คำตอบที่ 33
ขออนุญาตแปลบทความของฝรั่งมาให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันครับ
" ออกซิเจนเซ็นเซอร์ในรถยนต์ทำงานอย่างไร"
รถยนต์รุ่นใหม่ทุกชนิด หรือรถยนต์ส่วนใหญ่ที่ผลิตตั้งแต่ ปี 80 เป็นต้นมาจะมีเจ้าตัว ออกซิเจน เซ็นเซอร์ (OS) เจ้าเซ็นเซอร์ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งของระบบควบคุมไอเสีย ซึ่งจะเป็นตัวส่งข้อมูลไปยังสมองกลของเครื่องยนต์ วัตถุประสงค์ของการมี OS นี้ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่าที่จะสามารถทำได้ ในขณะเดียวกันกับการจำกัดปริมาณไอเสียที่ปล่อยออกมาให้น้อยที่สุด
ออกซิเจนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ สำหรับการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เบนซิน (ผู้แปล : “และทุกชนิด”) โดยมีอัตราส่วนระหว่าง ออกซิเจนกับเชื้อเพลิงแตกต่างกันออกไป ซึ่งแล้วแต่ชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ สำหรับเครื่องยนต์เบนซินนั้นอัตราส่วนที่ถือว่าเหมะสมที่สุดคือ 14.7 : 1 หากปริมาณของออกซิเจนน้อยกว่าอัตราส่วนที่เหมาะสมจะเกิดการหลงเหลือของเชื้อเพลิงหลังการเผาไหม้ กรณีนี้เรียกว่า “ส่วนผสมหนา” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์เนื่องจากเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ไม่หมดนั้นเป็นต้นเหตุของมลพิษ ในทางกลับกันหากปริมาณของออกซิเจนมากเกินกว่าอัตราส่วนที่เหมาะสม เรียกว่า “ส่วนผสมบาง” ก่อให้เกิดมลพิษ ไนโตรเจนออกไซด์ และในบางกรณีอาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและเกิดความเสียหายของเครื่องยนต์
เจ้า OS นี้จะติดตั้งอยู่กับท่อไอเสียโดยมีความสามารถในการคำนวณ ความ หนา-บาง ของส่วนผสมระหว่าง ออกซิเจนกันเชื้อเพลิง กลไกของความสามารถในการคำนวณความเหมาะสมของส่วนผสมใน OS ส่วนใหญ่จะใช้ปฏิกิริยาเคมีภายใน OS ปฏิกิริยาเคมีที่ว่านี้จะทำให้เกิดประจุไฟฟ้า และส่งไปยังสมองกลของเครื่องยนต์ ตรงจุดนี้เองสมองกลของเครื่องยนต์จะทำหน้าที่คำนวณความเหมาะสมของส่วนผสม ว่า หนา หรือ บาง แล้วจึงปรับปริมาณของเชื้อเพลิงที่จะส่งไปยังหัวฉีดเข้าเครื่องยนต์ให้มีความเหมาะสมกับปริมาณออกซิเจน
ความจำเป็นของเครื่องยนต์ที่ต้องมี OS เนื่องจากปัจจัยต่างๆของสภาพแวดล้อมขณะที่ใช้รถอยู่ทำให้ความสามารถในการดึงเอาออกซิเจนเข้าห้องเผาไหม้มีความแตกต่างกันออกไป เช่นระดับความสูง, อุณหภูมิทั่วไป, อุณหภูมิเครื่องยนต์, ความกดอากาศ, ระดับกำลังของเครื่องยนต์ขณะใช้งาน ฯลฯ
เมื่อ OS เกิดความบกพร่องเป็นผลทำให้สมองกลของเครื่องยนต์ได้รับข้อมูลของส่วนผสมผิดเพี้ยน และเกิดอาการ “เอ๋อ” หรือใช้ข้อมูลเก่า หรือเดาเอา รถของเราจึงมีสมรรถนะลดลง และกินน้ำมันมากขึ้น จบ....
แปลจาก http://auto.howstuffworks.com/question257.htm