Shimano
CT-700-S
TLD
STAR 15/30S
CT-1000
Trinidad TN-12
Charter 2000
Crestfire CR-100D
ABU
7000
C
6500
C
ABU 6500 C
ABU 6500 C 32 Speed
6600
CL Black Max
PENN
525
MAG
320
GTI
225
LD
ACCURATE
Boss
870
Boss
Magnum 870
DAIWA
Sealine
20 SH
BG-10
Pro
Gear
Pro
Gear 251
|
Page 2
รูปที่
8.
รูปที่
8. เมื่อเราถอดฝาข้างด้านมือหมุนออก
จะเห็นเม็ดหน่วง
มีด้วยกันทั้งหมด 4 เม็ด
ตรงแกนเพลาสปูล จะมี
ปลอกพลาสติกสวมไว้และล๊อกติดไว้เข้ากับ
แกน Pin ขับสปูล Pin อันเล็กๆ
ที่เจาะทะลุแกนสปูล
ที่จุด Pin
ที่ใส่เข้าไปในแกนเพลา
และเป็นตัว ล๊อกกับ Pinion Gear
เวลาเราหมุนแขนกว้าน
ตัวสปูลก็จะหมุนตามไปด้วย
จากที่เคยพบมาในรอก ABU 8000 C Japan
แกนเพลาสปูลตรงจุดที่ Pin
ใส่เข้าไปจะเกิดรอยร้าว
เพราะว่าพื้นที่ส่วนนี้จะบอบบางมาก
เพราะถูกเจาะเป็นรู้เพื่อใส่
Pin ตัวนี้
และนี้ก็เป็นอีกสาเหตุ
หนึ่ง ว่าทำไม
ถึงพบปัญหาแแกนสปูลของรอก
ABU ในรุ่น 7000 และ 7500 ขาด
แต่ท่านที่มีรอกตัวนี้ไว้ในครอบครอง
ก็ไม่ต้องตกใจ ใดๆ นะครับ
ถ้าเรารู้จักประมาณการใช้
เราก็จะมีรอกใช้ได้อย่างยาวนาน
ถ้าเราไม่ใช้สายเกินพิกัด
ไม่กดสปูลเวลาอัด
ไม่หมุนรอกสู้กับปลา
ทำตาม 3 อย่างนี้
รอกของท่านก็จะมีชีวิตที่ยืนยาวแล้วละครับ
รูปที่
9.
รูปที่
9.
ชุดฝาข้างด้านมือหมุนหลังจากถอดออกมาจากโครงรอกแล้ว
เราจะเห็น สกรู ตัวเล็กๆ
อยู่ 2 ตัว นั้นคือสกรู
ที่ใช้ยึดชุดห้องเครื่องของรอก
นั้นเองครับ
เมื่อเราเอาไขควงแบน
ที่มีปากพอดีกับหัวสกรูมาขันออก
เราก็จะเปิดฝาครอบ
นี้ออกมาได้
รูปที่
10.
รูปที่
10. ชิ้นส่วนหลัก
ของรอกตกปลา จากซ้ายมือ
คือ เฟรมหรือโครง
ถัดมาทางขวา เป็น สปูล
ที่เก็บสายเอ็น และ
ชุดห้องเครื่องที่ประกอบไปด้วย
เฟืองขับและชุดเบรค รอก ABU
ในรุ่น 7000 ขึ้นไป
ขาจับยึดรอกจะเป็นชิ้นเดียวกับโครงเฟรม
ซึ่งจะทำให้เกิดความแข็งแรงกว่าในรุ่น
ตัวเล็ก อย่างเล่น ในรุ่น
6500 ลงมา ซึ่งใช้วิธี
ใช้ความร้อนกดลงให้แผ่นจับยึดรอกเชื่อมติดกับโครงรอก
รูปที่
11.
รูปที่
11. ระบบการทำงานแบบเม็ดหน่วง
จะอาศัยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์
ในขณะที่สปูลหมุนด้วยความเร็ว
เม็ดหน่วงจะกางออกแล้วไปยันกับขอบของชุดฝาข้าง
ที่ปลายไขควงชี้ ในลักษณะ
เสียดสี ตามวงขอบ
ซึ่งจะเป็นการชะลอไม่ให้เกิดการหมุนแบบอิสระ
นั้นเอง
ถ้าเราถอดรอกแล้วดูตรงจุดนี้
ถ้าเราพบว่าวงขอบในมีรอยขีดขวน
เกิดขึ้น
ซึ่งรอยขีดขวนนี้จะส่งผลให้สปูลหมุนฝืดและทำให้เราทำระยะการขว้างได้ไม่ไกลเท่าไรนัก
เราควรใช้กระดาษทรายเบอร์มากกว่า
1000
ที่ใช้สำหรับในการขัดเงา
มาขัดลบรอยขีดขวนนี้ออกเสียและ
อีกจุดหนึ่งก็คือพื้นที่บริเวณนี้
ไม่ควรมีคราบน้ำมันหรือจาระบีเกาะติดอยู่
เพราะมันจะไปทำให้เกิดความหนืด
เมื่อเราขจัดรอยขีดขวนแล้ว
เราก็ควรมาดูที่สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยขีดขวน
โดยการตรวจตัวเม็ดหน่วง
ทั้งหมดรวมทั้งก้านของเม็ดหน่วงด้วยว่าก้านเม็ดหน่วงนั้น
ยื่นออกมามากเกินไปจนไปชนกับขอบนี้รึเปล่า
ถ้าก้านเม็ดหน่วงยื่นออกมามากเกินไป
ก็กดมันเข้าไปที่เดิม
และควรหยอดกาวตราช้างไว้ด้วย
ตอนที่หยอดกาว
ควรเอาเม็ดหน่วงออกก่อนนะครับ
รูปที่
12.
รูปที่
12. เอารูปวงขอบเม็ดหน่วงมาให้ดูกันชัดๆ
เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้พื้นที่จะคับแคบ
ต่อการขัดผิว ลบรอยขีดขวน
แต่มันก็ไม่เหนือกว่าความพยายามของเราไปได้ครับ
ลองทำดูนะครับ
Page [1]
[2] [3] [4] [5]
[Back]
|