พุธ,4 ธันวาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ไต๋เปี๊ยก ศรีราชา
ศรีราชา 2-3 ต.ค. 47
คลิกเมาท์ที่รูปเพื่อที่จะดูรูปที่ใหญ่ขึ้นครับ

ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก


ถ้าจะพูดถึงเรือตกปลาทะเล แถวแหลมฉบัง ศรีราชา ชลบุรี เท่าที่เห็นมีอยู่เพียงไม่กี่ลำ และหนึ่งในจำนวนเรือที่มีเพียงน้อยนิดก็คือเรือ BO โดยมีพี่เปี๊ยกเป็นไต๋เรือ ที่มีฝีมือดี ครั้งนี้ผมจึงถือโอกาส ขอแนะนำ เรือตกปลาแถวศรีราชา ให้กับ ฟ.แฟนโลกกว้างได้รู้จัก

ตะลอนไปหาเหยื่อ
หลังจากติดต่อกับพี่พนม ให้มาทดสอบไต๋ พิสูจน์หมายกับไต๋เปี๊ยก กำหนดการการเดินทางต่างๆ ก็ถูกกำหนดขึ้น สมาชิกที่ร่วมเดินทางไปกับเราในครั้งนี้ประกอบด้วย พี่เหนี่ยว คุณโฟ พี่เล็กนนท์บุรี น้องเต้ น้องดวง และนายเจี๊ยบ ทั้งหมดได้เดินทางมารวมพลกันที่ศรีราชา ก่อนจะเดินทางต่อไปยังท่าเรือในหมู่บ้านแหลมฉบัง ที่ซึ่งเรือ BO จอดอยู่ พวกเราเดินทางมา ถึงสะพานเทียบเรือหมู่บ้านแหลมฉบัง ซึ่งจะอยู่ข้างร้านอาหารริมชล ก็เกือบจะ 2 ทุ่ม ไต๋เปี๊ยก ได้รอต้อนรับพวกเราอยู่ก่อนแล้ว คืนนี้ ไต๋เปี๊ยกจะพาพวกเราไปไดน์หมึก ซึ่งอยู่ห่างท่าเรือแหลมฉบังเพียงนิดเดียว เรือเดินสมุทรลำใหญ่ แล่นผ่านเรือพวกเรา ระหว่างที่เรากำลังเปิดไฟล่อปลาหมึก เห็นแล้วอดเสียว ไม่ได้เหมือนกัน หลังจากที่เราเปิดไฟไดน์หมึกได้ไม่นาน ก็มีแขกมาเยือนพวกเรา ปลากระโทงแทง หรือหลายคนตั้งฉายาให้มัน สะโก้หรู่ ว่า “ราชันย์แห่งท้องทะเล” ไม่ว่าใครจะเรียกมันว่าอะไรก็ตาม มันก็คือปลาชนิดหนึ่ง เนื้อของมัน ไม่มีความอร่อยเลยสักนิดเดียว ที่เห็นก็มีเพียงเอาเนื้อมันมาทำปลาหวานปลากระโทงแทง ตัวใหญ่ยาวเกือบ 2 เมตร ว่ายวนรอบเรือเรา อยู่ 2 -3 รอบ ก่อนจะจากไปในความมืด นายเจี๊ยบ เมื่อเห็นปลากระโทงแทงตัวใหญ่ ถึงกับตะโกนร้องเสียลั่นเรือ “พี่ ปลาอะไรไม่รู้ ตัวย้าว ยาว โน้นมันว่ายอยู่โน้นพี่ มันกินเหยื่อกลางคืนมั๊ยพี่ ไปเอาเบ็ดมาตกมันเลย ดิพี่ ” นายเจี๊ยบพูดพรางก็ชี้มือไปยังร่างอันสง่า ของปลากระโทงแทงตัวนั้นขณะที่สายตาสอดส่ายมองหาคันเบ็ด “นั้นมันปลากระโทงแทง นี่หว่า อย่าไปตกมันเลยเจี๊ยบ ปล่อยให้มันว่ายน้ำ โชว์ความงาม ให้คนเราได้ดูแบบนี้จะดีกว่านะเจี๊ยบ” ผมตอบนายเจี๊ยบไป เพราะไม่อยากจะให้ไปตกมัน คืนนี้เราต้องช่วยกันตกหมึก นายเต้ กับนายดวง น้องใหม่ที่เริ่มจะหัดตกปลา สนุกสนานกับการตกหมึกกันใหญ่ เวลาผ่านไปได้ไม่นานไต๋เปี๊ยก ก็สั่งเด็กเรือกางพื้นอวน เพื่อที่จะครอบหมึก มันก็น่าแปลกที่การครอบหมึกกลับได้หมึกไม่กี่ตัว ไต๋เปี๊ยกจึงตัดสินใจ ถอนสมอ วิ่งเรือฝ่าความมืดมุ่งหน้าไปยังเกาะไผ่ทันที ในเวลานั้นทันที คืนนี้ ท้องฟ้ามืดมิดปราศจากดวงดาว เรือ BO แล่นฝ่าความมืด มาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ทะเลที่เงียบสงบ มาตั้งแต่ต้นกลับผันแปร อยู่ๆ ก็มีทั้งลม มีทั้งคลื่น และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราเช้าใกล้เกาะไผ่ ไต๋เปี๊ยก ถึงกับบ่นพึมพำ “คืนนี้ มีลมได้ยังไง” เราเดินทางมาถึงเกาะไผ่ ไต๋เปี๊ยก มาขับเรือมาหลบลมหลบคลื่นข้างเกาะไผ่ ไต๋เปี๊ยกคนขยัน ไม่ยอมหลับยอมนอน เปิดไฟไดน์ ตกหมึกขึ้นมาขังในห้องเหยื่อ คนเดียว นอกนั้น ทนกับสภาพความง่วงนอนไม่ไหว หมึกประมาณ 100 กว่าตัว แหวกว่ายในห้องขังเหยื่อ ไต๋เปี๊ยก ย้ายเรือเข้าหมายตกปลาสากในเวลาใกล้รุ่ง และเราก็ได้ปลามาทำอาหารเช้าหลายตัว

ตะลอนไปตกปลากุเรา
เช้าวันใหม่ แสงสีทองเริ่มจับขอบฟ้า ไต๋เปี๊ยกพาพวกเราเข้าหมายตกปลากุเรา ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะไผ่ ไม่ไกลเท่าไร คันเบ็ดถูกนำมาเตรียมพร้อม ประกอบเข้าชุดสายหน้า ผูกเข้าด้วยลวดเป็น เบ็ดขนาด 2 โอ 2 ตัวยาวประมาณ 1 คืบ แล้วต่อด้วยสายเอ็นขนาด 40 ปอนด์ ยาว 2 เมตร ขนาดของตะกั่วก็จะใช้ตามสภาพความแรงของกระแสน้ำ เราต้องหย่อนให้ตะกั่วถึงพื้นดินด้านล่าง พอสายสมอตึง หมึกถูกช้อนมาเกี่ยวเบ็ด พวกเรายังลงเบ็ดกันยังไม่ครบทุกคนเลย นายเต้ ก็เปิดประเดิม งัดเอาปลากุเรา ตัวแรกขึ้นมา โชว์หรา สร้างแรงกระตุ้นให้กับพวกเรา “เย้ ได้แล้ว ผมได้ปลาแล้วครับ” เสียงนายเต้ ร้องออกมาด้วยความดีใจกับปลาตัวแรกที่ตก “อะไรมันจะกินไว้ ขนาดนี้วะ เอ้า รีบๆ หย่อนเหยื่อลงไปเลย ปลามันอ้าปาก รองับเหยื่ออยู่ด้านล่างเต็มไปหมดแล้ว” ทุกคนรีบหย่อนเหยื่อลงน้ำไปทันที แล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้น บนเรือ BO ปลากุเรา เข้าตะลุมบอนพวกเรา คนละตุ๊บ ละตั๊บ ทั้งนายดวง คุณโฟว์ พี่เหนี่ยว พี่เล็ก และนายเจี๊ยบ ต่างอัดปลากุเรา กันคนละตัวได้บ้างหลุดบ้าง เพียง 1 ชั่วโมง ปลากุเรา 12 ตัว ไซร์ประมาณ 2 ถึง 3 กิโล ก็มานอนในตู้แช่น้ำแข็งบนเรือ นับว่าไม่น้อยเลยกับการตกปลาในย่านนี้ แต่แล้วกระแสน้ำ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการตกปลา ก็เริ่มไหลแรงขึ้น ตะกั่วลูกละครึ่งกิโลยังทานกระแสน้ำไม่ไหว ปลาเลยพากันหยุดกินเหยื่อ ไต๋เปี๊ยก ย้ายหมายใหม่ แต่ก็ไม่ได้ปลาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพิ่มขึ้น จนกระทั้งตะวันตกดิน ไต๋เปี๊ยก จึงย้ายเรือเข้าไปข้างเกาะ ไผ่ เพื่อไดน์หมึกหาเหยื่อไว้ ตะลุมบอนกับปลาสากในรุ่งเช้า คืนนี้ไม่รู้ทะเลไปโกรธใครมา คลื่นแต่ละลูกซัดเข้าเรือ เสียงดังตูมๆ ทำให้เรือโคลงเคลง ซัดเอาคนเซไปเซมา จนแถบจะยืนไม่ไหว หมึกก็จับโยทะกาดีเหลือเกิน ส่วนใหญ่จะเป็นหมึกศอกทั้งนั้น มันมีขนาดใหญ่เกินไปที่จะเอาไปทำเหยื่อ ตกปลา คุณโฟว์ ซึ่งมักจะมีอะไร แปลกๆ มาเล่นให้พวกเราได้ดูอยู่เสมอ คืนนี้ก็เช่นกัน คุณโฟว์ นำทุ่น ที่ใช้ตกปลาตามบ่อตกปลา น้ำจืด มาผูกเป็นทุ่นตกปลาหมึก และก็มีหมึกเข้ามาจับโยทะกาที่ใช้ทุน ของคุณโฟว์ดีเสียด้วย นัยว่ามันสามารถตั้งระยะความลึกของเหยื่อโยทะกา และยังสามารถ ส่งเหยื่อให้ไปอยู่ในระยะไกลจากตัวเรือได้ ใครจะเอาไปวิธีนี้ไปใช้ก็ได้ นะครับ ยิ่งดึกเท่าไร คลื่นเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความง่วง ก็เข้ามาแทรกซึม จนหลายคนทนกับความง่วงนอนต่อไปไม่ไหว พากันไปงีบหลับ เอาแรงกันหมด จะเหลือก็เพียงไต๋เปี๊ยก กับนายเจี๊ยบ ที่ทนอดหลับอดนอน ตกหมึกกันต่อไป

ตะลอนไปตกปลาสาก
พอได้หมึกจนมากพอ ไต๋เปี๊ยก บอกผมว่า เมื่อคืนพาเข้าหมายตกปลาสาก ซึ่งก็อยู่ในบริเวณ ใกล้กับเกาะไผ่นั้นแหละ แต่มี “ไอ้เงี้ยว” ชุมเหลือเกิน ไอ้เงี้ยวก็คือปลาไหลนี่แหละ มันจะคอยแย่งกินเหยื่อหมึกที่เราหย่อนลงไป เสียทุกที แต่ก็ใช่ว่าไม่มีปลาอื่นมากินเหยื่อนะขอรับ แบบว่าปลาสากตัวสลับกับไอ้เงี้ยวตัว เป็นอยู่อย่างนี้ บ่อยๆเข้า พวกเราก็ยอมแพ้ไอ้เงี้ยว จำต้องย้ายหมายไปที่อื่น เวลาผ่านไปใกล้จะรุ่งเช้า เสียงเอะอะ มะเทิ่ง ของไต๋เปี๊ยก กับนายเจี๊ยบ ก็ปลุกให้ พลพรรคต้องตื่นจากการหลับใหล “เอ้าเวลาปลากิน ก็เอาแต่นอนไม่ตื่นมาตกปลากันเลยนิ ” ผมลุกขึ้นเดินมาดู เห็นทั้งไต๋เปี๊ยก กับนายเจี๊ยบกับลังสาละวนอยู่กับ ฝูงปลาสาก คันเบ็ดโค้งง้อ แสดงว่าทั้งคู่กำลังราวีอยู่กับปลาสากแน่แล้ว “เอ้า เอาตะขอมามาเกี่ยวปลาให้หน่อย” ไต๋เปี๊ยก พอเห็นผมก็เรียกหาตะขอทันที บัดนี้พื้นเรือมีซากศพปลาสาก นอนตายเกลื่อน อยู่หลายตัว ผมรีบคว้าคันเบ็ดมาเกี่ยวเหยื่อแล้วหย่อนลงน้ำทันที ที่ตะกั่วถึงพื้นด้านล่าง หมึกตัวนั้นก็ถูกสวาปาม ทันที ผมรู้สึกว่าเวลานี้มันเป็นช่วงนาทีทองของการตกปลาเสียจริง แล้วจะมามัวเสียเวลาช้าอยู่ใย ต้องรีบเผด็จศึกแล้วหย่อนเหยื่อลงไปใหม่ เราทั้ง 3 คน ไม่มีเวลาแม้แต่สนทนากันเลยในเวลานี้ ต่างคนต่าง ตกปลากันอย่างเมามัน ปลาเจ้ากรรมก็เหลือเกิน กินเหยื่อไม่ยอมให้เรามีเวลาหยุดพัก แม้แต่จะจุดบุหรี่สูบสักม้วน ยังไม่อาจจะทำได้เลย นายเต้ ตื่นขึ้นมาได้ทันเวลา “เอ้าเต้ อย่าช้ารีบไปเอาคันมาเกี่ยวหมึกเลยเร็ว ปลาสาก ตะรึม ตึม ตึม เลย” นายเต้รีบคว้าคันมาเกี่ยวเหยื่อ มองสภาพพวกเราบนเรือยามนี้ แต่ละคนง้วนกับการอัดปลาสาก สมใจอยากของนายเจี๊ยบ ที่อดทนรอไม่ยอมหลับยอมนอน จนแสงสีทองผ่องอำไผ มาเยือนพวกเรา ปลาสากก็เริ่มกินเหยื่อห่างตัว สมาชิกทยอย ตื่น กันจนครบ ไต๋เปี๊ยกบอกเราว่า ที่หมายนี้ จะมีปลาตะคองด้วย พอสายหน่อยคงจะได้ตัว

ตะลอนไปกับปลาตะคอง
แล้วก็จริงอย่างที่ไต๋เปี๊ยกได้บอกไว้ เมื่อปลาตะคองได้ฉวยเหยื่อจากคันในมือของนายเจี๊ยบ ลีลาการสู้เบ็ดของคู่กรณีที่นายเจี๊ยบที่กำลังพันตู อยู่นี้มันต่างไปจากลักษณะอาการสู้เบ็ดของปลาสาก อย่างสิ้นเชิง คันเบ็ดถูกปลาดึงจนงองุ้ม มันไม่กระโดด น้ำตูมตาม อย่างเช่นปลาสากเวลาที่ติดเบ็ด คำถามถูกตั้งขึ้นในความคิดของนายเจี๊ยบจนต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูด “มันปลาอะไร ละเว้ย มุดหัวลงล่างอย่างเดียวเลย พี่โย” นายเจี๊ยบถามขึ้นมาในขณะที่กำลังงัดกับปลาอยู่ “ไม่รู้วะ ตูไม่เคยเป็นปลาพรรณนี้” ผมตอบออกไปทำเอานายเจี๊ยบค้อนขวับ ๆ ในที่สุดนายเจี๊ยบก็งัดปลาขึ้นผิวน้ำได้ พอเห็นรูปร่างหน้าตามันก็รู้ได้ทันทีเลยว่ามันเป็นปลาตะคองลาย ที่หาตัวได้ยากมากในยุคนี้ “ไอ้ตัวนี้มันเป็นปลาตะคองลาย หรือปลาตะคองเหลือง ครับเจี๊ยบ” ขณะเดียวกัน นายเต้ ก็เกิดอาการเลียนแบบ นายเจี๊ยบ แล้วตามด้วยนายดวง และคุณโฟว์ เช้านี้เราได้ออกกำลัง รับรู้รสชาติการสู้เบ็ดที่เร้าใจของปลาตะคอง ผสมกับปลาสากที่ยังหลงเหยื่อ ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ออกท้องตระเวนมางับเหยื่อให้พวกเราได้ตกกันอยู่เป็นระยะ ปลาตะคองถูกลำเลียงลงในตู้แช่น้ำแข็ง ถึง 9 ตัวรวมกับปลาสากอีกหลายสิบตัวจนเต็มตู้แช่

ตะลอนไปกับอินทรี
พอดีผมเห็นในห้องขังเหยื่อมีปลาทูโม่ง ว่ายอยู่ 5 ตัวความคิดที่จะตกปลาอินทรี ก็แล่นขึ้นในสมอง คันเบ็ดของคุณโฟว์ ถูกนำขึ้นมาประกอบ ผูกเข้ากับสายหน้าที่ใช้ตกปลาอินทรี ขวดน้ำถูกนำมาเป็นทุ่น ตั้งระยะความลึกที่ 3 วา ครึ่ง หรือ 7 เมตรโดยประมาณ ก่อนจะช้อนเอาปลาทูโม่งมาเกี่ยวเบ็ด เบอร์ 10 จำนวน 3 ตัวเบ็ด 2 ตัวแรกเกี่ยวที่หลังปลาทู ปล่อยห้อยไว้ 1 ตัว แล้วโยนปลาทูลงน้ำ มันว่ายน้ำ อย่างเร็ว มันว่ายพาขวดน้ำ สวนขึ้นไปทางหัวเรือ แต่แล้วจู่ๆ ขวดน้ำ ก็เลี้ยวกลับเหมือนกับมันได้เจอคู่ปรับ อยู่ข้างหน้า ปลาทูมันจึงเลี้ยวกลับอย่าง กระทันหัน ฉับพลันนั้นเองก็เกิด เสียงดัง ตูม พร้อมกับน้ำระเบิดกระจายอยู่ข้างขวดน้ำ “เฮ้ย มันโดนแด๊ก ไปแล้ว” คุณโฟว์อุทานออกมาเสียงดัง บัดนี้ขวดน้ำที่ใช้เป็นทุ่น ลอยน้ำไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ผมรีบกรอสายเก็บเข้ามาเช็คเหยื่อ ปรากฏว่า เหลือเพียงตัวเบ็ดที่ว่างเปล่าส่วนปลาทูไม่เหลือแม้แต่ซาก ปลาทู ตัวที่ 2 ถูกเอามาเกี่ยวแล้วโยนลงน้ำไป เพียงแค่มันว่ายน้ำห่างเรือไป ไม่ถึง 5 เมตร ขวดน้ำทั้งใบก็จมบุ๋ม แล้วลอยจากไปอย่างอิสระ “มันโดนงาบไปอีกแล้ว โดนขโมยเหยื่อไปกินฟรีอีกแล้ว” ในห้องเหยื่อคงเหลือปลาทูอีกเพียง 3 ตัว คราวนี้ผมใช้เบ็ดเพียงตัวเดียวสะกิดผิวบริเวณช่วงคอของปลาทู แล้วโยนลงน้ำ “แหมปลาทูตัวนี้มันคึกคักปราดเปรียวน่าดู วิ่งปรี๊ด เลย คุณโฟว์เตรียมตัวให้พร้อมเลยนะ” ผมกล่าวกับเพื่อนรักให้เตรียมพร้อม เพราะอีกไม่นานเราคงจะได้พบกับเกมส์ที่เร้าใจแล้ว “ได้เลยผมอ่ะพร้อมตั้งนานแล้ว”คุณโฟว์บอกด้วยความมั่นใจ พอตำแหน่งทุ่นไปไกลได้ระยะแล้ว เราก็มาสนทนากับ 2 เหตุการณ์ที่พึ่งจะผ่านไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อครู่นี้ “คราวนี้รับรองมันเสร็จเราแน่ ไม่พลาดชัวร์” แล้วสิ่งที่เรารอก็บังเกิดผล เมื่อเสียงรอกร้องดังสนั่น “มันติดเบ็ดเราแล้ว” ผมกระโดดไปคว้าคันขึ้นมาวัด แล้วยื่นส่งให้คุณโฟว์รับหน้าที่เป็นผู้ปิดเกมส์ แล้วคุณโฟว์ก็จัดการกับปลาอินทรีไซส์ 4 โลได้อย่างสำเร็จ “ใครจะเป็นคิวต่อไปครับ” ผมถามเพื่อนสมาชิก “พี่ครับป๋าโย เอาแบบนี้เลยนะ” พี่เหนี่ยวอาสาเป็นคิวต่อไป แต่ปลาทูตัวนี้ปล่อยไปอย่างไง มันก็ไม่ย่อมวิ่งห่างจากเรือ จนต้องใช้ลูกโป่ง มาทำเป็นทุ่นแล้วอาศัยลมให้ช่วยพัดลูกโป่งไหลออกไปยังจุดหมาย แล้วเสียงร้องของรอกก็ดังขึ้นยาว ‘แกรกกกก’ พี่เหนี่ยวรีบไปคว้าคันขึ้นมาวัดย้ำ คมเบ็ด แล้วบรรจงอัด ด้วยความชำนาญ ผมอาสาเป็นมือตะขอเกี่ยวปลาขึ้นเรือ พอผมเกี่ยวปลาขึ้นมาบนเรือเสร็จ ตัวเบ็ดก็หลุดออกจากปากปลาทันที นี่ถ้าพี่เหนี่ยวอัดปลาไม่เป็นละก้อ มีสิทธ์ชวด มันคงหลุดไปนานแล้วแน่นอนอินทรีจากฝีมือพี่เหนี่ยว ตัวโตกว่าตัวแรกเสียอีก ปลาทูตัวสุดท้าย ถูกนำมาเกี่ยวเบ็ดอีกครั้ง มีลูกโป่ง เป็นทุ่นคราวนี้เป็นคิวของพี่เล็ก ระหว่างที่ผมกำลังปลายสายออกไปทางท้ายเรือ ก็บอกวิธีและสาธิตวิธีการปล่อยปลาให้พี่เล็กได้ดู “เราต้องค่อยๆ ปล่อยสายให้สายตึงอยู่ตลอดเวลานะ เปิดคลิกเสียงและตั้งเบรกไว้ด้วย ปลามันฉวยได้ตลอดเวลา สายจะได้ไม่ฟู่นะพี่เล็ก” ผมยังกล่าวยังไม่ทันจบดี สายตาก็เหลือบไปเห็นเงาสีขาวเงินยวง วิ่งผ่านวูบในแนวทุ่นลูกโป่ง ก่อนที่สายเอ็นในมือ จะถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว ผมวัดคันสวนทันที “อยู่แล้วพี่เล็กมารับไปอัดเลยพี่” ผมบอกพี่เล็กที่ยืนอยู่ข้างผมตลอดตั้งแต่ตอนปล่อยเหยื่อ “หา มันกินแล้วเหรอ อะไรจะไวขนาดนี้” พี่เล็กแทบไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะรับคันไปอัด และมันก็เป็นปลาอินทรีตัวที่ 3 ที่มีขนาดพิกัด ถึง 6 กิโล
เราปิดทริบนี้ลงได้อย่างสนุกสนานกับปลาเกมส์ที่เร้าใจ และปริมาณปลาที่มากมาย ขอบคุณไต๋เปี๊ยก ที่พาพวกเราไปพิสูจน์หมาย สำหรับเรื่องราวของทริบนี้ ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ สำหรับท่านที่สนใจจะไปตกปลากับไต๋เปี๊ยก คนขยัน สามารถโทรสอบถามกับไต๋เปี๊ยกได้ที่เบอร์โทร 07-1305874 และจองเรือได้ที่พี่พนม เบอร์โทร 01-7566793 ครับ

[กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster