|
โฉมเอยโฉมงาม
บางเสร่ 3-4 ส.ค. 45
มาอ่านคนที่
ผู้ร่วมทริพ 1.ชนบท
2.Bbeam 3.Tommy และ 4.ตั้ม
เรือลำน้อยขนาด
7 เมตรของไต๋ต่อ ไต๋หนุ่มแห่งบ้านบางเสร่ แล่นออกจากท่าเรือเพทายเป็นลำสุดท้าย
ตอนนี้เวลาก็เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว แสงไฟระยิบระยับจากเรือไดร์หมึก กระจายเต็มพรืด
ไปทั่วท้องน้ำทะเลบางเสร่
 เรือไต๋ต่อออกจากท่าได้ไม่ถึง
10 นาที ก็ทิ้งสมอลงน้ำเสียงดังตูม! แล้วจัดแจงกางแขนไฟก่อนที่จะไฟ เชิญชวนเรียกปลาหมึกให้เข้ามารุมล้อม...
โยทะกา ตัวสีขาว เป็นสีที่หมึกบางเสร่ชอบนักชอบหนา ถูกหย่อนลงน้ำ พอถึงพื้นก็ยกขึ้นยกลง
ไม่กี่ครั้ง ก็มีหมึกตัวเรียกเข้ามาจับ มันเป็นหมึกหลอด ขนาดกำลังดีเหมาะแก่การเอาไปทำเหยื่อตกปลาดีแท้
วิธีตกปลาหมึกที่บางเสร่ นี้แตกต่างไปจากที่อื่นที่ผมเคยไปมา ปกติการตกหมึก
เราจะกระตุกสายให้โยทะกาเคลื่อนไหว เหมือนกับลูกปลาที่กำลังจะตาย หมึกมันเห็นก็จะวิ่งเข้ามาตระครุบ
แต่ที่บางเสร่นี้ เราแค่หย่อน โยทะกาถึงพื้นแล้วกรอสายเข้ามากะให้โยทะกาสูงจากพื้นประมาณ
1-2 ฟุต เวลาที่หมึกมาจับโยทะกา ปลายคันมันจะกระตุก ลักษณะเหมือนปลากินเบ็ด
ยังไงยังงั้น หมึกบางตัวมันดึงจนคันเบ็ดโกร่งเลยก็มี ไต๋ต่อเล่าให้เราฟังว่าหมึกที่นี่เคยดึงคันเบ็ดของแขก
ตกน้ำมาแล้ว
 คืนนั้น เราทั้ง
4 คน ช่วยกันนั่งตกหมึกขึ้นมาได้หลายตัว ยิ่งดึกเท่าไร หมึกยิ่งเยอะเราได้หมึกมากพอเพียงสำหรับที่จะออกไปต่อกรกับ
โฉมงามหรือสละ หรือไอ้สากแล้ว... หิวแล้ววะ ต้มข้าวต้มหมูสับกินกันดีกว่า
จุ่มโพ่ตั้ม รับอาสา ไปต้มข้าวต้มหมูสับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละครับว่า เจ้าตั้มมันทำได้อร่อยเหาะจริงๆ
ฝีมือต้มข้าวต้มมันเข้าขั้นเชียว...หลังจากท้องอิ่ม ก็ง่วงละซิครับ เวลาในตอนนี้
ก็ปาเข้าไป ตี 2 แล้ว ไปนอนดีกว่า .... ว่าแล้วก็ซุกตัวเข้าไปเยียดยาวนอนในเก๋งเรือ
เป็นเพื่อนเจ้าชัย ทอมมี่ ที่หลับยาวตั้งแต่เรือออกจากท่า
 หมายแรกที่เรือเข้าไปจอดหลบคลื่นลมก็หมายซั้งพัง
ที่หมายนี้ไต๋ต่อบอกกับเราว่ามีหมูสี ขนาดกำลังกิน อาศัยอยู่ ผมเข้าไปนอน
กับเจ้าทอมมี ดีกว่า เก็บแรงไว้ตอนรุ่งเช้า ไว้ฉะกับไอ้ปลาสากและโฉมตรู ดีกว่า
ผมมาตื่นอีกที ก็เพราะเสียงโยนสมอลงน้ำดังตูมมม เมื่อเรามาถึงหมายแรก ผมต้องแปลกใจ
เพราะเรือมันมาจอดเกือบจะชิดกับเกาะเลยนะซิครับ เฮ้ย! ตรงนี้มีปลาแน่นะ
น้ำดูแล้วน่าจะตื้น มันจะมีปลารื่อ....
เอาก็เอาวะ คันกราไฟท์ยูเอสเอ ประกอบกับรอก Finnor LD12 AHAB สาย 20 ปอนด์
ปลายสายใช้รีดลวด ขนาด 50 ปอนด์ เบ็ด 3 โอ สองตัวเกี่ยวหมึกตัวขนาดคืบ โยนลงน้ำ
ทิ้งสายให้ยาวประมาณ 10 เมตร แล้วใช้ตระกั่วขนาด 16 ลูกโล ผูกกับหนังยาง
แล้วทิ้งลงไป ในขณะที่ท้ายเรือ ได้หย่อนสายกันหมดทั่ง 3 สายแล้ว
 แกร๊กกกกกกกกกก
เสียงทักทายจากรอก Daiwa Sealine ของ ทอมมี ที่ปลุกเร้าและยืนยันในคำพูดของไต๋ต่อว่าที่นี่มันมีปลา
ก็ส่งเสียงร้องยาว ทอมมีกระโจนพรวดเดียวออกจากเก๋งเรือด้วยความชำนาญ เข้าไปดึงคันออกจากกระบอกปักคัน
แล้ววัดขวับ 1 ที แต่ดันลืมตัว ใช้นิ้วหัวแม่มือกดสปูลเอ็น วัดคัน เลยโดยเอ็นสีจนนิ้วพองปลาตัวแรกเป็นปลาสาก
ขณะที่ตั้มกำลังจะเอาตะขอเกี่ยวขึ้นเรือ ทอมมี่ เห็นขนาดของมันเล็ก จะยกมันขึ้นเรือ
พอหัวมันพ้นน้ำเท่านั้นมันก็สะบัดหัวจนเบ็ดหลุดออกจากปาก อิสระภาพจึงเป็นของมันทันที
มันรีบดำดิ่งวิ่งหัวซุกหัวซุน หายไปในสายน้ำ ปลาตัวแรกหลุดไปแล้ว....
 แต่เพียงแค่นี้
มันก็พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่าหมายนี้ มีปลาแน่นอน และชั่วเวลาห่างกันไม่ถึง
ครึ่งชั่วโมงคันของชัยที่ปักไว้ทางท้ายเรือ ก็สำแดงเดช อีกครั้ง เสียงไต๋ต่อฟันธง
ทั้งๆที่ยังไม่เห็นปลาว่า "ไอ้โฉมแน่ๆ ตัวนี้
" ชัย ต่อสู้กับมันจนลากมันมาถึงข้างเรือแล้วจู่ๆ ปลามันก็นิ่ง หยุดการเคลื่อนไหว
ปลายคันก็ยังโค้งง้ออยู่แบบนั้น "เฮ้ย มันไม่ใช่ไอ้โฉมแล้ววะ
ต่อ กะเบน ตะหาก" ขณะที่ชัยกำลัง งัดเจ้ากระเบนอยู่ทางท้ายเรือ
คันของบีม ซึ่งอยู่ทางท้ายเรือเหมือนกันก็ ถูกปลาดึงเข้าแล้วเสียงร้องดังระงม
บีมวิ่งมาดึงคันออกจากกระบอกก่อนจะวัดไป 1 ฉับ เสียงไต๋ต่อ ฟันธงมาอีกแล้ว
"ตัวนี้ไอ้โฉม แน่ๆ" " โอ้ยไอ้ต่อ
ไอ้ตัวที่แล้วก็บอกว่าเป็นไอ้โฉม โน้น เจ้าชัยยังงัดไม่ขึ้นเลย กลบพื้นอยู่นั้นไง
โฉมบ้านเอ็งซิกลบพื้น แน่นเชียว" ชัยดึงปลากะเบนขึ้นมาได้สำเร็จ
มันเป็นปลากะเบนธง ขนาด 10 กว่า โล ตัวเปิดทริพนี้
 ในขณะที่บีมก็ดึงปลาขึ้นมาได้ในเวลาเกือบจะไล่เลี่ยกัน
มันเป็นโฉมงามจริงๆ ตัวขนาด 3-4 โล ขณะที่ผมกำลัง ตกปลาเล็ก เพลินอยู่นั้น
Finnor AHAB 12 LD ก็ออกฤทธิ์ บ้าง ปลายคัน ค่อยๆโค้งลง เสียงไต๋ต่อตะโกนดังลั่น
"พี่คันพี่ปลาดึงแล้ว" เสียงพูดยังไม่ทันจบประโยค
เสียงรอก Finnor ก็ดังสวนขึ้นทันที ผมดึงคันออกจากกระบอก วัดคันป๊าบ ป๊าด
ไป 2 ป๊าบ สายเอ็นก็วิ่งปรู๊ด ฉีกออกไปทางท้ายเรือ "พี่ระวังเอ็นครูดท้องเรือ"
อ้า จริงซิ สายเอ็นมันมุดเข้าไปใต้ท้องเรือนี่หว่า ยุ่งแล้วซิ ยังงี้มันทำให้หวาดเสียวหัวใจดีพิลึก
กลัวว่าสายเอ็นจะไปบาดกับท้องเรือขาด เพราะมันเป็นปลาตัวแรกของผมในทริพนี้
จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง เป็นพิเศษโอกาส ที่เราจะได้ปลานั้นน้อยมาก ยังไง
ก็ต้องพยายามไม่ให้ปลามันหลุดไปได้ง่ายๆละ
 ผมต้องเดินจากหัวเรือไปอัดปลาที่ท้ายเรือ
อย่างระมัดระวัง มือข้างขวาจับด้ามคันไว้แน่น มือซ้ายก็คว้ากราบเรือประคองตัวเดินไต่แคมเรือไปทางด้านทาง
อย่างทุรักทุเร เพราะเรือมันเล็กมากนะซิครับ เวลาจะเหินจะเดิน จะต้องเป็นไป
อย่างระวัง มิฉะนั้น อาจตกน้ำได้ ฮ่า!! ขณะกำลังเดินไปถึงท้ายเรือ คันของ
ชัยทอมมี่ ก็ร้องขึ้นมาอีก เราโดนฝูงไอ้โฉมถล่มเข้าให้แล้ว แต่ของปลาของชัยหลุดไปอย่างน่าเสียดาย
ส่วนตัวที่ผมกำลังอัดอยู่ มันเป็นโฉมงามตัวที่ 2 ของทริพนี้ มีขนาดไล่เรี่ยกับตัวแรก
BG-10 กับกะเบน 7 โล
 ช่วงเวลาที่รอปลามากินเหยื่อ
เวลาในช่วงนี้ไม่มีอะไรดีกว่าการเอาคันสปินนิ่งชุดเล็กมานั่งสอยปลาทรายแดง
ขณะที่ผมกำลังสอยปลาทรายแดง เพลินๆ ก็ถูกตัวลึกลับกระชากคันอย่างแรง ผมตวัดคันวีว่าท่อนเดียว
ขนาด 5.5 ฟุต สวนทันทีและผมก็ได้รับแรงสวนกลับจากปลาเช่นกัน จนคันโค้งวูบแทบจะหลุดออกจากมือ
เจ้าตัวที่มันแอบมาเล็มปลาหมึกแล่ ต้องตัวใหญ่แน่นอน เจ้าตั้มพอเห็นคันวีว่า
โค้งงอ นึกว่าคงโดนโฉมงามสวาปามเข้าให้แล้ว เข้ามาขอไปอัดบ้าง คันชุดเล็กกับปลาตัวใหญ่มันให้อารมณ์ที่เร้าใจ
ตื่นเต้นและท้าทายความสามารถของคนเล่นมาก ผมยื่นคันให้ตั้ม เอาไปอัด แต่ก็อดค้อน
ขวับๆ ไม่ได้ ก็ ผมยังไม่ได้อัดกับมันเลย โดน ปล้น ซะแล้ว แบบนี้เขาเรียกว่าปล้นคามือ
เสียงแหลมกรี๊ดดดๆๆๆๆๆ จากสปูล BG-10 ดังตลอดเวลา ตั้มอัดกับมันไปได้สักพัก
รอก finnor ของผม ก็ถูกปลากระชากอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ไต๋ต่อที่ยืนอยู่หัวเรือรีบคว้าคันขึ้นมาวัดฉับก่อนที่จะยื่นคันส่งให้ผมอัดต่อ
แต่ปลามันได้หลุดไปเสียแล้ว..... น่าเสียดาย โอกาส ยิ่งมีน้อยเรากลับปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดไปอย่างง่ายดาย
 ไปลุ้น เจ้าตั้มอัดปลาต่อดีกว่า
"สงสัยจะเป็นกระเบน" ในที่สุดเจ้าตัวปริศนา
ตัวนั้นก็โดนเจ้าตั้มอัดขึ้นมาลอยตัวอยู่ข้างๆเรือก่อนที่ไต๋ต่อจะสับตะขอเกี่ยวมันขึ้นมาบนเรือได้สำเร็จ
มันเป็นปลากะเบนธงหนัก ประมาณ 7 โล เป็นกะเบนตัวที่ 2 ของทริพนี้ สมน้ำหน้าเจ้าตั้มจังที่ขอแย้งเราไปอัด
โดนซะได้อัดกระเบนสมใจอยาก ส่วนตัวผมได้แต่แอบนึกขำอยู่ในใจ ก็เมื่อคืนเจ้าตั้มมันพึ่งจะคุยอยู่หยกๆ
ว่าไม่ขออัดกระเบน เพราะเข็ดที่เคยต่อกรกับกระเบนนกมาแล้ว นานถึง 8 ชั่วโมง
ตั้มเลยสาปส่งว่าต่อไปนี้ไม่ขออัดกระเบนอีกแล้ว จากนั้นเราก็โดนฝูงปลาโฉมงาม
เข้าถล่มสายเหยื่อ ของพวกเราเป็นระลอกๆ ระลอกแล้วระลอกเล่า ได้บ้างหลุดบ้าง
แต่จะหลุดเสียมากกว่า อาจจะเป็นเพราะเราใส่สาย รีดลวดก็เป็นไปได้ที่ทำให้ปลามันระแวง
พอลากสายแล้วจะคลายทันที ก็เป็นได้จะคงมีแต่เจ้า บีมที่สามารถดึงปลาโฉมขึ้นมาเพิ่มอีก
1 ตัว
 พอเกือบจะเที่ยงวันเราก็ย้ายหมาย
ไปที่หมายกองหินตกปลาเก๋ากัน...
เราแล่นเรือห่างจากหมายเดิมเพียง 10 นาที ก็มาถึงหมายกองหิน ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาเล็กปลาน้อย
เช่นพวกปลาทรายแดง ปลาเห็ดโคลและปลานกะลิง ผมตกปลาเล็กอย่างสนุก จนไต๋ต่อ
ต้องลงมาทำชุดเล็ก ตกปลาแดง กับผมด้วย..."หาปลาทราบแดง
ไปฝากแม่บ้านก่อน." ปลาทรายแดงที่หมายนี้แต่ละตัว ใหญ่ๆทั้งนั้น
เราได้ทรายแดงหลาย 10 ตัวเลยละครับ แถมด้วยเห็นโคน ขนาดข้อมือเด็ก อีกหลายตัว
ใครจะหัวเราะเยาะพวกเราที่เสียเงินเช่าเรือไปตกปลาทราย ก็ช่างเขา เพราะเราชอบกินปลาทรายแดงมากกว่า
ชนิดอื่นใด เนื้อของปลาทรายแดงเมื่อนำมานึ่ง จิ้ม เต้าเจี่ยว บีบมะนาวซอยพริกขี้หนู
ใส่หอมซอยเข้าไปนะ อร่อยสุดๆ เลยครับ..
เราได้ปลาเก๋า สมใจอยาก ที่หมายนี้ อีก 2 ตัวจากฝีมือ ชัย และเจ้าตั้มที่มาตีไข่แตก
เอาเป็นคนสุดท้าย หลังจากยืนโด่ อยู่ตั้งแต่ตอนเช้า....
 สำหรับทริพนี้เราลงเรือด้วยกัน
2 ชุด โดยเพื่อนที่ทำงานของบีม อีกชุดหนึ่งซึ่งเป็นมือใหม่หัดตกปลาทะเล เสียส่วนใหญ่
ไปลงเรือใครผมไม่ได้สอบถาม เราโทรคุยติดต่อกันตลอดตั้งแต่สอบถาม การไดร์หมึกได้หมึกมากน้อยเพียงพอรึเปล่า
แม้แต่สอบถามหมายที่ไต๋พาไปตกว่าได้ปลาอะไรขึ้นมาได้แล้วรึยัง จนเราเข้าฝั่งเกือบจะพร้อมกัน....ลำนั้นไม่ได้ปลาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาเลย
มีเพียง สร้อยนกเขาตัวละประมาณ 1 โล ตัวเดียวเท่านั้น ....เกิดอะไรขึ้นกับเขากลุ่มนั้น
มันเป็นอุทาหรณ์ สำหรับมือใหม่ผู้ที่จะไปตกปลาที่บางเสร่ ที่ผมก็พึ่งจะรู้เหมือนกัน
ถ้าท่านใดจะไปใช้บริการเรือที่บางเสร่ ควรจะบอกกับไต๋เรือ ให้พาเข้าหมายปลาใหญ่
มิฉะนั้น ท่านจะนั่งสอยปลาเล็ก ทั้งวัน ...
[กลับสู่เมนู]
|
250 ไมล์กับนายชนบท
