WeekendHobby.com


ขอเตือนทุกท่านที่ท่องเที่ยวภูเขาด้วยรถ 4wd ครับ ควรใช้เกียร์ 4wd ขณะรถติดหล่มโคลนเท่านั้นครับ

จาก หมูเน่า
พฤหัสบดีที่ , 28/12/2549
เวลา : 11:20

อ่าน = 6842
203.113.67.38
       อยากบอกทุกคนว่าถ้าขึ้นเขาอย่าเข้าเกียร์ 4wd ครับ พวงมาลัยรถจะขืนมาก เจอโค้งอาจตกเขาได้ เข้าใจกันผิดๆครับว่าขึ้นเขาต้อง 4wd ไม่ควรใช้เพราะล้อมันจะออกแรงเท่าๆกันมันจะเลี้ยวยาก เหมือนทหารสวนสนามเรียง 8 ถ้าจะเลี้ยวซ้ายคนซ้ายสุดจะต้องหยุดเดินแล้วซอยเท้าอยู่กะที่ รถยนต์ก็เหมือนกันถ้ามันออกแรงเท่ากันทุกล้อจะเลี้ยวง่ายๆได้ยังงัยล่ะครับ โปรดเข้าใจกันใหม่ว่าขึ้นเขาคดเคี้ยวขับสองก็พอครับ 4wd ไว้ใช้ตอนติดหล่มหรือทางเละๆครับ อย่าไปเชื่อเซลส์ขายรถครับมันไม่มีความรู้เกี่ยวกับการขับรถดีพอ

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       แต่ถ้ามีฟูลไทม์ก็ไต้ด้วยคูณสี่เลย



จาก ยย  202.142.200.252  พฤหัสบดี, 28/12/2549 เวลา : 11:24   


คำตอบที่ 2
       ไปเข้าโฟถนนลาดยางเกียพังพอดีกัน



จาก ลุงฉ่ำ  202.28.78.20  พฤหัสบดี, 28/12/2549 เวลา : 16:17   


คำตอบที่ 3
       โห เปิดกระทู้ใหม่เลยหรือเนี่ย



จาก Jook  203.144.217.234  พฤหัสบดี, 28/12/2549 เวลา : 17:30   


คำตอบที่ 4
       เอาข้อมูลพื้นฐานมาให้ครับ copy มาจากคู่มือรถอีซูซุ Rodio ครับ 4H กับ 4L ไม่ควรใช้กับถนนดำ,ถนนลาดยางแห้งครับ แต่ยกเว้นในกรณีที่ ต้องการออกกำลังเกียร์4x4บ้าง เพื่อให้น้ำมันหล่อลื่นในเกียร์และเฟืองท้ายหน้าทั่วถึง ให้เข้า 4H ขับในถนนที่เป็นทางตรงจะดีที่สุด เดือนละครั้ง ฝนตกถนนลื่น, ขับลุยน้ำท่วมผิวทาง 4H ลุยไปเลยครับ





จาก CHA  124.120.196.241  พฤหัสบดี, 28/12/2549 เวลา : 20:10   


คำตอบที่ 5
       โปรดฝังหูไว้หูครับ...ถนัดใครถนัดมัน แต่สำหรับผมใช้4 w.มาตลอด(ซู.กิ)12ปี ยังไม่เคยเจอปัญหาอะไร เกาะถนนเข้าโค้งดี...และเห็นด้วยกับคู่มือใช้รถครับ



จาก 4wd.  161.200.255.162  ศุกร์, 29/12/2549 เวลา : 08:32   


คำตอบที่ 6
       ขอสนับสนุน การใช้ 4WD ด้วยครับ เสียอย่างเดียวคือ กินน้ำมัน และ สึกหรอเยอะ กว่า 2WD



จาก Jook  203.144.217.229  ศุกร์, 29/12/2549 เวลา : 08:58   


คำตอบที่ 7
       ขอเตือนทุกท่านที่ท่องเที่ยวภูเขาด้วยรถ 4wd ....จะบ้าตาย เอาความคิดมาจาดใหน...เวรกรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



จาก เวรกรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   161.200.255.162  ศุกร์, 29/12/2549 เวลา : 14:21   


คำตอบที่ 8
       ขับรถขึ้นเขา ทางคดเคี้ยว เลี้ยวไป ก็ เลี้ยวมา
เพื่อความปลอดภัย ย่อมต้องใช้ความเร็วที่ต่ำ
การใช้ 4H บนเขา(เท่าที่จำเป็น) บนทางดำ และ แห้ง
อาจจะสึกหรอบ้าง
แต่ก็ช่วยให้มีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น
ถึงแม้วงเลี้ยวจะกว้างขึ้นมาอีกหน่อย
แต่ผู้ขับขี่ซึ่งเข้าใจรถตัวเองดีพอ คงจะเผื่อระยะการเลี้ยว
ให้สัมพันธ์กับรถตัวเองได้
อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยครับ
ผมขับขึ้นฐานอิทธิที่เขาค้อ ยังใช้ 4L เฉยเลย
เครื่องยนต์ก็ทำงานไม่หนัก ไม่ต้องใช้รอบสูง
แค่ปล่อยคลัทช์ แตะคันเร่งหน่อยเดียว มันก็ขึ้นของมันไปได้เรื่อยๆ สบายๆ
ช้าหน่อย แต่ ชัวร์




จาก 61  58.8.101.2  ศุกร์, 29/12/2549 เวลา : 14:44   


คำตอบที่ 9
       ...หนับหนุนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคห.8แค่ปล่อยคลัทช์ แตะคันเร่งหน่อยเดียว มันก็ขึ้นของมันไปได้เรื่อยๆ สบายๆ
ช้าหน่อย แต่ ชัวร์ .......ผมใช้ประจำ




จาก เวรกรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   161.200.255.162  ศุกร์, 29/12/2549 เวลา : 14:47   


คำตอบที่ 10
       ทางลาดยางชันใส่ 4L แล้วปลดฟรีล๊อคล้อหน้า แตะคันเร่งเบาๆ ขึ้นเนียนๆครับ



จาก คนเขา  125.24.169.89  ศุกร์, 29/12/2549 เวลา : 15:17   


คำตอบที่ 11
       ใช้4Hมาตลอดขึ้นเขาอุทธยานฯทองผาภูมิยันบ้านอีต่อง รับประกันเกาะดีกว่าแต่อย่าขับเร็วนะครับมันอันตราย





จาก 4WD  203.146.116.9  เสาร์, 30/12/2549 เวลา : 17:57   


คำตอบที่ 12
       โปรดไช้ความคิดส่วนบุคคล อยู่ที่การใช้งาน ผมเล่นมาหลายปี เมื่อไรที่ขึ้นหรือ ลงเขา ไม่ว่าจะแบบไหน ผมไส่สี่เกือบตลอด สับทั้ง HI และ LO การลงเขาหรือขึ้นเขาจำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือมีคนแนะนำ ในจังหวะที่กำลังขึ้นเนินชันแล้วล้อหลังเกิดปั่นฟรี ทำให้รถดิ้น แต่ถ้าใส่สี่อยู่ค่อยๆปล่อยมันไปกำลังเครื่องพอก็จะไปได้เรื่อยๆ และตอนลงก็เช่นกัน ถ้าลงมาเร็วอะไรก็ไม่เหลือ ต้องค่อยๆลงทั้งนั้น การที่พวงมาลัยขืนก็เป็นเรื่องปกติ



จาก จริงใจ  203.146.63.187  อาทิตย์, 31/12/2549 เวลา : 13:56   


คำตอบที่ 13
       ก็แล้วแต่ล่ะกัน......



จาก BEETAMON  124.121.189.27  อาทิตย์, 31/12/2549 เวลา : 16:39   


คำตอบที่ 14
      
ขับสี่ เกาะดี กินเด่น ไม่เป็นภัย
หากขับไว ประมาท พลาดตกเหว
ขับสอง ก็ไปได้ ใช่จะเลว
ขึ้นดอยชัน ผาเหว ก็เหมือนกัน

อยู่ที่คน ค่านิยม ของผู้ขับ
ชอบสำทับ ว่าโฟล์วิล ข้านี้แกร่ง
พวกขับสอง เมินมอง เพียงแมลง
อย่ามาแข่ง กับรถข้า เทียบชั้นเชิง

พวกขับสอง อย่าคนองกันมากนัก
ขับชอบกั๊ก ชอบแซง ชอบแข่งขัน
ทั้งสองอย่าง พาไปตายได้ทั้งนั้น
อยู่ที่ท่าน เลือกทาง ที่จะไป........



จาก นายปุ้ย  210.4.144.67  อาทิตย์, 31/12/2549 เวลา : 19:35   


คำตอบที่ 15
       หุหุหุ...คุณปุ้ยครับ..นี่บรรจงแต่งมาเพื่อกระทู้นี้เลยเหรอครับเนี่ย..ชอบครับชอบ..



จาก Mr. Trekker  124.120.152.235  จันทร์, 1/1/2550 เวลา : 20:22   


คำตอบที่ 16
       ขับสี่ แบบที่ อีซูซุ โตโยต้า มิตซู และซูซูกิใช้ มันเป็น part time แบบรถจี๊บ ควรใช้กับถนนที่ลื่นๆ เปียก เพราะล้อจะหมุนไปด้วยความเร็วใกล้กันทั้งล้อหน้าและหลัง ถ้าใช้บนถนนแห้งมันจึงอาจขืนพวงมาลัยได้ แต่ถ้าขับช้าๆก็ไม่เป็นไร เพียงแต่จะแปลกใจที่วงเลี้ยวมันกว้างขึ้น ปกติแล้วขับสี่พวกนี้ คนที่ไม่รู้ก็ใช้เวลาขึ้นเขาทั้งๆที่ถนนลาดยางและแห้งสนิท แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะได้กำลังใจ แต่ถ้าเป็นทางลูกรังละก็ดีเลยแม้จะแห้งและขึ้นเขา เพราะล้อมันจะฟรีได้จากตัวลูกรัง

ขับสี่อีกชนิดหนึ่งที่เป็น full time แบบของ ซูบารุ ใช้ได้ทั้งถนนแห้งและเปียก เพราะเป็นระบบของ เฟอร์กุสันที่ยอมให้ล้อหน้าหลังมีฟรีที่ตัวของแกนเพลาซึ่งมีซิลิโคน มันจึงต่างกันตรงวิ่งบนถนนแห้งสนิทได้



จาก ck  124.120.185.36  อังคาร, 2/1/2550 เวลา : 11:52   


คำตอบที่ 17
       ขับสี่ทางดำขึ้นเขาทำไปได้...ใครเขาบอก ที่พวกท่านคิดว่ามันเกาะถนนก็เพราะว่าล้อมันหน่วงกันทั้งสี่ล้อเลยมีความรู้สึกว่ามันเกาะถนนขึ้น แต่ไม่ใช่เลยเป็นอุปทานเท่านั้น
ผมขับ4WDมาขึ้นเขาจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน ไม่เคยใส่ 4 เลยก็เห็นมันวิ่งได้ ท่านที่ใช้เกียร์Low เป็นเพราะท่านไม่รู้จังหวะของรถท่านเอง หรือไม่งั้นก็รถไม่แรง..555 ดูอย่างรถชาวบ้านขนผักสิขับสองยังวิ่งกันฉิวเลย ท่านที่ขับสี่ขึ้นเขาลองไปฝึกใหม่น๊ะครับเกียร์จะได้อยู่กับเรานานเท่านาน....(ไม่เกี่ยวกับFull time น๊ะคร๊าบ)
ควรขับสี่เฉพาะทางลื่น หล่มโคลน น๊ะครับ เซียนทั้งหลาย




จาก ออฟโรดเหมือนกัน  203.144.139.225  พุธ, 3/1/2550 เวลา : 00:18   


คำตอบที่ 18
       อ่านมาแล้วขัดใจกับ คต.17 มากเลยครับ ใครเขาสอนคุณถึงได้บอกว่าขับสี่ไม่เกาะถนนดำครับ...แล้วดันไปบอกว่าใช้เฉพาะทางลื่นมันถึงจะเกาะ...มั่วมากๆ แค่คำตอบมันก็แย้งกันแล้ว...เวลาใช้ขับ4ทางดำนะ มันโคตรจะเกาะ เลยละ ก็ขนาดทางเปียกๆมันยังเกาะแล้วทางแห้งๆมันจะไม่เกาะหรือครับ..กลับไปคิดดูใหม่นะ....แล้วที่บอกว่าขับสองมันก็ขึ้นเขาได้ มันก็ถูกครับ...มอเตอร์ไซด์มันก็ขึ้นได้ครับ....ที่ใช้ 4H ก็เพราะให้มันช่วยออกแรงขึ้นดีกว่าขับสองครับ และขาลงทางชันมากๆก็ปรอดภัยกว่าด้วยครับ แล้วไอ้บ้าคนไหนมันจะซื้อรถราคาเกือบล้านบรรทุกได้น้อยมาขนผักครับคุณ...เขาก็ต้องเอารุ่นประหยัดตอนเดียวขับสองสิครับ....มีที่เคยเห็นนะ LN106 เก่าๆขับ4 มันวิ่งกันมานานแล้วครับ เดี๋ยวนี้มันไม่มีกระบะตอนเดียวขับ4ครับท่าน.....จะบอกอีกนิดหนึ่งว่าปกติรถขับสองรุ่นประหยัดเฟืองท้ายเป็นแบบ open diff. นะครับเวลาเลี้ยวก็สบายมากล้อในหยุดให้ล้อนอกหมุนไป ทำให้เลี้ยวได้แคบมากๆ....แต่รถขับ4ทั่วๆไปเฟืองหน้าจะเป็นแบบ open diff. การทำงานเหมือนเฟืองท้ายขับ2 แต่เฟืองท้ายรถขับ4 จะเป็น LSD นะครับ เวลาเลี้ยวมันล้อในมันจะฝืนหมุนตามล้อนอกตามแต่ % ของLSD ที่ตั้งไว้...ดังนั้นวงเลี้ยวมันจะมากสักหน่อย...ยิ่งถ้าขับ4ด้วยแล้วล้อหน้ามันช่วยปั่นด้วยวงเลี้ยวเลยมากขึ้นตามครับ......ที่ร่ายยาวมาไม่ได้บอกว่าขับ4หรือขับ2 ดีกว่านะ เพียงต้องการให้รู้ว่ามันต้องใช้ในเมื่อไหร่แบบไหนก็แล้วแต่ท่านสะดวก.....เพราะรับไม่ได้ที่มีคนบอกว่าขับ4ไม่เกาะถนนดำแค่นั้น.....แห้งๆมันบอกว่าไม่เกาะแล้วเปียกๆมันจะเหลืออะไรครับท่าน.....



จาก ขับ2ก็ได้ขับ4ก็ดี  202.183.197.135  พุธ, 3/1/2550 เวลา : 16:46   


คำตอบที่ 19
       ผมไม่ได้ใช้ขับสี่ซักครั้งที่ขับทางดำขึ้นเขา เห็นแต่มันเกาะถนนเหมือนกัน แค่อยากจะบอกว่าขับสองก็เหลือเฟือแล้วแค่นั้นเองคุณ คต.18 แต่เอ...แสดงว่าคุณก็ขับสี่ขึ้นเหมือนกันฃล่ะซิ...



จาก ออฟโรดเหมือนกัน  203.144.139.225  พุธ, 3/1/2550 เวลา : 20:19   


คำตอบที่ 20
       ใช้รถใช้ถนนมานาน จนอายุเกือบ 60 ท่องเที่ยวมาตลอดจนลูกโต (ไม่เคยเที่ยวแบบบทางออฟโรดนะครับ) ปัจุจุบันท่องเที่ยวกัน 2 คน ตากะยาย ไปเรื่อยๆที่มีทาง จนมาคบกับ เจ้าซูน้อยเมื่อปีที่แล้ว รู้สึกรักจนหลง ศึกษามาตลอด อยากรู้ความจริงเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ขับซูน้อยคันนี้มาขับตามความรู้สึกเดิมๆ 2 มั่ง 4 มั่ง ตามประสบการณ์ที่คิดว่าปลอดภัย แต่ขอให้ส่งความคิดเห็นเพื่อสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์แก่ชาว 4x4 ต่อไป



จาก ลุงแก่แลล้วขอ..  58.8.160.225  พุธ, 3/1/2550 เวลา : 20:52   


คำตอบที่ 21
       ใช้รถใช้ถนนมานาน จนอายุเกือบ 60 ท่องเที่ยวมาตลอดจนลูกโต (ไม่เคยเที่ยวแบบบทางออฟโรดนะครับ) ปัจุจุบันท่องเที่ยวกัน 2 คน ตากะยาย ไปเรื่อยๆที่มีทาง จนมาคบกับ เจ้าซูน้อยเมื่อปีที่แล้ว รู้สึกรักจนหลง ศึกษามาตลอด อยากรู้ความจริงเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ขับซูน้อยคันนี้มาขับตามความรู้สึกเดิมๆ 2 มั่ง 4 มั่ง ตามประสบการณ์ที่คิดว่าปลอดภัย แต่ขอให้ส่งความคิดเห็นเพื่อสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์แก่ชาว 4x4 ต่อไป ขอบคุณทุกๆ กระทู้ครับ



จาก ลุงแก่แลล้วขอ...ก่อน  58.8.160.225  พุธ, 3/1/2550 เวลา : 20:53   


คำตอบที่ 22
       เกาะถนนนี่อยู่จังหวัดอะไรครับนั่งเรือไกลอ๊ะป่าว แบบว่าล้อเล่นครับ ก็มีความรู้เรื่องรถกันทั้งนั้น ที่สำคัญสภาพยาง กับความเร็วต้องเหมาะสมด้วยนะครับ เจ้านาย



จาก ช่างยนต์ ป.โท  124.120.39.50  พุธ, 3/1/2550 เวลา : 21:30   


คำตอบที่ 23
       รถผมเป็น D4D 4WD 3000 Auto ขับสองตลอดเส้นทางที่เป็นถนนดำไม่ว่าจะชันแค่ไหน หรือแม้แต่ทางขึ้นป่าเกี๊ยะแม่ตะมาน หรือขุนแม่ยะเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา ใช้ 4 Hi กับ 4 Lo สำหรับเส้นทางชันๆ ที่รอบเครื่องเกิน 2000 รอบขึ้นไปเนื่องจากไม่อยากให้น้ำมันเกียร์ออโต้มันร้อน ต้องเสียเวลามานั่งรอ และใช้ 4 Lo เพื่อให้ล้อทั้งสี่ช่วยเป็น engine brake ตอนลงเขาชันๆ เพราะรถเกียร์ออโต้ต้องใช้เบรคเยอะตลอดเส้นทางกลัวว่าจะเกิดอาการเบรคเฟรดซะก่อน ไม่ต้องไปเที่ยวไหนกันพอดี
ขึ้นเขาชันๆ และมีหินลอยบางช่วงอย่างสันป่าเกี๊ยะกับขุนแม่ยะ
1. ขับสอง อัด 2000-3000 รอบเพื่อเรียกกำลังก็ขึ้นได้
2. ขับสี่ เติมคันเร่งเบาๆ เลี้ยงไว้แค่ 1000 กว่ารอบก็ขึ้นได้
ลองคิดดูว่า ข้อ 1 หรือข้อ 2 ที่เครื่องยนต์ถูกใช้งานหนักกว่ากัน ไม่ได้จะบอกว่าขับสองไม่ดีหรือขับสี่ไม่ต้องใช้ แต่อยากให้ใช้ข้อดีของทั้งขับ 2 หรือขับ 4 ให้เหมาะกับเส้นทางที่เราจะไปก็เท่านั้นเองครับ



จาก ไมเคิล หงอก  203.146.11.2  พฤหัสบดี, 4/1/2550 เวลา : 09:43   


คำตอบที่ 24
       อย่าไปเชื่อ คู่มือประจำรถครับ มันต้องโกหกเราแน่ๆ
เราเป็นคนขับจะโง่กว่าคนออกแบบและผลิตรถได้ยังไง

เราต้องฉลาดกว่าอยู่แล้ว
ดูสิอาวุธที่ทันสมัยที่สุดที่ใช้ปกป้องชาติไทย
ที่คนไทยคิดได้ก่อนใคร
คือบั้งไฟพญานาค
เอาไว้รบกับSAMของพม่า
55555
ยกหางตัวเองเข้าไว้ แล้วชาติไทยคงเจริญ



จาก 555555  124.120.202.38  พฤหัสบดี, 4/1/2550 เวลา : 17:41   


คำตอบที่ 25
       แถมอีกอย่าง
กรุณาเผาคู่มือประจำรถทิ้งครับไม่ว่ายี่ห้อไหน
รุ่นไหน
หรือไม่ก็โยนทิ้ง
แล้วใช้วิธีถามคนข้างบ้านแทน
ถึงวิธีดูแลและการขับรถ ที่ถูกวิธี




จาก 5555555  124.120.202.38  พฤหัสบดี, 4/1/2550 เวลา : 17:46   


คำตอบที่ 26
       เจ้าของกระทู้เขาแค่เตือนด้วยความหวังดีน่ะครับ ส่วนใครจะขับอย่างไรก็ไม่ว่ากัน แล้วแต่ความชำนาญและประสพการณ์แต่ละคน จริงไหมครับ



จาก kid  203.114.109.163  ศุกร์, 5/1/2550 เวลา : 22:08   


คำตอบที่ 27
       เห็นด้วยกับคำตอบที่ 18 เป็นอย่างสูง และที่รถขนผักทำไมไปได้ก้อพี่ๆเขาทดเฟืองนี่ครับเคยถามเขาดู หรือถ้าเขาไม่ทดเขาก้อไปได้เพราะเขาขับอยู่ประจำ รู้ line และมีทักษะการขับสูงกว่าไงครับ เมื่อก่อนผมก้อสงสัยว่าทำไมต้องไปเรียนขับ Off Road ด้วยจนวันหนึ่งผมเจอนักแข่ง Off Road มาขับรถผม ทำให้เข้าใจและเรียนรู้ได้มากและเข้าใจแล้วครับว่าทำไมเจ้าของโรงเรียนเขาถึงเปิด สวนพี่ๆหลายท่านไม่ได้เรียนแล้วขับเก่งๆก้อน่าเกิดจากการใช้งานด้วยความเข้าใจที่ถูก ทำให้ขับเนียนครับ ขอสนัสสนุนเซียนที่มีน้ำใจทุกท่านครับ



จาก 4X4  203.130.145.67  เสาร์, 6/1/2550 เวลา : 06:47   


คำตอบที่ 28
       ในโค้งแคบ เวลาขับสี่ ที่ถนนดำ ล้อที่อยู่ด้านในพยามที่จะหมุนตามวงนอกให้เท่ากัน มันจึงเกิดเสียงเอี๊ยดๆ เสียงนั่นคือ ยางด้านในเกิดอาการหมุนฟรีบนพื้นเพราะต้องหมุนเท่ากับวงนอก เสียงนี้ทำให้เกิดอะไร
1.ยางสึก โดยใช่เหตุ ข้อนี้คนรวยไม่ต้องสน
2.หน้ายางไม่เกาะกับพื้นถนน ข้อนี้สำคัญ เพราะรถรุ่นใหม่ๆที่ออกมา ล้วนคิดค้นพัฒนา ระบบควบคุมล้อไม่ให้หมุนฟรีหรือล้อไม่เกาะถนน ทั้งสิ้น ตั้งแต่ABS EDB หรือที่เรียกกันอีกหลายอย่าง
เพราะถ้าล้อหมุนฟรีหรือไม่เกาะถนนแล้ว มันก็ควบคุมไม่ได้นั่นเอง
รถใครรถมัน ชีวิตใครชีวิตมัน



จาก 555555  124.120.203.152  เสาร์, 6/1/2550 เวลา : 11:21   


คำตอบที่ 29
       แฮ่ๆๆ ขอแจมหน่อย เอาเป็นว่า ถนัดใครถนัดมันละกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในนั้น ต้องปลอดภัยไว้ก่อน ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันโดยเฉพาะความเร็ว ความแรงของรถและการเข้าโค้ง รถกระบะที่เขาใช้ในพื้นที่สูง ส่วนมากเขาเปลี่ยนเฟืองท้ายกันทั้งนั้น ลุงขับรถลุยมาจนอายุ60 เกือบตกเขามาหลายเที่ยวแล้ว บางทีลงจากรถมาขายังสั่นไม่หาย คิดดูละกันว่าทางไปแม่ฮ่องสอนเมื่อ30ปีก่อนโหดขนาดใหน เกือบไป แต่นับถือฝีมือคนขับรถเมล์เขาจริงๆ....



จาก D-ZAD.  125.25.192.62  พฤหัสบดี, 11/1/2550 เวลา : 08:06   


คำตอบที่ 30
       คห. ที่ 17 กับ 19 คิดได้ไงเนี่ย เหตุผลคนละทางเลย สงสัยคงมีความคิดว่าโลกแบนแน่ๆเลย แล้วยังจะมา เหน็บแนม แนะนำให้ คนอื่นเชื่อตามอีก



จาก Jo  203.144.217.229  พฤหัสบดี, 11/1/2550 เวลา : 15:40   


คำตอบที่ 31
       ผมมองว่าได้ความรู้ดี จากที่ท่านทั้งหลายวิจาร การขับ 4 ขับ 2 ส่วนตัวผม เอาแรงบิด กำลังเครื่อง มาประกอบกับสภาพเส้นทางนั้น ๆ แต่ที่แน่ๆ ก่อนจะเข้าไปลุย ผมจะเดินลงมาบิด LOCK HUB ที่ล้อให้พร้อมไว้เสมอ แล้วใช้ 2 H เมื่อเจอสภาพทางที่ไม่ลื่น ไม่ชันมากนัก และ 4 H เมื่อลื่น แต่ไม่ชันมากนัก แต่เมื่อเจอสภาพทางที่ ลื่น ชัน ผมจะเปลี่ยนไปใช้ 4 L ไม่จำเป็นต้องรีบกลับมาหา 4 H เพราะมีให้เล่นตั้ง 5 เกียร์ คงยังไมมีใครได้ลงเกียรที่ 5 แน่ ในทางลาดชัน
หลักการง่าย ๆ ใช้รอบเครื่องอยู่ที่เท่าไร ก็ใส่เกียรให้สัมพันธ์กัน รอบเครื่องไม่ตก ไม่ลั่น ไม่พัง อีกอย่างหนึ่งรถแต่ละคันอัตราทดเกียรไม่เหมือนกัน เครื่องมีแรงไม่เท่ากัน LSD คลัชความตึงไม่เท่ากัน น้ำหนักของรถก็มีส่วนในองประกอบ ช่วงล่าง ยาง ใจอีกล่ะ เห็นไหมว่าตั้งหลายอย่าง ผมให้คะแนนทุกท่านถูกทุกข้อ ถูกมาก กะถูกน้อย เจ้าของกระทู้ก็ถูก ที่ท่านเตือนเพราะทางที่มีโค้งแต่ผิวทางไม่ลื่นยางติดหนึบ ชุดคลัชแรงบิด LSD มันจับคู่ไม่ยอมเฉลี่ยให้ อาการก็มี ตีวงกว้าง ที่ล้อเต้นมีเสียงดัง เพลาหัก ตกเขา คลัชแตก เลือกกันเอาเองแล้วกันครับ ขอให้โชคดีทุกคน



จาก เอก ดอนเมือง  124.121.160.139  พฤหัสบดี, 11/1/2550 เวลา : 23:13   


คำตอบที่ 32
       เพิ่มเติมให้เห็นภาพชัด ที่กล่าวถึง LSD คือ ชุดคลัชที่เฟืองขับหน้า หรือหลัง ที่รถยี่ห้อนั้นระบุ ลิมิเต็ด สลิป
"ลิมิเต็ด สลิป" หรือ L.S.D. (LIMITED SLIP DIFFERENTIAL) จึงเข้ามาเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง โดยชุด L.S.D. จะทำหน้าที่เหมือน DIFFERENTIAL ทั่วไป คือการเฉลี่ยกำลังแบ่งส่งไปให้เพลาข้างซ้ายและขวาตามปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ความเร็วของเพลาข้างซ้ายและขวาต่างกันมาก และมีแรงกระชากที่รุนแรง คือมีการเร่งเครื่องมาก ชุดคลัตช์ที่อยู่ภายใน L.S.D. จะกดล็อกชุดเฟืองดอกจอก ทำให้ความเร็วของเพลาข้างซ้ายและขวาแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ทำให้ล้อทั้งสองข้างมีกำลังในการขับเคลื่อนเท่าๆกัน ก็จะทำให้รถเคลื่อนตัวผ่านอุปสรรคไปได้ ซึ่งการที่คลัตช์จะจับมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรงของการกระชาก คือ ยิ่งเร่งเครื่องมาก คลัตช์ยิ่งจับแรง
"ลิมิเต็ด สลิป" หรือ L.S.D. นั้นจะแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ลักษณะ คือ

1 WAY นิยมใช้กับรถยนต์ทั่วไป ที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) สามารถบังคับรถได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ทั่วไป และเหมาะกับการใช้บนถนน L.S.D. ชนิดนี้คลัตช์จะจับเฉพาะตอนเร่งเท่านั้น หากถอนคันเร่ง คลัตช์จะไม่จับ ทำให้การเลี้ยววงแคบเป็นไปตามปกติ

1.5 WAY นิยมใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) เพื่อการแข่งขัน โดย L.S.D. ชนิดนี้ คลัตช์จะจับตอนเร่ง และเมื่อถอนคันเร่งจะจับเพียงครึ่งเดียว ทำให้เร่งออกจากโค้งได้เร็ว

2 WAY จะนิยมใช้ในรถขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) เพื่อการแข่งขัน เนื่องจาก L.S.D. ชนิดนี้จะจับทั้งตอนเร่งและตอนถอนคันเร่ง ทำให้ง่ายต่อการบังคับรถ และช่วยให้ควบคุมรถในทางโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก็คงต้องเลือกกันให้เหมาะสมกับรถและการใช้งานแหละครับ...สำหรับพวกเราชาวออฟโรดขาลุยก็คงต้อง 2 WAY L.S.D. !
คอลัมน์ EQUIPMENT ขอขอบคุณความรู้จาก หนังสือ OFF ROAD






จาก เอก ดอนเมือง  124.121.160.139  พฤหัสบดี, 11/1/2550 เวลา : 23:28   


คำตอบที่ 33
       ผมขับขึนเขากระโจม ราชบุรี / นำตกเจ็ดมิตร ทองผาภูมิ
ใช้ 4l/4h เป็นบางช่วงไม่จำเป็นต้องเข้า FULL TIME 2h ก๊วิ่งได้ ดูถนนที่วิ่งเป็นหลัก จะช่วยประหยัดมาก



จาก TOMMY  210.1.18.252  อาทิตย์, 14/1/2550 เวลา : 01:38   


คำตอบที่ 34
       เจ้าของกระทู้เขาแค่เตือนด้วยความหวังดีน่ะครับ ส่วนใครจะขับอย่างไรก็ไม่ว่ากัน แล้วแต่ความชำนาญและประสพการณ์แต่ละคน ตั้งสติก่อนสตาร์ทนะครับ ใช้ความเร็วที่เหมาะสมในการวิ่งครับ ทุกคำตอบมีประโยช์มากครับดีทุกท่าน สังคมจะดีขึ้นถ้ารักกันไว้



จาก อโยธยา  203.146.154.206  จันทร์, 15/1/2550 เวลา : 16:50   


คำตอบที่ 35
       คือ การแลกเปลี่ยนความคิดกันเป็นเรื่องที่ดี
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เราคงไม่สามารถเอาความรู้สึกอย่างเดียวมาตัดสิน เพราะอาจก่อให้เกิด อันตรายอันคาดไม่ถึง ดังนั้นเราควรศึกษาถึงหลักความจริงอันเป็นเหตุและผล เพื่อนำไปประยุกต์ในการใช้งานรถของท่าน น่าจะได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้นนะครับ

อย่างงานเขียนของอาจารย์วอน บอร์ดปาเจโร่ ที่หลายคนใช้เป็นครูในการเรียนรู้นะครับ
เช่น
ยางเป็นตัวสร้างแรงยึดเกาะระหว่ารถกับถนน(Traction) ระบบ 4x4 ไม่เกี่ยว



แรงบิดสำคัญกว่าแรงม้า แต่แรงบิดจะไม่มีประโยชน์ถ้ามันถ่ายลงพื้นไม่ดี อันนี้คงไม่มีใครกล้าบอกว่าไม่จริง เพื่อนที่ดีของคนขับรถคือยางเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อระบบควบคุมทิศทางจากพวงมาลัยลงพื้น เชื่อมต่อพลังงานจากระบบขับเคลื่อนลงพื้น แต่คนส่วนมากมักจะทำไม่ดีกับเพื่อนที่ดี มันเป็นธรรมดาของโลก เราจะลืมเติมลมให้มัน ลืมที่จะดูว่ามีอะไรแปลกปลอมไปทิ่มแทงจนมันลมน้อยลงหรือเปล่า จนมันแบบนแล้วจึงจะสำนึกว่าไม่ได้ดูแลเพื่อนที่ดีนี้เลย


ในระบบ 4x4 แบบ part time แรงกระทำทั้ง 4ล้อจะเท่ากัน แต่แรงยึดเกาะของหน้ายางจะไม่เท่ากัน ใช่ครับผมพิมพ์ไม่ผิดหรอก แรงกระทำเท่ากันแต่การยึดเกาะไม่เท่ากัน เพราะน้ำหนักกดหน้ายางมันเท่ากันที่ไหน ล้อซ้ายกับขวาถ้ามันไปปีนกรวดขอบทางก็ยึดเกาะไม่เท่ากันแล้ว ดังนั้นมันจะพยายามปั่นฟรีทิ้งออกไ แต่เพลาขับมันดิ้นไม่ออกจาก windup effect ของเพลากลางที่แบ่งแรง 50-50 มันเลยไปตะกุยที่อีกสามล้อแทนทำให้รถเซบ้างแต่ก็ยังวิ่งต่อไปได้



แต่ full time 4x4 แรงกระทำทั้งสี่ล้อจะไม่เท่ากันถ้าเกิดกรณีดังกล่าวเพราะ center differential มันจะฟรีตัวเพลาขับข้างที่ลื่นไปส่งให้ข้างที่ฝืดแทน ทำให้การเซน้อยลง คุมได้ง่ายขึ้น บ้างครั้งฟรีตัวหน้าหลังได้ถึง 20-80 ก็ยังได้



รถสปอร์ทแรงๆก็เป็นระบบ 4x4ทั้งนั้นเพื่อลดขนาดของยางให่ใช้หน้าที่เล็กลงได้ และการเอาม้าลงถนนเป็นร้อยตัวถ้าหารม้าเป็นสี่ขาแทนที่เป็นสองขา ยางก็ยังรับมือไหวไม่ควันโขมงฟรีล้อดังไปทั้งถนน


แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ระบบอะไรก็ไม่เกี่ยวกับการสร้างแรงยึดเกาะ เป็นเรื่องของน้ำหนักกดหน้ายางกับความผืดของถนนเท่านั้น แล้วที่จุดนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่


ปัญหาใหญ่จริงๆครับของรถขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 50-50 คือมันวิ่งบนถนนดำตอนแห้งไม่ได้


ทำไมถึงสับ 4x4 วิ่งบนถนนดำแห้งไม่ได้ สำหรับคนที่บอกว่าสับแล้ววิ่งได้ ไม่พัง นิมนต์พระคุณท่านให้เลิกอ่านกระทู้ขี้วัวแบบกระทู้ของผมไปเลยนะครับ ถ้าเห็นด้วยกับผมว่าไม่ได้ก็เชิญอ่านต่อ



จากที่รู้กันแล้วว่า central differential gear มันปรับตัวได้ให้แบ่งแรงหน้าหลัง ตามอัตตราส่วนของแรงยึดเกาะ ไม่มีการ winding effect หรือการงัดกันของเพลา (ไชโย.... กงศุลใหญ่ของผมแปลเป็นไทยให้ได้แล้ว) ให้เกิดการเสียหายของระบบขับเคลื่อน ไม่มีการดื้อโค้ง ไม่ลื่นออกข้างหรือปลิ้นโค้ง ส่งแรงมาที่ล้อเต็มกำลังเครื่องตลอดเวลานั่นเป็นข้อดีของ Full time 4x4



เต็มกำลังเครื่องนะครับ อย่าสับสน ไม่ใช่เต็มกำลังของการยึดเกาะนะครับ ไม่อย่างนั้นผมไม่กล้าบอกก่อนหรอกว่า Part time 4x4 เป็นราชาของป่าและทะเลทราย

จากรูป ความเร็ว A+B ไม่เท่ากับ C+D แต่ A+B คือความเร็วเพลาหน้า C+Dคือควาเร็วเพลาหลัง แต่การแบ่งแรงของ Part time มัน 50-50 ดังนั้นมันจึงเกิดอาการเพลางัดหรือ winding effect ขึ้น และมันจะดื้อโค้งสุดๆ เนื่องจากล้อหน้าจะไปเร็วกว่าล้อหลังตอนเข้าโค้ง แต่เพลาหน้าโดนเพลาหลังดึงความเร็วอยู่ดังนั้นล้อหน้าโดนดึงโดยล้อนอกโค้งจะลากพื้น


ถ้าอยากจะลองแบบเห็นกันจะๆก็ใส่4x4 จอดรถแล้วหักเลี้ยว แล้วถอนคลัท จะรู้ได้ทันทีว่าต้องให้กำลังสูงกว่าปกติที่จะทำให้รถเคลื่อนตัวล้อหลังมันต้องงัดล้อหน้าเกิดแรงแก่ชุด Transfer Gear แบบมหาศาล


เอาล่ะคราวนี้รู้แล้วว่า Part time 4x4 มันใช้บนถนนดำไม่ได้ ถ้าเป็นถนนดินมันปลิ้นตัวลื่นได้ดีกว่าล้อมันจะฟรีช่วยตอนเข้าโค้งดังนั้นมันจะไม่พังแต่การยึดเกาะยังเกือบเต็มร้อยเหมือนเดิม คือฟรีคู่หน้าตัวใดตัวหนึ่งอีกสามล้อที่เหลือยังอยู่ฟรีคู่หลังตัวใดตัวหนึ่งอีกสามล้อยังเหลือ แล้วเหลือแบบเท่ากันเสียด้วย นี่คือความลับของราชาแห่งป่าที่ full time 4x4 ได้แต่แอบมองด้วยความอิจฉา





และอ่านรายละเอีนดเต็มๆได้
http://www.weekendhobby.com/offroad/pajero/Questionold.asp?ID=2544



จาก สมควร  202.57.170.89  พุธ, 17/1/2550 เวลา : 12:06   


คำตอบที่ 36
       รูปประกอบครับ





จาก สมควร  202.57.170.89  พุธ, 17/1/2550 เวลา : 12:10   


คำตอบที่ 37
       ขับสองล้อก้อขึ้นเขาได้คับ แล้วแต่ความชันและจังหวะส่งของรถ เหมือนรถจอดอยู่เฉยจะให้วิ่งปู๊ดขี้นเขาได้ไง แต่ถ้าขับมาด้วยความเร็ว 40-60 ขึ้นได้สบาย ๆ รักษาระดับรอบเครื่องไว้ให้อยู่ที่ 2500-3000 รอบ ใช้เกียรต่ำไว้ ไม่ว่าจะ ขี้นหรือว่าลงเขา ไม่เกินเกียร 3 แต่ถ้าเส้นยากลำบากมากๆ ก้อใช้เกียร์ 4WD จะดีกว่าคับ ไม่ต้องกัวการสึกหรอของเครื่องยนต์หรอกคับ เพราะถ้าคุณใช้ 2 WD ขึ้นเขาแล้วเครื่องทำงานหนักๆ นานๆ เครื่องจะ Over Load และพังก่อนถึงจะหมายปลายทางคับ และเรื่องกลัวว่าจะกินน้ำมันก้อไม่ต้องกลัวคับ ถ้าเจอเส้นทางโหดๆ ไม่ว่ารถอะไรก้อกินคับ ก้อรอบเครื่องสูงเกิน 3000 รอบไม่ให้กินได้ไง ...



จาก Nakronpathom-Mahongson  158.34.240.22  พุธ, 17/1/2550 เวลา : 15:28   


คำตอบที่ 38
       ชีวิตใครชิวิตมันครับ
ลูกเมียใครก็ลูกเมียมัน
ไม่รักก็ช่างมัน

เลยใช้แต่ความรู้สึก โดยไม่มีความรู้

อย่าแหกโค้งตกเหว ลงมาเกะกะคนอื่นแล้วกัน

เจอมาเยอะครับ ความรู้ข้างวงเหล้า
เมาแล้วรู้มากกว่า คนสร้างรถ



จาก สักวันจะรู้สึก  203.144.193.61  พฤหัสบดี, 18/1/2550 เวลา : 19:36   


คำตอบที่ 39
       ผมมาจากคำตอบที่ 16 อยากจะอธิบายเพิ่มเติม อย่างที่บอกแล้วว่าขับ4 partime น่ะ ล้อหน้าและล้อหลังมันถูกล๊อกให้หมุนเกือบจะเท่ากัน แต่ในทางปฏิบัติล้อมันต้องหมุนต่างกันโดยเฉพาะเวลาเลี้ยว มันจึงขืนกัน ถ้าถนนแห้งล้อมันเกาะถนนไม่ฟรี มันจึงไปขืนที่เฟืองข้างใน ทำให้สึกหรอและขืนพวงมาลัย แต่โดยทั่วไปก็มักจะขับกันไม่เร้วช่วงขับสี ขึ้นเขาลงเขา มันจึงไม่เป็นไร หลายคนจึงคิดว่ามันเกาะ ก็เพราะมันหน่วงล้อกว่าขับสอง พอถอนคันเร่งรถก็ดึงเลย แต่จริงๆแล้วควรขับสอง แต่ถ้าถนนเปียกหรืออยู่บนทางลูกรังล้อมันฟรีกับถนนได้มันเลยไม่ขืนเฟืองข้างใน ส่วนขับสี่ full time แบบซูบารุมัมีฟรีได้ภายใน มันจึงวิ่งเร็วได้ ใช้แข่งความเร็วได้ ถ้าคุณเอาขับสี่ partime มาแข่งมันจะแหกโค้งได้เก่งมาก แต่ถ้าแข่งปารีสดักการ์ พื้นส่วนใหญ่เป็นทรายก็พอทน แต่ขับสี่ full time แบบซูบารุจะเอามาลุยหนักแบบทุ่งใหญ่ก็ไม่ใหว เพราะฉะนั้นก็อย่าทะเลาะกันเลยนะ อยากขับสี่ขับสองก็ขับไปเถอะ ถ้าพอใจ รถใครก็รถมัน แล้วก็ไม่ต้องมาเถียงผมหรอก เพราะผมคำนวนเฟืองขับสี่ล้อให้ ฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรีอยู่ พอดีกล้บมาเยี่ยมบ้านเห็นเถียงกันอยู่ได้



จาก ck  124.120.189.219  พฤหัสบดี, 18/1/2550 เวลา : 20:55   


คำตอบที่ 40
       ผมมาจากคำตอบที่ 16 อยากจะอธิบายเพิ่มเติม อย่างที่บอกแล้วว่าขับ4 partime น่ะ ล้อหน้าและล้อหลังมันถูกล๊อกให้หมุนเกือบจะเท่ากัน แต่ในทางปฏิบัติล้อมันต้องหมุนต่างกันโดยเฉพาะเวลาเลี้ยว มันจึงขืนกัน ถ้าถนนแห้งล้อมันเกาะถนนไม่ฟรี มันจึงไปขืนที่เฟืองข้างใน ทำให้สึกหรอและขืนพวงมาลัย แต่โดยทั่วไปก็มักจะขับกันไม่เร้วช่วงขับสี ขึ้นเขาลงเขา มันจึงไม่เป็นไร หลายคนจึงคิดว่ามันเกาะ ก็เพราะมันหน่วงล้อกว่าขับสอง พอถอนคันเร่งรถก็ดึงเลย แต่จริงๆแล้วควรขับสอง แต่ถ้าถนนเปียกหรืออยู่บนทางลูกรังล้อมันฟรีกับถนนได้มันเลยไม่ขืนเฟืองข้างใน ส่วนขับสี่ full time แบบซูบารุมัมีฟรีได้ภายใน มันจึงวิ่งเร็วได้ ใช้แข่งความเร็วได้ ถ้าคุณเอาขับสี่ partime มาแข่งมันจะแหกโค้งได้เก่งมาก แต่ถ้าแข่งปารีสดักการ์ พื้นส่วนใหญ่เป็นทรายก็พอทน แต่ขับสี่ full time แบบซูบารุจะเอามาลุยหนักแบบทุ่งใหญ่ก็ไม่ใหว เพราะฉะนั้นก็อย่าทะเลาะกันเลยนะ อยากขับสี่ขับสองก็ขับไปเถอะ ถ้าพอใจ รถใครก็รถมัน แล้วก็ไม่ต้องมาเถียงผมหรอก เพราะผมคำนวนเฟืองขับสี่ล้อให้ ฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรีอยู่ พอดีกล้บมาเยี่ยมบ้านเห็นเถียงกันอยู่ได้



จาก ck  124.120.189.219  พฤหัสบดี, 18/1/2550 เวลา : 20:56   


คำตอบที่ 41
       ผมมาจากคำตอบที่ 16 อยากจะอธิบายเพิ่มเติม อย่างที่บอกแล้วว่าขับ4 partime น่ะ ล้อหน้าและล้อหลังมันถูกล๊อกให้หมุนเกือบจะเท่ากัน แต่ในทางปฏิบัติล้อมันต้องหมุนต่างกันโดยเฉพาะเวลาเลี้ยว มันจึงขืนกัน ถ้าถนนแห้งล้อมันเกาะถนนไม่ฟรี มันจึงไปขืนที่เฟืองข้างใน ทำให้สึกหรอและขืนพวงมาลัย แต่โดยทั่วไปก็มักจะขับกันไม่เร้วช่วงขับสี ขึ้นเขาลงเขา มันจึงไม่เป็นไร หลายคนจึงคิดว่ามันเกาะ ก็เพราะมันหน่วงล้อกว่าขับสอง พอถอนคันเร่งรถก็ดึงเลย แต่จริงๆแล้วควรขับสอง แต่ถ้าถนนเปียกหรืออยู่บนทางลูกรังล้อมันฟรีกับถนนได้มันเลยไม่ขืนเฟืองข้างใน ส่วนขับสี่ full time แบบซูบารุมัมีฟรีได้ภายใน มันจึงวิ่งเร็วได้ ใช้แข่งความเร็วได้ ถ้าคุณเอาขับสี่ partime มาแข่งมันจะแหกโค้งได้เก่งมาก แต่ถ้าแข่งปารีสดักการ์ พื้นส่วนใหญ่เป็นทรายก็พอทน แต่ขับสี่ full time แบบซูบารุจะเอามาลุยหนักแบบทุ่งใหญ่ก็ไม่ใหว เพราะฉะนั้นก็อย่าทะเลาะกันเลยนะ อยากขับสี่ขับสองก็ขับไปเถอะ ถ้าพอใจ รถใครก็รถมัน แล้วก็ไม่ต้องมาเถียงผมหรอก เพราะผมคำนวนเฟืองขับสี่ล้อให้ ฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรีอยู่ พอดีกล้บมาเยี่ยมบ้านเห็นเถียงกันอยู่ได้



จาก ck  124.120.189.219  พฤหัสบดี, 18/1/2550 เวลา : 20:56   


คำตอบที่ 42
       ผมมาจากคำตอบที่ 16 อยากจะอธิบายเพิ่มเติม อย่างที่บอกแล้วว่าขับ4 partime น่ะ ล้อหน้าและล้อหลังมันถูกล๊อกให้หมุนเกือบจะเท่ากัน แต่ในทางปฏิบัติล้อมันต้องหมุนต่างกันโดยเฉพาะเวลาเลี้ยว มันจึงขืนกัน ถ้าถนนแห้งล้อมันเกาะถนนไม่ฟรี มันจึงไปขืนที่เฟืองข้างใน ทำให้สึกหรอและขืนพวงมาลัย แต่โดยทั่วไปก็มักจะขับกันไม่เร้วช่วงขับสี ขึ้นเขาลงเขา มันจึงไม่เป็นไร หลายคนจึงคิดว่ามันเกาะ ก็เพราะมันหน่วงล้อกว่าขับสอง พอถอนคันเร่งรถก็ดึงเลย แต่จริงๆแล้วควรขับสอง แต่ถ้าถนนเปียกหรืออยู่บนทางลูกรังล้อมันฟรีกับถนนได้มันเลยไม่ขืนเฟืองข้างใน ส่วนขับสี่ full time แบบซูบารุมัมีฟรีได้ภายใน มันจึงวิ่งเร็วได้ ใช้แข่งความเร็วได้ ถ้าคุณเอาขับสี่ partime มาแข่งมันจะแหกโค้งได้เก่งมาก แต่ถ้าแข่งปารีสดักการ์ พื้นส่วนใหญ่เป็นทรายก็พอทน แต่ขับสี่ full time แบบซูบารุจะเอามาลุยหนักแบบทุ่งใหญ่ก็ไม่ใหว เพราะฉะนั้นก็อย่าทะเลาะกันเลยนะ อยากขับสี่ขับสองก็ขับไปเถอะ ถ้าพอใจ รถใครก็รถมัน แล้วก็ไม่ต้องมาเถียงผมหรอก เพราะผมคำนวนเฟืองขับสี่ล้อให้ ฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรีอยู่ พอดีกล้บมาเยี่ยมบ้านเห็นเถียงกันอยู่ได้



จาก ck  124.120.189.219  พฤหัสบดี, 18/1/2550 เวลา : 20:56   


คำตอบที่ 43
       ดีครับ ออกมาให้ความรู้จริงๆกับเพื่อนๆอย่างนี้ดีครับ
ผมเบื่อความรู้ที่มีมาจากความคิดเห็นในนี้ เต็มทีแล้ว



จาก 555  124.120.199.214  ศุกร์, 19/1/2550 เวลา : 08:36   


คำตอบที่ 44
       ล่อเป้า



จาก ono  58.181.205.106  อาทิตย์, 28/1/2550 เวลา : 23:44   


คำตอบที่ 45
       ผมอ่านมาทั้งหมดนี้ ไม่เห็นว่ามีใครเข้าใจระบบขับเคลื่อน
4 ล้อแบบ part time จริงๆ เลยสักคน ก็ขอให้เข้าใจจุด
ประสงค์ของการผลิตตรงนี้ขึ้นมาก่อนนะครับ ว่าระบบขับ
เคลื่อน 4 ล้อนี้สร้างขึ้นมาเพื่อไว้ผ่านอุปสรรคที่ไม่สามารถ
ผ่านไปได้ตามปกติของรถขับ 2 เท่านั้นแต่ต้องไปอย่างมี
การจำกัดความเร็ว

ดังนั้นจึงต้องเข้าใจว่าเมื่อมีอุปสรรคที่รถขับ 2 ไม่สามารถ
ผ่านไปได้ เช่น หลุมลึก หล่มโคลน ขอนไม้เตี้ย หรืออื่นๆ
และหากเป็นรถที่มีระบบขับ 4 ที่จะผ่านอุปสรรคจุดเดียว
กันนี้จะเคลื่อนผ่านไปได้แต่ต้องไปอย่างช้า ๆ คงไม่ใช่วิ่ง
มาอย่างเร็วนะครับ ไม่งั้นส่วนอื่นของรถก็พังก่อน

ที่นี้มาถึงการขึ้นดอยชันไม่ควรใส่ขับ 4 เพราะกลัวการฝืน
ของพวงมาลัย นั้นก็ถูกต้อง คงเป็นเพราะมีประสบการณ์
ไปเจอถนนดำขึ้นเขาและมีทางโค้งแคบชัน ทำให้กลัวแหก
โค้งลงเหวเนื่องจากวงเลี้ยวกว้าง ถูกต้องครับไม่ควรใส่

แต่ถ้ารถแบบน้ำหนักมากขึ้นไม่ไหว ล้อไม่ฟรีแต่เครื่อง
มันจะตีกลับแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนขับว่า
โค้งแคบขนาดนี้รถใส่ขับ 4 เลี้ยวพอมั๊ย หักมากก็เพลา
ขาดเนื่องจากล้อฝืนกัน (หากล้อมันสามารถฟรีกับผิวถนน
ได้เพลาจะไม่ขาด) อันนี้เป็นประสบการณ์บางคนปลดฟรี
ล๊อกหน้า ก็สามารถเลี้ยวแคบได้ แต่ถ้าเป็นออโต้ล๊อกละ
มันปลดไม่ได้ทำงัย ก็ต้องใส่อยู่ดีแต่ต้องไปอย่างช้า ๆ
เพื่อให้การควบคุมรถมันง่ายขึ้นก็เท่านั้น

แต่ถ้าเป็นทางชันโค้งแคบ เป็นโคลนละ ยังงัยก็ต้องขับ 4
ครับ แล้วเดินหน้าถอยหลังเพื่อแก้ปัญหา รถขับ 2 ไม่ต้องพูดขึ้นไม่ได้อยู่แล้ว


แล้วถ้าเป็นถนนดำทางเรียบแห้งละครับ คุณสามารถใส่ขับ
4 ได้แต่ต้องไม่เร็วเกินพิกัด เนื่องล้อมันฝืนกันอยู่ อย่างมี
บางกระทู้บอกว่ามันหมุนไปเท่ากัน นั้นถูกต้องครับ ถ้าคุณ
ขับประมาณ 80 จะรู้สึกว่ามันเกาะดีมากเลย เลี้ยวไปทาง
ไหนรถไปทางนั้นเป็นโค้งกว้าง ก็เนื่องจากว่าล้อหน้ามัน
ตะกุยพาไปด้วย แต่ถ้าเร็วสัก 120 สักพักประเดี๋ยวคุณอาจ
จะเอาหลังคาวิ่งแทนพื้น อย่างเบาะก็เสื้อเกียร์แตก การใส่
ขับ 4 ในกรณีนี้ เฟืองสีกหรออย่างมากครับ ไม่มีประโยชน์
อะไรเลย นอกจากระบบขับ 4 ของคุณจะเป็นของเฟอกูสั้น
หรือในระบบของจี๊บแกรนด์

แล้วถ้าเป็นทางดำถนนลื่นละแบบว่ามีเมือกลื่นบนทางเป็น
ระยะแบบนี้ค่อยดีหน่อย ความสึกหรอของเฟืองเกียร์น้อยลง เนื่องล้อให้ตัวได้ไม่เกาะถนนมาก ซึ่งมันคุ้มค่ากับความ
ปลอดภัยที่จะใส่ขับ 4 แต่ทางที่ดีควรขับ 2 ไปอย่างช้า ๆ
ถ้าเป็นคนรักรถถนนเฟือง หรือไม่มีอะไรเร่งด่วน

แล้วถ้าเป็นทางลูกรังร่วน หรือหินลอย แบบนี้เหมาะสม
อย่างมากที่จะใส่ขับ 4 ถ้าต้องการทำความเร็ว เพราะ
เฟืองไม่สึกมากรับได้ เนื่องจากล้อสามารถฟรีไถลไปกับ
พื้นได้บางจังหวะที่มีการฝืนของล้อ และรถจะเกาะอย่าง
มากถ้าเทียบกับขับ 2 ยิ่งขับประมาณ 80 จะเห็นความ
แตกต่างระหว่างขับ 4 กับ 2 อย่างได้ชัดเจน บางโค้ง
คุณจะเห็นว่าขับ 2 แหกไลน์ออกไป แต่ขับ 4 หนึบ
ยังกับตุ๊กแก และยิ่งขับเร็วเกิน 100 ขึ้นไป สักพักคุณอาจ
จะมีประสบการณ์เสื้อเกียร์แตกกระจาย

แต่ที่ตรงจุดประสงค์ของขับ 4 ที่สุดคือ การขับผ่าน
อุปสรรคไปอย่างช้า ๆ เท่านั้น รองลงมาก็ในกรณี
ทางลูกรังร่วน หินลอย ซึ่งก็ยังไม่แนะนำให้ขับเร็ว
เกิน 80 กม ใน 4H

เออลืมบอกไป คนสร้างขับ 4 ที่เราซื้อมาขี่เล่นกันนี้
เขาวานมาบอกให้พวกเราทราบว่าผมทดลองระหว่างทำ
การผลิตย่อมรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร แต่บางครั้งเราก็
สามารถแหกคอกข้อห้ามนั้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่
มันก็ต้องแลกกับความสีกหรออย่างมากหรือต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุจากข้อจำกัดบางประการข้อมันเช่นการมีวงเลี้ยว
กว้างของขับ 4 ในโค้งแคบ เขาพูดเป็นญี่ปุ่นครับ ส่วนผม
ได้แต่นั่งฟัง พอเห็นกระทู้ก็เลยเอามาเล่าให้ฟังครับ




จาก md  203.156.34.235  เสาร์, 3/2/2550 เวลา : 22:02   


คำตอบที่ 46
       ผมอ่านมาทั้งหมดนี้ ไม่เห็นว่ามีใครเข้าใจระบบขับเคลื่อน
4 ล้อแบบ part time จริงๆ เลยสักคน ก็ขอให้เข้าใจจุด
ประสงค์ของการผลิตตรงนี้ขึ้นมาก่อนนะครับ ว่าระบบขับ
เคลื่อน 4 ล้อนี้สร้างขึ้นมาเพื่อไว้ผ่านอุปสรรคที่ไม่สามารถ ผ่านไปได้ตามปกติของรถขับ 2 เท่านั้นแต่ต้องไปอย่างมี การจำกัดความเร็ว

คำตอบเหตุผลไม่เพียงพอถ้าท่านเป็นคนทดสอบหรือผู้ผลิต

สวัสดีคุณ MD ผมอ่านข้อความของคุณแล้วก็ดี บางอย่างบางตอนขัดกับความเป็นจริง ถ้าคุณเป็นคนออกแบบ ผมเป็นผู้ใช้ คุณออกแบบมาให้ผมคลานต้วมเตี้ยม ผมคงไม่ซื้อมาใช้แน่ และคุณว่าท่านอื่นไม่เข้าใจระบบขับ 4WD สักกระทู้ ท่านเองหน้าจะอธิบายได้ดีกว่านี้พร้อมเหตุและผลทางด้านเทคนิคประกอบ

ขับ2wd หรือ 4wd ไม่จำกัดความเร็ว ผมขับ 01-160 KM เต็มๆ ตามสภาพรถ ผิวทาง เครื่องยนต์ (ถ้าทดสอบ) ผู้ขับจำเป็นต้องมีประสปกสรณ์ มีการปรับแต่งระบบช่วงล่างและเข้าใจระบบอย่างถ่องแท้

ถ้าผมจะขับ 4 hi บนถนนดำ สูงชันแคบ ด้วยแรงม้าเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า 170 ตัว หรือมากกว่า รอบเครื่องยนต์ 4500-6000 RPM ขับแบบ Drift ทั้งยกล้อหน้าหลัง ทั้งสาดโค้ง ด้วยความตั้งใจ ก็ย่อมทำได้ ทุกกระทู้ให้ความรู้ และถ่ายทอดประสปการณ์ หลายท่าน ให้ความรู้พร้อมเหตุผลที่ดีมากๆ






จาก MBA  124.121.159.122  อาทิตย์, 4/2/2550 เวลา : 15:52   


คำตอบที่ 47
       ผมอ่านมาทั้งหมดนี้ ไม่เห็นว่ามีใครเข้าใจระบบขับเคลื่อน
4 ล้อแบบ part time จริงๆ เลยสักคน ก็ขอให้เข้าใจจุด
ประสงค์ของการผลิตตรงนี้ขึ้นมาก่อนนะครับ ว่าระบบขับ
เคลื่อน 4 ล้อนี้สร้างขึ้นมาเพื่อไว้ผ่านอุปสรรคที่ไม่สามารถ ผ่านไปได้ตามปกติของรถขับ 2 เท่านั้นแต่ต้องไปอย่างมี การจำกัดความเร็ว

คำตอบเหตุผลไม่เพียงพอถ้าท่านเป็นคนทดสอบหรือผู้ผลิต

สวัสดีคุณ MD ผมอ่านข้อความของคุณแล้วก็ดี บางอย่างบางตอนขัดกับความเป็นจริง ถ้าคุณเป็นคนออกแบบ ผมเป็นผู้ใช้ คุณออกแบบมาให้ผมคลานต้วมเตี้ยม ผมคงไม่ซื้อมาใช้แน่ และคุณว่าท่านอื่นไม่เข้าใจระบบขับ 4WD สักกระทู้ ท่านเองหน้าจะอธิบายได้ดีกว่านี้พร้อมเหตุและผลทางด้านเทคนิคประกอบ

ขับ2wd หรือ 4wd ไม่จำกัดความเร็ว ผมขับ 01-160 KM เต็มๆ ตามสภาพรถ ผิวทาง เครื่องยนต์ (ถ้าทดสอบ) ผู้ขับจำเป็นต้องมีประสปกสรณ์ มีการปรับแต่งระบบช่วงล่างและเข้าใจระบบอย่างถ่องแท้

ถ้าผมจะขับ 4 hi บนถนนดำ สูงชันแคบ ด้วยแรงม้าเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า 170 ตัว หรือมากกว่า รอบเครื่องยนต์ 4500-6000 RPM ขับแบบ Drift ทั้งยกล้อหน้าหลัง ทั้งสาดโค้ง ด้วยความตั้งใจ ก็ย่อมทำได้ ทุกกระทู้ให้ความรู้ และถ่ายทอดประสปการณ์ หลายท่าน ให้ความรู้พร้อมเหตุผลที่ดีมากๆ






จาก MBA  124.121.159.122  อาทิตย์, 4/2/2550 เวลา : 15:52   


คำตอบที่ 48
      





จาก MBA  124.121.159.122  อาทิตย์, 4/2/2550 เวลา : 15:53   


คำตอบที่ 49
      





จาก MBA  124.121.159.122  อาทิตย์, 4/2/2550 เวลา : 15:54   


คำตอบที่ 50
       โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและ ตัดสินใจครับ
ส่วนตัวผมใข้ ขับสี่ตามความรู้สึกครับ ว่าเส้นทางแบบนี้ควรใช้หรือไม่ ไม่ว่าถนนดำแห้ง ๆ (ลาดยาง) หรือ ถนนเปียก ถนนลูกรัง ถนนดินโคลน ฯลฯ หากเห็นว่ามันไม่ปลอดภัยผมใช้ขับสี่ มันดะเลย ไม่เห็นว่ามันจะพังใช้มา 10 กว่าปีแว้ววว...ซัดเป็นร้อยครับ ขอบอก



ln106 จาก LN  203.153.174.181  อังคาร, 6/2/2550 เวลา : 01:20   


คำตอบที่ 51
       รถ 4wdไม่ได้หมายความว่าทั้ง4ล้อหมุนพร้อมกันตลอด
ปกติแล้วเวลารถเข้าโค้งล้อซ้ายขวาหมุนไม่เท่ากันอยู่แล้ว นอกจากท่านใส่diff-lock แต่diff-lockก็ทำให้ซ้ายขวาหมุนตามกันแค่ 70เปอร์เซนต์ถ้าจะให้หมุนพร้อมกัน 100 เปอร์เซนต์ต้องใช้แอร์ลอคเกอร์(กรณีนี้ใช้ตอนติดหล่ม)ถ้าวิ่งบนถนนที่มีความลาดชันก็ใช้4ไม่มีผลทำให้อันตรายแต่จะปลอดภัยมากขึ้นการทรงตัวดีขึ้น



จาก อาจารย์  202.129.5.122  อังคาร, 13/2/2550 เวลา : 11:10   


คำตอบที่ 52
       เดี๋ยวรถพังก็หายโง่กันเองแหละ



จาก เบื่อโว้ย...  124.121.193.109  อังคาร, 13/2/2550 เวลา : 16:15   


คำตอบที่ 53
       ถ้าเมากับง่วงอะไร ก็ไม่เหลือ



จาก รักป่าจัง  124.121.163.113  พุธ, 21/2/2550 เวลา : 18:25   


คำตอบที่ 54
       เอาให้ตายกันไปข้างนึง



จาก 55555  124.120.205.25  พฤหัสบดี, 1/3/2550 เวลา : 13:46   


คำตอบที่ 55
       อืมใช่ ถ้ารถพังก็หายโง่เองแหละ
หรือไม่ก็ตายยกครัว สมน้ำหน้า



จาก 555555  124.120.205.244  ศุกร์, 2/3/2550 เวลา : 08:51   


คำตอบที่ 56
       รถกูพัง ก็ไม่ได้นักหัวใคร



จาก ฟาย  203.113.81.169  เสาร์, 3/3/2550 เวลา : 22:01   


คำตอบที่ 57
       หน้าฝนอีกแล้วครับทั่น พวกขับ 4 มือใหม่ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่ฟังแต่เซลส์ขายรถหลอกว่าเกาะดีกว่าเวลาฝนตกยิ่งให้ระวัง



จาก เอ  203.113.67.40  พฤหัสบดี, 2/8/2550 เวลา : 11:20   


คำตอบที่ 58
       สงสัยต้องทำวิจัย ขับรถอย่าประมาทกันนะครับ



จาก jack  115.67.93.36  พุธ, 28/1/2552 เวลา : 22:47   


คำตอบที่ 59
       จากประสบการณ์ตรงครับ ขับจากเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนใช้4h ตลอดครับ ก็คิดว่าจะเกาะถนนนั่นแหละครับ แต่พอเข้าในตัวเมืองต้อง u-turn ครับ ปรากฏว่าทีเดียวมันไม่หมด ครับต้องสองครั้ง ดีว่ารถไม่เยอะ เลยไม่ทำให้รถติดเท่าไหร่ แล้วผมมาเล่าให้พี่ที่เขาขับ offroad อยู่ก่อนเขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องขับสี่หรอก เพราะ หนึ่งเป็นทางลาดยาง และรถผม(toyota sportrider) เวลาขับสี่ ล้อคู่หน้ามันไม่เป็น limited slip มันจะอันตรายถ้าขับเร็วเกินไป มันจะฝืนโค้งอย่างที่ใครบอกนั่นแหละครับ เดี๋ยวนี้ก็ใช้4h ตอนถนนเปียกเท่านั้น 4L ใช้ตอนทางOffroad ครับ



จาก ความเห็นส่วนตัวจริงๆ  65.49.2.13  จันทร์, 16/2/2552 เวลา : 01:09   


คำตอบที่ 60
       คำตอบที่ 29

อันนี้ขอคุยด้วยในยุคนั้น เราไปวนเวียนแถวๆนั้นบ่อย ถ้าเป็นหน้าแล้ง ถนนดิน+หินอัดแน่น อุดมสมบูรณ์ด้วยฝุ่น หน้าแล้งคนชำนาญทางอย่างรถเมล์เล็กวิ่งเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 10+ชั่วโมง.....เห็นด้วยขับประจำต้องชำนาญเส้นทาง คนขับรถเมล์เส้นนี้ยอดมากในยุคนั้เคยนั่งมาแล้ว



nonbonnui จาก bonny  125.25.12.168  จันทร์, 16/2/2552 เวลา : 07:29   


คำตอบที่ 61
      
ส่วนตัวเราไม่เคยเรียนขับมาจากไหน
ดูรอบเครื่องเป็นหลักในการจะใช้เกียร์ 3-2-1 ถ้าลงมา 1แล้วรอบยังสูงก้อไปที่ Low ในทำนองเดียวกันเมื่ออยู่ที่ Low แล้วรอบยังสูง ก้อไปที่ 4H และ 4L ตามลำดับ...หมายถึงถนนดำ

แต่ถ้าปีนเขาถนนขลุขละ หินลอย ถนนเปียก+เลน 4L+ 4H ขึ้นอยู่กับสภาพทางแลรอบเครื่อง

++++เอาละรับฟ้งกัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน ไม่ชอบคำตอบไหนแสดงความคิด กันไป++++




nonbonnui จาก bonny  125.25.12.168  จันทร์, 16/2/2552 เวลา : 07:48   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:43:07

Error processing SSI file