พฤหัสบดี,21 พฤศจิกายน 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ตอน.กำเนิดปอบ
วันที่ 11-13 มี.ค. 48

เรือ เนตรวารี ไต๋มะระ

ผู้ร่วมทริบ 1.คุณหนุ่ยบึงสำราญ 2.คุณใหญ่ 3.คุณเดือน 4.คุณวัช 5.คุณเต้ จัมมัย 6.เฮียคิม 7.เฮียเล็กบางชัน

 

กำเนิดปอบ
ยามอุษาฟ้ากระจ่าง ดวงตะวันจับขอบฟ้า สรรพสิ่งมีชีวิตเริ่มต้นชีวิตของวันใหม่ เฉกเช่นเดียวกับ นักตกปลากลุ่มหนึ่งที่พร้อมใจกันไปลงเรือเนตรวารี กับไต๋เรือคนใหม่ ชื่อเรียกขาน นามว่า “นายมะระ” แม้ชื่อเสียงเรียงนามฟังดูจะไม่คุ้นหูนักตกปลาเท่าไร แต่ฝีไม้ลายมือบวกกับประสบการณ์ที่ฉ่ำชอง นั้นไม่เป็นรองใคร เพราะไต๋มะระ ดำเนินชีวิตอยู่กับท้องทะเลมาเกือบจะค่อนชีวิต การเดินทางเพื่อไปพิสูจน์หมายทดสอบไต๋ ในครั้งนี้ ถูกกำหนดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และนำไปตั้งเป็นกระทู้ประกาศเชิญชวนในเวปบอร์ด ของ WeekendHobby.com ในช่วงเวลาไม่กี่วัน ก็ได้รับการสนองตอบจากพี่ๆ และเพื่อนๆ ขานรับจนสมาชิกแน่นเรือ ครั้งนี้พวกเราเตรียมตัวเดินทางกันแต่เช้าตรู่ ขับรถยนต์คู่ชีพ ปุเลง ปุเลง มุ่งหน้าสู่ อ่าวธรรมชาติ เพื่อจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยัง เกาะช้าง ที่ซึ่งเราได้นัดหมายกับไต๋มะระ ให้ขับเรือมารับ ณ จุดนัดพบ ที่ร้านอาหารสลักเพ็ชรซีฟู๊ด ไต๋มะระพร้อมลูกเรือเนตรวารี ออกมาไดร์หมึกหาเหยื่อเตรียมพร้อมไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ทริบนี้ของเราจึงมีเหยื่อพร้อมเกือบ 500 ตัว นับว่าฝีมือหาเหยื่อของไต๋มะละ ไม่ธรรมดาเมื่อ เทียบกับคืนที่เดือนสว่าง อย่างเช่นเมือคืนนี้

ณ ท่าเทียบเรือร้านอาหารสลักเพ็ชรซีฟู๊ด วันนี้แม้นักท่องเที่ยวจะดูบางตา จะมีก็เพียงชาวต่างชาติ ที่หลงใหล บรรยากาศอันสวยงามและเงียบสงบ ของเกาะช้าง ที่ต่างพากันมาท่องเที่ยว เก็บเกี่ยวความสุข ให้กับชีวิต บรรยากาศรอบๆ ร้านอาหารที่ใหญ่ใหญ่โต ที่ทำสะพานไม้ ยื่นออกไปในทะเล มีกระชังเลี้ยงปลาอาหารทะเลมีชีวิต ที่รอเป็นอาหารให้กับนักท่องเที่ยว วางเรียงรายอยู่หลายสิบกระชัง แต่ละกระชัง จะเขียนป้ายบอกชนิดปลาพร้อม วันเดือนปี เหมือนกับบอกอายุของปลาในกระชังไว้ พวกเราใช้เวลาชมทัศนียภาพ ไม่มากนักก็ต้องรีบลงเรือ ออกเดินทางสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ บ่ายวันนี้เราตั้งเป้าจะไปเยี่ยมเยียนเก๋าลูกหมู เก้อเก่ากันก่อน “ไต๋ระ หมึกเพียบอย่างนี้ ไปหาเล่นลูกหมูกันก่อนดีกว่า” ผมกล่าวกับไต๋ระ ในขณะที่เรือ กำลังเคลื่อนตัว ออกจากสะพานไม ้ท่าเทียบเรือของร้านอาหารสลักเพ็ชรซีฟูด “ได้เลยผมมีหมายอยู่ไม่ไกล จากนี่เท่าไรเดี๋ยวจะลองแวะเข้าไปดู เผื่อมีตัว ฮะ ฮา” ไต๋ระกล่าวอย่างคนอารมณ์ดี แม้จะพึ่งเคยรู้จัก ผมก็รับรู้สัมผัส ถึงสายเลือดยอดนักสู้ที่อยู่ในตัวไต๋ละคนนี้เสียแล้วละ เรือเนตรวารีโลดแล่นมุ่งหน้าสู่เกาะกูด ระหว่างทางเจ้าเชษฐ์ ปล่อยสายลาก CD-14 ส้มท้องทอง ไว้โดยมีหมอผีคิมเป็นผู้ลงคาถาอาคมเสกเป่าด้วยมนต์ ‘นะจังงวย’ ให้ “อยากให้ปลากินรึเป่าฟ่ะเจ้าเชษฐ์ มานี่เด๋วหมอผีจะเสกให้ โอม ได้ตัว ปู๊ด ปู๊ด ไม่เชื่ออย่าลบหรู่นะว้อย ” เฮียคิมกล่าวจบ เจ้าเชษฐ์ถึงกับหัวร่อ ฮา แตก “ฮา เอามันยังงี่เลยรึเฮียคิม ตั้งแต่ซื้อรอกตัวนี้มายังไม่เคยได้ปลาเลยสักตัวนะเฮีย”

เจ้าเชษฐ์กล่าวเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าหมอผีคิมที่เคยร่ำลือกันนักกันหนาจะสามารถลบอาถรรพ์แห้วสนิด ของรอกตัวนี้ลงไปได้ ในขณะที่เรือแล่นผ่านบริเวณหินพรายน้ำ สิ่งที่เหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้นเมื่อรอก ของเจ้าเชษฐ์ ส่งเสียงร้องกรี๊ดดังลั่นได้ยินไปถึงหัวเรือ ‘กรีดดดดด...’ “เฮ้ยปลากินท้ายเรือ ท้ายเรือปลากินเบ็ดแล้ว” สิ้นเสียงร้องตะโกนของใครก็ไม่รู้ที่แหกปากร้องเสียงหลง บรรดาเหล่า ขุนพลขยับกายลุกพรึบพรับวิ่งกรู่ กันไปท้ายเรือหมดทุกคนเจ้าเชษฐ์ไม่รีรอ คว้าคัน ขึ้นมาอัด โดยไม่ต้องวัดคันย้ำคมเบ็ดให้เสียเวลา ปลาเข้าชาร์ทในขณะที่เรือวิ่งเร็วขนาดนี้ มันติดเบ็ดชัวร์ป๊าบแล้วละ พวกเราต่าง ช่วยกันลุ้นว่าจะเป็นปลาพลาสติกหรือปลาอินทรีกันแน่ ดูท่าทางที่เจ้าเชษฐ์หมุนแขนกว้านกรอสายเข้ามา ดูมันตื้อๆ เหมือนไม่ใช่ปลา และเมื่อสายเอ็นวิ่งเบี่ยงตัวออกข้างเรือแสดงว่าชัวร์ป๊าบเลย ปลาแน่นอน ถุงพลาสติก ไม่พาเอ็น วิ่งออกข้าง เรือได้แบบนี้หรอก “เฮ ได้กินอินทรีสดๆ กันแล้วโว้ยพวกเรา” เสียงเฮียเล็กตะโกน ร้องออกมาด้วย ความดีใจเมื่อเจ้าเอ๋ เอาตะขอเกี่ยวปลาอินทรีขึ้นมาบนเรือได้สำเร็จ สิ้นเสียงเฮียเล็ก วิญญาณผีปอบที่สิง อยู่ในร่างคนตกปลาก็เปิดเผยตัวตนขึ้น ทั้งพี่ใหญ่ เจ้าเดือน เจ้าวัช รวมทั้งไอ้หนูจัมมัย นายเต้ ต่างก็แสดงตัวออกมา “จุ่มโพ่ เอาไปแล่ เป็นชิ้นๆเลยนะ ส่วนเจ้าเต้ ไปผสมวาซาบิมา กินมันตอนนี้เลย เนื้ออินทรี สด สด หวานคอแร้งตูละ” เสียงหัวหน้าปอบ นามว่าหนุ่มเดือน ร้องสั่ง เมนูจานเด็ดทันที ที่ปลาขึ้นมานอนบนเรือ จากนั้น บรรดาปอบก็เข้ามะรุมมะตุ้ม สวาปามเนื้อปลาดิบคนละมุบคนละมับ แผล็บเดียวเนื้อปลาอินทรีจานนั้นก็เกลี้ยงไม่มีเหลือ

ไต๋มะระยังคงขับเรือแล่นต่อไปผ่านพ้นเกาะกูดมาได้ไม่นาน ไต๋มะระก็เบาเครื่องยนต์ลง แสดง ว่า เรามาถึงหมายตกปลากันแล้ว ไต๋ระวนเรือหาตำแหน่งเชื้อปลา ก่อนที่จะบังคับเรือ ไปยัง จุดทิ้ง สมอ “เอ้า ทิ้ง” สิ้นเสียงไต๋ระ เจ้าเอ๋เด็กประจำเรือ ที่รอคุมเชิงคอยทิ้งสมอ ก็งัดสมอ หล่นน้ำเสียงดังตูม! “ต๊ะต๊ะ ต๊ะสายหมอหน่อยเอ๋ เอ้าพอ มัดเลย” เสียงไต๋ระร้องสั่งจ๊ะเอ๋ (คำว่า ต๊ะ ในที่นี้หมายถึง การที่นำสายเชือกสมอมาพันรอบหลักมัดสมอเรือ แล้วค่อยๆ ปล่อย สายเชือกสมอออกไปที่ละน้อย เพื่อให้สมอจิกกับพื้นดินด้านล่าง) “น้ำกับลม ไม่สามัคคีกันเลย วันนี้มันเป็นยังไงของมันน่ะ ลมดูจะป่วน ป่วน ยังไงไม่รู้ เอ๋ ลองทิ้งสายดูสักเส้นดิ ดูว่า น้ำมันไหลไปทางไหน” ไต๋มะระผู้ช่ำชองท้องทะเล กล่าวออกมาด้วยความวิตกกังวล เมื่อเห็นว่าทิศทาง ของลมมันดูจะปรวนแปร ไม่แน่นอน ซึ่งมันจะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงกับการจอดเรือเข้าหมาย ซึ่งแน่ละ ถ้าจอดเรือไม่เข้าหมายละก้อ แห้วรัปทาน กันทุกคนละขอรับ “น้ำไหลไปหัวเรือ เอ๋ะ เดี่ยวก่อน น้ำไหลเข้าท้องเรือแล้ว เฮ้ย มันไหลไปท้ายเรือแล้ว” เสียงเจ้าเอ๋ ผู้ทดสอบทิศทางน้ำไหล โดยการปล่อยสาย เปล่าที่มีเพียงตะกั่ว ลงน้ำ ตะโกนบอกไต๋ระ “อ้าวเฮ้ย อ้ายเอ๋ ตกลง น้ำมันไหลไปทางไหนกันแน่ละเมิ้ง ตูละเป็นเง็ง หมดแล้ว” ไต๋มะระยกมือเกาหัว แกรก แกรก เกิดอาการเป็น งง กับทิศทางไหลของน้ำ

“น้ำ 3 กระดอง หรือ นี่ไต๋ระ” ผมถามไต๋ระ “ใช่แล้ววันนี้เราเจอ ทั้งน้ำทั้งลม 3 กระดองหมด แฮะ แฮ่ะ สงสัยจะไม่ได้เรื่องแล้วหมายนี้” ไต๋ละกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่แฝง ด้วยความวิตก กังวล อย่างเห็นได้ชัด “เอาน่ายังไงก็มาถึงหมายแล้ว มันก็ต้องหย่อนเหยื่อดูหน่อยละ ไม่งั้นมา เสียเที่ยว เปล่า” ผมกล่าว ไต๋มะระได้แต่ยิ้ม ก่อนจะบอกให้จ๊ะเอ๋สาวสายสมอเรือขึ้นไปอีก 2 วา จากนั้น มหกรรม ส่งหน่วยกล้าตาย ก็อุบัติขึ้น พลพรรคนักรบต่างรีบคว้าอาวุธหนัก มาเกี่ยวหมึกกล้วย ตัวยาวคืบกว่า หย่อนลงน้ำ เสียงดัง ‘จ๋อมแจ๋ม’ ไม่นานนัก ท้ายเรือก็เกิดเสียงเฮดังลั่น เมื่อหนึ่งในสมาชิกงัดเอาปลาเก๋าขนาด 4 โลขึ้นมาได้เป็นตัวแรก “เฮ้ยมันกินเร็วขนาดนี้เลยรึ” เสียงเจ้าเต้ร้องถามด้วยความงุนงง “รีบๆ หย่อนสายเลยเต้ เดี๋ยวเรือปัดออกนอกหมายจะไม่ได้ตัวน่ะ” ผมกล่าวกับนายเต้ จัมมัย และแล้วเหตุการณ์มันก็เป็นดังที่เราคิดไว้แต่แรก นั้นคือเรือเลื่อนหลุดออกนอกหมาย ปลาจึงหยุดฉวยเหยื่อ ทุกอย่างเงียบสงบแม้ไต๋มะระจะพยายาม เลื่อนเรือ สักกี่ครั้งมันก็ไม่เป็นผล จะมีก็แต่เฮียคิม ที่ได้ปลาทรายแดงยักษ์ หรือ อังคุลี ไซส์ 1กิโลกว่าขึ้นมาอีก 1 ตัว เราจึงตัดสินใจ เดินหน้าต่อไป หวังหมายข้างหน้าน้ำกับลมคงจะเป็นใจ

ดวงตะวันใกล้จะลาลับ แต่เสียงเครื่องยนต์ยังคงครางกระหึ่ม เรือเนตรวารียังคงโลดแล่น เดินหน้าต่อไป จุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้ายังอีกไกลหลายไมล์ทะเล เหล่าขุนพลเริ่มทยอยตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล ทุกคนได้พักผ่อนกันเต็มเหยียด ทำให้ชีวีดูกระปรี่กระเป่าพร้อมจะสู้ศึก ในค่ำคืนนี้ ไต๋มะระหยิบสมุดจดเบอร์พิกัดหมาย ออกมาดูก่อนจะป้อนหมายเลข ลงบนจอ GPS เข็มชี้บอกพิกัดอีกไม่นานเกินรอ เราก็จะถึงหมายเด็ดของไต๋มะระคนนี้แล้ว ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับฟ้า ดวงจันทร์กำลังจะโผล่ขึ้นมาทำหน้าเปล่งแสงสว่างแทน พวกเรามานั่งสนทนา จนดวงตะวันลาลับไป การเดินทางก็มาสิ้นสุดเมื่อถึงหมายกองหิน เสียงเครื่องยนต์เบาเสียงลง เบื้องหน้าของเรามีแสงสว่าง จากเรือไดน์เปิดไฟสว่างจ้าเหนือท้องฟ้ามองเห็นได้แต่ไกลเหมือนกำลังมีงานวัดก็ไม่ปาน “ถึงแล้วเรอะ ดีกำลังอยากจะยืดเส้นยืดสายอยู่พอดีเลย” สมาชิกต่างขยับกายคว้าอาวุธประจำตัว ออกมากุมไว้ รอจังหวะที่ไต๋มะระจอดเรือนิ่งสนิทเมื่อไหร่ มหกรรมตกปลาช่วงกลางคืนก็จะอุบัติขึ้นทันที “อ้าวลงเหยื่อได้เลยครับ ตรงหมางเผ็งเลย” สิ้นเสียงไต๋มะระ เหยื่อหมึกเป็นก็ถูกช้อนขึ้นมาเกี่ยวเบ็ดแล้วหย่อนลงน้ำ “น้ำไม่ไหลเลยนี่หว่า เปลี่ยนตะกั่วให้เล็กลงหน่อยแล้วกัน” ผมบอกเพื่อนๆ สมาชิกให้เปลี่ยนตะกั่วให้เล็กลง เหลือ เพียงลูกละ 1 ขีดสายเอ็นยังชี้ตรงหน้าอยู่เลย ‘วันนี้มันแปลกๆ ยังไงชอบกล น้ำหยุดไหล เอาเสียดื้อๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !’ ผมได้แต่คิดในใจ เวลาเดินผ่านไปนานนับ ชั่วโมง ก็ไม่มีปลามาข้องแวะเหยื่อเราเลยสักตัว จนต้องย้ายหมายอยู่หลายครั้ง และในแต่ละหมาย จะปรากฏเชื้อ ปลามากมาย แต่เหตุการณ์ก็ยังเหมือนเดิม คือ เงี่ยบฉี่ “ดูดวงจันทร์สิ วันนี้มันดูแปลกๆ ดวงมันแดง ๆ แหว่งๆ ยังไงชอบกล” ผมบอกให้เพื่อนๆ ดูดวงจันทร์ที่เป็นสีแดงเหมือนสีเลือด “ก็วันนี้มันจะมีราหูอมจันทร์นะสิ เมื่อเช้าฟัง ข่าวเขาบอกมา ว่ายังงั้นอ่ะ” เพื่อนสมาชิกคนหนึ่งตอบ “ใช่ ผมก็ได้ฟังข่าวมาเหมือนกัน คราวที่แล้วผมไปตกปลา ที่สัตหีบในคืนที่ ราหูอมจันทร์อย่างวันนี้แหละ อิอิอิ แห้วแดร๊ก ทั้งลำเหมือนตอนนี้เปรี๊ยบ ฮะ ฮา ฮ่า” นายหนุ่ยบึงสำราญ กล่าวเสริม พร้อมหัวเราะออกมาเสียงดังเหมือนยอมรับในโชคชะตา ไต๋มะระยังคงไม่ยอมแพ้ ‘แม้น้ำจะไม่เดินปลา จะไม่แหลก เหยื่อก็ตาม’ ไต๋ระยังคงขับเรือขยันย้ายหมายตลอดทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสาง เช้าวันใหม่เหตุการณ์ก็เหมือนเดิมคือ ‘ปลาไม่แหลก’

เช้าวันใหม่น้ำไหลเอื่อยๆ ไต๋ระพาพวกเรามาจอดที่ซากเรือจมลำหนึ่ง พวกเราเริ่มจะมีเสียงเฮ เกิดขึ้น หลังจากเมื่อคืนเงียบสงบมาทั้งคืน “เฮ ! ปลาแหลกแล้วโว้ย ไอ้เก๋าลายดอกไซร์โตเสียด้วย” ท้ายเรือ งัดเอาปลาเก๋าลายดอกหางตัด ไซร์เกือบ 3 กิโลฯ ขึ้นมาต้อนรับแสงอรุณวันใหม่ “ท้ายเรือสนุกสนาน กันใหญ่เลยนะ อิจฉา ว้อย” เสียงพวกที่อยู่หัวเรือตะโกนแซวพวกที่อยู่ท้ายเรือด้วยความอิจฉา แต่แล้วไต๋ระก็ตะโกนเสียงดังลั่นให้พวกเรารีบเก็บเบ็ด “เก็บเบ็ดเร็วครับ เราต้องรีบเผ่นกันแล้ว” พวกเรารีบกรอสายเก็บขึ้นมาอย่างรวดเร็วไต๋ระสั่งให้เจ้าเอ๋ ถอนสมอขึ้นโดยด่วน “เกิดอะไรรึไต๋ ทำไม่รีบเผ่นละ ปลากำลังฉวยเหยื่อดี ๆ อยู่เลย” หนึ่งในสมาชิกถามขึ้นมาด้วยความสงสัย ไต๋ระตอบพร้อมกับชี้นิ้วให้ดูเรือลำน้อยที่จอดอยู่ทางหัวเรือ “เห็นเรือลำนั้นไหม ครับลักษณะเรือมัน แปลกๆ ท่าทางมันไม่น่าไว้ว่างใจ มันวิ่งมาเฉียดๆ เรือเราเหมือนมาดูราดเลา ผมกลัวว่ามันจะ วอ. ไปตามพวกมันมา ปล้นเราครับ” ไต๋ระอธิบายถึงเหตุผล ให้พวกเราเข้าใจ แม้เราจะมาลอยลำอยู่ในเขตน่านน้ำเศรษฐกิจ ก็ตาม แต่พวกเขมรนี่ ไม่น่าไว้ว่างใจ แม้จะเห็นเรือพวกนั้นเป็นเพียงเรือหางยาวก็ตาม แต่ทุกลำจะมีวิทยุและจะ วอ. ไปเรียกพรรค พวกมาปล้นเรานี่ สิ โชคดีที่ไต๋ระฟังภาษาเขมรออก ทุกคำพูดที่เรือลำนั้น วอ.ไปเรียกพรรคพวกมัน ไต๋ระจึงรู้หมด เราจึงรีบเผ่น กันก่อนที่จะโดนโจรสลัดปล้นเอา “เฮอะ ! โล่งอกไปที ผมละสงสัยเหมือน กันว่าทำไม ไต๋ระถึงเปิดวิทยุฟังพวกเขมรมันคุยกัน จะถามอยู่หลายครั้งแล้วว่าฟังมันรู้เรื่องเหรอ ”ผมกล่าวกับไต๋ระ เรือเนตรวารี หันหัวเรือแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ไต๋ระหยิบสมุดจดเบอร์ดาวออกมาเปิดดู พร้อมกับป้อนหมาย เลขพิกัดตำแหน่ง ที่เรากำลังจะไปลงในเครื่อง GPS เวลาผ่านไปนานพอดู เราก็เดินทางมาถึงหมาย กองหินที่มีพื้นที่อาณาเขต กว้างใหญ่มาก

วันนี้น้ำกับลมยังคงเดินสวนทางกันเฉกเช่นเดียวเมื่อวาน ซึ่งพวกเราก็ได้เรียนรู้ว่า ถ้าสถานการณ์ เป็นอย่างนี้เรือจะจอดตรงหมายได้ไม่นาน เรือก็จะเคลื่อนตัวหลุดนอกหมาย เราจึงต้องรีบ หย่อนเบ็ดลงน้ำทันที ที่เรือจอด เฮียคิมใช้หมึกแล่เกี่ยวเบ็ด แทนที่จะใช้หมึกเป็นและแล้ว “ฮะ ฮาได้แล้ว ตัวนี้ไม่เบาเลยวุ่ยปลาแถวนี้ชอบกินหมึกแล่ วะ” เสียงเฮียคิมตะโกน ร้องด้วยความดีใจ เมื่อสามารถดึงเอาปลาเก๋าลายดอก ขึ้นมาบนเรือได้สำเร็จ “จุ่มโพ่ ผมอยากลองกินเนื้อปลาเก๋าตัวนี้สดๆ อ่ะช่วยจัดการเอาไปแล่ เป็นปลาดิบให้ที ” พี่ใหญ่ เมื่อเห็นปลาเก๋าของเฮียคิม ดิ้นกระแด่ว กระแด่ว บนเรือวิญญาณปอบก็กระโจนเข้าสิงมวลหมู่ปอบทันที จุ่มโพ่ก็แสน จะใจดี รีบนำปลาไปแล่ใส่จานมาให้ทันทีเหมือนกัน “เดี๋ยวขอเวลาไปเอานมเปรี้ยวมากินก่อนใครจะเอาบ้างครับ นมเปรี้ยวดัชชีเชี่ยวน่า” เจ้าเดือนที่พกเอานมเปรี้ยวดัชชี มาเต็มลังน้ำแข็งกล่าว จึงเป็นที่มาของแก๊งส์ปอบนมเปรี้ยว ตั้งบัดนั้นเป็นต้นมา เหล่าบรรดาสาวกปอบ เมื่อเห็นปลาดิบ เข้าเท่านั้นต่างก็กรูกันเข้ามาหยิบใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ตุ้ย แผล๊บเดียว ปลาดิบจานนั้นก็เกลี้ยงไม่มีเหลือ “เฮียคิมตกปลา อย่างนี้มาอีก ผมช๊อบชอบเนื้อมันอร่อยดี” แน่ะมีการสั่งต่ออีกแน่ะ และเฮียคิม ก็ไม่ทำให้พลพรรคผีปอบต้องผิดหวัง เมื่อสอยปลาเก๋าลายดอกขึ้นมาอีกได้อีกตัวติดต่อกัน “เอ้า เอาไปเลย อย่าลืมเหลือไว้ให้ผมด้วยนะ อยากกินว้อย” เฮียคิมกล่าว เมื่อพี่ใหญ่เห็นเฮียคิมสอยปลาเก๋าขึ้นมาได้ 2 ตัวติดๆ ก็เกิดอยากสนุกบ้าง รีบไปคว้าคัน มาเกี่ยว เศษหมึกแล ทำตามอย่างเฮียคิม และก็ไม่ผิดหวังแสดงว่าปลาหมายนี้ชอบเศษหมึกแล่มากกว่าหมึกเป็น “ผมก็ได้แล้ว วู้ มันดีว้อย เฮ้ยตัวนี้ไอ้ย้ำ” เสียงพี่ใหญ่ร้องออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นปลาลอยขึ้นผิวน้ำสีผิวออกน้ำตาลส้มๆ จึงเข้าใจว่า มันเป็นไอ้ย้ำสวาทปลาเนื้ออร่อยแต่พอนำมันขึ้นมาบนเรือเราจึง รู้ว่ามันเป็นปลาเก๋าลายดอกอีกแล้ว และปลาตัวนี้ก็ถูกชำแหละ เป็นปลาดิบในเวลาต่อมา

คืนนี้เราต้องวางแผนกันใหม่อีกครั้งเมื่อข้างนอกปลาไม่มีเราจึงตัดสินใจเข้ามาหาปลาหมายใน ไต๋ระตัดสินใจหันหัวเรือเข้าสู่เกาะกูด ในเวลาเที่ยงวันนั้นทันที “ผมมีหมายปลาเก๋าใหญ่ อยู่หลัง เกาะกูดเดี๋ยวคืนนี้ผมจะพาไปเล่นกับมันดูสักตั้ง”ไต๋ระกล่าวในขณะวิ่งเรือเข้ามาข้างใน เรา เดินทางมาถึงหมายก็เป็นเวลามืดค่ำพอดี ไต๋ระขับเรือมาจอดยังตำแหน่งกองหินหลังเกาะกูด “หย่อนเบ็ดกันไปเลยครับหมายจะอยู่ท้ายเรือฝั่งซ้ายครับ” ไต๋ระบอก พวกเรารีบลุก ขึ้นมาหย่อนเบ็ด และก็ได้รับการต้อนรับจากปลาทันที “ไอ้วัชโว้ย ไอ้รัช ปลาดึงเบ็ดเอ็งแล้ว” เสียงเจ้าเดือน ร้องตะโกนบอกให้เจ้าวัช มาอัดปลา ในที่สุดเจ้าวัชก็ดึงปลาแดงเขี้ยว ตัวใหญ่ขึ้นมาบนนอน ในตะกร้าจากนั้นปลาก็เข้าฉวยเบ็ดพวกเรา คนละตุ๊บ คนละตั๊บ “อึ๊บ อยู่ละ” เสียงไต๋ละเปล่ง ออกมาจากปาก คันเบ็ดในมือไต๋โกร่งโค้งง้อ จนเสี้ยวว่ามันจะหักสะให้ได้ “ไอ้ลูกหมูเหรอไต๋” ผมถาม เมื่อเห็น ลักษณะการต่อสู้ที่ หนักหน่วง “ครับตัวนี้เก๋าใหญ่แน่นอน งัดไม่ขึ้นเล้ย สงสัยมันพาเข้ารูไปแล้ว” ไต๋ระกล่าวตอบ เกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไป สถานการณ์ของไต๋ระก็ยังไม่ดีขึ้น ในที่สุดสายเอ็นที่ได้รับแรงดึงมานานก็ขาดสะบั้น “อุ๊บ ขาดไปแล้ว ตัวที่ 2 แล้วนะครับที่เอาไม่ขึ้น” ไต๋ระกล่าว “หา ! ไต๋ระทำลูกหมูขาดไป 2 ตัวแล้วเร๊อะ” ในขณะที่พวก เรากำลังเมามันส์กับการตกปลาอยู่นั้นเหตุการณ์ ชุลมุลก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าเชษฐ์เหลือบไปเห็นทุ่นสีขาว หลายสิบใบ ทอดตัวยาวเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร มันกำลังเคลื่อนตัวมาทับสายสมอเรือของเรา “ไต๋ระ ไต๋ระ ไม่รู้ทุ่น อะไร ลอยเกือบจะถึงหัวเรือแล้ว”เจ้าเชษฐ์ตะโกนบอกไต๋ พอไต๋ระเห็นแนวทุ่นเท่านั้น ก็ร้องสั่งให้พวก เรารีบเก็บขึ้นทันที “เก็บเบ็ดให้เร็วด่วนจี๊ เลยครับ อวนลอยมันลอยมาทับสายสมอเรือเราแล้ว” พวกเรารีบเก็บเบ็ดขึ้นมาทันที ความโกลาหล เกิดขึ้นบนเรืออยู่พักใหญ่ ในที่สุดไต๋ระก็แก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยดีทีด้วยการปลดสายสมอทิ้งลงน้ำ ให้อวนมรณะ พื้น นั้นลอยข้ามไป แล้วไต๋ระจึงวิ่งเรือมาเก็บสายสมอภายหลัง ในกรณีเช่นนี้ถ้านักตกปลา มั่วแต่ตกปลาเพลิน มีหวังโดนอวนทับสายสมอ กดเรือจมลงไปนอนก้นทะเลแน่ๆ อันตรายอีกอย่างหนึ่งที่เรา นักตกปลาพึงระวัง อย่ามัวแต่หลับกันจนเพลินละ

เรื่องราวในทริบนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ บทสรุปในทริบนี้ ขอบอกว่าเรือเนตรวารีเป็นเรือขนาดใหญ่สะอาดมาก ความเป็นอยู่บนเรือสะดวกสบาย ไต๋มะระเป็นไต๋ที่มีประสบการณ์ทะเลสูงมากคนหนึ่ง มีหมายตกปลามากมาย เด็กเรือบริการดีเยี่ยม นักตกปลาท่านใดสนใจจะใช้บริการเรือเนตรวารีเชิญติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์ 01-6319688 คุณกวาง , 07-0594513 ไต๋มะระ และ 01-7824733 คุณพรพรรณ แล้วท่านจะประทับใจในบริการ

[กลับสู่หน้าเมนูหลัก]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster