WeekendHobby.com


กระทรวงทรัพย์ ฯ เปิดเอกชนเช่า10อุทยานแห่งชาติ สัมปทาน 30 ปี สร้างโรงแรม-รีสอร์ทครบ
ภูตะวัน
จาก ภูตะวัน
พฤหัสบดีที่ , 28/8/2551
เวลา : 11:21

อ่าน = 1693
222.123.186.135
       ไปอ่านพบเข้าน่ะครับก็เลย Copy Link มา
http://www.suthichaiyoon.com/WS01_A001_news.php?newsid=4544

พอดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับ อช.เขาใหญ่ ด้วยลองคิดดูครับว่าอช.เขาใหญ่-ทับลาน-ปางสีดา-ตาพระยา-และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่
เพิ่งจะได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ใน พ.ศ. 2548 ดีใจอยู่ได้ไม่กี่ปี มันจะเอากันอีกแล้วทั้งๆที่ได้รับการคุ้มครอง
ด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ขออณุญาติทำลิ๊งให้ใหม่นะครับ

http://www.suthichaiyoon.com/WS01_A001_news.php?newsid=4544




กระทิงน้ำซับ จาก กระทิงน้ำซับ  202.94.100.195  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 11:49   


คำตอบที่ 2
       เอ้า!!!ยังไม่ได้อีก งั้นร่วมเสนอความคิดเลยแล้วกัน

เอกชน ข้าราชการ หรือนักการเมือง ประชาชนบางส่วน คงได้ประโยชน์กันทั่วหน้าจากการนำทรัพยากรของชาติที่เหลืออยู่อย่างน้อยนิดมาทำสัมปทาน แต่ธรรมชาติสัตว์ป่าและพืชพรรณคงย่อยยับไปแน่ๆ
เพราะการบริหารจัดการโดยเอกชน แน่นอนจุดสำคัญที่จะต้องนึกถึงคือ"ผลกำไร"
และด้วยการนั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสทองของ เอกชน ข้าราชการ หรือนักการเมือง และนักท่องเที่ยวรวยเสียมากกว่า คนที่อยากมาเที่ยวแต่ไม่สามารถนอนกลางดินกินกลางทรายได้ ไม่ว่าจะยกเหตุผลใดมากล่าวอ้าง สุดท้ายก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่า

*** ความเจริญเข้าถึงไหน ธรรมชาติถูกทำลายที่นั่น ***



กระทิงน้ำซับ จาก กระทิงน้ำซับ  202.94.100.195  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 11:54   


คำตอบที่ 3
       แก้ไข Link ครับ
http://www.suthichaiyoon.com/WS01_A001_news.php?newsid=4544

ถ้ายังไม่ได้ก็รบกวน Copy ไปวางที่ช่อง Address นะครับเพราะ
Check แล้ว Link ไม่ผิด



ภูตะวัน จาก ภูตะวัน  222.123.186.135  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 12:51   


คำตอบที่ 4
       เริ่มแบ่งเค้กกันพวกนี้ ยังรวยไม่พอกันอีกหรือไง



jackpiner จาก jackpiner  118.175.117.20  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 13:07   


คำตอบที่ 5
       กระทรวงทรัพย์ ฯ เปิดเอกชนเช่า10อุทยานแห่งชาติ สัมปทาน 30 ปี สร้างโรงแรม-รีสอร์ทครบวงจร
22 สิงหาคม พ.ศ. 2551 08:09:00

กระทรวงทรัพยากรฯ เปิดแผนดึงเอกชนสัมปทานพื้นที่ 10 อุทยานแห่งชาติยอดนิยม ระยะเวลา 30 ปี เผยให้บริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวครบวงจรทั้งร้านค้า ที่พัก วงในระบุมีนักธุรกิจหลายรายวิ่งขอพื้นที่หมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์ เขาใหญ่ ดอยอินทนนท์ เกาะลันตา ทั้งยังบีบให้ลดราคาจาก ตารางเมตรละ 30 บาทต่อเดือน เหลือ 3 บาท

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ออกมาประกาศเปิดอุทยานแห่งชาติ 10 แห่ง นำร่องให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่จัดบริการ ประกอบด้วย 1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 3.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 6.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 7.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย 8.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 9.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 10.อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก

แหล่งข่าวจากกรมอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจหลายรายเสนอแผนจัดการอุทยานแห่งชาติ ที่ต้องการบริหารมายังกรม โดยส่วนใหญ่ต้องการเข้าไปบริหารพื้นที่อุทยานฯ ที่ทำรายได้ดีอยู่แล้ว อาทิเช่น เขาใหญ่ หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ อีกทั้งยังพยายามให้กรมลดราคาค่าเช่าลง

ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติกำหนดราคาค่าเช่าพื้นที่เพื่อบริการไว้ตารางเมตรละ 30 บาท หรือไร่ละ 4.8 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เอกชนมองว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป และต่อรองให้ลดราคาลงเหลือแค่ตารางเมตรละ 3 บาทเท่านั้น ซึ่งการต่อรองราคาดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการเปิดประมูลอย่างเป็นทางการ

สำหรับแผนการเปิดให้เอกชนเข้าเช่าพื้นที่บริหารจัดการ ได้กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นหลายข้อ อาทิเช่น จะเปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารในโซนบริการนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร ประกอบด้วย ศูนย์อาหาร ร้านขายของที่ระลึก รีสอร์ท โรงแรม โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี มีเงื่อนไขว่าต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และปลูกป่าเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการกำหนดสัญญาลักษณะเดียวกับที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเช่าพื้นที่บริเวณแยกลาดพร้าว



ชี้ต้องการมืออาชีพบริหาร
นายวิชิต พัฒนโกศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานการท่องเที่ยวและการลงทุนดำเนินกิจกรรมในอุทยานแห่ง ชาติ กล่าวว่า กรมได้วางหลักการเบื้องต้นให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการให้การบริการพื้นที่ ที่กรมอุทยานฯ ดูแลรับผิดชอบ 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นสิ่งแวดล้อมจะต้องมีการจัดการอย่างมืออาชีพและยั่งยืน ประเด็นทางสังคม ต้องให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงบริการอย่างเป็นธรรม และประเด็นเศรษฐกิจ ต้องสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นกับชุมชนในพื้นที่

"กรมอุทยานฯ ต้องการให้มืออาชีพเข้ามาบริหารพื้นที่บริการ ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนในพื้นที่ นักธุรกิจขนาดใหญ่ หรือขนาดกลาง โดยกรมจะแบ่งพื้นที่ของอุทยานฯ เป็นกลุ่มๆ คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และกลุ่มที่มีกำลังซื้อปานกลาง และกลุ่มทั่วไป เพื่อเปิดให้มีตัวเลือกหลากหลาย ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสของประชาชนในการเข้าถึงธรรมชาติ"



ถกระเบียบเอกชนเช่าสัปดาห์หน้า
นายวิชิต กล่าวต่อว่า กรณีที่กลัวว่าเอกชนที่ได้รับสัมปทานเข้าดำเนินกิจกรรมในอุทยานแห่งชาติ จะเข้าไปทำลายธรรมชาติและป่านั้น คิดว่าขณะนี้ความคิดของนักธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว นักธุรกิจยึดถือเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เพราะกระแสโลกกระแสสังคมกำลังให้ความสำคัญเรื่องนี้

ดังนั้น การจะไปสร้างขยะ ตัดต้นไม้ เอกชนคงทำไม่ได้ และอุทยานจะวางกรอบระเบียบให้ดำเนินการตามความเหมาะสม โดยในสัปดาห์หน้า นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อสรุปแผนการจัดการก่อนจะเปิดให้เอกชนประมูล

ส่วนที่มีการเข้าใจว่า แผนงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือในการลง ทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะความจริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด และไม่ได้ทำเพื่อรองรับการปรับแก้กฎหมายอุทยานแห่งชาติ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ

"แผนการนี้ เป็นการคิดภายใต้ระเบียบเก่า ที่เปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ และต้องการขยายเขตพื้นที่บริการในอุทยานฯ ต่างๆ ที่มีความพร้อม เพื่อกระจายการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว"

นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า การให้สัมปทานเอกชนเข้าบริหารจัดการในพื้นที่อุทยานฯ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย โดยต่างประเทศหลายประเทศมีการดำเนินการรูปแบบนี้มานานแล้ว และเป็นไปตามโครงงานการจัดการพื้นที่คุ้มครองตามอนุสัญญาความหลากหลายทาง ชีวภาพที่มี 191 ประเทศเป็นสมาชิก

การจัดดำเนินการโครงการดังกล่าว เพื่อหาเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนไปบริหารจัดการพื้นที่ป่า เพราะงบประมาณของรัฐไม่เพียงพอ ซึ่งประเทศภาคีควรทำในเรื่องนี้ภายในปี 2010 สำหรับไทย UNDP ได้ให้งบเกือบ 3 ล้านบาท จ้างผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาเรื่องนี้แล้ว และจะสรุปผลปลายปีนี้ จากนั้นกองทุนสิ่งแวดล้อมโลกจะให้งบอีก 200 ล้านบาทมาวิจัย โดยเป้าหมาย คือ พื้นที่อนุรักษ์ 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติบนบก 1 แห่ง อุทยานแห่งชาติทางทะเล 1 แห่ง และพื้นที่ที่ชุมชนดูแล



ประกาศอุทยานฯ ใหม่ 17 แห่ง
นายไพศาล กุวลัยรัตน์ รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการดำเนินการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 38 แห่ง และมีมติยืนยันให้มีการประกาศให้อุทยานแห่งชาติ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน 17 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง จ.พะเยา อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว จ.ตราด อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จ.น่าน และพะเยา อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จ.ลำปาง อุทยานแห่งชาติดอยจง จ.ลำปาง-ลำพูน

อุทยานแห่งชาติขุนน่าน จ.น่าน อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก จ.สกลนคร-อุดรธานี-กาฬสินธุ์ อุทยานแห่งชาติเขานัน จ.นครศรีธรรมราช อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จ.แม่ฮ่องสอน อุทยานแห่งชาติขุนพระวอ (แม่กาษา) จ.ตาก อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา จ.เชียงใหม่-เชียงราย อุทยานแห่งชาติแม่วาง จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จ.น่าน อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จ.จันทบุรี และอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ จ.นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี



เสนอครม.ประกาศเพิ่ม 21 แห่ง
นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ ได้มอบหมายให้สำนักอุทยานแห่งชาติ สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ประสานงานกับกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการประกาศเพิ่ม อีก 17 แห่ง พร้อมทั้งหารือถึงการผนวกพื้นที่ชายหาดที่สวยงามเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต

ขณะเดียวกัน ยังมีอุทยานแห่งชาติอีก 4 แห่ง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้วเสร็จ และเตรียมรอนำเข้าครม. รอบที่ 2 เพื่อให้ความเห็นชอบให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศบังคับใช้ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแม่ปืม จ.เชียงราย-พะเยา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม จ.ระนอง อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.หนองคาย-นครพนม และอุทยานแห่งชาติขุนสถาน จ.น่าน โดยเมื่อรวมพื้นที่อุทยานแห่งชาติใหม่ จะมีทั้งสิ้นอีก 38 แห่ง คิดเป็นเนื้อที่ 11,289738.25 ไร่



นักวิชาการค้านเอกชนเข้าบริหาร
ศาสตราจารย์ นิวัติ เรืองพานิชย์ นักวิชาการด้านวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวระหว่างการประชุมเรื่อง "การวิจัยและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้" ว่า รู้สึกเป็นห่วงแนวความคิดในการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่ภาคเอกชนเข้า มาบริหารจัดการการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นการคิดถึงแต่เงินด้านเดียว ไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์หลักในการดูแลรักษาป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งในที่สุดแล้ว จะทำให้ธรรมชาติถูกทำลาย จึงขอเรียกร้องข้าราชการอย่าตามใจฝ่ายการเมืองมากเกินไป



ภูตะวัน จาก ภูตะวัน  222.123.186.135  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 13:21   


คำตอบที่ 6
       จะทำร้ายกันไปถึงไหน



ป่าฝน จาก ป่าฝน  124.120.20.174  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 16:39   


คำตอบที่ 7
       แล้วคนป่าจะอยู่ไหนเนี่ย.......เอากันเข้าไป ลูกๆหลานๆจะมีธรรมชาติให้เชยชมไหม..........



rorob จาก คนป่า  124.120.82.9  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 16:46   


คำตอบที่ 8
       เค้าเช่าที่เค้าก็ตัดต้นไม้ใหญ่ๆดีๆไปขายแล้วก็ปลูกอะไรไม่รู้ที่มันโตเร็วเพิ่ม
ผมไม่เห็นด้วย



จาก Bobcats  136.8.5.100  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 17:32   


คำตอบที่ 9
      



คชไพร จาก คชไพร  203.153.171.199  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 22:26   


คำตอบที่ 10
       คุณนักการเมือง ที่ผ่านมายังไม่เข็ดขายป่าจนแทบหมดแผ่นดิน ทุกวันนี้ก็นั้งจ่ายค่าเสียหายจากอุทกภัยปีละหลายพันล้าน ยังมีหน้ามีหัวคิดที่จะให้พวกเอกชนเข้าไปบริหารอีกหรือ ที่ผ่านมามันก็บุกรุกเข้าไปอยู่แล้ว เปิดประตูให้อย่างงี้ก็ฉิปหายหมด
บริหารจัดการโดยอุทยานมันไม่มีค่าคอมมิชั่นครับ ถ้าให้เอกชนเข้ามาจัดการมันถึงจะมีค่าวิ่งเต้นค่าคอมมิชั่น ..เฮ้ย..เบื่อจริงๆไอ้พวกข้าราชการหัวพ่อค้านี่..

อีกไม่นานคงได้เห็นต้น..ยูคาลิบตัส..งอกแทนป่าใส่เสื้อบนดอยอินทนนท์เป็นแน่



so viewso view จาก ป่าคือชีวิต  125.24.59.125  พฤหัสบดี, 28/8/2551 เวลา : 23:15   


คำตอบที่ 11
       เจริญแล้วครับท่าน



sanan_oun@yahoo.com จาก อ้วน  202.91.19.192  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 00:02   


คำตอบที่ 12
       แล้วป่าจะเป็นอะไร



kumung จาก คูเมือง  117.47.141.178  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 08:18   


คำตอบที่ 13
       ป่าไม่เคยทำร้ายใคร ปล่อยไห้เป็นไปตามธรรมชาติก็ดีอยู่แล้ว หมดปัญญาหาเงินแล้วเหรอครับ คุณคิดเหรอว่า พวกนายทุน เขาจะเห็นเรื่องของการอนุรักษ์สำคัญ มากกว่าผลประโยชน์ และผลกำไร ไม่ทราบว่าใช้อะไรคิดเหรอครับ



จาก คนเบื่อ  58.137.133.20  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 09:18   


คำตอบที่ 14
       เอาอีกแล้ว พวกเมิง...เฮงซวย..





จาก ลุงเอื้อม คนโสด  203.209.124.185  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 10:37   


คำตอบที่ 15
       กมเบือก...เห-ยแบบโคตรฯ เอากันเข้าไป........แล้วตูเบื่อว๊ะ ป่าไม่หมดปีนี้แล้วจะหมดปีใหนครับ............แล้วตูจะหาหน่อไม่ที่ใหนเลี้ยงชีพว๊ะ



จาก พรานเก่า  202.28.78.20  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 11:18   


คำตอบที่ 16
       > คนก็อยู่ส่วนคนป่าก็อยู่ส่วนป่าจะได้ไม่เบียดกันดีไหมท่านนักการเมือง



จาก น้องใหม่  118.175.66.20  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 13:38   


คำตอบที่ 17
       ท่านอธิบดี กรมป่าไม้คนใหม่ ใช้ เล็บขบ ส่วนไหนคิดไม่ทราบ.....สักวันมรดก โลก คงโดนยึด คืน แทนที่จะมาคิดทำ คอลิดอร์ ให้ สัตว์ป่า ระหว่าง เขาใหญ่ กะ ทับลาน กลับจะให้ เอกชน มาจัดการ อุทยาน....จะทำไง กันดี เนี้ย.....ช้ำใจ...ทามมมมายยยย ต้องทำ อย่างงี้...........................งงงง



bjaiting จาก พังพลาย  202.94.100.195  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 18:46   


คำตอบที่ 18
       ผมคิดว่าเราควร ดูหลักการที่จะให้เอกชนเข้ามาบริหารว่ามีขอบเขตถึงไหน เรายอมรับได้ไหม เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้ 10 อุทยานที่ว่านั้น เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เป็นอันรักษ์ป่ามากนักหรอกครับ วันๆคิดแต่ผลประโยชน์ที่จะเข้ากระเป๋าตัวเองเสียมากกว่า ป๋าไม่ก็ไม่ได้ดูแลกันเท่าที่ควร วันหยุดก็ไม่ออกตรวจ มัวแต่หารายได้พิเศษพานักท่องเที่ยวส่องสัตว์กัน ใครไปเขาใหญ่ก็จะเห็นครับ แต่ละคนมีรถดีๆกันทั้งนั้นรายได้มาจากไหนครับ ลองดูนะครับ



จาก นินจา  124.120.86.149  ศุกร์, 29/8/2551 เวลา : 19:30   


คำตอบที่ 19
      
......อารายกันนี่ พิมพ์ คอมเม้นท์ไปยืดยาว...แต่พอส่งดันหายหมด...



นายอันดามัน จาก นายอันดามัน  58.9.92.42  เสาร์, 30/8/2551 เวลา : 10:11   


คำตอบที่ 20
       ผมไปแสดงความเห็นใน 4x4 ไว้ เลย Copy มาไว้ด้วย กลัวพิมพ์ๆ ไว้ยาวๆ แล้วหายเหมือน ^.. คุณ "นายอันดามัน"

ตามความคิดเห็นที่ : 17
ผมชอบขับรถเข้าไปในอุธยาน แล้วขอกางเต๊นท์ ทำอาหารกิน เดินเที่ยว ถ่ายรูป นอน ทำมาหลายปี หลายที่ และยังคิดที่จะทำต่อไปตราบเท่าที่มีเงินเติมน้ำมัน มีแรงขับรถ และคิดว่าหมดแรงก็คงมีลูกๆ เขาขับพาไปเที่ยวปีละครั้ง สองครั้ง
สมัยก่อน เวลาไปพักแรมลูกเสือ เรามีที่ว่างๆ ชายทะเล มากมายหลายแห่งที่สามารถหมุนเวียนไปตั้งพักแรมได้ วันนี้ ไม่มีที่ว่างแถวชายทะเลเลย โดยเฉพาะที่ภูเก็ต ชายทะเลแต่ละแห่งมีเจ้าของหมดแล้ว หลายปีก่อนต้องยกกองลูกเสือไปพักแรมที่ฐานทัพเรือที่ทับละมุปีนั้นหลังจากเดินทางกลับสัปดาห์เดียวมีซึนามิ แถมอีกชุดพักแรมเสร็ววันกลับกลับเร็ว ซึนามิถล่ม ห่องกันไม่กี่ชั่วโมง
เอามาเล่า อยากให้ทุกคนช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไว้เป็นมรดก แล้ววันหนึ่งรัฐบาลก็เอามรดกไปขาย เพื่อให้คนอีกกลุ่มหาผลประโยชน์ เหมือนกรณีเอาที่วางท่อแก๊สผ่านที่ประชาชน ผ่านป่า ผ่านทรัพยากรธรรมชาติ แล้ววันหนึ่งเอาทรัพย์สินนั้นขายไป เพื่อให้คนเอาไปทำธุรกิจหากำไรเอาไปแบ่งกัน มีช่องใดก็หาทางทำรายได้ ไม่กี่วันก็คงได้ซื้อแก๊สราคารตลาดโลก เพราะทนไม่ได้ที่ขาดรายได้ที่ควรจะได้เท่ากับที่ตัวเองคิดว่าควรจะได้
ทุกวันนี้ คนที่มีอำนาจคิดเพียงว่า ทำอย่างไรที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ ผมคิดว่า วันหนึ่งคงแปรรูปที่ว่การอำเภอ จ้างทำบัตรประชาชน จ้างเก็บภาษีอากร จ้างออกโฉนด รัฐไม่ต้องทำเอง เหมือนความคิดที่จะเช่ารถเมล์ ไม่ต้องมีคนขับรถ ไม่ต้องมีคนเก็บเงิน ให้เป็นภาระ ไม่ต้องมีค่าซ่อมบำรุงรถ คอยเก็บหัวคิวอย่างเดียว แล้วปล่อยให้คนให้เช่าไปบีบบังคับคนขับ คนเก็นเงิน สุดท้ายก็ขึ้นราคาเอากับผู้โดยสารเอง ตัวเองลอยอยู่เหนือการรับผิดชอบ คอยแต่รับหัวคิว

แล้วจะมีรัฐบาลไว้ทำหอกอะไรไม่ทราบ น่าจะแปรรูปรัฐบาลไปเสียด้วยเลยดีไหมครับ
แล้วก็เกิดเหตุเหมือน "นายอันดามัน" ดีว่า Copy มาไว้จึงวางใหม่อีก ถ้าหายอีกก็จะวางใหม่อีก



ขอนเก่า จาก ขอนเก่า  117.47.87.13  เสาร์, 30/8/2551 เวลา : 11:39   


คำตอบที่ 21
       ใกล้แล้วครับรัฐบวมกำลังจะแปรรูปในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ละครับพี่น้อง



จาก A_ln65  203.209.39.65  เสาร์, 30/8/2551 เวลา : 12:27   


คำตอบที่ 22
       อ้างถึง คำตอบที่ 18
ผมขออนุญาตชี้แจงนะครับ เพราะอาจทำให้เพื่อนที่ไม่ทราบรายละเอียดตรงส่วนนี้จะได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแล้วทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องผมจากปฏิบัติงานอยู่ที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี และก็ได้มีโอกาสขึ้นไปท่องเที่ยว และพักบนเขาใหญ่ รวมถึงผมเองก็ท่องเที่ยวเดินป่าทั้งในเขต อช.เขาใหญ่-ทับลาน-ปางสีดา มาหลายปีซึ่งบางครั้งที่เข้าป่าก็แอบเข้าไปโดยมีพรานชาวบ้านนำทางบ้างและไปกับเจ้าหน้าที่บ้าง แต่ส่วนมากก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไปเพราะเส้นทางที่พาไปเขากำหนดให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสามารถประมาณเวลาในการไป-กลับได้ค่อนข้างแน่นอน และก็เป็นความจริงที่ จนท.หารายได้พิเศษพานักท่องเที่ยวส่องสัตว์กัน และการนำพานักท่องเที่ยวเดินเป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่างๆ เท่าที่ทราบข้อมูลรายได้ที่ได้ส่วนหนึ่งจะเป็นรายได้ของผู้นำเที่ยว ส่วนหนึ่งจะเข้าจะใช้ในการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว และส่วนหนึ่งเข้าหลวง

รายได้ส่วนของผู้นำเที่ยว
ที่ทางอุทยานอนุญาตให้มีการบริการตรงนี้ส่วนนึงก็เพื่อช่วยให้เป็นรายได้เสริมแก่เจ้าหน้าที่ ผมเป็นข้าราชการผมรู้ว่าเงินเดือนข้าราชการมันมากมายขนาดไหน ผมเองยังต้องไปรับจ้างตาม Clinic เพื่อให้มีเงินมากพอที่จะช่วยพ่อ-แม่ส่งน้องเรียน มากพอที่ตัวเองจะมีเงินใช้ตลอดลอดฝั่งไปจนถึงสิ้นเดือน กว่าจะเก็บเงินดาวน์รถ Pickup ได้ก็ใช้เวลา 6 ปีหลังจากที่บรรจุเป็นข้าราชการ และยังต้องผ่อนไปอีก 3 ปี สำหรับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เราเรียกๆเหมารวมกันนั้นประกอบไปด้วย ข้าราชการป่าไม้ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ปริมาณของลูกจ้างชั่วคราวจะมากที่สุด รองลงมาเป็นลูกจ้างประจำ และข้าราชการตามลำดับ และส่วนมาก จนท.ที่นักท่องเที่ยวพบบนเขาใหญ่ก็จะเป็นลูกจ้างประชั่วคราวพวกนี้เงินเดือนน้อย เบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ ไม่มีการเลื่อนเงินเดือนตอนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เดือนแรกได้รับเงินเดือนเท่าไหร่ก็จะรับอยู่เท่านั้นไปตลอดจนกว่าจะบรรจุเป็นลูกจ้างประจำถึงจะมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเงินเดือนตามที่หลวงกำหนดไว้หรือไม่ก็ถูกยิงตายหรือลาออกไป ถ้าไม่มีรายได้จากที่อื่น ลำพังรายได้เดือนละหกพันกว่าบาท จะพอเพียงที่จะเลี้ยงครอบครัวให้มีกินทุกวันไปได้ในแต่ละเดือนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้

บริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก
ผมยกตัวอย่างเรื่องขยะแล้วกันนะมันเห็นชัดดี ลองคิดดูเล่นๆนะครับในหนึ่งปีเขาใหญ่ต้อนรับนักท่องเที่ยวกี่คน ผมสมมติให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะรวมกัน 10 กก./วัน ในเวลา 1 ปีทิ้งขยะกันประมาณ 1.2 ตัน แต่ในความเป็นจริงปริมาณขยะมันมากกว่านั้นอีก แล้วรถเก็บขยะมันจะขับขึ้นเขาใหญ่ไปเก็บขยะให้ทุกวันหรือเปล่า รายได้ในส่วนตรงนี้ก็แบ่งเอาจัดการกับขยะที่นักท่องเที่ยวช่วยกันบริจาคไว้จนเต็มเขาใหญ่ด้วย ลำพังงบประมาณหลวงคงไม่สามารถ Support ทุกปัญหาที่ทางอุทยานได้รับ เพราะเงินที่ได้รับจัดสรรมาใช้ในการบำรุงรักษาพื้นที่ป่า 1 ไร่/ปี มันน้อยจนน้ำตาแทบไหล น้อยกว่าเศษเงินที่คนหลายๆคนให้เมียน้อยไว้กินข้าวมื้อเดียวด้วยซ้ำไป

ส่วนของการลาดตระเวณ
ผมเข้าใจว่าทุกอุทยานคงจะทำเหมือนๆกันคือมีการผลัดกันเดินตรวจเพื่อที่จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวในขณะที่อีกชุดอยู่ในป่าคงไม่มีที่ไหนที่จะให้ จนท.ทุกคนเข้าไปอยู่ในป่ากันหมดจนไม่มีใครอยู่ในที่ตั้ง และจะให้เขาเข้าไปอยู่กันแต่ในป่ามันก็คงไม่ได้ใช่มั้ยครับ

ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เขาใหญ่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางธรรมชาติ ผมจำได้ว่ามีข้อความบางส่วนของอนสัญญาระบุว่า "ไม่ให้ดำเนินการใดๆ ที่อาจจะทำลายมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม" ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยนะครับ วิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนควรทำในลักษณะป่าชุมชนให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณแหล่งท่องเที่ยว มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ เท่าที่พบมากับตนเองตอนนี้อุทยานบางที่ ก็เริ่มมีการบริหารจัดการแบบนี้แล้วและการดำเนินการได้ค่อนข้างดี รัฐก็ควรที่จะส่งเสริมตรงนี้มากกว่าที่จะเอาแท่งอะไรก็ไม่รู้ที่อุจาดตาแบ่งซอยเป็นห้องที่ดูคล้ายตู้เก็บศพในโรงพยาบาล หรือสนามอะไรสักอย่างที่เอาไว้เล่นเขี่ยลูกลงรูกลับมาไว้บนเขาใหญ่เพื่อตอกย้ำความช้ำใจ ที่ครั้งนึงประเทศไทยเคยเสนอให้ขึ้นทะเบียนเขาใหญ่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแต่สอบตกเพราะเหตุผลที่ว่าบนเขาใหญ่มีไอ้แท่งตู้เก็บศพกับไอ้สนามรูๆที่ว่าเป็นสัญญลักษณ์ประจานความอับอายขายหน้าไปทั่วโลก คิดถึงขึ้นมาทีไรผมเองยังน้ำตาคลอเบ้าทุกครั้ง

ก็ต้องขอโทษเพื่อนๆชาว Weekend ทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับที่มันยาวไปหน่อย เหตุผลที่กล่าวถึงแต่เขาใหญ่ ทั้งๆที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ จำนวนทั้งหมด 10 แห่งเพราะเดินทางท่องเที่ยวพักนอนวนเวียนอยู่แถวนี้มีโอกาสพบปะพูดคุยกัน หลงป่าด้วยกัน กันกับน้องๆลูกจ้าง และพี่ๆหลายท่านที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ ขญ.ต่างๆที่แวะเวียนไป ได้รับข้อมูลข่าวสารมาพอสมควรเพื่อมาบอกเล่า ณ ที่นี้ไม่ได้มีเจตนาจะโต้เถียงเป็นแต่เพียงนำเสนอในสิ่งที่ผมได้รับรู้มาเท่านั้น



ภูตะวัน จาก ภูตะวัน  222.123.186.16  จันทร์, 1/9/2551 เวลา : 16:21   


คำตอบที่ 23
       ก่อนอื่นผมขอประจานรัฐบาลของไอ้ป๋าหมาก ที่มีวิสัยทัศแคบเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้และทำตามคำสั่งของไอ้แม้วพ่อของมันไงล่ะ โครงการนี้เป็นแนวความคิดของไอ้แม้วมันคือระบอบทุนนิยมใหม่จนลืมประเทศชาติที่เป็นถิ่นกำเนิดของตัวมันเอง มันไม่คำนึงถึงผลเสียของธรรมชาติที่ให้ใว้กับผืนป่าอันสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย มันจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสมบัติของชาติ ระบอบทักษิณได้ถูกทุนอเมริกันและหุ้นส่วนคือ ทุนสิงคโปร์ชักจูงกล่อมเกลาให้เข้าเป็นสาวกของลัทธิ "ทุนนิยมใหม่" ไปเรียบร้อยแล้ว "ทุนนิยมใหม่" เชื่อมั่นว่า กลไกการแข่งขันเสรีเป็นทั้งวิธีการและเป้าหมายอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะนำผู้คนทั่วทั้งโลกไปสู่โลกพระศรีอาริยะสินทรัพย์ทุกอย่างต้องแปลงเป็นทุนเข้าสู่ตลาด ทั้งสูตรยารักษาโรคเอดส์ ทั้งสิทธิปักไม้ไผ่เลี้ยงหอยชายฝัง, สิทธิในวงโคจรดาวเทียม, สิทธิปั่นไฟขาย ฯลฯ ต้องสามารถเปลี่ยนมือเป็นสินค้าขายให้ใครก็ได้ ขายในราคาเท่าใดก็ได้ไม่ว่าใครเหล่านั้นจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ได้กำไรแล้วจะนำไปลงทุนที่ไหนก็ได้ คำว่า "เศรษฐกิจชาติ" ต้องไม่มีอยู่ในปทานุกรมเศรษฐศาสตร์อีกต่อไป



คนรักป่า จาก คนรักป่า  117.47.136.71  จันทร์, 1/9/2551 เวลา : 22:27   


คำตอบที่ 24
       แถลงการณ์ คัดค้านนโยบายเปิดสัมปทานให้เช่าพื้นที่ป่า
แถลงการณ์
มูลนิธิสืบนาคะเสถียรคัดค้านนโยบายเปิดสัมปทานให้เช่าพื้นที่ป่า

ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายเปิดสัมปทานให้เอกชนเข้ามาดำเนินการโรงแรมและที่พักในเขตพื้นที่บริการ 10 แห่ง เป็นเวลา 30 ปี รวมทั้งการให้บริการท่องเที่ยว โดยอ้างว่าเพื่อจะนำรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ป่าอนุรักษ์มาช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งดีกว่าปล่อยให้เสื่อมโทรมและถูกบุกรุกจากนั้น
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เห็นว่า การเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เอกชนเช่า จะทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ดังนี้ :-

1. การเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เอกชนเช่า เป็นการทำลายแหล่งธรรมชาติอย่างถาวร เนื่องจากการลงทุนเป็นการลงทุนในระยะยาว และส่งผลเสียต่อระบบนิเวศของพื้นที่โดยตรง
2. อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศไทย เป็นพื้นที่สาธารณะ ควรต้องมีความเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ควรมีการกันพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่อนุรักษ์ สำหรับการลงทุนของภาคธุริกจอย่างเหมาะสม
3. การกระทำดังกล่าว เป็นการเปิดช่องทางการเข้ามาหาประโยชน์ของภาคธุรกิจ จนเกินขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้มีการใช้อิทธิพลทางการเมือง กลุ่มทุนท้องถิ่น เข้ามาใช้ประโยชน์จากตัวราชการ ให้เปิดการบริการเพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่อนุรักษ์กระจายไปทั่ว ทำให้คุณค่าของระบบนิเวศโดยรวมถูกทำลายลงในที่สุด

ดังนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น มูลนิธิสืบนาคะเสถียรจึงขอแสดงความไม่เห็นด้วยและคัดค้านนโยบาย การเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เอกชนเช่า และยืนยันให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำรงจุดยืนในการรักษาพื้นที่ป่ามิใช่แปลงป่าเป็นทุน

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร






rider man จาก rider man  124.120.48.73  จันทร์, 1/9/2551 เวลา : 23:43   


คำตอบที่ 25
       ลงชื่อร่วมคัดค้าน
http://www.seub.or.th/INDEX/database/hotissue/install/?action=comments&id=1219914063



rider man จาก rider man  124.120.48.73  จันทร์, 1/9/2551 เวลา : 23:45   


คำตอบที่ 26
       ขอคัดค้านด้วยคน



จาก คนเคยเที่ยวป่า  124.121.241.147  อังคาร, 2/9/2551 เวลา : 00:38   


คำตอบที่ 27
       ความคิดมีแค่นี้เองหรือทำไมป่ามันหาเรื่องหรือ ป่าควรจะเป็นป่า ไม่ไช่เอาความเจริญเกินเหตุเข้าไป สมองมีป่าวคนพวกนี้



จาก com  125.25.222.136  เสาร์, 6/9/2551 เวลา : 22:35   


คำตอบที่ 28
       จะมีโรงแรมบนเขาใหญ่หรอเนี่ย อย่างนี้ก้อเขวี้ยงเต้นท์ทิ้งได้เลยอ่ะจิ.......โรงแรมเขาใหญ่ มื้อเช้าเสริฟสเต้กเนื้อกวางด้วยปล่าวครับเนี่ย.......
ในฐานะคนตีนเขาใหญ่.....ไม่เห็นด้วยอย่างสูงขอรับ...



จาก คนแบกเป็ปซี่...  125.27.124.249  อาทิตย์, 7/9/2551 เวลา : 00:49   


คำตอบที่ 29
       ก็ให้เช่าที่ป่าเสื่อมโทรม ซิ มันขึ้นอยู่กับการจัดการผมก็ไม่เห็นว่าทุกวันนี้ป่าส่วนใหญ่ที่ดูแลโดย กรมตอไม้มันจะรักษาอะไรได้เลย ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ก็สามารถทำอะไรได้เยอะแยะ หัดมองอย่างความเป้นจริงบ้าง อย่ามองข้างเดียว ผมว่าเอกชนเข้าไปทำความเจริญได้ ถ้าไม่มีเรื่องทุจริตแอบแฝง ส่วนเรื่องของอุทยานฯ ก็ให้เป็นไปเหมือนเดิม สามารถกางเต็นท์ ได้ จองบ้านพัก(ห่วย ๆ) ได้เหมือนเดิม (เคยขึ้นแต่ค่าเช่าแต่มีอะไรบริการเพิ่มบ้าง) ให้เอกชนมาแข่งขันการท่องเที่ยวแบบบริการดี ๆ บ้างก็ได้ไม่ใช่ว่าบ้านพักเต็มตลอดช่วงหน้าเทศกาล (ลองจองดูซิ อุทยานดัง ๆ ทางภาคเหนือมีแต่เส้นสายทั้งนั้นที่จองได้ )ผมว่าการจัดการที่ดีและการให้คนที่มีความสามารถในการบริหารผมว่าคนดี ๆ ในหน่วยราชการก็มีเยอะแต่จะกล้าทำหรือเปล่า เหรียญมันมี 2 ด้าน อยู่ที่คนมองการให้เช่าที่ 30 ปีมันอยู่ที่ 2 ฝ่ายตกลงกันให้ได้ ภาครัฐจะรู้ทันในการเจรจาเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับรัฐได้หรือไม่อยู่ที่ กึ๋นของภาครัฐ ถ้ารู้เท่าไม่ทันก็เสียเปรียบเอกชน (ยกเว้นแต่จงใจให้เสียเปรียบเพื่อเอื้อ...ก็ถือว่าเป็นเวรกรรม) การพัฒนาอะไรใหม่ ๆ ที่คนยังไม่เคย ก็ต้องถูกต่อต้านเป็นของธรรมดาสำหรับเมืองไทย ว่าแต่ว่า กระทรวงทรัพย์ จริงใจแค่ไหนในการที่จะพัฒนาป่าให้ยั่งยืนคู่กับการท่องเที่ยวหล่ะ การประชาสัมพันธ์ที่ดีให้ความรู้ที่ถูกต้องกับคนที่เกี่ยวข้อง แน่นแค่ไหนและที่สำคัญที่สุด เรื่องสัมปทานนี้ จริงใจแค่ไหนในการให้เอกชนเช่าเพื่อทำความเจริญให้กับแหล่งท่องเที่ยว



จาก คนเที่ยว  125.24.155.106  อาทิตย์, 7/9/2551 เวลา : 17:25   


คำตอบที่ 30
       คุณภูตะวัน ก็พูดถูกครับ แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ถึงคุณจะอยู่แถวนั้น แต่ผมเชื่อได้ครับว่าคุณไม่รู้ความเป็นไปเท่ากับผมหรอกครับ ผมเป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ไปเขาใหญ่ก็ไม่บ่อย แค่อาทิตย์ละสองครั้งตลอด 10 ปีมาแล้ว เจ้าหน้าที่ที่นั้นเห็นผมก็ต้องรู้จัก
อย่างที่คุณพูด ใช่เจ้าหน้าที่เงินเดือนน้อยต้องหารายได้พิเศษ อันนี้ผมก็ไม่เถียง แต่ที่บอกว่ารายได้เอาเข้าไปบริหารบนเขาใหญ่โดยแบ่งไปเป็นส่วนๆอย่างที่คุณบอกมา ผมว่า คงไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เชื่อไหมผมเคยควักกระเป๋าตังจ่ายค่าน้ำมันรถขนขยะให้เจ้าหน้าที่ไปซื้อน้ำมันมาเติมรถ ผมเคยควักจ่ายค่าน้ำมันตัดหญ้าทางขึ้นเขาใหญ่ แล้วเงินที่แบ่งเป็นส่วนๆไปไหนหมดละ ก็ไม่ไปไหนหรอก มันก็เป็นกองทุนของพนักงานข้างบนนั้นแหละ แต่เงินไม่ค่อยถึงลูกน้องหรอก มันอยู่ที่ตัวใหญ่ๆเพียงไม่กี่ตัวข้างบนนั้นแหละ ที่ผมอยากให้เอกชนเข้าไปก็ไม่ใช่อยากให้เค้าไปดูแลทั้งหมด เค้าต้องอยู่ในกรอบที่ทางรัฐตั้งให้ ไม่ใช่ว่าได้สัมปทานไปแล้วคุณจะสร้างอะไรก็ได้ไม่ใช่ ผมอยากให้ลดจำนวนพนักงานป่าไม้ที่ไม่จำเป็นลง เหลือไว้แต่ดูแลป่าจริงๆเท่านั้น ไม่ยุ่งเกียวกับธุรกิจบนนั้น มีเงินเดือนที่มากขึ้นมีสวัสดิการที่ดีขึ้น ไม่ใช่เงินเดือน3เดือนจ่ายหนแบบที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มีการไปประชาสัมพันธ์ ชาวบ้านรอบข้างอุทยานให้รู้ถึงจิตใจอนุรักษ์ ไม่ใช่มีสัตว์หลงลงไปก็ยิงฆ่าทำลายกัน อย่างล้าสุดก็มีเลียงผาลงไปในหมู่บ้านก็จับตีกันจนตอนนี้อาการ50/50 เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่มีจะให้ช่วยชีวิต แถมให้ปิดเรื่องเป็นความลับอีก มันเหมาะสมแล้วหรือ



จาก นินจา  192.44.136.113  จันทร์, 8/9/2551 เวลา : 11:54   


คำตอบที่ 31
       เวลามองอะไรอย่าไปมองด้านเดียว ต้องเอามาชั่งน้ำหนักกันทั้งสองฝั่ง อันไหนดีอันไหนมีขอเสีย ไม่ใช่ค้านเสียไปทุกเรื่อง ดูต่างประเทศบางประเทศเค้าก็ใช้เอกชนบริหารอุทยานกันทั้งนั้น
ผมว่าป่าไม้เอาเวลามาวิจัยดีกว่า ว่าพืชไหนที่เหมาะสมที่จะมาปลูกแซมให้ป่าที่เริ่มหมดกลับมาอีก
เอาเวลาไปคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้สัตว์ผสมพันธุ์ในสายพันธุ์กันเองทำให้ชีวิตอ่อนแอลง
เอาเวลามาคิด ดีกว่าว่าจะทำอย่างไรกับวงจรชีวิตสัตว์ป่าที่กำลังจะเสีย เพราะนักอนุรักษ์แต่ปาก แต่ชอบขึ้นไปเที่ยวไปทำลายอุทยานกันตลอดเวลา ทุกคนสำรวจตัวเองกันก่อนดีกว่า คุณทำอะไรให้ป่าแล้วบ้าง
คุณขึ้นไปเที่ยวคุณเคยเอาขยะที่คุณพาขึ้นไปกลับลงมาทิ้งไหม
คุณขึ้นไปเที่ยวคุณเคยให้อาหารสัตว์บนนั้นไหม
คุณขึ้นไปเที่ยวคุณเคยอาบน้ำเอาสบู่ลงไปถูในลำน้ำไหม
คุณขึ้นไปเที่ยวคุณเคยเหยียบสัตว์ตัวเล็กๆที่คานอยู่บนท้องถนนบนเขาใหญ่
แค่นี้คุณทำให้ได้กันเสียก่อนเหอะ คุณไม่ขึ้นไปเที่ยวกัน เอกชนที่ขึ้นไปทำก็คงอยู่ไม่ได้ เค้าก็ไม่เรียกร้องที่จะไปทำกันหรอก แต่คุณขึ้นไปมากเท่าไร อีกไม่นานคุณก็จะได้เห็นเอกชนบริหารอุทยานเร็วเท่านั้น



จาก นินจา  192.44.136.113  จันทร์, 8/9/2551 เวลา : 12:09   


คำตอบที่ 32
       เอามาให้ชมเล็กน้อยนะครับ





จาก นินจา  192.44.136.113  จันทร์, 8/9/2551 เวลา : 12:20   


คำตอบที่ 33
       ฟ้งข่าวมาว่า ตอนนี้ยกเลิกแล้ว
เพื่อยุติข้อขัดแย้งครับผม



NiM@บางปู จาก E22dFN  124.120.238.21  เสาร์, 11/10/2551 เวลา : 08:26   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:48:41

Error processing SSI file