อาทิตย์,22 ธันวาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

 

 

 

 

 

 

 

 

 บางเสร่ วันที่ 8-9 กันยายน 2544 

โดย..Tommy

 

 ดอดไปฟันไอ้โฉมที่บางเสร่     

                  ท้องฟ้ายามสนธยากาลที่ท่าเรือเพทายบางเสร่เวลานี้งดงามนัก ท้องทะเลราบเรียบ มองไปที่แนวเขาเห็นสีสัน 
สุดท้าแห่งดวงตะวัน ก่อนจะลาจากไป 

ที่ท่าเรือยังคงมีผู้คนมากมาย ขนถ่ายสินค้าที่หาได้จากทะเล มารดาอันยิ่งใหญ่ แห่งสรรพชีวิต นักตกปลาหลายกลุ่ม 
เพิ่งกลับจากการแสวงโชค กับรางวัลแห่งความเพียร ใบหน้าที่อิดโรย เพราะกรำแดด กรำลม แต่ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความอิ่มเอม  
รถเข็นหลายคัน ผ่านผมไปพร้อมกับปลาจำนวนมากบ้างน้อยบ้าง แต่นั้นคงไม่ใช้สิ่งที่สำคัญ ผมเชื่อว่านักตกปลาไม่ใช้ชาวประมง 
ทริพนื้เป็นทริพเล็กๆ ที่คนในสังคมเมือง จะปลีกเวลาให้กับสิ่งที่ตัวเองรักได้ใน ระยะเวลา หนึ่งคืนกับหนึ่งวัน 
ก็เพียงพอแล้ว…

เรือไต๋ต่อ เป็นเรือตกปลาขนาดเล็ก (4 วา)ไม่มีอุปกรณ์ไฮเทคใดๆ GPS SOUNDER SONAR ไม่มีทั้งนั้น 
แต่เรือลำนี้กลับเป็นเรือที่มีชื่อเสียง แถบทะเลบางเสร่ ลำดับต้นๆ ทีเดียว เรียกได้ว่ากลับเข้าฝังแล้ว ปลาที่ได้กลับมาไม่น้อยหน้าใคร 
สำหรับผู้รวมทริพครั้งนี้ เป็นเพื่อนต่างวัยของผม 2 ท่าน ท่านแรกคือ น้ายืด และป๋านิ ( น้ายืดนั้น 44 ขวบ , 
ป๋านิ 63 ขวบ) ป๋านิเป็นทหารเรือเก่า สุขภาพจึงแข็งแรวดีมากแถมยังไม่มีง่วง ซึม ให้เห็นตลอดหลายๆทริพที่ผ่านมา……. 
น้ายืด นั่งอยู่ในเก๋งเรือสนทนา กับพ่อของไต๋ไปพลาง จัดอุปกรณ์ให้เข้าที่เข้าทาง ป๋านินั่งจิบเบียร์ช้างอยู่ริมสะพาน 
ส่วนผมดูบรรยากาศ ของผู้คนยามเย็นที่นี่…….. 
สักครู่ไต๋ก็เดินมาที่เรื่อ ไต๋เป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับผม นับว่าไม่มากเลย หากเทียบกับความสามารถ.. 

เสียงเครื่องเรือคำรามขึ้น อันเป็นสัญญาณให้ผมตื่นจากภวังค์ ประจำที่ท่าเรือ หัวเรือตัดผ่าคลื่นบางเบา แหวกความมืดมิด ออกสู่มหานที ลมทะเลพัดเย็นสบาย ผมนั่งปล่อยใจไปอย่างไร้ขอบเขด ทบทวนถึงสิ่งต่างๆ ที่เห็นและเป็นอยู่  อย่าง เดียวดาย ไม่กี่อึดใจ ไต๋หนุ่มจอดเรือหย่อนสมอ จัดวางแขนไฟไดน์ทั้ง 2 แขน เปิดไฟ เพื่อหาปลาหมึก ผมว่าการลงเรือ 
ตกปลาทะเล ถ้าจะให้ครบกระบวนการต้องมีการไดน์หมึกด้วยคุณว่าไหม ? 
ช่วงเวลานี้ โยทะกาสีขาวเป็นพระเอก ไต๋หนุ่มสาวหมึกขึ้นมาเป็นระยะๆ ส่วนโยสีเงินของผมไม่ทำงานเอาเสียเลย ได้หมึกมาแค่ 2 ตัว จึงเอนตัวลงนอนพักเอาแรง  แล้วหลับสู่ห้วงแห่งนิทรากาลโดยไม่รู้ตัว 
มารู้สึกตัวอีกทีเนื่องจากอากาศเย็น มองดูพรายน้ำ นาฬิกาบอกเวลาตี 1 กว่าๆ น้ายืดซึ่งหลับไปเพราะพิษไข้  ตื่นมาเหมือนกัน ป๋านิยังคงนั่งจิบเบียร์ตกปลาหมึกอยู่ลำพัง ไต๋หนุ่มเหม่อมมองไปยังเรือไดน์หมึกรอบๆ ซึ่งสว่างไสวเต็มทะเล 
เมื่อหัวค่ำตอนนี้เหลือน้อยลงแล้ว การครอบหมึกจึงเริ่มขึ้น ไต๋ไปเปิดไฟด้านกาบขวาของเรือ แล้วหรี่ไฟที่กาบช้าย เห็นปลาหมึกลอย  ขึ้นมาเป็นแพใหญ่คะเนว่าพอสมควรแล้ว จึงเปิดไฟไดน์ให้สว่างทั้ง 2 ข้าง จากนั้นก็กางแขนอวนเตรียมครอบหมึก เราครอบทีเดียวได้หมึกร่วมร้อยกว่าตัว ซึ่งเพียงพอแล้ว สำหรับการตกปลาในทริพนี้ 

คันเบ็ดที่ผมประกอบไว้แล้ว 2 ชุด ปักอยู่ที่กระบอกหัวเรือ สายเอ็นที่ยังไม่ประกอบชุด ปลายสาย สะบัดพริ้วไปมา  ตามลมทะเล เสียงเครื่องเรือครางตัดพื้นน้ำไป ข้างเกาะเป็ด หลังจากมองฉากเหลี่ยมสันเขา เงาคลื่นไม่กี่อึดใจสมอก็ถูกทิ้ง  ตูมลงหัวเรือ ท้ายเรือขยับดักหัวน้ำ ซึ่งไหลเอื่อยไปทางเหลี่ยมเกาะ  ปลาหมึกเป็นตัวแรกที่ถูกเหวี่ยงลงน้ำ ตามด้วยตะกั่วลูกละประมาณ 1 ขีด แล้วคันอีก 2-3 คันก็ถูกปฎิบัติด้วย  วิธีเดียวกัน ความง่วงทำให้ผม จมสู่นิทรากาลแต่ก็ต้องตื่นเมื่อได้ยินเสียง คันแหวกอากาศ ปลาตัวแรกเป็นปลาดอกไม้  (ดูจากตำราภายหลัง) หนักประมาณ 2.5 kg ได้ จากนั้นมาผมก็นอนรอรุ่งสาง มีเพียงป๋านิกับไต๋ที่ที่เฝ้าเบ็ดเท่านั้น  เมื่อแสงเรืองรองส่องขอบฟ้า ผมตื่นขึ้นจากเก๋งเรีอ สำรวจปลาที่ตกได้ มีเพิ่มอีก 2 ตัว คือ ไอโซะกับหมูสี  ไซส์ประมาณกิโล ไต๋ย้ายเรือมาอีกที่คือ..  หินรู ประมาณแปดโมงกว่าๆ เราได้รับการทักทาย คุณสาก ตามเคย มันกล่าวอรุณสวัสดิ์ พร้อมฟันที่หน้าเกลียดเต็มปาก จากนั้นคันเกือบทุกคัน บนเรือได้รับการต้อนรับจากฝูงโฉมงาม ถ้วนหน้า ดีที่มันกินทีละคันเราสนุกกับการเชยชมโฉมพิกัด 3 kgs ทุกคนมา ร่วม 5 ตัว ติดๆ กัน น้ำเริ่มไหลแรงขึ้น ฝูงไอ้โฉมหายตัวไป ทันที ไต๋ขยับเรือ ตามอยู่ร่วม 3 เหลี่ยม จึงเจออีก คราวนี้ได้มาอีก 5 ตัวรวด ผมมองดูรูปพรรณสัณฐานมันแล้วไม่หน้าเชื่อว่า  พละกำลังของมันสามารถลากเอ็นจากรอกที่ SET เบรคแข็งไว้ออกไปอย่างยาวเหยียด ทั้งๆ น้ำหนักตัวไม่เกิน 4 kgs  

เวลาบ่ายกว่าๆ เราขยับเรือไปแนวหน้าผา เมื่อโฉมหายหน้าพาฝูงหนีไปอีก คุณสากเจ้าที่ก็ให้การต้อนรับอีก 2 ตัว  แนวหน้าผาเงียบฉี่ ไต๋ขยับเรือออกไปอีกตามแนวเกาะ ตรงนี้ผมไม่ได้ ถามไต๋ว่าชื่อว่าอะไรก็ได้ โฉม ไซด์ 2 kgs มาอีก 2ตัว  บ่ายสี่โมงเย็นทุกคนเหน็ดเหนื่อย และอิ่มเอม พอใจกับผลงานในครั้งนี้ ไต๋ถอนสมอหันหัวเรือเข้าท่า ปากบ่น  ว่าโดนฝนแน่ๆ ลมกระโชกไล่หลังเป็นระยะ แนวเกาะด้านนอกครัม พยับโพยม ฝน ก่อนทะเลจะเป็นบ้า แต่เราคงเข้าฝังก่อน  เนื่องจากเกาะเป็ดอยุ่ไม่ไกล ท่าเรือเท่าไรนัก  หลังจาก แอ็คชั่น ถ่ายรูปกับกองปลา ที่หัวเรือแล้วก็ขนสัมภาระขึ้นรถ ผมแบ่ง โฉมมา 3 ตัว สาก 2 ตัว หมึกอีก  ประมาณ 2 กิโลไปฝากให้คุณ BBEAM ที่คอยโทรถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตลอดเวลา เมื่อท้ายรถพ้นวัดบางเสร่  พายุก็โหมกระหน่ำลงมาทันที ผมส่ง ป๋านิที่ศรีราชาแวะอาบน้ำอาบท่าที่บ้านแก ก่อนจะขับรถคู่ชีวิตมาบนถนนสุขุมวิท  ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาอย่างอวยชัย 

 

สวัสดีนักตกปลา  
TOMMY

[กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster