พุธ,4 ธันวาคม 2567 |
เรื่องเล่าคนตกปลา 250 ไมล์กับนายชนบทแล่นเรือโต้คลื่น ปลากระบึกที่สีชัง คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง บางเสร่ยังมีลุ้น ดอดไปฟันไอ้โฉม วันนี้ที่รอคอย มันแปลกดีนะ สายันรัญจวน ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ น้ำใจ โฉมเอยโฉมงาม แข่งขันตกปลาสัญจร#1 ปลายฝนต้นหนาว แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6 ลูกหมูจอมซ่าส์ โต้ลมหนาว เก่งกับเฮง เมษาฮาวาย เมื่อผมไปงานแข่งฯ ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ หูดำที่เกาะค้างคาว ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง มหาเฮง นักเลงโตสากดำ ฟ้าหลังฝน หลังมรสุมสงบ ตามล่าปลาจัมโบ้ บันทึกแห่งความทรงจำ คุณพริ้งลองของ อัดปลาโต้เดิ้ง เพื่อนรักต่างแดน เก๋าหน้าหวาน ไต๋ยอช์ตพาเพลิน สานสัมพันธ์คนตกปลา#1 หรรษาตะวันแดง บางเสร่รำลึก#4 ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก แดงจ๋าแดงจ่า ลีลาสละ ลูกหมูย่ำสวาท ผู้กล้าแห่งวารี ไต๋ระยอดนักสู้ สายสัมพันธ์คนตกปลา#2 มือใหม่หัดเหวี่ยง ผู้พันอินทรี สัตว์ประหลาด ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี จิตสังหาร ลากมาอุ้ม ปริศนาที่เร้นลับ ดอนตะวันแดง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3 ปลายักษ์ในตำนาน ราพาร่าพรางตัว สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4 อินทรีหลังโขด ท่องไปกับตะวันแดง รวมดาวกระจุย บุกรังสีทอง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4 อยากอัดไอ้หลาม ปลอบขวัญที่กำพวน วาฮูนักวิ่งน้ำลึก วังสีทอง กุเลาเกมส์พันธ์ดุ รางวัลชีวิต สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5 ธิดาย่ำสวาท กุเลาเกมส์คนวัยมันส์ เมษาพาเพลิน |
เกาะค้างคาววันนี้ ผู้ร่วมทริพ 1.ชนบท 2.หมู 3.หนุ่ม 4.ผู้พันเหนี่ยว 5.คุณโฟว์ 6.สาม 7.คุณเก๋ 8.คุณเต่า 9.คุณเอ็ดดี้ 10. คุณต้อย 11.คุณวันชัย 12.คุณหนึ่ง 13.คุณโหน่ง 14.เจ้านัย 15.คุณจิน 16.คุณตั้ม 17.น้องเพ็ชร และ 18.น้องเนม เกาะค้างคาววันนี้
สนใจไปเกาะค้างคาว เชิญดูรายละเอียดได้ที่เวปนี้เลยครับ ปัจจุบันมีบริการอื่นๆ มากกว่าการตกปลาครับ เช่น พายเรือ ดำน้ำ ล่องแพทะเล ปลาสวยงาม กีฬาชายหาด
ปาร์ตี้ ปิ้งยาง ที่ http://www.kangkao.com
เมื่อช่วงต้นเดือน
มิถุนายน ผมและเพื่อนๆ ชาว WeekendHobby ตกลงปลงใจกันไว้ว่าจะไปเสาะหา หมายตกปลาชายฝั่งสักแห่ง
เพราะช่วงตลอดฤดูฝนนี้ เราคงจะออกเรือไปตกปลากลางทะเลคงจะไม่ไหว มันออกจะเสี่ยงเกินไป
เดี๋ยวชีวิตจะหาไม่ แทนที่จะได้ไปตกปลากลับกลายไปทำหมายเรือจมแห่งใหม่เสียฉิบ
เราจึงหันมามองหมายธรรมชาติชายฝั่ง ที่อยู่ไม่ไกลเกินไป สถานที่เกาะค้างคาวจึงถูกนำมาเปิดประเด็น
นำมาตั้งกระทู้ในเวป WeekendHobby.com เพื่อระดมเพื่อนนักตกปลา ไปทดสอบหมายชายฝั่ง
ที่เกาะ ค้างคาว กำหนดการต่างๆ ก็เริ่มขึ้น การไปทดสอบเปิดหมายในครั้งแรก
ได้สร้างความประทับใจ ให้กับเพื่อนๆ ที่ไปกันเกิดอาการ ตื่นผวาจากเสียงรอกร้องตลอดทั้งคืน
เล่นเอาไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน กันเลยทั้งคืน ต้องมานั่งถ่างตาเฝ้า คันเบ็ด
พอเราเคลิ้มๆ จะหลับหน่อย ปลาก็ลากเหยื่อเสียงรอกดังแกร็ก ปลุกให้ตื่นทุกที
แต่เพราะ อุปสรรคใต้น้ำพวกแนวกองหินและปะการัง ที่คมยิ่งกว่าใบมีดโกน และมีอยู่มากมาย
ตลอดแนวชายฝั่ง มาบาดสายเอ็น ขาดทุกครั้ง ที่ เราวัดคัน ในครั้งนั้นเราไม่ได้ปลาสักตัว
ทั้งๆ ที่เรามีโอกาสน่าจะได้ขึ้นมาบ้าง เหยื่อปลาหมึกที่เราช่วยกันตกขึ้นมาเมื่อตอนกลางวัน
ทั้ง 25 ตัว และจากที่ซื้อจากร้านค้าอีก 8 ตัว หมดเกลี้ยง จากปัญหาในวันนั้นจึงมาเป็นการบ้านให้เราต้องขบคิด
หาวิธีที่จะ นำไปใช้ พิชิต กับปลาชายฝั่ง รอจนถึงเวลาที่เราจะกลับไปล้างตากันอีกครั้ง
การนัดหมายรวมพลไปถล่มเกาะค้างคาวครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้น ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากเพื่อนๆ นักตกปลาใน "WeekendHobby.com" ตอบรับไปถล่มเกาะค้างคาวถึง 18 คน เราเดินทางโดยเหมาเรือ Speed Boat จากท่าเรืออ่าวอุดม มาถึงเกาะค้างคาว เพียงแค่ 15 นาที เราก็มาประทับรอยฝ่าเท้าบนพื้นทราย บนเกาะค้างคาว เกาะค้างคาว ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ได้เป็นอย่างดี ดูได้จาก แนวปะการังที่มีอยู่รอบๆของเกาะ นักท่องเที่ยวที่นิยมดูความสวยงามใต้ท้องทะเล จะมาเที่ยวที่นี่ กับบริษัทจัดทัวร์ ในชั่งวันหยุด ที่มี อยู่เป็นประจำเกือบจะทุกอาทิตย์ วันที่คณะของเราเดินทางมาถึงเกาะ ก็ได้รับการตอนรับจากคุณลุงชูเกรียติ ผู้ดูแลและเป็นเจ้าของ บ้านพักบน เกาะค้างคาว วันนั้นเพื่อนเรา บางคนก็นั่งพักผ่อนใต้ต้นหูกวาง บางคนก็นอนเปลชมธรรมชาติ ส่วนพี่วันชัย หนุ่มใหญ่ นิสัยดี ที่ใช้เสียงหัวเราะ ฟุ่มเฟือย ผมจะได้ยินพี่วันชัยหัวเราะอยู่ตลอด ก็เอาผ้าใบมาปูแล้วนั่งล้อมวงทำพิธีเปิดขวดสุรา ส่วนสมาชิกบางคน ก็เดินออกสำรวจ สถานท ี่รอบๆ ชายหาด บ้างก็เดินดูนักท่องเที่ยวเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน พวกเราพักผ่อนกันเต็มที่ ก่อนจะถึงเวลาออกไปตกปลาหมึก ชายฝั่งที่มี อยู่มากมาย ตามแนวชายฝั่งของเกาะค้างคาว วันนี้ถือว่าฟ้าฝนเป็นใจ ถึงจะมีก้อนเมฆแต่ก็ไม่ตั้งเค้าว่าฝนจะตกลงมา เรารอเวลา ให้อากาศ เย็นลง กว่านี้สักหน่อย จนแดดร่มลมตก กิจกรรมตกปลาหมึกก็เริ่มขึ้น เราพากันเดินลัดเลาะ หาดทราย มุ่งสู่ด้าน ทิศตะวันออกของเกาะ มุ่งหน้าไปยังเนินโครดหิน ที่มีลักษณะ เป็นหุบแอ่งเว้า มีหาดทราย ลาดเป็นแนวยาว มีโครดหิน ลักษณะ เป็นแหลม ยื่นออกไปทั้ง 2 ด้าน ของอ่าวนี้ เราตั้งชื่อโครดหินแหลมด้านทิศตะวันออกว่า "แหลมผู้พันกลิ้ง" เหื่อเป็นอนุสรณ์ ให้กับเพื่อนเรา ที่ไปกลิ้งมา จนเท้าถูกหิน บาด เป็นแผลเหวอะ มาเมื่อครั้งที่เรามาสำรวจที่นี่กันครั้งแรก ที่แหลมผู้พันกลิ้ง เป็นทำเล ตกปลาหมึกชั้นดี เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหล จากหน้าเกาะ มาบรรจบกับกระแส ด้านทะเลนอกพอดี ระดับน้ำก็ไม่ลึก และยังมีก้อนหิน ลักษณะเกลี้ยง วางตัวเรียงราย ออกไป ลักษณะ พื้นล่างที่มีก้อนหิน เกลี้ยงแบบนี้ ยังเป็นแหล่งอาหารของปลาฉลามหูดำ ชอบมากินสาหร่าย ที่เกาะอยู่บนก้อนหินกินอีกด้วย การตกปลาหมึกชายฝั่ง เราจะใช้กุ้งปลอม หรือที่เราเรียกกันว่า "โยซูริ" ขนาดความยาว 2 หรือ 3 นิ้ว จะเป็นสีอะไร ก็ได้ แต่เท่าที่ผมได้ทดสอบมา โยซูริ สีลายสายรุ้ง จะใช้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ รองลงมา ก็สีเขียวท้องส้มและสีขาวหัวแดง ก็ใช้ได้ผลดีเช่นกัน ส่วนตัวสีน้ำเงินท้องขาว ไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่ ส่วนอุปกรณ์รอกและคันเบ็ด ใส่สาย 10 ปอนด์ คันเบ็ดยาว 7 หรือ 8 ฟุต ก็พอ ถ้าท่านคิดจะไป ตกปลาหมึก ที่เกาะค้างคาว ควรจะติดกุ้งปลอม ตัว สีลายสายรุ้งไป ด้วยรับรองได้ว่า ท่านจะต้องมีปลาหมึกสด ติดมือกลับมา ย่างกินยังที่พักแน่นอน วิธีการตกปลาหมึกชายฝั่ง จากประสบการณ์ของผม ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เราหวด เหยื่อกุ้งปลอมออกไป แล้วต้องรอเวลาสักพัก เพื่อให้กุ้งปลอมนั้น จมลงสู่พื้น สังเกตได้จากสายเอ็น ที่รอกจะหยุดนิ่ง นั้นหมายความว่า เหยื่อกุ้ง ปลอมได้จมลงถึงพื้นแล้ว เราจึงค่อยๆ หมุนรอกเพื่อกรอสายเอ็น อย่างช้าๆ รักษาจังหวะ การเคลื่อนที่ของกุ้งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องรีบร้อน บางครั้งเราอาจจะต้องสร้างแอ็คชั่น เพื่อกระตุ้นจุดสนใจให้กับปลาหมึก ด้วยการ กระตุกคันเบาๆ ขณะที่เรากำลังกรอสายเอ็นเข้ามา เราจะ สามารถรับรู้ ถึงอาการ ของหมึกที่เข้ามาเกาะกุ้งปลอม คือเราจะรู้สึกหนักๆ ที่ปลายสาย และถ้าหมึกตัวใหญ่ จะเกิดอาการดิ้นรนขัดขืน ที่ปลายสาย นั้นแสดงว่า มีหมึกมาเกาะติดโยซูริของเราแล้ว ให้เรา ชูคันยก ขึ้นสูงๆ แล้วไม่ต้องรีบร้อนกรอสายเอ็นเข้ามานะครับ การที่เรา ต้องยกคันให้สูงๆ ก็เพื่อให้หมึกนั้นลอยตัวขึ้นพ้นจากแนวก้อนหิน ไม่อย่างนั้น หมึกมันจะใช้หนวด ดูดเกาะกับก้อนหินด้านล่าง แล้ว โยซูริ ก็จะหลุดออกหนวดมันได้ นั้นเอง วันนั้นเป็น ช่วงน้ำ กำลังขึ้น เสียด้วย น้องเพชร คุณสาม คุณหนุ่ม และเพื่อนๆ เราอีกหลายคน สนุกกับการ ตกปลาหมึก ที่แหลมผู้พันกลิ้ง มาก เพราะมีปลาหมึก เข้ามาเกาะโยซูริ ของพวกเราเป็นระยะ จนได้เวลากลับบ้านพัก เมื่อสิ้นแสงตะวัน เราจึงเดินกลับมายังที่พัก อาบน้ำชำระร่างกายและ ทานอาหารเย็น ก่อนจะออกไปตกปลาฉลามหูดำกันอีกครั้ง ยังไง ก็ขอให้อิ่มก่อน ละครับงานนี้ เรื่องอื่นไว้พูดกันที่หลัง กลุ่มพี่วันชัย
ที่หอบหิ้วเอาเครื่องปั่นไฟ พร้อมชุดโคมไฟ สำหรับเปิดไฟไดร์หมึก ในตอนกลาง
พากันแบก เครื่องปั่นไฟ นำไปติดตั้งที่แหลมหน้าผา อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแหลมผู้พันกลิ้ง
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาดเล็ก ทำงานพร้อมกับ แสงไฟสีเขียวเปิดสว่าง เพียงไม่นานก็มีบรรดาปลาเล็กปลาน้อยส่วนใหญ่จะเป็นปลาหัวแข็ง
เข้ามาว่ายเล่น แสงไฟเต็มไปหมด สักพัก ก็มีหมึกหอม ว่ายเข้ามาบ้าง ก่อนที่ผมและเพื่อนๆ
จะพากันไป ตกปลาฉลามหูดำ ณ หมายแหลมผู้พันกลิ้ง คราวนี้แหละจะได้รู้กันไปเลยว่า
เทคนิคการผูกสายหน้า แบบที่ ผมคิดมาใช้พิชิตปลาตามก้อนหิน นั้นจะประสบผลสำเร็จ
หรือไม เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กันแล้ว นักตกปลา ที่ตกปลา ตามโครดหินและแนวหน้าผา
เวลาจะเหินจะเดินไปไหนมาไหน จะต้องระมัดระวัง ทุกย่างก้าว ที่เดินเป็นพิเศษ
เพราะหิน ที่เกาะ ค้างคาวนี้ คมมาก โดยเฉพาะในส่วนที่มีน้ำขึ้นถึง จะมีพวกหอยนางรมเกาะ
อาศัย ตัวเปลือกหอย นางรมนี้แหละ ตัวดีนักแล ที่จะทำให้เราเลือดโชกได้ ทุกเมื่อถ้าเราไม่ระมัดระวัง
พลาดท่าหกล้มเท้าไปเหยียบมันเข้า ถึงกับต้อง เย็บกันเลยนะครับ คืนนั้นเสียงร้องจากรอก
Daiwa BG-90 ของเจ้านัยที่ตกปลาอยู่หน้าอ่าว ก็ร้องส่งสัญญาณ ว่ามีปลามาลาก
เหยื่อขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อเจ้าปลาลึกลับ (แต่ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นมันละ
ไอ้ฉลามหูดำ) มันกระชากเหยื่อจนรอกร้องลั่นยาว เจ้านัยกระโดด พรวดเดียวถึงคัน
ที่ว่างไว้ก่อนจะ วัดคัน การต่อสู้ระหว่างคนกับปลาลึกลับ ดำเนินไปตามครรลองของเกมส์การต่อสู้
สักพักปลาก็เข้ามาอยู่ใกล้ห่างจากคนอัดเพียง 10 เมตร เจ้านัยเห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อม
แต่แล้ว เหตุการณ์ ที่พวกเรากลัว กันนักกลัว กันหนา ก็เกิดขึ้นกับเจ้านัยจนได้
สายเอ็นที่ตึง กลับพลันหย่อนลงเสียนี่ คันเบ็ด ดีดตัวตรงชี้เด่ ได้ยินแต่
เสียงเจ้านัยร้อง "อุ้ย" เพียงคำเดียว ปลามันหลุดไปแล้ว เหลือเพียงแต่เหยื่อหมึกสดที่มันฝากรอยกัดไว้จนทั่ว
สภาพของเหยื่อ ปลาหมึก ถูกมันกัดจนแหลก ไม่เป็นชิ้นดี ในขณะเดียวกันคันเบ็ดที่ตกปลาอยู่อีกด้านของหัวแหลม
ก็ร้องดังขึ้น ด้วยเพราะความมืดและ มีคันเบ็ดวาง อยู่ในบริเวณนั้นมากมายอยู่หลายคันเวลาปลากินที่
จะงง หลงเสียงรอกไปหมด ไม่รู้ว่า เสียงรอกตัวไหน ดัง ตั้งหลายหน แต่แล้ว
จู่ ๆ ปลาก็หยุดกินเหยื่อเสียดื้อๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ แม้แต่ปลา เล็กปลาน้อย
ที่เข้ามาเล่นไฟ ที่เปิดไดร์หมึก ก็พลอยพากันหายไปกันหมด ปลาหมึกก็ไม่มีว่ายให้เห็น
มันเกิด อะไรขึ้นละเนี่ย ! ทั้งๆ ที่เป็น ช่วงน้ำ กำลังขึ้นแท้ๆ แล้วทำไมปลามันถึงไม่กินเหยื่อ
พอปลาหยุดกิน เหยื่อเราจึงพากันย้าย ไปตกที่ แหลม ผู้พันกลิ้ง กัน และแล้ว
ที่หมายนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เมื่อรอก ABU 6500 C-3 2 Speed ของนายหมู
ร้องดัง แก๊ก แก๊ก นายหมูบรรจง อัดมันอย่างทะนุถนอม โดยมีผม ทำหน้าที่ ่ค่อย
บอกให้ปั้มคัน และให้ไปยืนอัดในที่สูงๆ สายเอ็นจะ ได้ไม่ไป เกี่ยวกับก้อนหิน
ขาด ในที่สุดปลาฉลามหูดำ ตัวแรกที่เรา ตกได้ จากเกาะค้างคาวก็มาเกยหัวอยู่ริมน้ำ
มันเป็นปลาฉลามหูดำ ตัวไม่โตเท่าไร น้ำหนักประมาณด้วยสายตา ประมาณ 2 กิโลกรัม
ส่วนนายจิน ที่ปลีกวิเวก ตัวเองออกไปนั่งตก ไกลจากพวกเรา ก็โดนปลาลากเหยื่อไปกินฟรีๆ
พร้อมกับเสียชุดสายหน้า ไปตั้ง 2 - 3 ครั้ง ช่วงเวลา แห่งการรอคอยนี้ ไม่มีกิจกรรมอะไรดีไปกว่า
นั่งซดเหล้า แล้วก็รอฟังเสียงรอกร้องคราง จนเวลาผ่านไป ชั่วโมงกว่า ก็ไม่ปลา
มาคว้า เหยื่อของพวกเราเลยสักตัว ความเงียบเข้ามาครอบงำ พวกเรานานเกือบ 2
ชั่วโมง จนทำให้ หลายคนเกิดอาการง่วงซึม "เก็บเบ็ดกลับ ไปกินเหล้าที่บ้านพักดีกว่า
ปลาไม่กินแล้ว" ผม บอกกับเพื่อนๆ ให้เก็บเบ็ด กลับบ้านพัก เมื่อรู้สึกว่า
มันเงียบผิดปกติ ช่วงหัวน้ำขึ้นแท้ๆ แต่ปลากลับไม่กินเหยื่อ มันจะต้อง มีอะไร
ผิดปกติ สักอย่าง และสิ่งนั้นมันคืออะไร ? เราไม่อาจจะ ทราบได้ พอเดินกลับมาถึงที่พัก
คุณเอ็ดดี้ ก็โชว์ฉลามหูดำ ไซร์ไล่เลี่ย กับตัวที่หมูตกได้เลยครับ ฉลามหูดำ
ตัวนี้ คุณเอ็ดดี้ ตกได้ หาดทราย หน้า บ้านพักนี้เอง คืนนั้นเราตั้งวง
โซ้ยสุรา กลางแสงจันทร์ ที่สลั่ว ย่างปลาหมึก ย่างกุ้ง เป็นกับแกล้ม พูดคุยหยอกล้อ
กันตาม ประสา เพื่อนฝูง จนน้ำแข็ง หมดเกลี้ยง ราตรีค่ำคืนนี้ จึงจบลงเพราะ
น้ำแข็งมันหมดเกลี้ยง ทั้งเกาะ เราแยกย้าย กันไปพักผ่อน เพื่อนเราหลายคนนอนกันตรงชายหาด
นั้นแหละ คืนนี้ผมหลับอย่างสบาย วาดฝันไปถึง ฉลามผัดฉ่า ในวันพรุ่งนี้ แสงตะวันสาดส่อง
ยามเช้าเสียงไก่แจ้ ขันร้องบอกเวลาให้รู้ว่าเช้าแล้ว ผมตื่นขึ้นมา เดินทอดอารมณ์
ชมความงามของชายหาด ยามเช้า ในสมองกำลังใช้ความคิด ถึงเรื่องเมื่อคืน ทำไมปลา
ถึงไม่ กินเหยื่อ แต่ผมก็ยังหาบทสรุปไม่ได้ คงเป็นเพราะ ในหัวสมองผม มันมึนงง
กับฤทธิ์ สุรา จากเมื่อนี้ อาหาร เช้าวันนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าข้าวต้มทะเลรวมมิตร
ได้ซดน้ำร้อนๆ คงจะทำให ้สมองปลอดโปร่ง ขึ้นมาได้บ้าง เช้าวันนี้ เรามีนัดกับ
ปลาตะคองเหลือง ผมทราบข่าวจากเพื่อนๆ ที่ดำน้ำ ว่าพบฝูงปลาตะคองเหลือง เข้ามาที่ด้านทิศตะวันตะตกของเกาะ
บริเวณนั้น น้ำจะลึกมาก แนวหินก็ไม่ค่อยจะมี แต่พอผมและเพื่อนๆ เดินไปถึงที่หมาย
น้ำทั่วทั้ง บริเวณ รอบเกาะ มีสีเขียว ขุ่น ผมเห็นน้ำลักษณะ เช่นนี้ ถึงกับเซ็ง
เลยละครับ "น้ำเสียเป็นขี้ปลาวาฬ เสียแล้ว มิน่าละเมื่อคืนที่ ปลากินเบ็ดอยู่ดี
กลับเงียบหายไปเฉย คงมาจากสาเหตุนี้ นี่เอง" คงไม่ต้อง อธิบายกันให้มากความ
เราหอบหิ้วสัมภาระ เดินคอตกกลับ สู่ที่พักทันที่ น้ำเสียแบบนี้ แม้แต่ปลาตัวเล็ก
ก็คงจะไม่มีให้เราได้ตกกันหรอก ผมเข้าใจดีว่าน้ำที่เสียลักษณะนี้ มันเป็นกฎเกณฑ์
ของธรรมชาติ ที่นักวิชาการได้ให้เหตุผลไว้ว่า เมื่อมี ฝนตกลงมามากๆ น้ำจืดไหลลงสู่ทะเล
จะทำให้เกิดตะไคร่น้ำ ที่เราเห็นเป็นสีเขียวขุ่น ลอยกระจาย นั้นเอง เราเดินกลับมาบ้านพัก
อาบน้ำชำระเหงื่อไคล ก่อนจะตั่งวง Drink กันดีกว่า เมนูกลับแกล้ม ชุดเด็ด
ก็คงจะหนีไม่พ้น "ฉลามหูดำผัดฉ่า" ตัวที่เราตกได้เมื่อคืนนี่เอง
รสชาติ ของฉลามผัดฉ่า อร่อยมากครับ ไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิด เนื้อของมันเหมือน
ไก่เลยจริงๆ ผมแอบไปถามเคล็ดลับจากผู้ที่ทำเมนูจานเด็ด นี้เอามาฝากพวกเราด้วยนะ
แม่ครัว เล่าถึงกรรมวิธีการทำให้ผมฟังว่า จะต้มน้ำให้เดือด แล้วราดลงให้ทั่วตัวปลาฉลาม
จากนั้นจึงขอดเกล็ดออก แล้วจึงจะใช้มีด หัดเนื้อปลา เป็นชิ้นๆ แล้วจึงน้ำไปลวก
น้ำร้อน อีกที ก่อนที่จะนำมาผัดเป็นอาหาร รสชาติเด็ดสะระตี่ จริงๆ ครับ เราอยู่พักผ่อนกันต่อจนถึงเวลา บ่าย 3 โมง ก่อนจะโทรศัพท์ เรียกเรือ Speed Boat ของ บริษัท มาร์โปโล มารับเพื่อเดินทางกลับ เกาะค้างคาววันนี้ มีผู้คนมาเที่ยวมาพักผ่อนมากเหมือนกัน วันที่เราไปกันมีแขก พากันมา พักจนบ้านพักที่มีอยู่ 10 หลังนั้นเต็มทุกหลัง ส่วนใหญ่ จะมากับบริษัททัวร์ Bat Island Tour มี คุณแซม เป็นหัวหน้าทัวร์ พานักท่องเที่ยวมาพักที่นี่เป็นประจำทุก อาทิตย์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ที่มาที่นี่ จะชอบดำน้ำ ดูปะการัง เป็นหลัก ส่วนที่จะมาตกปลานั้นมีน้อยมาก คุณลุงชูเกรียติ บอกผมว่า ไม่ค่อย จะมี นักตกปลา มาตกปลา ที่นี่ คงเป็นเพราะว่า สถานที่แห่งนี้ ยังไม่เป็นที่รู้จัก แพร่หลาย ในหมู่คนตกปลา ก็เป็นได้ และนับจากวันนี้ ผมคิดว่า จะมีนักตกปลามาเยือนยังเกาะค้างคาวแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จากสภาพแวดล้อม ที่ยังคงเป็นธรรมชาติ อยู่มาก อีกทั้งยังมีปลามากมาย โดยเฉพาะ ปลาหมึกหอม และปลาฉลามหูดำ ไว้คอยต้อนรับ นักตกปลาที่มาเยือน ถ้าน้ำใสสะอาดปราศจาก ขี้ปลาวาฬละก้อ ผมเชื่อว่าท่าน จะต้องได้ลิ้มรสฉลามผัดฉ่าแน่นอน ก่อนจากกัน ในฉบับนี้ผมขอฝากย้ำเตือน ถึงผู้ที่จะมาเยือนเกาะค้างคาวแห่งนี้ด้วยว่า โปรดช่วยกันรักษา ความสะอาด เฉพาะขยะที่ลอยมา กับน้ำ แล้วมาเกยตามหาดบนเกาะแห่งนี้ก็มากพออยู่แล้ว เราอย่าไปเพิ่มจำนวนปริมาณขยะให้มากไปกว่าเดิม เลยนะครับ ครั้งล่าสุด ที่ผม ไปเยือนเกาะค้างคาวมาเป็นครั้งที่ 3 ผมได้ฉลามหูดำ หนักประมาณ 5 กิโล มา 1 ตัว กับปลากะเบนบัว หนักเกิน 10 กิโล อีก 1 ตัว แถมด้วย ปลาสาก น้ำดอกไม่ โลกว่า อีก 1 ตัว สนใจไปเกาะค้างคาว เชิญดูรายละเอียดได้ที่เวปนี้เลยครับ ปัจจุบันมีบริการอื่นๆ มากกว่าการตกปลาครับ เช่น พายเรือ ดำน้ำ ล่องแพทะเล ปลาสวยงาม กีฬาชายหาด [หน้าต่อไป] [กลับสู่เมนู] |
Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved. Contact Webmaster |