พฤหัสบดี,21 พฤศจิกายน 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ตอน.กุเราเกมส์ของคนวัยมันส์ุ
ไต๋เปี๊ยก 13 ส.ค. 51

มาอ่านคนที่

ผู้ร่วมทริพ 1.ชนบท 2.ไก่เซียนตกน้ำ 3.เต้จัมมัย 4.อู๊ดบางชัน 5.เบ็นซ์ 6.เคี้ยง


สายลมผสานกับแสงแดดยามอาทิตย์ใกล้จะลาลับฟ้า พัดโชยหอบเอากลิ่นอายน้ำเค็มไล้โลมเลียผิวกาย บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ปลายสะพานปลา สายตาเพ็งมองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างไกล ท่าทีสงบนิ่งจิตใจเคลิ้มลอยกับธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนจะมีเสียงจากเพื่อนผู้ร่วมเดินทางตะโกนร้องเรียกปลุกให้เขาตื่นจากอารมณ์เคลิ้ม “พี่โยครับ น้าไก่กับพี่อู๊ดจะมาถึงเมื่อไหร่ครับ นี่มันใกล้จะมืดแล้วนะครับ” เสียงนายเต้ จัมมัย ร้องถามเมื่อดวงอาทิตย์ลอยต่ำเตะพื้นขอบน้ำใกล้จะมืดค่ำแล้ว “ประมาณ 2 หรือ 3 ทุ่มนี่แหละ เดี๋ยวเราออกไปไดร์หมึกกันก่อนดีกว่าแล้วค่อยวิ่งเข้ามารับพวกเขา จะได้ไม่เสียเวลารอ” นายชนบทตัดสินใจเปลี่ยนแผนไปไดร์หมึก หาเหยื่อรอ สมาชิกที่กำลังเดินทางมาแต่ยังมาไม่ถึง “ก็ดีครับ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ อยู่อย่างนี้ เซ็งตายเลย” นายเต้ จัมมัย กล่าว เออ ออ เห็นดีเห็นงามไปด้วย “ป่ะไต๋เปี๊ยก เราไปไดร์หมึก หัวเขื่อนกันก่อนดีกว่า สัก 3 ทุ่มค่อยวิ่งเรือมารับ” นายชนบทเอ่ยปากบอกไต๋เปี๊ยก เสียงเครื่องยนต์จึงคำรามดัง ‘บรื่น บรื่น’ ส่งกำลังให้ใบจักรตีน้ำ เกิดเป็นเกลียวคลื่น ผลักดันให้เรือ BO ทะยานตัวออกจากท่าหันหัวมุ่งหน้าสู่เขื่อนกั้นคลื่นของท่าเรือ แหลมฉบัง

“เอ้า แป๊บ ทิ้งสมอ” ไต๋เปี๊ยกร้องสั่งเหลนชายที่ติดเรือมาด้วย ทำหน้าค่อยทิ้งสมอ เมื่อเรือเดินทางมา ถึงหัวสันเขื่อนกั้นคลื่น ไฟดวงกลมต่อเรียงเป็นราว สว่างพรึบ เปล่งประกายรังสี ความสว่างเชิญชวนให้ปลาเล็กปลาน้อยว่ายเข้ามาตอม “เต้ กับเคี้ยง ช่วยตกหมึกกันด้วยนะ เราจะไม่มีการครอบ จะตกกันอย่างเดียว” นายชนบทร้องบอก เพื่อนร่วมเดินทาง เพราะเรือลำนี้ได้เอาแขนอวนออกไปแล้ว “ไต๋โชว์ตกหมึกให้ดู หน่อย เด่ะ” นายชนบทร้องบอกไต๋เปี๊ยก ที่กำลังถือคันเบ็ดตกปลาหมึกเดินไปนั่งที่หัวเรือ โยทะกาสีขาว ปลิวไปตามแรงสะบัดของคันเบ็ด ก่อนจะกระทบกับผิวน้ำดัง ‘ต๋อม’ แล้วจมลงสู่พื้นทะเลเบื้องล่าง ไต๋เปี๊ยกวาดลวดลายโสกหมึกด้วยการยกคันขึ้นลงไม่กี่ครั้ง หมึกตัวขนาดคืบก็หลงกลผู้เฒ่า แห่งท้องทะเลเกาะไผ่สะแล้ว “นี่ไง เต้ ดูไต๋เปี๊ยกดิ แป๊บเดียว ซัดไปแล้ว 3 ตัว เราไปนอนปล่อยให้แกกับเจ้าแป๊บตกกัน 2 คน ก็เหลือเฟือแล้ว” นายเคี้ยง กล่าวติดตลกนิดๆ “เฮ้ย ห้ามอู้ มาช่วยกันทำมาหากินเลย” นายชนบท ตะโกนลั่น “แหม ก็ผมมันตกไม่ได้สักกะตัวนี่หว่า” นายเต้ จัมมัยกล่าว แต่ยังพูดไม่ทับจบประโยค หมึกก็จับโยทะกา นายเต้ ร้องตะโกนด้วยความดีใจ “เย้ ผมตกหมึกได้แล้วนี่เห็นไหม หมึกของผม” นายเคี้ยงก็เริ่มตกหมึกได้แล้วเช่นกัน คืนนี้หมึกจับโยทะกาดีมาก ใช้เวลาไม่นาน หมึก จำนวน ร้อยกว่าตัวก็ว่ายยั้วเยี้ย เต็มห้องขังเหยื่อ “เออ นี่มันกี่โมงแล้วละครับไต๋เปี๊ยก เดี๋ยวเราต้องเข้าไปรับเพื่อนผมที่ท่าเรือด้วยนะ” นายชนบทเอ่ยปากถามไต๋เปี๊ยก “เมื่อกี่เขาพึ่งจะโทรมาเอง ว่ามาถึงแล้ว กำลังไปหาอะไรกิน เราเข้าไปรับเขาเลยดีกว่า หมึกพอแล้วมั้ง”ไต๋เปี๊ยกกล่าว ก่อนจะ สั่งเจ้าแป๊บเหลนชายกว้านสายสมอขึ้น เรือ BO หันหัวเรือแล่นกลับเข้าฝั่งอีกครั้งเพียง 5 นาทีจากจุดที่ไดร์หมึก ก็มาถึงปลายสะพานปลาแหลมฉบังแล้ว

บุรุษหนุ่มรูปงาม 2 คนกำลังยืนโชว์พุงหรา อยู่ที่ปลายสะพาน โบกมือไหวๆ ส่งสัญญาณว่า ‘ตูข้ามายืนรออยู่นี่แล้ว’ “สวัสดีครับน้าไก่ เซียนตกน้ำ และน้าอู๊ด เซียนอัดบึกป่ะรีบลงเรือกันดีกว่ามันค่ำแล้วเดี๋ยวจะวิ่งเรือลำบาก” นายชนบท กล่าวทักทาย น้าไก่เซียนตกน้ำ สหายเก่าที่เคยร่วมลงเรือตกปลาด้วยกันมานาน “สวัสดีครับน้าโย แหม ผมละติดต่อน้าโยยากมากเลย โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด ปืดมือถือเร๊อะ” น้าไก่ ตัดพ้อ ทันที “เปล่าไม่ได้ปิดมือถือหรอก แต่ไม่ได้เอามาด้วย แค่นั้นเอง นึกว่าน้าไก่ รู้เส้นทาง ก็เลยลืมหยิบมาด้วย” นายชนบทกล่าวตอบ สัมภาระติดตัวไม่กี่ชิ้น ส่วนใหญ่จะหนักไปทางอุปกรณ์ตกปลา ซึ่งก็มีไม่กี่ชิ้นถูกขนขึ้นเรือเพียงไม่นาน เรือ BO ก็ได้ฤกษ์ ทะยานตัวสู่เกาะไผ่ ในยามราตรีกาล นั้นทันที พอเรือแล่นเลยแนวเขื่อนกั้นคลื่น ก็เริ่มออกอาการสะท้านโยกตัว โยนล้อเล่นกับเกลียวคลื่นที่ถาดโถมซัดเอาเรือโยกไปโยกมา “เอ๊ะ ทำไมมีคลื่นได้วะเนี่ย งง เมื่อกี่ มันยังเงียบอยู่เลยนี่หว่า” นายเต้ จัมมัยเอ่ยปากถาม “ เมื่อกี่เราอยู่ด้านในเขื่อนอ่ะเต้ แต่นี่เราอยู่หน้าเขื่อนแล้ว ก็โดนเต็มๆ นะสิว้อย” นายชนบทกล่าวตอบ เรือ BO แล่นฝ่าเกลียวคลื่นที่ถาดโถมกระหน่ำซัดจนเรือโอนไปเอียงมา ตามจังหวะเกลียวคลื่น ไต๋เปี๊ยก จากที่เคยนั่งตัวตรงคอแข็งทื่อ เริ่มมีอาการโยกตามจังหวะเรือ “ไหวป่าวไต๋เปี๊ยก ออกรับแขกมาหลายคืนติดๆ แบบนี้ ให้ผมขับเรือให้ดีกว่า ไต๋ไปนอนพักผ่อน ถึงแล้วเดี๋ยวผมปลุกเอง” นายชนบทอาสา ช่วยขับเรือ จากเกาะนก จนกระทั้งถึงเกาะเหลือม

“ไต๋เปี๊ยก ถึงแล้ว เป็นไง ผมขับเรือนิ่มดีม่ะ” นายชนบทกล่าว “อื่มดี แต่มัยมันถึงไวจังวะ กำลังหลับเพลินๆ” ไต๋เปี๊ยกกล่าว ก่อนจะมารับหน้าที่ไต๋กง คืนกลับไป “ตกไอ้โซ๊ะ กันก่อนแล้วกัน สัก ตี 2 รอให้ลมเบากว่านี้ ค่อยออกไปข้างนอก” ไต๋เปี๊ยกกล่าว “อื่ม ดี ไม่มีไอ้เงี้ยวนะไต๋” นายชนบทกล่าว ก่อนจะลุกเดินออกจากเก๋งเรือไปปลุกเพื่อนสมาชิกที่นอนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ให้ตื่นขึ้นมาตกปลาหน้าดิน “ถึงหมายตกปลาแล้วครับ เต้ อู๊ด น้าไก่ เคี้ยง ตื่นมาตกปลากันได้แล้ว” นายชนบทตะโกนปลุกเหล่าสมาชิก “ถึง หมาย แล้วรึครับพี่โย” เคี้ยง ถามขณะที่ สมาชิกบางคนค่อยๆ ทยอยตื่นขึ้นมาตกปลา “เอ้านั้นเต้ ปลากินเบ็ดแล้ว” เคี้ยงร้องบอก เจ้าเต้ จัมมัยคว้าคันขึ้นมาวัดเต็มเหนี่ยว ด้วยอาการของคนเซ่อขี้ตา คงจะยังไม่ตื่นนอนดี คันเบ็ดที่เจ้าเต้จับวัดดันเป็นคันเบ็ดของอีกคนที่ปักไว้ยังไม่ทันเกี่ยวเหยื่อ เสียงตะกั่วกระทบโครงหลังคาดัง ‘เปรี้ยง’ “อ้าวเฮ้ยนั้นไปคว้าคันใครวันละนั้นเจ้าเต้ คันเอ็งอยู่ด้านโน้น เวงแล้วมั้ยละ” นายชนบท ร้องบอก เจ้าเต้ จัมมัยพอได้สติ รีบปักคันนั้นลงที่เดิม หันไปคว้าคันของตัวเองขึ้นมาวัดและอัดปลา โชคยังดีที่ปลามัยกลืนเบ็ด เจ้าเต้ จัมมัย จึงได้ปลาตัวเปิดทริบ “ไอ้จี๊ จริงๆ ด้วยไต๋เปี๊ยก” นายชนบทร้องบอกเมื่อปลาที่เจ้าเต้ จัมมัยอัดลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ นอนรอสวิงที่เจ้าแป๊บ กำลังบรรจงช้อน “สุดยอดเลยพี่โย ไอ้จี๊ ตัวเปิดเกมส์ของผม ตัวใหญ่สะด้วย ฮะ ฮ่า” เจ้าเต้ จัมมัยร้องด้วยความดีใจที่สามารถตกปลาได้ “เออ ท่าทางแบบนี้ คงไม่ได้ละเมอ นะ ท่าจะตื่นสนิดแล้วละสิ” นายเคี้ยง กล่าว ติดตลก กระทั่งได้เวลา 3 นาฬิกา ไต๋เปี๊ยกจึงบอกให้เก็บเบ็ด เพื่อย้ายเรือเข้าสู่หมายกุเรา ซึ่งอยู่ไกลออกไป 15 ไมล์ “ป่ะเก็บเบ็ด เราต้องรีบเข้าหมายกุเรา ก่อนที่น้ำจะขึ้น”นายชนบทบอกสมาชิก เก็บเบ็ด จากนี้ไปอีก 2 ชั่วโมงครึ่ง คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้พักสายตาสักงีบ

ฟ้ายังไม่ทันสาง เรือBO คืบคลานเข้าสู่หมายหินกระเด็น เสียงเครื่องยนต์เบาลง ปลุกให้นายชนบท ตื่นจากการพักผ่อนด้วยสัญชาติญาณ ที่คุ้นเคยว่าบัดนี้เราได้เดินทางมาถึงหมายตกปลาแล้ว ไต๋เปี๊ยก ขับเรือวนเช็คตำแหน่ง ดูทิศดูทางกระแสน้ำ ว่าไหลไปทางไหน ก่อนจะดิ่งหัวเรือไปยังตำแหน่งทิ้งสมอ “เอ้าแป๊บทิ้งสมอ” ไต๋เปี๊ยกบอกเหลนชาย ให้ทิ้งสมอ นายชนบท ที่ตั้งท่ารอมาตั้งแต่เรือเบาเครื่องยนต์ ไม่รอช้า ดีดคันส่งเหยื่อ Jig ออกไป แล้วรอให้ เหยื่อ Jig จมลงสู่พื้นดินเบื้องล่าง แต่จะด้วยความ ฟลุ๊ก หรือเพราะดวงก็สุดจะคาดเดา สาย PE ที่กำลังไหลออกจากสปูลอย่างช้าๆ กับวิ่งปรี๊ด ออกไปอย่างรวดเร็ว “เอ้า เฮ้ย ตูยังไม่ทันตั้งตัวเลย เมิ้งล่อสะแล้ว รึฟ่ะ อย่างนี้ก็มีเฮ นะสิ นี่แน่ะ” นายชนบท สบถเสียงพึมพำ มือซ้ายปิดหน้ารอก Shimano Stella 4000 ที่บรรจุสาย PE 2.5 ดีดตัวเป็นเส้นตรงชี้เด่ ไปข้างหน้า คันเบ็ดถูกวัดเบาๆ ไป 1 ฉึก ขณะที่กำลังโค้งงอตามแรงฉุกกระชาก จากปลา “หา พี่โย ได้ปลาแล้วรึ อารายกาน มันจะเร็วขนาดนี้ไม่อยากจะเชื่อ” นายอู๊ด อุทาน ออกมาเมื่อเห็นปลาติดเบ็ด “มันฟลุ๊กวะอู๊ด โยนเหยื่อไปโดนหัวมันที่กำลังอ้าปากหาว เหยื่อหล่นปุลงปากมันพอดีเลยวะ ฮะ ฮา” นายชนบทกล่าว แล้วหันไปบรรจงอัดปลาต่อไป เหตุการณ์นี้ได้กระตุ้นปลุกอารมณ์เร่งเร้าให้เพื่อนๆ เกิดความกระสันมุ่งมั่น แต่ละคนรีบดีดคันส่งเหยื่อ Jig ลงน้ำแล้วบรรเลงเพลง Jig กันทันที


“แป๊บ มาช้อนปลาที กุเราตัวงามจะขึ้นเรือแล้ว วู้ ฟลุ๊กแต่เช้าเลยตู” นายชนบทร้องเรียกให้แป๊บมาช่วยช้อนปลา เมื่อปลากุเรา ตัวโตขนาดเกิน 3 กิโลตัวนั้น ลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำหมดแรงต่อต้านและต่อสู้ เหยื่อ Jig ถูกส่งลงน้ำไปใหม่ยังตำแหน่งเดิม รอกระทั้งเหยื่อ Jig จมสู่ถึงพื้นดิน ลีลาการโสก กุเรา จึงเริ่มขึ้น “อึ๊บ นี่แน่ ฟลุ๊ก อีกแล้ว ฮะ ฮ่า” นายชนบท วัดคันทันที ที่รู้สึกว่าปลากระชากเหยื่อ สาย PE 2.5 ดีดตัวเป็นเส้นตรงดึงคัน โค้งงอ อีกครั้ง “วิ่งจู๊ด เลยวะ ตัวนี้ถ้าจะแรงดี” นายชนบท กล่าว ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสมาชิกคนอื่นว่ามีใครได้ปลาบ้างหรือยัง แต่ปรากฏว่า ทุกคนยัง คงตั้งหน้าตั้งตา โสกคัน กันอย่างหน้าตาคล่ำเครียด “ทำไมพี่โย ตกง่ายจังวะ แล้วทำไม ของตู มันไม่แดร๊กสะทีละวะ” นายเคี้ยง บ่นพึมพำ ส่งเสียงเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากที่เปิดเผยอ ขึ้นเล็กน้อย “เคี้ยง ต้องให้เหยื่อถึงพื้น แล้วค่อยโสกคันขึ้น ไม่ต้องแรง เหมือนโสกหมึกนั้นแหละ ถ้าเหยื่อปลิว ก็ปล่อยสายออกไปใหม่ให้เหยื่อถึงพื้นเสมอ” นายชนบทแนะนำ ตามประสบการณ์ ที่ตัวเองเผชิญมา ไม่ได้มีทฤษฎี จากตำราเล่มไหน “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง มิน่า เราปั่นสะ ยิ๊ก ๆ เหมือนไปพม่า มันเลยไม่กิน” นายเคี้ยง กล่าว ขณะที่เจ้าเต้ จัมมัยเอียงหูฟัง และรีบ ปฏิบัติตาม ทันที “โอ้โห สุดยอดวิชา นี่ผมได้แล้ว ทำตามปุ๊บ ปลากินปั๊บ นี่ดู เป็นไง” เจ้าเต้ จัมมัย ดีใจ จนออกนอกหน้า เมื่อปลากุเรา ฉวยเหยื่อวิ่งปรู๊ด “เราต้องรีบ ตกกันหน่อยนะ ชั่วโมงทอง มันไม่นาน มันกินเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวมันก็หยุด” นายชนบท บอกเพื่อนสมาชิก “ จริงด้วยแฮ่ะ ผมได้แล้วแรงดีใช้ได้ ใช้ตัว” นายเคี้ยง บรรจงอัดปลากุเรา ที่วิ่งปรู๊ดปร๊าด เสียงสาย PE เสียดสีกับวงไกด์ กรีดเสียงร้องยาว มันแสบแก้วหู แต่สร้างอารมณ์ดีพิลึก

“เป็นไงเคี้ยง มันส์มั๊ย บอกแล้วว่ามันเป็นเกมส์ของคนวัยมันส์” นายชนบทกล่าว ขณะที่นายอู๊ด ยังตั้งหน้าตั้งตาโสกเบ็ดต่อไป “สงสัยเหยื่อตัวนี้ไม่เด็ด ต้องเปลี่ยนใหม่” นายอู๊ดส่งเสียงพึมพำ เมื่อเห็นบรรดาเพื่อนๆ ได้อัดปลากันถ้วนหน้า ได้แต่โทษเหยื่อ “เปลี่ยนเหยื่อจะหมดกล่อง ไปเป็น 10 ตัวแล้ว ยังไม่แตะผมเลย” อู๊ด สบถเสียงออกมา “น้าไก่ เซียนตกน้ำ ยังไม่ตื่นมาทำมาหากิน อีกรึ อู๊ด” นายชนบทนึกเอ๊ะใจเมื่อไม่เห็นน้าไก่ ลงมาตกปลา “ยังนอนอยู่เลยครับพี่โย ยังงี้แหละ พอปลาหยุดกินเดี๋ยวแก ก็ตื่นมาตก ” อู๊ดกล่าว ไม่นานนัก เกมส์จิ๊กกุเราสำหรับคนวัยมันส์ ก็ส่างซาลง เมื่อปลาหยุดฉวยเหยื่อ เช้านี้ เราตกได้ปลากุเรา ได้เพียง 9 ตัว อาจจะเพราะสมาชิกยังใหม่สำหรับเกมส์นี้ คงต้องรอให้น้ำลงอีกครั้งซึ่งก็เป็นช่วงบ่ายโมง เกมส์สำหรับคนวัยมันส์จึงจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง “น้านปะไร เห็นยังพี่โย ปลาหยุดกินเมื่อไหร่น้าไก่จะตื่นเมื่อนั้น ฮา” อู๊ดกล่าวเมื่อเห็นน้าไก่ เซียนตกน้ำเดินมาคว้าดันเบ็ด ไปนั่ง จิ๊ก ข้างกาบเรือ “ปลากินป่ะอู๊ด” น้าไก่เอ่ยปากถามอู๊ด “ได้กุเรามา 9 ตัวแล้ว ไมไม่ลุกมาช่วยกันตก ตื่นมาตอนนี้มันหยุดกินแล้ว” อู๊ดตอบ

“เดี๋ยวลองเหยื่อใหม่ Butterfly ดูดีกว่า เผื่อปลามันจะชอบของแพง” น้าไก่ เซียนตกน้ำกล่าว ก่อนจะหยิบเหยื่อ Butterfly ราคาแพง ที่ซื้อมา ตัวละ 800 กว่าบาท แล้วบรรจง ดีด Butterfly สุดหรูลงสู่น้ำ “น้าไก่ให้เหยื่อถึงพื้นแล้วค่อยจิ๊กนะ” อู๊ดแนะนำ เพราะเป็นมือใหม่สำหรับเกมส์นี้กันทั้งนั้น “ถึงพื้นเลยรึอู๊ด”น้าไก่เซียนตกน้ำถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ “อ้าวเวงแล้วตู เหยื่อสุดหรูผม ติดหินตายแล้ว เวรกรรม เอาเงิน 800 มาโยนทิ้งแท้ๆ เลยตู” น้าไก่เซียนตกน้ำ บ่นพึมพำ เมื่อเหยื่อ Jig ยี่ห่อหรูราคาแพงติดหินตั้งแต่ไม้แรก “ซื้อมาพึ่งจะแกะกล่องใช้ครั้งแรกด้วย”น้าไก่บ่นเสียดายเหยื่อ ขณะที่ปลาหยุดกินเบ็ดแล้วเราต้องรอให้น้ำลงอีกครั้ง ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ปลากุเราจึงจะฉวยเหยื่ออีกครั้ง เวลานับจากนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่า เกี่ยวหมึกเป็น หย่อนลงน้ำทิ้งไว้ เผื่อว่าจะมีปลาอะไรสักตัวมาฉวยเหยื่อ เพราะน้ำยังไหลเดินดีอยู่

ยามตะวันบ่ายได้เวลามหกรรม Jig กลับมาเริ่มต้นอีกรอบ นายเคี้ยงเปิดประเดิมปลากุเราในรอบนี้เป็นคนแรก “เอ้าปลาเข้าแล้ว จิ๊กกันเลยครับ สนุกดีจัง” นายนเคี้ยงกล่าวปลุกเร้าอารมณ์ให้เพื่อนๆ หันมาคว้าคันจิ๊ก แล้วดีดเหยื่อลงน้ำ “นี่ผมได้แล้วกุเราตัวแรกในชีวิต น้าไก่ดู ดูนี่ เป็นไง คันโค้งสุดยอด” อู๊ดตะโกนร้อง ด้วยความดีใจสุดกลั่น ชักชวนให้น้าไก่เซียนตกน้ำหันไปมองด้วยสายตาปนอิจฉาลึกๆ “มันตกยังไงวะ แป๊บเดียวได้แล้ว” น้าไก่เซียนตกน้ำ ส่งเสียงพึมพำ เล็ดรอดออกจากริมฝีปาก “นี่ผมก็ได้แล้วเหมือนกัน ฝีมือไม่เบาเลยเรา ฮะ ฮา” นายเต้จัมมัยพูดออกมาด้วยอารามความดีใจ มหกรรม Jigging ปลากุเราระเบิดศึกอีกคำรบหนึ่ง เกมส์สำหรับคนวัยมันส์ ชุลมุนวุ่นวายรอบลำเรือ “ผมแค่ลากจากท้ายเรือมาหัวเรือ เองน้าไก่ ปลามันก็ชาร์ทแล้ว ลองทำตามดูสิ เผื่อได้”อู๊ดเอ่ยปากแนะนำ น้าไก่เซียนตกน้ำที่ยังไม่ได้ปลาเลยสักตัว “อะไรวะ ทำไมคนอื่นตกง่ายกันจัง ไอ้เรารึ งัดเอาเหยื่อที่สะสมมาสารพัดเหยื่อ ลูกเล่นสารพัดท่าทาง มันยังไม่สนใจเลยวะ” น้าไก่เซียนตกน้ำบ่นพึมพำ ขณะที่นายเคี้ยง และ เต้ จัมมัย กับอู๊ด ต่างสนุกสนานกับเกมส์ตกปลากุเราด้วยการจิ๊ก ปลากุเราเข้าฉวยเหยื่อ ตลอดเวลาไม่ แม้จะไม่ห่างตัว ไม่ถี่มากเหมือนช่วงแรก มันก็ช่วยไม่ให้เหงา กระทั้งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงปลาก็หยุดฉวยเหยื่อ มองดูกองปลากุเราที่พวกเราช่วยกันตกขึ้นมาในรอบนี้ ไม่น้อยเลยมันมากพอที่จะแบ่งปันและเหลือแจกจ่ายเพื่อนฝูง ไต๋เปี๊ยก ตะโกนบอกเจ้าแป๊บ ให้กว้านสมอเรือ เพื่อเดินทางกลับเข้าฝั่ง เมื่ออันควรแก่เวลา

ยามตะวันบ่ายได้เวลามหกรรม Jig กลับมาเริ่มต้นอีกรอบ นายเคี้ยงเปิดประเดิมปลากุเราในรอบนี้เป็นคนแรก “เอ้าปลาเข้าแล้ว จิ๊กกันเลยครับ สนุกดีจัง” นายนเคี้ยงกล่าวปลุกเร้าอารมณ์ให้เพื่อนๆ หันมาคว้าคันจิ๊ก แล้วดีดเหยเกมส์ตกปลากุเราด้วยการ Jig เป็นเสน่ห์และเป็นเกมส์สำหรับคนวัยมันส์โดยแท้ ใครยังไม่ได้ลอง ต้องหาโอกาสมาทดลองดู มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะรู้ซึ้ง ถึงวัยมันส์ ว่ามันสนุกขนาดไหน ปลากุเรานอกจากจะตกสนุกแล้วเนื้อของมันยังมีรสชาติที่ดีเลิศ นำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง โดยเฉพาะปลากุเราแดดเดียว กับ ปลาเค็ม ราคาค่าตัวของปลากุเราในท้องตลาด แพงกว่าปลาอินทรี เกือบเท่าตัว เป็นเครื่องการันตี ว่าเนื้อปลากุเรานั้นสุดยอดกว่าปลาอินทรี ก่อนจากกันในเรื่องนี้ ต้องขอขอบคุณบรรดาเพื่อนสมาชิกที่ได้ร่วมลงเรือด้วยกัน ทั้งน้าไก่ เซียนตกน้ำ นายเต้ จัมมัย นายอู๊ด บางชัน และ นายเคี้ยง สระบุรี อีกทั้ง เจ้าแป๊บ เหลนชายไต๋เปี๊ยก ที่ช่วยปลดปลา ช้อนปลาให้ตลอด ขอบคุณไต๋เปี๊ยก ที่พาไปพบกับความสุขและความสนุก ที่นับวันจะยิ่งหายาก เข้าไปทุกวัน แล้วพบกันใหม่ กับเรื่องราวชีวิต มินิซีรี่คนตกปลา


[หน้าต่อไป] [กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster