คำตอบที่ 1
       " ภูสอยดาว " ผมอยากมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที ปีที่แล้วก็วางแผนไว้ว่าจะมา แต่ก็ต้องติดเหตุบางประการ และปีนี้ 14 15 16 กันยายน 2556 ผมก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป
เราเริ่มต้นออกเดินทางกันช่วงเย็นของวันที่ 13 กันยายน มาพักค้างคืนกันที่ อ. ชาติตระการ เพื่อพักเอาแรงไว้ปีนภูสอยดาว ถ้าขืนขับเรามาถึงที่ภูสอยดาวเลย คงหาที่นอนอยาก
เช้ามืดเราตืนมาแวะเตรียมเสบียงกันที่ตลาดสดเทศบาลตำบลป่าแดง แล้วก็ออกเดินทางจาก อ.ชาติตระการไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดยใช้เส้นทาง 1237 ยามเช้าถนนสายนี้สวยมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ในยามเช้าถนนสายนี้ ที่คดเคี้ยวไปมาแทบจะไม่มีรถวิ่งเลย ถ้าขืนมาตอนกลางคืนล่ะก็........
แต่ถนนสายนี้ การขับรถนั้นถือว่าเพลิดเพลินเลยทีเดียว ผมขับรถเปิดกระจกมาตลอดทาง สดชื่นกับบรรยากาศยามเช้าของถนนสายนี้มาก ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยท้องนาเขียวขจี สายหมอกลอยผ่านท้องทุ่ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ให้ราวกั้นทางเป็นเส้นนำสายตาย นั่งรอจังหวะดีดี เผื่อจะมีรถมาสักคัน และแล้วรอก็มาได้ดังใจ
นี่แหละครับความสุขที่ได้รับจากการถ่ายรูป ถือว่าพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพ บางครั้งก็มีความสุขจากทั้งอุปกรณ์ใหม่ บางโอกาสก็มีความสุขจากการได้ไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ใกล้ถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวแล้ว หมอกยิ่งหนาขึ้น หนาขึ้น รู้สึกตื่นเต้นจัง อาจเป็นเพราะสถานที่แห่งนี้ ที่ที่เราอยากมาเที่ยวตั้งนานแล้ว
แต่ขุนเขาสองข้างทาง บางส่วนของต้นไม้ ก็กายเป็นไร่ข้าวโพดไปแล้ว มันรู้เสียดายจัง ยิ่งลึกเข้าไป เขาบางลูกก็เป็นไร่ข้าวโพดเกือบหมด เดี๋ยวเอาไว้เล่ากันท้ายทริปแล้วกัน ถ้าเล่าตอนนี้เดี๋ยวการเที่ยวภูสอยดาวจะหมดสนุกกันเสียก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       จากเส้นทางที่โค้งไปโค้งมา เส้นทางนี้ก็พาเรามาถึงภูสอยดาวจนได้ พอมาถึงสิ่งแรกที่ต้องทำ เดินตรงไปยังร้านอาหารก่อนเลยครับ เพราะถ้าทานมาจากตลาดชาติตระการกลัวอาหารที่ทานจะย่อยหมดก่อน ผมจึงมาตุนพลังไว้ให้เต็มกระเพาะ ด้วยผัดกระเพาะหมูไข่ดาวจานโตๆ และตามด้วยนมหนึ่งกล่อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       หลังจากเติมพลังให้กับร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็มาจัดสัมภาระเพื่อขึ้นชั่งกันเลย 5555 พอดีกลุ่มผมพาสองดารายอดนิยมมาด้วย ทำให้เป็นที่จับตาของผู้คนในบริเวณนั้นโดยเฉพาะเด็ก
อัตราค่าลูกหาบปรับขึ้นแล้วนะครับ แต่ก่อนจากกิโลกรัม 20 บาท แต่ปัจจุบันนี้ปรับเป็นกิโลกรัมละ 30 บาทแล้วนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       น้ำตกภูสอยดาว
อยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี
น้ำตกนี้อยู่ก่อนทางเดินเท้าขึ้นภูสอยดาว จะเดินขึ้นภูสอยดาวจะต้องเดินผ่านน้ำตกแห่งนี้ ผมจึงขอแวะก่อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ขึ้นภูสอยดาว ขาลงจะแวะมาเล่นน้ำกันที่น้ำตกแห่งนี้ เพื่อดับความเหนื่อยล้า และเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับร่างกาย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       รอชมภาพงามๆของท่าน ไม้เรียว นะครับบบ

ขอบคุณครับน้าหน่อง.... จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 19/9/2556 22:17:25 [49.48.249.42]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       เหล่าบรรดานักเพาะกายทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ เฮ้ย! ลูกหาบ ต่างก็มารอรับสัมภาระของนักท่องเที่ยว

เหมือนภาพสามมิติเลย อย่างน้อยต้องมี f1.2 น่ะนี่ จาก : ยูคา(kss) 20/9/2556 12:55:04 [203.144.139.239] ฟิกนิคอน 35 mm f 1.8 ครับน้ายูคา จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 20/9/2556 16:15:28 [49.48.248.79] พี่เสื้อกล้ามกับน้องผู้หญิงเสื้อกั๊ก พ่อลูกกันแหงมๆเลย จาก : บลูเรงนอง(บลูเรงนอง) 20/9/2556 18:18:02 [203.144.139.239] ชั่งสังเกตุจริงนะ..น้าบลู จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 20/9/2556 19:38:45 [49.48.248.79]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       เราเริ่มเดินทางเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวขึ้นสู่ยอด ภูสอยดาวระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ ดังนี้ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดขันที่สุด
ตามผมมาเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       สิ่งที่ต้องตระหนักมากๆ เลยครับ ในการท่องเที่ยวธรรมชาติ ก็คือเรื่องของกฏระเบียบไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ การให้อาหารสัตว์ การส่งเสียงดัง การทำลายพืชพรรณ และกฏอีกมาย
ทริปนี้ ตามทางเดินขึ้นภูสอยดาว ผมก็เห็นสิ่งพวกเราทิ้งเอาไว้ตามลายทาง ไม่ว่าจะเป็นขวดพลาสติก เปลือกลูกอม ถุงพลาสติก แม้กระทั่งกระเช็ดชู่ เมื่อเรานำมันขึ้นมาได้ก็ควรจะนำกลับไปได้นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ตามเส้นทางการเดินเท้าขึ้น " ภูสอยดาว " มีมุมสวยๆ ให้เราไปนั่งพัก ใครที่จะขึ้นภูสอยดาว ผมแนะนำว่าให้ขึ้นกันแต่เช้านะครับ แวะถ่ายรูปกันไปเรื่อย ถือว่าเป็นการพักคลายเหนื่อยไปในตัว ถ้าเราเร่งรีบในการเดินมันจะเหนื่อยมากๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       เจอเนินแรก " เนินส่งญาติ " ก็เริ่มหอบแล้ว นี่ขนาดผมฟิตร่างการมาเป็นเดือนนะครับ ชันเอาเรื่อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       หอบจะรับประทาน....เดี๋ยว! เดี๋ยว! ขอพักดื่มน้ำก่อนครับ
ไหน? ไหน? ญาติที่มาส่งผมตามที่ป้ายเขาบอกไว้ 55555 ผมว่าเนินนี้เป็นดั่งป้ายเค๊าเขียนไว้เลย ชันเอาเรื่องญาติที่มาส่งสงสัยได้กลับบ้านกันจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       อื้อฮือ!!!!!!!! สุดยอดเลยครับลูกหาบคนนี้ ผมเดินตามเขาตลอด เพื่ออาจจะช่วยเหลืออะไรเขาบ้าง ถ้าเขาลื่น แต่ไม่เป็นดั่งที่ผมคิดเลย เขาแข็งแรงมาก แถมเดินไวกว่าผมอีก เดินทิ้งห่างผมไปเรื่อย ผมมาทันเค๊าตอนที่พี่แกนั่งพัก และผมก็สอบถามเค๊าว่า เหนื่อยไหนครับ เสียงที่ตอบกลับอย่างเข้มแข็ง " ไม่เหนื่อยครับ " และในถุงนี้น้ำหนักเท่าไหร่ครับ 48 กิโลครับ ...โอ่!!!!!!!
แล้วแบกมานานหรือยังครับ ผมแบกมานานแล้ว เสียงที่พูดออกมานั้นฟังแล้วน่าเห็นใจจริงๆ ก็ยังดีนะครับที่ยังมีรายได้จากการเป็นลูกหาบ อ้าวทำไมหรือครับ? ผมทำงานตัดหญ้าอยู่กรมทาง ได้เงินเดือน 6500 บาท ไม่พอส่งลูกไปโรงเรียน จึงได้เข้ามาเป็นลูกหาบถึงงานจะหนักจะเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่าพออยู่พอกิน ผมก็ถามเขาต่อว่าที่แบกมานี่ก็ 48 โลเนอะ ใช่ครับ โลละ 30 บาท ถ้าคิดเป็นเงินก็ 1,440 บาทต่อวัน เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนหายเหนื่อยก็ชวนกันเดินต่อ

โอ้ว...ไม่นะ.....ผมแบกแค่ 18 กิโล ผมก็แทบตายแล้ว จาก : บลูเรงนอง(บลูเรงนอง) 20/9/2556 18:46:03 [203.144.139.239] 5555 เราไปหารายได้เสริมกันดีไหม..น้าบลู จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 21/9/2556 12:38:58 [49.48.248.251]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       นี่คือสมาชิกผู้ร่วมทริปของผม เริ่มจากชายด้านขวามือ เป็นลูกศิษย์ชื่อตี๋หนุ่มน้อยผู้นี้พึ่งจะเที่ยวธรรมชาติ ครั้ิงนี้เป็นครั้งแรกเสียงจากปากของเค๊าเปล่งออกมาว่า " จะขึ้นไปทำไมกันหรือ " จะขึ้นไปดูดอกไม้ ไปดูดอกไม้เนี่ยนะ
คนกลางเธอผู้นี้เที่ยวกันมาตั้งนานแล้ว ป้ารั้งและเธอผู้นี้ก็เที่ยวแบบเดินป่าเป็นครั้งแรก
คนด้านขวาสุดหญิงผิวคมเข้ม..ศิษย์แอ๋ม เธอเป็นแฟนกับตี๋เค๊าจะมาพิสูจน์รักครั้งนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       นี่ก็ปาเข้าไป 54 ขวดแล้ว...
แต่เธอก็ยังหอบร่างกายมาเพื่อพิชิต " ภูสอยดาว " สักครั้ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       แต่ผมซิ เป้ชักเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น ซะแล้ว แต่ก็ยังสู้ครับ เราต้องไปให้ถึงพิชิตให้ได้ " ภูสอยดาว "

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       พวกเราเดินมาได้ครึ่งแล้วเที่ยงพอดี พลังที่ตุนมาทั้งกระเพาะหมู นม หมดแล้ว จะต้องเติมพลังกันอีก
ได้ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ไก่ย่าง ปลาย่าง ห่อหมก เราเตรียมอาหารจากตลาดสด มื้อนี่อร่อยมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ถ้าป่าไม้ถูกทำลายมาก ๆ จะทำให้สภาพแวดล้อม สัตว์ป่า ดินน้ำ อากาศ และส่งผลให้ดินและแหล่งน้ำ
ด้วยดินจะโล่งขาดพืชปกคลุม เมื่อฝนตกมาก็จะชะล้างหน้าดินทำให้ขาดความอุดมสมบูรณ์ของดินไป

เมื่อขาดต้นไม้คอยดูดซับน้ำ ไว้น้ำก็จะไหลบ่าท่วมบ้านเรือน และ ที่ลุ่มในหน้าฤดูน้ำไหลหลาก
พอถึงหน้าแล้งก็ ไม่มีน้ำซึมใต้ดินไว้หล่อเลี้ยงต้นน้ำลำธารทำให้แม่น้ำมีน้ำน้อย

ถ้าไม่ดูแลป่าไม้ก็จะขาดน้ำ ในการการชลประทาน ทำให้ไม่น้ำจะมาทำนา และไม่มีน้ำมาผลิตไฟฟ้า

กดไลค์พันครั้งเลยขอรับ...ทั้งคำในรูปทั้งคำบรรยายจากสหายปืนแฝด.. โดน จาก : บลูเรงนอง(บลูเรงนอง) 20/9/2556 18:49:48 [203.144.139.239] ขอบคุณคร๊าบบบบ..สหายสุรา...อิอิอิ จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 20/9/2556 19:39:38 [49.48.248.79]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ไม่รู้ว่าตัวนี้เป็นแมลงอะไร จะเป็นสายพันธ์ของกิ้งกือหรือเปล่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       เมฆ หมอก น้ำค้าง และฝน ต่างก็เป็นสถานะหนึ่งของน้ำด้วยกันทั้งนั้น บ้างก็อยู่ในสถานะของเหลว บ้างก็อยู่ในสถานะของแข็ง บ้างก็อยู่ในสถานะก๊าซ แต่โดยรวมๆ แล้วนั้น สิ่งนี้ก็คือ น้ำ ซึ่งนำมาเพื่อประโยชน์ของสิ่งมีชีวิต ดังมีคำกล่าวที่ว่า "ที่ใดมีน้ำ ที่นั่นมีชีวิต"

แต่เราต้องเดินขึ้นไปบนนั่นนะ...เนินมรณะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       ตามติดชิดขอบจออยู่เน้อ...สหายปืนแฝด

ขอบคุณครับผม..สหายสุรา...อิอิอิ จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 20/9/2556 19:41:37 [49.48.248.79]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       เพลินไปเลยครับ หยุดเดินเพื่อไล่จับแมลง ได้หยุดพักพอคลายเหนื่อยได้บาง..เจ้าตัวนี้หลอกคาบไปแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       เห็นภาพแล้วอิจฉา อยากไปจังภูนี้ รอชมภาพต่อคร้าบ

มีโอกาสไปได้ไปเลยครับ..สวยมาก จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 21/9/2556 15:20:00 [49.48.248.251]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       รอชมความชุ่มชื้นและภาพสวยๆต่อครับ ...............

ขอบคุณครับ..น้าและห์ จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 21/9/2556 15:20:23 [49.48.248.251]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       สวยมากครับ น่าไป แต่คงจะไม่ไหว....

ขอบคุณครับน้าอันดามัน...ลองฟิตร่างกายไปสักครั้งนะครั้ง จาก : ไม้เรียว(ไม้เรียว) 21/9/2556 15:21:00 [49.48.248.251]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       หมอกอยู่รอบๆ ตัวเราตลอดเลย เหมือนกับว่าเรามีอีกโลกหนึ่ง ที่ปราศจากเสียงเครื่องยนต์ แสงแตร เสียงเพลง เสียงโทรศัพท์
มีแต่เสียงลมประทับใบไม้ เสียงจั๊กจั่น เสียงรองเท้า...และเสียงของหัวใจที่เต้นแรงขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       หลังจากนั้นก็เก็บกล้อง อัดแรงกาย ส่งกำลังขึ้น " เนินมรณะ " กันเลย ค่อยๆ ไต่ระดับความสูงชัน ก้าวต่อก้าวนั้นแทบจะก้าวไม่ออก ขาขวาที่ไปข้างถนัดนั้น ใช้เป็นขาหลักเพื่อพยุงตัวเองให้ก้าวผ่านไปแต่ล่ะก้าวนั้นเริ่มจะหมดแรง ก้าวไม่ออก หัวใจเต้นแรงขึ้น
......" ได้ยินเห็นหัวใจตัวเองก็วันนี้แหละ ".......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       และแล้วเราก็ก้าวผ่านเนินมรณะมาได้...
อั๊ยย่ะ!!!!!!! มองย้อนลงไป โอ้วแม่เจ้า..มันช่างสูงชันจริง เนินนี้ถือได้ว่าไปเนินวัดใจ วัดกำลังกายกันจริงๆ สมกับชื่อ " เนินมรณะ " เลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย