รอก
Shimano CT-700-S ชิ้นส่วนภายใน
ของรอก ตระกูล ดัง จากค่าย
Shimano
รูปที่
1
![](01.jpg)
รอก Shimano CT-700-S
เป็นรอกที่น่าเล่นมากตัวหนึ่ง
ตัวเรือนทำจากวัสดุ
อะลูมิเนียม
เคลือบผิวภายนอกเป็นสีทองเหลืองอร่าม
ชวนให้นักตกปลา หลงใหลในความงามยิ่งนัก
รอกในรุ่น 700 นี้
จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ รุ่น
CT-700 กับรุ่น CT-700-S
ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว S
ที่ต่อท้ายนั้น หมายถึง
คำว่า Sport นั่นคือ
จะไม่มีตัวเกลี่ยสาย
ดังใน รูปที่ 1 ที่นำมาให้ดู
รูปที่
2.
![](02.jpg)
ถ้าเราจะแบ่งแยกตามหน้าที่ที่สำคัญของรอกตัวนี้
เราก็จะสามารถแบ่งออกได้ 3
ชิ้นส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน คือ
ส่วนที่เป็นขุมกำลังหรือชุดขับเคลื่อน
ต่อมาก็คือส่วนที่ทำหน้าที่จัดเก็บสาย
และ ส่วนที่เป็นโครงสร้าง
ดังปรากฏไว้ใน รูป
ที่ 2 ให้เราสังเกต ที่น็อตครอบแกนมือหมุนให้ดี
มันจะแตกต่างจากที่เราเคยเห็น
ซึ่งจะเป็นฝาครอบพลาสติกสีเทา
แต่เจ้าตัวนี้จะเป็นโลหะ
ให้ความคลาสสิคดีกว่าพลาสติก
รูปที่
3.
ต่อไปเราจะมาดูกลไกภายในของรอกตัวนี้กัน
ชุดขับเคลื่อน
จะแบ่งแยกชิ้นส่วนหลัก ๆ
ได้เป็น 4 ชุด คือชุดมือหมุน ชุดปรับแดร็ก
ชุดฝาครอบ และชุดห้องกลไกใน ดู
รูปที่
3 ประกอบ
ชุดมือหมุน
จะประกอบด้วย แขนกว้านแบบสปอร์ต
น็อตยึดแขนกว้าน
และแหวนยึดน็อตอีกตัว
ชุดปรับแดร็ก
ก็จะมีแป้นสปริงรองรับแกนปรับ
ตัวปรับแบบ 5 แฉก แผ่น Spring washer
อย่างบาง 1 คู่ และ
อย่างหนาอีก 1 คู่
แต่ละคู่จะประกบส่วนเว้าเข้าหากันในลักษณะเหมือนพนมมือ
ปลอกรองแกนเพลาที่ปลายด้านหนึ่งจะเป็นเขี้ยว
2 อันไว้สำหรับ ล็อคแผ่น Washer
แผ่นบน
ชุดฝาครอบ
ประกอบด้วยฝาครอบ
ปุ่มปรับหน่วง
ภายในปุ่มปรับหน่วงก็จะมีแผ่นทองแดงบาง
ๆ 2 แผ่น ตลับลูกปืน 1 ตลับ
สปริงสำหรับดันตลับลูกปืน
แหวน 2 วง
สำหรับรองตลับลูกปืน
ด้านละ 1 อัน
รูปที่
4.
ชุดห้องกลไก
ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักของบรรดารอกทั้งหลายก็ว่าได้
นั่นคือ
ห้องเครื่องใครจะดีกว่ากันก็จะ
วัดกันตรงนี้
ชุดห้องเครื่อง CT-700-S
ประกอบด้วย
แกนเฟืองที่มีขนาดใหญ่
ทำด้วยวัสดุทองเหลือง
ตัวเฟืองขับ หรือ Main Gear
ก็ทำจากวัสดุทองเหลือง
ที่มีขนาดความหนาไม่มากนัก
เพียง 2.5
มิลลิเมตรเท่านั้นเอง
ดูรูปที่ 4 แต่ก็เพียงพอ
รับเกมส์หนัก ๆ
อย่างปลาบึกไซส์ 20 -30 กิโล
ที่บึงสำราญได้อย่างสบาย
รูปที่
5.
รูปที่
5.
แสดงให้เห็นชิ้นส่วนต่าง
ๆ
ที่บรรจุอยู่ในห้องเครื่อง
จะเห็นชุดแดร็กจำนวนมากมาย
ประกอบด้วย แผ่น Washer 3 แผ่น
แผ่นเบรก อีก 4 แผ่น ที่ Main Gear
จะมองเห็นคราบสีดำนั้นเกิดจากการที่เพิ่งผ่านการใช้งานที่หนักหน่วง
จากภาระกิจที่บึงสำราญมาสด
ๆ ร้อน ๆ นั่นเอง
คราบสีดำนั้นก็คือ
ฝุ่นผงของแผ่นเบรก
ที่เป็นชนิดคาร์บอนผสมกับกราไฟท์นั่นเอง
ส่วนแผ่นโลหะที่เป็นหยัก
ๆ ทางซ้ายมือสุด
ก็คือเฟืองตีนผี
ทำหน้าที่ปลดล็อคครับ
รูปที่
6.
ในรูปที่
6. จะแสดงให้เห็น
แผ่นเบรกที่อยู่ใต้เฟือง
ที่แตกหัก
หลังจากผ่านการใช้งานอัดปลาบึก
ที่บึงสำราญ
เบรกแผ่นนี้เป็นวัสดุ
คล้ายกับกราไฟท์ผสมคาร์บอน
แข็งแต่เปราะ
ผมจึงได้เปลี่ยนมาใช้เทฟลอนแทน
และให้ความรู้สึกว่าดีกว่าเดิมอีกด้วยครับ
ท่านใดที่ใช้รอกตัวนี้
ลองสังเกตเบรกแผ่นนี้ตอนที่ท่านถอดมาทำความสะอาดดูนะครับ
ถ้าท่านพบปัญหาดังเช่นที่ผมพบ
ท่านไม่ต้องตกใจ
อันที่จริงถ้าแผ่นเบรกขาดในลักษณะแบบนี้
มันก็ยังสามารถใช้งานได้
เพียงแต่เราไม่มั่นใจเท่านั้นเอง
ทางที่ดีเราควรจะเปลี่ยนเป็นแผ่นใหม่จะดีกว่า
แต่ขอแนะนำว่าให้ใช้วัสดุที่แข็งสามารถทนความร้อนได้ดี
เพราะเบรกแผ่นนี้จะรับน้ำหนักเต็มที่
ท่านสามารถใช้วัสดุเทฟลอนมาใส่แทนได้ครับ
รูปที่
7
รูปที่
7
แสดงให้เห็นเฟรมชิ้นเดียว
ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม
เคลือบผิวด้วยสีทอง
ขายึดรอก Reel site เป็นสแตนเลสแข็งแรง
ยึดเข้าด้วยด้วยหมุดยึด 4
ตัว
ทำให้รอกตัวนี้แข็งแรง
ตัวเฟรม รอก
จะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
ท่านผู้ใช้ที่ถนอมรอกจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
รูปที่
8.
รูปที่
8. เป็นรูปสปูล
ถ้าสังเกตตรงแกนกลางสปูลให้ดีจะเห็นปุ่มโปล่ออกมาจากแกนสปูล
ปุ่มนี้มีไว้เพื่อคล้องสายเอ็นในการกรอสาย
เราจะได้ไม่ต้องผูกหรือมัดสายเอ็นในการเริ่มต้นกรอสายเอ็นเข้าสปูล
เท่าที่ผมสังเกตดูปุ่มอันนี้จะมีเฉพาะรอกที่
จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
เท่านั้น
แกนเพลาขนาดโตรับแรงกดได้อย่างเหลือเฟือ
สำหรับปลาบึกขนาด 30
กิโลนี่สบายมาก
ส่วนที่เราเห็นเป็นสีดำ
และมีเม็ดเป็น แฉก ๆ อยู่ 6
แฉก นั่นก็คือเม็ดหน่วง
เม็ดหน่วงนี้จะทำหน้าที่ง้างออกเมื่อเกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์
และที่ปลายด้านนอกจะไปสัมผัส
กับขอบของเฟรม
ที่ทำเป็นเบ้ารับไว้
ในขณะที่สปูนหมุนเร็ว
ก็จะเกิดแรงหนีศูนย์มากตัวเม็ดหน่วง
ก็จะมีแรงไปเสียดสีที่เบ้า
เฟรมมากขึ้นตามไปด้วย
ยิ่งเราเพิ่มจำนวนเม็ดหน่วงมากขึ้น
ก็เท่ากับเป็นการที่เราเพิ่มพื้นที่การเสียดสีให้มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
เมื่อเกิดการเสียดสีขึ้นมากเท่าไร
ความเร็วก็จะลดลงเร็วขึ้นเท่านั้น
และนี่คือการทำงานแบบเม็ดหน่วงครับ
ในทางตรงกันข้าม
ถ้าเราดันเม็ดหน่วงเข้าข้างใน
ล็อคให้หมด
นั่นคือเราไม่ใช้เม็ดหน่วง
การหมุนของสปูนก็จะเป็นอิสระไร้การควบคุม
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดเล่น
รอกประเภทนี้ควรที่จะกางเม็ดหน่วงออกให้หมดทั้ง
6 ตัว หรืออย่างน้อยก็ 4 ตัว
จนกว่าจะเกิดความชำนาญ
ถึงค่อยหุบเม็ดหน่วงให้เหลือแค่
2 เม็ด
ข้อควรระวัง การเปิด
หรือ หุบเม็ดหน่วง
ควรจะต้องทำในด้านที่ตรงข้ามกันเสมอ
[BACK]
|