คำตอบที่ 23
ผมเคยขี่ Off road, จักรยาน mountain bike, Motocross cycle, จนสุดทางก็ขายไปหมด เพราะยังรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ วันหนึ่งแวบแรกเกิดรู้สึกว่าอยากเรียนรู้ Trial ในที่สุดก็ได้ Beta Techno 250 ปี 98 รุ่น Lampkin Replica มา 1 คัน ฝึกหัดแบบงูๆปลาๆ เกือบ 2 เดือนก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ผมคิดว่าทั้งรถและเราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้เลยดูใน Web ได้เห็นท่ายากๆ แต่ไม่มีทางทำได้ง่ายๆ ลองฝึกก็ยิ่งลำบากเพราะคลำไม่ถูกต้น จะหาปลายก็คงยาก มีอยู่วันหนึ่งเปิด Web เจอ Observed Trial coaching manual ก็เลยเริ่มต้นจาก reset รถใหม่ตาม spec ของ Beta แล้วก็เริ่มฝึกตาม manual พบว่ามันน่าตื่นตาตื่นใจมากสมกับคำที่ว่า Trial Balancing Act, Serious fun precision sport (กีฬาที่แสดงที่ทรงตัวด้วยการรักษาสมดุล เครื่องยนต์ รถ ร่างกายด้วยทักษะและสมาธิที่ได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจังจนเกิดความมั่นใจและความแน่นอน) ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องออกหรือจะเรียกได้ว่า “หลงไหล” ก็คงไม่ผิดนัก ถึงมีเวลาแค่ 30 นาทีก็ต้องออกไปฝึกไปลองและสามารถเรียกเหงื่อได้แล้ว นอกจากจะได้ฝึกฝนแล้วยังเ็ป็นการเรียนรู้และแก้ไขจากข้อบกพร่องและสิ่งที่ผิดพลาดที่พบหรือไม่สามารถทำให้สำเร็จด้วยความมั่นใจได้ให้เหลือน้อยที่สุดจนรู้สึกได้ว่า ทำได้ มั่นใจ และได้รับความสนุกสนาน รื่นเริง และความปลอดภัย บัดนี้หลังจากที่ฝึกฝนอย่างเป็นรูปแบบผ่านไป 4 เดือนพบว่ามีความก้าวหน้าไประดับหนึ่งแล้วตั้งแต่เรื่อง การหยุดทรงตัวอยู่กับที่โดยไม่ต้องเอาเท้าลง (ตามที่เราต้องการ), การเลี้ยวขวาสุดซ้ายสุดเป็นวง เป็นเลข 8 อย่างช้าๆ บนพื้นเรียบและบนเนิน การยกล้อ 5-10 เมตร การทรงตัวใช้ล้อหลังไต่ไปบนก้อนหินขนาดใหญ่ การขึุ้นลงบันได(สะพานลอยข้ามถนน) สุดท้่ายคือการยกล้อหน้าขึ้นไปวางบนสิ่งกีดขวางเช่นผนังกำแพง ท่อซีเมนท์ขนาดใหญ่แล้วทรงตัวโดยไม่ต้องเอาเท้าลง (ส.ค. 50) หลังจากนี้ต่อไปยังต้องฝึกฝนอีกในเทคนิคอื่นๆ อีกมากเช่นการ hopping the wheel sideways, punching, splatter ฯลฯ การฝึกเล่น Trial ของผมใช้พื้นที่ที่ไม่มากนักขอให้มีเพียงสิ่งกีดขวางที่รถธรรมดาไม่สามารถไปได้นั่นคือเป้าหมายในการฝึกฝนหรือแม้กระทั่งข้างทาง ร่องน้ำ ทางชันๆ ข้างถนน ทราบว่าหลายจังหวัดทางภาคเหนือมีการแข่งขันกันแล้ว ขณะนี้คืออยากมีเพื่อนเล่นกีฬาประเภทนี้ในภาคตะวันออกบ้าง (081-7237718) จะ load รูปภาพมาให้ชมในครั้งต่อไปครับ
สวัสดี