เสาร์,21 ธันวาคม 2567 |
เรื่องเล่าคนตกปลา 250 ไมล์กับนายชนบทแล่นเรือโต้คลื่น ปลากระบึกที่สีชัง คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง บางเสร่ยังมีลุ้น ดอดไปฟันไอ้โฉม วันนี้ที่รอคอย มันแปลกดีนะ สายันรัญจวน ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ น้ำใจ โฉมเอยโฉมงาม แข่งขันตกปลาสัญจร#1 ปลายฝนต้นหนาว แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6 ลูกหมูจอมซ่าส์ โต้ลมหนาว เก่งกับเฮง เมษาฮาวาย เมื่อผมไปงานแข่งฯ ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ หูดำที่เกาะค้างคาว ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง มหาเฮง นักเลงโตสากดำ ฟ้าหลังฝน หลังมรสุมสงบ ตามล่าปลาจัมโบ้ บันทึกแห่งความทรงจำ คุณพริ้งลองของ อัดปลาโต้เดิ้ง เพื่อนรักต่างแดน เก๋าหน้าหวาน ไต๋ยอช์ตพาเพลิน สานสัมพันธ์คนตกปลา#1 หรรษาตะวันแดง บางเสร่รำลึก#4 ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก แดงจ๋าแดงจ่า ลีลาสละ ลูกหมูย่ำสวาท ผู้กล้าแห่งวารี ไต๋ระยอดนักสู้ สายสัมพันธ์คนตกปลา#2 มือใหม่หัดเหวี่ยง ผู้พันอินทรี สัตว์ประหลาด ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี จิตสังหาร ลากมาอุ้ม ปริศนาที่เร้นลับ ดอนตะวันแดง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3 ปลายักษ์ในตำนาน ราพาร่าพรางตัว สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4 อินทรีหลังโขด ท่องไปกับตะวันแดง รวมดาวกระจุย บุกรังสีทอง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4 อยากอัดไอ้หลาม ปลอบขวัญที่กำพวน วาฮูนักวิ่งน้ำลึก วังสีทอง กุเลาเกมส์พันธ์ดุ รางวัลชีวิต สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5 ธิดาย่ำสวาท กุเลาเกมส์คนวัยมันส์ เมษาพาเพลิน
|
ทริพตราด เมื่อวันที่ 3-4-5 กุมภาพันธ์ 2544 ขอขอบคุณ
พี่เสือปลาขี้เมา
ที่ส่งเรื่องนี้มาให้ครับ ทริพ ไปแคะเก๋าหลังเกาะกูด โดย...เสือปลาขี้เมา
พวกเราเผ่นออกจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 13.30 น. (อิอิอิ..เป็นธรรมเนียมของกลุ่มนี้จริงๆ ที่ชอบ Late นัดไว้เที่ยงครึ่งแต่กว่าจะออกก็บ่ายกว่า) พวกเรามาถึงท่าเรืออนุรี ที่บ้านน้ำเชี่ยว ตราด เวลาประมาณ 17.00 น. เจอไต๋วุฒินั่งซดช้าง รอพวกเราอยู่ที่ร้านพี่สาว พอเห็นหน้าพวกเราไต๋วุฒิได้ยิ้มเผล่แล้วแซวว่า นัดไว้บ่าย 3 โมงแต่มาถึง 5 โมง ยังมาเร็วกว่าที่คิด พวกเราก็รีบขนของลงเรือทันที เรือพิชิตมัสยา ได้แล่นออกจากท่าเรือตอนเกือบจะหกโมงเย็นแล้ว วิ่งไปตามเส้นทางออก ที่จะออกทะเล เมื่อเรือแล่นออกจากปากคลองน้ำเชียว สู่น่านน้ำทะเลก็อัดความเร็วเต็มที่ เพื่อจะวิ่งไปถึงจุดไดน์หมึกบริเวณอ่าว สลักเพชร ของเกาะช้าง พวกเราก็เริ่มตั้งวงเหล้าบนหลังคาเรือตามธรรมเนียมอันดีงาม ผมมองวง เหล้าแล้วรู้สึกค่อนข้างเงียบเหงาไม่เหมือนคราวที่แล้วที่มีเพื่อนร่วมเดินทางกันอย่างครึกครื้นมากกว่าคราวนี้ ซึ่งมีคนร่วมวงก๊งสุราแค่ 3 คนครึ่งเท่านั้น คือหมู. เจ้าแก้ว และผม ส่วนบูรณ์ นานๆ ถึงจะมาเติมเหล้า (ไปนั่งประจบผู้ติดตามอยู่) เอ ทาโร่ ก็ไม่ดื่มเนื่องจากไม่ค่อยสบาย ลุง ส. ก็ดื่มไม่ได้เนื่องจากแก่แล้ว เจ้าสำนักตั้มก็ไม่ดื่มอยู่แล้ว พวกเราทั้งหมดมารวมตัวบนหลังคาเรือตอน 19.00 น. เพื่อรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน หมึกเอ๋ยหมึก เจ้าหายไปไหนวุ้ย!!! เรือพิชิตมัสยา มาถึงจุดจอดไดน์หมึกเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ หลังจากนายดอน ลูกเรือ ถีบสมอลงน้ำดังเสียงดังโครม !!!! แล้ว พวกเราหลายคนก็แปรสภาพเป็นนักตกหมึก เช่นลุงส. (เมื่อทริพกลาง เดือน มค.ที่ผ่านมาลงเรือ BGN.ตกหมึกคืนเดียวได้ 100 กว่าตัว) เรียกหาโยทะกาตัวเก่งสีเงินจากเพ่ หมู แต่ปรากฎว่าหมูลืมเอามาจากเรือ BGN.ในทริพก่อน ลุงส. แกเลยบ่นพึมพำ เป็นหมีกินผึ่ง ก่อนจะคว้าโยทะกาสีขาวตกหมึกแทน ขณะที่การตกหมึกได้เริ่มขึ้น วงเหล้าบนหลังคาก็เริ่มเงียบเหงา จนมีท่าทีว่าจะเลิกรา เนื่องจากสมาชิกในวงคือพี่หมู อ่อนนุช ได้ขอตัวไปนอน หลังจากเรือจอดได้ไม่นานโดยให้ เหตุผลว่าเมื่อวานกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปตี 4 กว่า (ไปทำอะไรมาละ เพ่?) หลังจากพี่หมูไปนอน ผมกับ เจ้าแก้วนั่งกินกันต่อจน บลูอีเกิ้ล หมดขวดแรก พอเริ่มต่อขวดที่ 2 ได้หน่อย เจ้าแก้วก็เริ่มบ่นว่าง่วง มันว่าเมื่อคืนนอนตี 2 ผมก็บอกว่านอนตี 2 เหมือนกัน (อิอิอิ ไม่บอกว่าไปทำรัยถึงนอนดึก) แล้วผมกับเจ้าแก้วก็มุดเข้าเก๋งนอนเอาแรง ปล่อยให้ลุงส.,บูรณ์,และเจ้าสำนักตั้ม ตกหมึกกัน ผมตื่นขึ้นมาตอนเวลาตี 2 ลงมาจากที่นอนบนหลังคาเรือ เจอตั้มตกหมึกอยู่คนเดียว เมื่อมองไปที่ห้องขังเหยื่อเห็นหมึกว่ายน้ำอยู่ประมาณ 10 ตัว ตั้มบอกว่าหมึกไม่ค่อยกินเหยื่อ ผม ก็ประกอบคันสปิน.เพื่อช่วยตกหมึกทำเหยื่อ ตั้มบอกว่า ไต๋วุฒิจะเฉหมึกตอนตี3 ผมก็เลยนั่งตก หมึกเป็นเพื่อนตั้ม เรา 2 คนช่วยกันตกหมึกถึงตี 3 ได้หมึกรวมกันเพิ่มอีก10กว่าตัว รวมแล้วได้หมึกทั้งหมดประมาณ 20 กว่าตัว พอตี 3 พระจันทร์ตกไต๋วุฒิก็ตื่นขึ้นมาเรียกลูกน้องมาเฉหมึก ครั้งแรก ได้หมึกประมาณ 70-80 ตัว แล้วไต๋วุฒิก็บอกว่าจะเฉครั้งใหม่ตอนตี 5 แล้วไต๋กับลูกน้อง ก็หลับต่อทิ้งให้ผมกับตั้มตกหมึกกันต่อไป ซึ่งเราทั้งคู่ก็ตกหมึกแบบง่วงๆ โดยปักคันไว้ที่กระบอกปักคันเบ็ด แล้วก็นั่งสัปหงกกัน พอตี 5 ไต๋วุฒิก็ตื่นขึ้นมาเฉหมึกอีกคราวนี้ได้หมึกติดอวนขึ้นมาฝูงใหญ่เกือบ 200 ตัว ไต๋วุฒิเกาหัวแล้วบ่นว่า "มันหายไปไหนกันหมด" แล้วบอกว่าก่อนสว่างจะเฉอวน อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้มีปลาหัวอ่อนติดอวนขึ้นมาเยอะผมเลยบอกให้เด็กเรือเก็บใส่ถุงแล้วแช่ไว้ ในคูลเลอร์ (ได้ประมาณ 2 ถุงใหญ่) เผื่อไว้ทำเหยื่ออ่อยหรือไว้เป็นเหยื่อตกปลาเล็ก แล้วผมก็มุดเข้าเก๋งเรือเพื่อนอนเอาแรงไว้สำหรับวันรุ่งขึ้น โดยไม่สนใจที่จะตกหมึกต่อไปแล้ว เพราะว่าตัวง่วงมาเยือน ความเซ็งเมื่อเจอปลาเล็กผลาญเหยื่อ เมื่อผมตื่นมาอีกครั้งขณะนั้นเป็นเวลาเกือบ 8 โมงเช้าแล้ว เรือกำลังวิ่งอยู่ดูทิศทางเรือวิ่งแล้วพ้นแนวเกาะกูดไปแล้ว เมื่อไปดูที่ห้องขังเหยื่อพบว่ามีหมึกอยู่ประมาณ 300 ตัวเศษๆ ผม ได้ถามไต๋วุฒิว่าเฉครั้งที่ 3 ได้กี่ตัว คำตอบคืนได้ 50 กว่าตัว ไต๋บอกว่าอีกประมาณ 1 ชม.จะถึงหมาย แรก 08.30 น. อาหารเช้าก็เสร็จ และพวกเราก็ล้อมวงกินข้าวเช้ากัน 09.00 น. เรือก็มาถึงหมายแรก แต่กว่าจะจอดเรือเข้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ ครึ่งชม. เนื่องจากลมกับกระแสน้ำพัดสวนทางกัน แถมยังมีความแรงเท่าๆ กันด้วยทำให้เสียเวลาในการจอดเรือมาก ทันทีที่เรือจอดพวกเราทุกคนก็ลงเหยื่อกัน ผมก็ใช้ชุด Penn Inter20 ลงเหยื่อหมึกตัวเบ่อเริ่ม โดยตั้งความหวังที่จะตกปลาเก๋า แต่นรกเป็นพยานเถอะ!!! เหยื่อที่ผมปล่อยไป ได้ถูกปลาเล็กมารุมตอมเหยื่อจนเหยื่อรุ่งริ่ง แต่แล้วเสียงเฮ ก็ดังขึ้นมาจากท้ายเรือ เมื่อพี่หมูอัดปลาเก๋าหนักประมาณ 5 โล.ขึ้นมาเปิดเกมส์ และท้ายเรือก็เฮกันเป็นระยะเมื่ออัดปลาเก๋าตัวขนาด 4-5 โล.ขึ้นมาได้อีกพร้อมทั้งอั่งเกยไซน์พอๆ กันขึ้นมาอีกหลายตัว ในขณะที่กลางเรือกับหัวเรือยังไม่มีใครอัด ปลาขึ้นมาได้ (ซึ่งผม,เอ,ตั้มกับไต๋วุฒิตกอยู่) และแล้วไต๋วุฒิก็อัดปลาเก๋าใหญ่ขึ้นมาได้ มันเป็น ปลาเก๋าขนาดใหญ่หนักประมาณ16 กก.โดยถูกสายแฮนด์ลายขนาด130ปอนด์ และเจ้าอาละวาดตั้มก็อัดปลาอั่งเกยขนาดประมาณ 2-3 โล.ขึ้นมา ส่วนผมกับเอ ยังใบ้อยู่แถมยังเจอปลาเล็กทำลาย เหยื่ออยู่ตลอดเวลา และแล้วไต๋วุฒิก็สั่งย้ายหมายเนื่องจากปลากินห่างตัว หมายที่ 2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชม.เศษ ซึ่งก็เหมือนกับหมายแรกคือใช้เวลาจอดเรือร่วมครึ่งชม. พวกเราได้ปลาอีกประมาณ 4-5 ตัว ส่วนใหญ่จะเป็นข้างปานตัวประมาณ 1กก. กับอั่งเกยตัวประมาณ 2 กก. แต่แลกด้วยการศูนย์เสียเหยื่อไม่น้อยกว่า 20ตัว จากการถูกรุมทึ้งเหยื่อจากปลาเล็ก หมายนี้ผมกับเอ ยังคงไม่ได้อัดปลาเหมือนหมายแรก หมายที่3 ก็ยังใช้เวลาเดินทางประมาณชม.เศษๆ เวลานั้นประมาณเที่ยงเศษ ข้าวเที่ยง เสร็จแล้ว แต่ผมตั้งใจว่าถ้าไม่ได้ปลาก็จะยอมอดข้าวเที่ยง แต่แล้วผมก็ตีไข่แตกด้วยข้างปานตัวขนาด 1โล. ประเดิมหมายนี้เป็นคนแรก แต่แล้วตัวที่2 ของหมายนี้เป็นของไต๋วุฒิโดยได้อัดเก๋าใหญ่ขึ้นมาอีกหนักประมาณ 10 กก. ต้นๆ หมายนี้เราเฝ้ากันอยู่ถึงบ่าย 2โมง ได้ปลามาประมาณ 10 ตัว ซึ่งปลาเล็กก็ยังถล่มเหยื่อต่อไปจนต้องย้ายหมายอีก หมายนี้เอยังตีไข่ไม่แตกคนเดียว หมายที่4 เรือจอดประมาณบ่าย 4 โมงเย็น ตอนนั้นลมกับกระแสน้ำอ่อนลงมาแล้วทำให้ จอดเรือได้ง่าย ไต๋วุฒิก็ยังโชว์การตกปลาใหญ่ให้พวกเราดูอยู่อีกโดยการอัดปลาเก๋าขนาด 10 กก.ขึ้นให้ดูถึงอีก 2 ตัว ผมก็ได้ปลาตัวที่ 2 อีก1ตัว คือปลาข้างปานขนาด1โล. อีก หมายนี้ได้ปลาประมาณ 7-8 ตัว หมายนี้เอ เจอปลากินแต่หลุดไปก่อนที่จะเห็นตัวปลา เราถอนสมอย้ายเรือใน เวลาประมาณเกือบ 5 โมงเย็น โดยที่ไต๋วุฒิบอกว่าวิ่งเรืออีกประมาณ 2 ชม.จะไปถึงซากเรือแล้ว ผมมองลงไปที่ห้องขังเหยื่อ เห็นเหยื่อเหลือประมาณ 120-130 ตัวเลยบอกให้ทุกๆ คนประหยัดการใช้เหยื่อหน่อย เดี๋ยวจะไม่พอตกปลาตอนกลางคืนที่ซากเรือจม ที่น่าเบื่อทั้ง 2 ซาก เรามาถึงหมายซากเรือประมาณ1ทุ่ม. หลังจากอาหารค่ำ เราก็เริ่มตกปลากันต่อ ปลาก็ มีกินเหยื่อเป็นระยะๆ ส่วนมากจะเป็นข้างปานกับอั๋งเกยตัวประมาณ 2โล. พอเวลาประมาณ 2ทุ่ม ทุกคนก็ได้อัดปลาเกือบพร้อมกันทุกคนแต่ไม่ได้ตัวเพราะว่า สายขาดทุกคนทำให้รู้ว่าไอ้คุณสาก มาแล้ว เลยใส่ลวดปลายสายผลก็คือเงียบเกือบทั้งลำเรือ มีเอคนเดียวที่ยังไม่ได้เปลี่ยนใส่ลวด แล้วก็โดนเจ้าสากงับเหยื่อจนได้ แต่ปลากัดโดนตัวเบ็ด เลยถูกสำเร็จโทษโดนลากขึ้นผิวน้ำ มันเป็นปลาสากที่ไซน์กำลังงาม แต่เนื่องจากความเชื่องช้า ของเด็กเรือไอ้คุณสาก จึงแว้งตัวกัดสายขาดไปจนได้ เล่นเอา ท่านเอ ทาโร่ เซ็งเลยเพราะว่ายังตีไข่ไม่แตกจึงเก็บคันมุดเข้าเก๋งเรือนอนเลย และแล้วไต๋วุฒิก็สั่งย้ายหมายตอนประมาณ 3 ทุ่ม เพื่อไปหมายที่2 หมายที่2 ยิ่งแย่กว่าหมายแรกอีก คือปลาไม่กินเลย อ่านต่อหน้า..2 |
Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved. Contact Webmaster |