คำตอบที่ 10
ถ้ำขมิ้น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ถ้ำขมิ้น ตั้งอยู่ในตัวอำเภอนาสาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงใน จ.สุราษฎร์ธานี
ศาลปู่เจ้า สมิงพราย
คนส่วนใหญ่ที่จะเข้าเที่ยวชมในถ้ำขมิ้น นิยมสักการะศรัทธา
ศาลปู่เจ้าสมิงพรายก่อนจะเข้าไปเยี่ยมชมภายในถ้ำ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ศรัทธา
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ มีนักศึกษาเป็นนักมัคคุเทศก์ คอยแนะนำความเป็นมา
ของถ้ำขมิ้น และการเกิดปรากฏการณ์ หินงอกหินย้อยภายในถ้ำ
หินงอก,หินย้อย
ถ้ำขมิ้นมีหินงอกหินย้อย ที่เกิดจากปรากฏการธรรมชาติ โดยมิได้จัดสร้างขึ้นมา
ถ้ำขมิ้น หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำเหม็น
รู้ไหมว่าทำไม บางคนเรียกว่าถ้ำเหม็น ก็เพราะในถ้ำสมัยก่อนเคยเป็นสถานที่สัมปทาน
เก็บมูลค้างคาว เพื่อทำเป็นปุ๋ย
ถ้ำขมิ้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนารายณ์มีพระราชดำริ
เดินทางมาบูรณะพระธาตุนครศรีธรรมราช ขณะเดินทางผ่านอำเภอนาสารเป็นฤดูน้ำ
หลากไหลเชี่ยวมากทำให้เรือชนกับตอไม้จนเรือแตก กระแสน้ำได้พัดพามาติดอยู่ที่ภูเขา
เมื่อได้ตรวจดูพื้นที่รอบๆ ก็พบถ้ำแห่งหนึ่งจึงเรียกขานว่า ถ้ำขมิ้นจึงได้เป็นอยู่อาศัย
ซากรถจิ๊บ
อยากรู้ไหมว่า ทำไมรถจิ๊บเข้ามาอยู่ในถ้ำได้
ก็เพราะเมื่อก่อนเคยเป็นที่ทำสัมปทานมูลค้างคาว จึงใช้รถจิ๊บคันนี้ขนย้ายมูลค้างคาว
และหลังกะบะรถก็มีอุปกรณ์ต่างๆในการเก็บมูลค้างคาว เช่นกระสอบ,ถัง,จอบ
และรถจิ๊บคันนี้ไม่ได้ขับเข้ามาง่ายๆเพราะปากทางถ้ำมีขนาดเล็ก จึงต้องใช้พลังงาน
คนในการขนย้ายส่วนประกอบของรถจิ๊บ เพื่อนำมาประกอบภายในถ้ำ
ข้อแนะนำในการเข้าไปในถ้ำ
- ไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูง เพราะเส้นทางเดินเยี่ยมชมบางจุด เป็นเนินหิน
- เราไม่ควรส่งเสียงดัง หรือเอามือไปสัมผัสกับหินงอก,หินย้อย เพราะอาจส่งผลกระทบ
ต่อการเจริญเติบโตของหินงอก,หินย้อย
ถ้ำขมิ้น ก่อนหน้านี้เคยเป็นถ้ำสัมปทานเก็บมูลค้างคาว จะเห็นได้จากการพบร่องรอยและอุปกรณ์ต่างๆที่ยังหลงเหลืออยู่ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นถ้ำใหญ่โตมโหฬารที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และเป็นที่ศึกษาวิจัยทางด้านโบราณคดี ศาสนา ธรณีวิทยาและสัตววิทยา ถ้ำขมิ้น เป็นถ้ำประเภท solution cave ที่เกิดในภูเขาหินคาร์บอเนตและซัลเฟต โดยเกิดจากน้ำฝนและน้ำใต้ดินที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมกับไอออนของน้ำ ทำปฏิกริยากัน กลายเป็นกรดคาร์บอนิกอย่างอ่อนไหลผ่านตามรอยแตกของชั้นหินที่อยู่ใต้ดิน โดยจะละลายหินที่มีส่วนประกอบของแร่แคลไซต์ หรือแคลเซี่ยมคาร์บอเนตให้เป็นรอยแตกหรือรูโพรงกว้าง ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปรอยแตกก็จะกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นถ้ำในที่สุด
มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติภายในถ้ำขมิ้นระยะทางกว่า 1250 เมตร มีจุดน่าสนใจในเส้นทางนี้คือ
ปากถ้ำ เป็นที่ตั้งของศาลปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งชาวบ้านให้ความนับถือ ด้าหลังของศาลมีบันไดลงสู่ห้องโถงต่างๆ
ลานรถจิ๊ป เป็นคูหาใหญ่ที่มีร่องรอยของการทำสัมปทานมูลค้างคาว เช่นซากรถจิ๊ป รอยล้อรถ กระสอบและถัง
ลานท่านขุน เป็นทำนบหินปูนขนาดใหญ่ มีหินงอกและหินย้อยขนาดใหญ่มาบรรจบกันมีชื่อว่า"เสาเอก"และมีหินงอกสูงแหลม มีชื่อว่า"หลักชัย"
ช่องฟ้า เป็นช่องทะลุของเพดานถ้ำ ซึ่งค้างคาวนับแสนๆตัวที่อาศัยอยู่ในถ้ำนี้ใช้เป็นช่องทางเข้าออก
ลานอพอลโลหรือลานหมากขุม เป็นทำนบหินปูนขนาดใหญ่ ในช่วงหน้าฝนจะมีน้ำตกไหลลงมาอย่างสวยงาม ด้านบนทำนบมีหลุมคล้ายหมากขุม
ห้องแจกัน เป็นคูหาใหญ่ มีหินงอกที่มีลักษณะคล้ายแจกัน
ห้องเจ้าหญิง เป็นคูหาที่มีม่านหินปูนเป็นรูปเจ้าหญิงที่มีรัดเกล้าบนศีรษะ
ม่านสีชมพู เป็นม่านหินปูนที่มีลายเป็นริ้วๆสีชมพู แลเห็นเป็นภาพคล้ายพระพุทธรูปนั่งสมาธิ
ม่านฟ้า เป็นม่านหินย้อยขนาดใหญ่ที่สวยงามแปลกตา
ห้องหินงอกหินย้อย เป็นห้องที่ยังมีการเจริญเติบโตของหินงอก หินย้อย และเป็นห้องเดียวที่มีหินคด หรือเกลียวหินปูน
ถ้ำขมิ้น เป็นถ้ำที่มีประวัติยาวนาน มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในลมัยพระบาทสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีพระราชดำริให้ท่านขุนวรรณวงศา เดินทางมาบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุนครศรีธรรมราช ขณะเดินทางถึงบ้านนาสารเป็นฤดูน้ำหลาก จึงได้ต่อเรือข้ามคลองฉวาง แต่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากมากทำให้เรือชนกับตอไม้จนเรือแตก กระแสน้ำได้พัดพาคณะของท่านขุนมาติดอยู่บริเวณภูเขา เมื่อได้สำรวจพื้นที่รอบๆ และพบถ้ำขมิ้นจึงได้อาศัยถ้ำอยู่จนเสียชีวิต ต่อมาชาวบ้านที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงต่างเชื่อกันว่า เมื่อผู้มีบุญเข้าไปในถ้ำขมิ้น จะได้พบกับไก่แก้ว ซึ่งจะนำทางไปพบกับสมบัติของท่านขุน