คำตอบที่ 3
กรณี จะนำรถยนต์ส่วนตัวเข้า สปป.ลาว
สามารถทำหนังสือขออนุญาตได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดของทุกจังหวัดที่มีด่านสากลข้ามไปประเทศลาว
เอกสารที่ต้องใช้ข้ามพรมแดน
1. หนังสืออนุญาตรถยนต์ระหว่างประเทศ (สมุดสีม่วง) และสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงประเทศ (IT PLATE) ขอได้ที่สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ สำนักงานขนส่งจังหวัด เสียค่าธรรมเนียม 55 บาท เมื่อเสร็จแล้วจะได้สมุดเล่มม่วงสำหรับบันทึกการเข้า - ออกของรถยนต์ระหว่างไทยลาว และสติ๊กเกอร์ตัวอักษร (T PLATE) 2 แผ่น สำหรับติดหน้าและหลังรถ
2. ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ระหว่างประเทศ (ใบขับขี่สากล) ขอได้ที่กรมการขนส่งทางบกกรุงเทพ หรือ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ (แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว)ขอได้ที่เดียวกับหัวข้อที่1
3. กรมธรรม์ประกันภัยบุคคลที่3 ภายในประเทศ สสป. ลาว ซื้อได้ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองของ สปป. ลาว
การเดินทางเข้า สปป.ลาว ต้องไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง นำรถไปตรวจที่เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่จะประทับตราวันที่นำรถออกนอกประเทศในสมุดเล่มสีม่วง พร้อมประทับตราในใบตรวจรถยนต์เข้าออกจากราชอาณาจักร (เป็นกระดาษขนาด A4) ต้องเก็บใบนี้ให้ดีเพราะถ้าหายจะนำรถยนต์กลับเข้าไทยไม่ได้ เมื่อข้ามไปฝั่งลาวแล้ว ต้องไปซื้อกรมธรรม์ประกันภัยบุคลที่ 3 ที่สำนักงานตัวแทนประกันภัย บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยต้องแจ้งระยะเวลาที่จะซื้อ (อย่างต่ำ 5 วัน สามารถต่ออายุวันต่อวันได้ที่ที่ทำการขนส่งของเมือง แต่ต้องก่อนหมดอายุกรมธรรม์) และแจ้งรายชื่อแขวงที่เราจะเดินทางไป (ถ้าไปหลายแขวงต้องแจ้งให้ครบ) เมื่อเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้เอกสาร 2 ชุด คือ ใบอนุญาตนำรถเข้าประเทศลาว และ เอกสารการทำประกันบุคคลที่ 3 พร้อมสติ๊กเกอร์สี่เหลี่ยมเล็กๆสีเขียวแจ้งอายุของกรมธรรม์ สำหรับติดหน้ารถ 1 ใบ จากนั้นต้องไปเสียภาษีการนำรถยนต์เข้า สปป. ลาว ที่แผนกภาษีของศุลกากร จะได้เอกสาร(สีเขียว) พร้อมสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ 1 ใบ
การขับรถในลาว ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพราะ รถยนต์ในลาวขับชิดขวา และเส้นทาง สู่ หลวงพระบาง ยังเป็นถนนที่ คดเคี้ยวไปตามยอดเขาสูง จึงไม่ควรใช้ความเร็วมากอย่างในเมืองไทย
เงินตรา
สกุลเงินของสปป.ลาว เรียกว่า กีบ ธนบัตรที่พิมพ์ออกใช้ในปัจจุบันนี้มีฉบับละ 500 กีบ, 1,000 กีบ, 2,000 กีบ, 5,000 กีบ, 10,000 กีบ, 20,000 กีบ, และ 50,000 กีบ ปกติแล้วรัฐบาลห้ามใช้เงินสกุลอื่นในการซื้อขายสินค้าและบริการ แต่โดยทั่วไป บริษัทห้างร้านต่าง ๆทั้งหลาย ยินดีรับเงินเหรียญสหรัฐ และเงินบาทของไทยเรา นักท่องเที่ยวสามารถแลกเงินกีบได้ที่ธนาคาร หรือตามร้านค้าทั่วไป ในกรณีที่ท่านต้องการใช้บัตรเครดิต สามารถใช้ได้ตามโรงแรมใหญ่ ๆ ทั้งในเวียงจันทน์และหลวงพระบาง
แหล่งชอปปิ้ง
ตลาดเช้า เปิดขายตั้งแต่ 07.00 น. 16.00 น. ที่ชื่อตลาดเช้าเพราะเมื่อก่อนเปิดขายเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าพื้นเมือง และจากต่างประเทศ อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าซิ่น เครื่องเงิน ไม้แกะสลัก เครื่องจักสาน งานฝีมือต่าง ๆ
ตลาดจีน หรือ ตลาดแลง ตลาดหนองด้วงก็นิยมเรียกกัน เป็นจำหน่ายสินค้าจากประเทศจีน อาทิ กระเป๋าแบนด์เนม ของดียี่ห้อดัง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของที่ระลึก เสื้อผ้าสำเร็จรูป รวมไปทั้งอาหารและเครื่องเทศที่นำเข้าจาก ประเทศจีนโดยตรง
ตลาดขัวดิน เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของสดที่ใหญ่ที่สุดในนครหลวงเวียงจันทน์ เช่นเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ กุ้งหอย ปู ปลา และสินค้าอื่น ๆ ที่ชาวบ้านสามารถสรรหาได้ มาวางจำหน่าย
โทรสายตรงไปเมืองลาว
ปัจจุบันสามารถโทรศัพท์จากเมืองไทยตรงเข้าเมืองลาวได้โดยไม่ต้องผ่านศูนย์ โดยกดเบอร์ 008-856 แล้วต่อด้วยรหัสเมือง เช่น หลวงพระบาง รหัสเมือง 71 นั่นคือกด 008-856-71 แล้วต่อด้วยเลขหมายปลายทาง (โทรศัพท์เมืองลาวมี 6 หลัก) แต่ถ้าโทรไปเวียงจันทร์ กด 008-856-21 ต่อด้วยเลขหมาย
โทรจากลาวกลับไทย
ถ้าจะใช้มือถือเราเองเบอร์เดิมในเมืองลาวจะโทรกลับไทย (เช็คก่อนว่านาทีละเท่าไหร่) ต้องเปิดบริการก่อนไป แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ซื้อซิวลาวเติมเงินโทรสะดวกกว่า
โทรประหยัดกลับเมืองไทย
วิธีโทร ซื้อ ซิมการ์ด แบบเติมเงินของลาวมีหลายยี่ห้อ เช่น Mphone , ETL ราคาประมาณ 50,000 กีบ (ราวๆ 200 บาท) เปลี่ยนใส่โทรศัพท์เรา และซื้อบัตรเติมเงินยี่ห้อเดียวกัน มีหลายราคาให้เลือก ทำตามขั้นตอนหลังบัตร หรือให้ร้านเติมให้ก็ได้ เวลาตัดเข้าเมืองไทย ต้องกด 0066 ตามด้วยเลขหมายเลย ไม่ต้องใส่ 0 หน้ารหัส เช่น โทรศัพท์บ้าน กด 006643 (ตัวอย่างรหัส โทรกลับ ขอนแก่นนะคับผม) + หมายเลข เท่านี้ก็โทรกลับบ้านได้ในราคานาทีละ 8 บาท กลับถึงเมืองไทยอย่าเสียดาย ยกซิมให้คนอื่นได้เลย
แต่แนะนำให้ใช้ของ Mphone เพราะสัญญาณดีทีสุด สะดวกสุด ใช้ประจำ