสื้อออกมาล้างทำความสะอาดดูนะครับ หากไม่แน่ใจว่าทำได้หรือเปล่าก็ไปหาช่างจะดีกว่าครับ แต่ขอสรุปให้แก้ไขเบื้องต้นก่อนคือ หากยังไม่เคยเปลี่ยนหัวเทียนเลยก็เปลี่ยนใหม่เสีย แล้วก็ล้างปีกผีเสื้อเสียหน่อย แล้วก็กรองเบ็นซินครับหากนานมากแล้วก็เปลี่ยนด้วย หากใช้แก๊สก็ลองปรับจูนแก๊สใหม่ด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 148
       k หมี ดำเนิน ขอบคุณมาก
ใช้แก๊สโซฮอล 95 ครับ อาการก็เป็นทั้งตอนจอดและตอนวิ่ง เป็นเป็นหาย ๆ ๆ ครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 149
       เดี๋ยวจะลองไปทำตามที่คุณหมีแนะนำ ขอบคุณมากๆคับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 150
       รบกวนสอบถามพี่หมี ดำเนินครับ เมื่อ 2 วันก่อน ขับรถได้ยินเสียงแต็กๆเหมือนเหล็กกระทบกันที่เครื่องยนต์ เสียงเดี๋ยวเป็น เดี๋ยวหาย วันนี้เลยลองจอดและติดเครื่อง ปรากฏว่าได้ยินเสียงที่เครื่องยนต์ด้านบน เสียงดังและเบาจนไม่ได้ยินและค่อยๆดังขึ้นอีกสลับกัน ใช่เสียงวาล์วหรือไม่ครับ น้ำมันเครื่องผมเปลี่ยนถ่ายตรงเวลาตลอดและใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ SAE 5 W - 40 ของ ปตท. หากเป็นที่วาล์วจริงจะต้องเข้าศูนย์ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ครับ หรือใช้วิธีหาเครื่องมือ 2 มาแกะเปลี่ยน ขอบคุณล่วงหน้าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย