คำตอบที่ 2
ไปเที่ยวมาแล้วค่ะ
ออกจากโคราชไปรอรถที่วะตะแบก เขาบอกว่ารถโดยสารไม่มี ก็เลยโบกรถที่วิ่งไปทางนายางกลัก โชคดีเจอพี่ขับรถกระบะจอดรับ วิ่งแฉลบซ้ายที ขวาที ด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. สักครู่รถก็จอด มีพี่อีกคนลงจากรถมาขับพร้อมกับบ่นว่า เมาดันยังอยากขัยอยู่อีก
..เฮ่อใจหายหมด นึกว่าต้องเอาชีวิตไปทิ้งกับคนเมาขับรถซะแล้ว
ในทีสุดก็มาถึงปากทางขึ้นไปบ้านไร่....ก็ไม่มีรถไปอุทยานอีกนั่นแหละ เลยโบกรถอีกรอบ...คราวนี้เป็นรถเก๋งฮอนด้า ที่จริงกะไม่ตั้งใจโบก เพราะเห็นว่าเป็นเก๋ง คิดว่าเขาคงไม่จอด เสี่ยงกับรถกระบะดีกว่า...แต่ขับรถเลยไปตั้ง 200 เมตรก่อนเดินย้อนมาหาแล้วถามว่าโบกรถหรือเปล่า....แหมเราก็ดีใจ..โบกค่ะ พี่เขาเลยให้ไปขึ้นรถด้วย ในรถมีผู้หญิง 2 คน เด็ก 2 คน คงจะเป็นภรรยาและลูก...ขับรถไปส่งถึงอุทยานแถมถามว่ามีที่พักหรือเปล่า...เขาใจดีมาก แต่ไม่ได้ถามชื่อ รู้แต่ว่าน่าจะเป็นเจ้าของบริษัท เพราะบอกว่าส่งลูกน้องไปฝึกทำบ้านดินรุ่น 3 ที่วัดป่าสุคะโตด้วย...เขาน่าจะคุ้นเคยกับพระไพศาลและหลวงพ่อคำเขียน ถึงใจดีขนาดนี้
ทั้ง 2 กรณี เราพบคนดีทั้งที่เมาและคนดีที่คบพระดี...เราเองก็คงเคยทำดี..เดินธรรมยาตราเพื่อลำปะทาว จึงได้พบคนดีอย่างนี้
ขอแบ่งความนี้ให้ทุกคนนะค่ะ
วรรณภา พงษ์โพธิ์ชัย นิติ มธ.ปี2