คำตอบที่ 2
คัดลอกจากเวปขอนลอยครับ ขอบพระคุณคุณ Wachira ไว้ ณ ที่นี้
วิธีดูและตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสอง
1. ตัวถัง
1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง
1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี
1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่ แค่ไหน
1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู)
1.5 ก้มดูใต้บังโคลนล้อ, ใต้ประตู ว่ามีสนิมขึ้น ผุ หรือไม่ มากน้อยเพียงใด
1.6 ลองใช้เล็บเคาะตัวถังดูรอบๆบริเวณไหนเสียงไม่ใสเหมือนบริเวณอื่น อาจมีการทําสีมาแล้ว
1.7 ดูสีตัวถังรอบๆว่ามีการบวมปูดจากสนิมหรือไม่
การตรวจสอบสภาพตัวถัง จะเป็นตัวบ่งบอกถึงสภาพการใช้งานของเจ้าของเดิม การดูแลรักษา ผ่านการชนคว่ำ ที่สำคัญคือตัวบอกความเหมาะสมกับราคาที่ตั้งหรือไม่ ส่วนใหญ่จะใช้จุดนี้แหละเป็นข้อต่อรองราคา
2. กระจก
2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ)
2.2 กระจกมีรอยร้าวกระเทาะหรือไม่อาจจะนําไปสู่การแตกง่ายในอนาคต
2.4 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.5 ยางขอบกระจก ยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.6 ยางปัดนํ้าฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่
2.7 ที่ปัดนํ้าฝนยังใช้งานได้ดี
2.8 ที่ฉีดนํ้าล้างกระจกยังใช้งานได้ดี
2.9 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ
ข้อ 2.2 เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องรอบคอบ ทั้งนี้เพราะราคากระจกรถบางรุ่นแพงพอสมควร ยกเว้นซูน้อยราคาพอฟังได้
3. ยางและล้อ
3.1 เปลี่ยนยางมาครั้งล่าสุดเมื่อกี่เดือน/ปีมาแล้ว
3.2 ดอกยางยังลึกอยู่ประมาณ 2 ม.ม.ขึ้นไป
3.3 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร
3.4 ยางมีการปะหรือไม่
3.5 ยางมีการบวมหรือไม่
3.6 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่
เรื่อของยางถ้าเจอรถที่ถูกใจมากๆ แต่ยางอยู่ในสภาพที่แย่แล้ว ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านแล้วล่ะ ส่วนมากแล้วราคาของยางปกติก็ 2000 บาทขึ้นไป ต่อเส้น สรุปว่าต้องเตรียมเงินเพิ่มเพื่อการเปลี่ยนอีกหมื่นเศษๆ ท่านอาจใช้จุดนี้ต่อลองราคาได้
4. กลไกขับเคลื่อน
4.1 เครื่องยนต์เดินเรียบ
4.2 ความร้อนไม่ขึ้นสูง
4.3 เข้าเกียร์ได้ครบ
4.4 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง
4.5 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว
4.6 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง
4.7 คลัชไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป (ใกล้หมด)
4.8 ท่อไอเสียผุหรือไม่
4.9 โช็คอัพไม่กระด้าง (สังเกตุจากเวลาขับ) ตรงนี้อาจยกเว้นสำหรับซูน้อย
นี่ก็เป็นอีกจุดที่สำคัญยิ่งต่อการที่อาจสร้างภาระให้ท่านได้เมื่อตัดสินใจซื้อมาใช้ อาจต้องใช้ประสบการณ์ในเรื่องรถพอสมควร หรือการสังเกตให้รอบคอบ ทดลองให้ละเอียดหลายๆจุด ลองขับ ลองเร่ง ลองเลี้ยว ลองเบรค ลองฟังเสียงต่างๆ ขณะขับ ถ้าท่านไม่มั่นใจในการพิจราณาจุดนี้ อาจต้องหาช่างหรือผู้ชำนาญช่วยอีกแรง
5. ระบบหล่อลื่น
5.1 นํ้ามันเครื่องเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
5.2 นํ้ามันเกียร์เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
5.3 นํ้ามันเบรคเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
5.4 นํ้ามันเฟืองท้ายเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
5.5 นํ้ามันเพวงมาลัยเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
จุดนี้อาจข้ามได้ ถ้ามีข้อมูลก็ดี ไม่ต้องกังวลมาก เมื่อตัดสินใจซื้อแล้วควรไล่เปลี่ยนถ่ายทั้งหมดเลย อย่าละเลยเด็ดขาดแล้วจดวันเดือนปี พร้อม ตัวเลขระยะทางไว้ เพื่อกำหนดการเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไป
6. ระบบปรับอากาศ
6.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้
6.2 นํ้ายาแอร์เปลี่ยนครั้งสุดท้าย, ล้างตู้แอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อใด
ข้อที่ 6.1สำคัญโดยเฉพาะเรื่องของคอมเพรสเซอร์ ต้องดูให้ดี ข้อที่6.2 ถ้ามีข้อมูลก็ดี
7. แบตเตอร์รี่เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อใด (ถ้าเปลี่ยนใหม่ลูกละ 850-1500บาท แล้วแต่ยี่ห้อ ขนาดของกระแสว่ากี่แอมป์ )
8. ภายใน
8.1 เบาะยังคงสภาพดีอยู่หรือไม่ (สะท้อนถึงสภาพการใช้งาน)
8.2 ยางหุ้มพวงมาลัยสภาพดีอยู่หรือไม่
8.3 หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็ม เข็มนํ้ามัน เข็มไมล์ ไฟ
เบรคมือ
8.4 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด
8.5 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี
8.6 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน (ดีๆก็เกือบพันเหมือนกัน)
8.7 วิทยุติดรถ ราคาสมเหตุผล
8.8 มีอุปกรณ์อื่นๆประกอบหรือไม่ เช่นที่ล็อคเกียร์ กันขโมย (เทียบกับราคา)
9. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
9.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน
9.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง
9.3 ไฟเบรคใช้งานได้
9.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้
10. เอกสารต่างๆ
10.1 สมุดทะเบียน, ใบโอนรถ และบัตรประชาชนมีชื่อและลายเซ็นตรงกัน
10.2 มีการเสียภาษีรถประจำปีถูกต้องไม่ขาด (ระวังค่าปรับ)
10.3 มีการจ่ายประกันภัยบุคคลที่สาม ไม่ขาด (ระวังค่าปรับ)
10.4 ถ้ามีประ