พฤหัสบดี,21 พฤศจิกายน 2567 |
เรื่องเล่าคนตกปลา 250 ไมล์กับนายชนบทแล่นเรือโต้คลื่น ปลากระบึกที่สีชัง คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง บางเสร่ยังมีลุ้น ดอดไปฟันไอ้โฉม วันนี้ที่รอคอย มันแปลกดีนะ สายันรัญจวน ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ น้ำใจ โฉมเอยโฉมงาม แข่งขันตกปลาสัญจร#1 ปลายฝนต้นหนาว แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6 ลูกหมูจอมซ่าส์ โต้ลมหนาว เก่งกับเฮง เมษาฮาวาย เมื่อผมไปงานแข่งฯ ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ หูดำที่เกาะค้างคาว ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง มหาเฮง นักเลงโตสากดำ ฟ้าหลังฝน หลังมรสุมสงบ ตามล่าปลาจัมโบ้ บันทึกแห่งความทรงจำ คุณพริ้งลองของ อัดปลาโต้เดิ้ง เพื่อนรักต่างแดน เก๋าหน้าหวาน ไต๋ยอช์ตพาเพลิน สานสัมพันธ์คนตกปลา#1 หรรษาตะวันแดง บางเสร่รำลึก#4 ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก แดงจ๋าแดงจ่า ลีลาสละ ลูกหมูย่ำสวาท ผู้กล้าแห่งวารี ไต๋ระยอดนักสู้ สายสัมพันธ์คนตกปลา#2 มือใหม่หัดเหวี่ยง ผู้พันอินทรี สัตว์ประหลาด ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี จิตสังหาร ลากมาอุ้ม ปริศนาที่เร้นลับ ดอนตะวันแดง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3 ปลายักษ์ในตำนาน ราพาร่าพรางตัว สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4 อินทรีหลังโขด ท่องไปกับตะวันแดง รวมดาวกระจุย บุกรังสีทอง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4 อยากอัดไอ้หลาม ปลอบขวัญที่กำพวน วาฮูนักวิ่งน้ำลึก วังสีทอง กุเลาเกมส์พันธ์ดุ รางวัลชีวิต สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5 ธิดาย่ำสวาท กุเลาเกมส์คนวัยมันส์ เมษาพาเพลิน |
หลังมรสุมสงบ "ความไม่แน่นอน ของสภาพอากาศ ที่แปรป่วน ทำให้ผม ชักไม่แน่ใจในโชคชะตา ที่ตัวเองกำลังจะไปเผชิญเสียแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนจะถึงวันเดินทาง กรมอุตุนิยมฯ รายงานพยากรณ์สภาพอากาศ ว่าเกิดพายุลูกหนึ่ง ที่ทะเลญี่ปุ่น กำลังเคลื่อนตัวมาทางเวียดนาม และจะเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้คลื่น ลม ในอ่าวไทยขยายตัวใหญ่ขึ้น คลื่นและลมจะแรง ผมติดตามเกาะติดสถานการณ์พายุลูกนี้ อย่างกระชันชิด ชั่วโมงต่อชั่วโมง ยิ่งกว่า นักข่าว หัวเห็ด เสียอีกแน่ะ ทั้งเปิดเวบของกรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ ทั้งโทรศัพท์สอบถามคลื่นลมกับตี๋ใหญ่ และได้รับคำตอบว่าทางตราดลมแรงมาก ชาวเรือออกทะเลไม่ได้เลย ตี๋ใหญ่แนะนำให้เราเลื่อนการเดินทาง ออกไปวันอื่น แต่ผมขอรอดูผลสภาพอากาศในวันรุ่งขึ้นอีกที บางทีมันอาจจะสงบลง ก็ได้ และแล้วเมื่อถึง วันเดินทาง กระแสลมที่รุนแรงก็สงบลง มันเป็นข่าวดีสำหรับเรา โดยไม่รู้ว่าหลังพายุสงบลง มันจะเป็นเช่นไร" คาราวาน คนตกปลา เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่เมืองตราด ดินแดนที่เป็นสวรรค์ของนักตกปลา เรามาถึงตัวเมืองตราด ประมาณบ่าย 4 โมงเย็น เรือน้ำใจ จอดรอเทียบท่าเรืออรุณี ไต๋สุพจน์ ยื่นยิ้มแป้นโชว์ฟันขาว รอพวกเราอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ทริบนี้ตี๋ใหญ่ไม่ได้ไปส่งพวกเราตกปลา เพราะติดธุระที่สำคัญ จึงให้พี่สุพจน์ มาทำหน้าที่ถือพังงารับหน้าเป็นไต๋แทน ไต๋สุพจน์ เคยขับ เรืออวนดำ ลากอวนแถวทะเลตราดมานานนับสิบปี จึงเป็นเรื่องปกติที่ไต๋สุพจน ์จะรู้ ภูมิประเทศ ใต้ท้องทะเลอ่าวไทยฝั่งทะเลตราดเป็นอย่างดี พื้นที่ตรงไหนเป็นกองหิน ตรงไหน เป็นซากเรือ พี่สุพจน์จะรู้หมด หมายเด็ดที่เรือตกปลามีอยู่ บางส่วน ก็ได้มาจากไต๋เรือลากอวนเช่นไต๋สุพจน์ นี่แหละครับ แม้ตี๋ใหญ่ ก็ได้หมายเด็ด มาจาก พี่สุพจน์ หลายหมายเหมือนกัน หลังจากที่ทักทายกับไต๋สุพจน์ พอหอมปาก หอมคอ สิ่งของ สัมภาระก็ถูกขนถ่ายลงเรือจนครบหมดแล้ว จะมัวช้าอยู่ใยละ เพื่อนๆ อยากออกไป สูดดมกลิ่นอายน้ำเค็ม กันจนตัวสั่น หมดแล้ว "ออกเรือโลด พี่พจน์" ผมบอกไต๋พจน์ เมื่อทุกอย่างพร้อม เสียงเครื่องยนต์ ดังกระหึ่ม ใบจักรหมุนตีน้ำ เรือน้ำใจทะยานออกจากคลองน้ำเชี่ยว มุ่งสู่หน้าอ่าวสลักเพ็ชร หลังเกาะช้าง ทันทีคืนนี้ ไต๋พจน์จะพาพวกเรามาเปิดไฟไดน์หมึกกันที่ อ่าวสลักเพ็ชร พอเรือแล่นเข้าแนวเกาะช้าง มาได้สักพัก จุ่มโพ่บัง หนึ่งเดียวที่เป็นทั้ง จุ่มโพ่ และเด็กเรือ ก็เริ่มลงมือทำอาหาร สำหรับ มื้อเย็น เสียงสากกระทบครก ดัง โป๊ก โป๊ก แหม่! แค่ได้ยินเสียงทำอาหาร ก็ชวนให้ท้องร้อง จ๊อก จ๊อก เสียแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาระหว่างที่นั่งรอ เจ้าบังทำอาหาร ผมจึงชวนเพื่อนๆ ที่ออกทริบในครั้งนี้ ทั้ง พี่เม้ง นายต้อง นายหมู นายติ้ว นายนพ น้องเบิร์ด นายตั้ม นายอ๋อง และเจ้าเอก มานั่งซดเหล้ารองท้องกันก่อนดีกว่า "ร้านเหล้าเปิดแล้วจ้า เชิญขยับก้นมานั่ง ซดเหล้ากันที่หัวเรือกันหน่อยนะจ๊ะ" ไม่มีการเรียกย้ำเป็นครั้งที่ 2 ทุกคนขยับขยายส่ายพุง เข้ามาล้อมวง กันพร้อมหน้า สุรา กลับแกล้ม เท่าที่พอมี ถูกนำมาเรียงราย ดื่มกินสนทนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่แต่ละคนพึงมี ถูกนำมาถ่ายทอด จากปาก สู่หู ของเพื่อนๆ ในวงสนทนา ดูแล้วคนที่แก่พรรษามีประสบการณ์มาก ที่สุดคงจะไม่มีใครเกินพี่เม้ง ตะกั่วป่า เพราะพี่เม้ง ออกทะเล มาทั่วทั้งน่านน้ำประเทศไทย จนสำรับอาหารถูกนำมาว่าง การสนทนาจึงยุติลง พวกเรายุติ กับการดื่มน้ำเมา หันมาทะเลาะ กับจานข้าวและอาหาร แทน จนอิ่มหน่ำสำราญพุงกันทุกคน ก็พอดีกับเรือน้ำใจ เข้าเขตอ่าวสลักเพ็ชร ไต๋สุพจน์ เลือกหาทำเล ที่คิดว่าเหมาะ ดูระดับความลึกของน้ำ พอเห็นว่าได้ตำแหน่งที่ดีแล้ว จึงสั่งให้เจ้าบัง ซึ่งบัดนี้ ยืนคอยท่า รอทิ้งสมอ อยู่ก่อนแล้ว "เอ้า เอ้าได้" เสียงไต๋สุพจน์ ร้องบอก ให้เจ้าบังทิ้งสมอ ทันที่ ที่เรือไหลเข้าจุด เสียงสมอเรือหล่นน้ำ ดังตูม! จากนั้นแสงไฟ ก็สว่างไสว ไปทั่วทั้งลำเรือ ถึงตอนนี้ เพื่อนๆ หลายคนก็เริ่มขยับก้นลุกขึ้นไปคว้าคันเบ็ด สำหรับ ตกปลาหมึก ก่อนที่จะเล็งหาทำเล หย่อนโยทะกาตกหมึกผมบอกทุกคนว่า คืนนี้ เราต้องช่วยกัน หาเหยื่อหมึก กันให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะช่วยกันหาได้ เกมส์การหาเหยื่อหมึก ดำเนินผ่านไป หมึกตัว แล้ว ตัวเล่า ถูกสอยขึ้นมาขังในห้องขังเหยื่อ โดยเฉพาะเจ้าอ๋อง ซึ่งยึดทำเลท้ายเรือเป็นสมรภูมิ นั่งก๊งเหล้าไป ตกหมึกไป พอเหล้าหมดไป 1 ขวด สงสัยเจ้าอ๋อง จะใช้วิชาไอ้หนุ่มขี้เมา หรือไม่ก็ ปลาหมึก มันก็คงขี้เมา เหมือนเจ้าอ๋อง มันจึงพากันรุมเข้ามาเกาะโยทะกาของเจ้าอ๋อง จนพวกๆ ที่นั่งตกที่หัวเรือ พากันอดสงสัย ไม่ได้ "อะไรวะ หมึกแถวนี้ท่า ทางจะติดเหล้างอมแงม แหง๋ม " มองดูเจ้าอ๋องเดี๋ยวเอาหมึกมาปลดลงห้องขังเหยื่อ เผลอแผ๊ลบเดียวนายอ๋อง ฟาดหมึกไปแล้วเกือบ 20 ตัว เห็นสภาพเจ้าอ๋องตอนนี้ แล้วนึกเสียว กลัวว่าจะเดินตกน้ำตกเรือเสียจริงๆ คนอะไรก็ไม่รู้ พอเมา หน่อย ทำเดินโซเซ หมึกก็ไม่รู้เป็นอะไร ทำไม ถึงพิศวาส โยทะกาของคนขี้เมาก็ไม่รู้ คนอื่นๆ กว่าจะได้หมึก แต่ละตัว นั่งโสกคันกันจนมือหงิกแล้วหงิกอีกก็ยังไม่ได้หมึกสักกะตัว พวกเราตกหมึกกันจนเพลิน จนได้เวลาเฉอวน ไต๋สุพจน์ ตื่นขึ้นมาสั่งการเจ้าบังให้กางพื้นอวน แสงไฟเริ่มหรี่แสงลง บรรดาหมึกน้อยใหญ่ พุ่งทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำสีขาวนวล ไปทั่วทั่งผิวน้ำ "เอ้า เอ้าเลย" ไต๋พจน์สั่งให้เจ้าบัง ดึงกว้านสาวสายอวนขึ้น "มา พวกเรามาช่วยกันสาวอวนกันหน่อยเร็ว" ผมบอกเพื่อนๆ ที่ยื่นดูฝูงหมึกให้มาช่วยกัน สาวอวน การเฉอวนครั้งแรก เราได้หมึก ร้อยกว่าตัว จึงต้องมีการเฉอวน กันอีกครั้ง ตอนใกล้ฟ้าสาง ทริบนี้เรามีหมึก 300 กว่าตัวนับว่าไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เมื่อเจ้าบังเก็บแขนอวนเสร็จ ไต๋พจน์ จึงเบนหัวเรือ เข้าหมายแรกก่อนฟ้าจะสาง ทันที่ เช้านี้ ผมหมายมั่นว่าจะไปถึงหมายไอ้เก๋าลูกหมู ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แบบว่าไปเคาะประตู บ้าน เรียกไอ้เก๋าลูกหมูกันแต่เช้าเลยว่างั้นเถอะ แต่พอไปถึงหมายแรก ปรากฏว่า เคาะครับ ได้แค่เคาะประตูเรียก แล้วก็จากไป เฉยๆ ที่เราต้องวิ่งเรือไปเพราะว่าไม่มีเชื้อปลา ปรากฏขึ้น บนจอ Sounder เลยสักนิด ไต๋สุพจน์ เปิด GPS เลือกพิกัดหมายปลาที่อยู่ใกล้ตำแหน่งเรือ แล้วขับเรือเข้าหมายตามที่ได้เลือกไว้ ผ่านไป 5- 6 หมาย แต่ก็ไม่พบเชื้อปลาอีกเช่นกัน ไต๋พจน์ไม่ระความพยายาม ขับเรือตระเวนเวียนแวะ เข้าหมายแล้วหมายเล่า แม้แต่พบเชื้อปลา เพียงเล็กน้อยระหว่างวิ่งเรือ ไต๋พจน์ต้องแวะวนเรือตรวจสอบทุกครั้งไป แต่ก็ไม่พบอะไร จนในที่สุดพี่พจน์ต้องงัด เอา สมุดพก ที่แกจดเบอร์ดาวเอาไว้สมัยที่แกเป็นไต๋เรือลากอวนออกมาดู วิทยุสื่อสารดู จะใช้เป็นประโยชน์ สอบถาม พิกัดกองหิน จากเพื่อนเกลอ ที่เป็นไต๋เรืออวนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ สอบถามขอหมายใหม่ๆ จากเพื่อนเกลอ ซึ่งก็ได้มา 2 - 3 หมาย ไต๋พจน์ไม่รีรอ ให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป เพราะเวลาผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว เรายังไม่ได้ หย่อนเบ็ด ตกปลากันเลย มั่วแต่วิ่งเรือหาหมายปลาเกือบทั้งวัน หางเสือทำหน้าที่บังคับเรือให้ มุ่งตรงไปยังจุดพิกัด เบอร์ดาว ตามที่เพื่อนบอก เราใช้เวลาเพียง 30 นาที เราก็มาถึง หมายตามที่เพื่อนไต๋พจน์ได้บอกไว้ พอเรือแล่น เข้า จุดพิกัด เชื้อปลากองขนาดมหึมาก็ปรากฏ สีเขียวพรืด ขึ้นเต็มหน้าจอ Sounder ไต๋พจน์ จอดเรือนิ่งสนิด เพื่อดูทิศทาง การไหลของเรือให้แน่ใจก่อนจะทิ้งสมอ น้ำทะเลยามนี้ สงบนิ่งปราศจาก เกลียวคลื่น ราบเรียบปานกระจกก็ไม่ปาน น้ำนิ่งๆ ลักษณะนี้ ชวนให้น่ากลัวพิลึก ไต๋พจน์ปล่อยเรือลอยลำนิ่งอยู่เฉย นานผิดปกติ ผมจึงถามไต๋พจน์ไปว่า "พี่พจน์ ทำไมไม่วนเรือไปทิ้งสมอสะทีละครับ" ไต๋พจน์ได้แต่ส่ายหน้า นัยตาเหม่อมองที่จอ GPS ก่อนที่จะบอกมาว่า "น้ำบนนิ่งลมก็นิ่ง จอดเรืออยู่ตั้งนานแล้ว เรือไม่ขยับไปไหนเลยครับ จะทำยังไงดี" สถานการณ์แบบนี้ ไต๋คงจะคำนวณ หาจุดทิ้งสมอเรือลำบากแน่ๆ "เอายังงี้ดีกว่าพี่พจน์ เดี๋ยวผมจะลองหย่อนสายลงไปดู ว่าน้ำล่างมันไหลไปทางไหน แล้วพี่ค่อย ขยับเรือหาตำแหน่งที่หลังแล้วกัน" พูดจบผมก็ไปปล่อยสายที่เกี่ยวหมึกตัวขนาดคืบลงไปด้วย พอตะกั่วถึงพื้น "น้ำล่างไหลไปทางหัวเรือครับไต๋ ติดเครื่องถอยหลังโลด" ไต๋พจน์ขยับเรือถอยหลัง คาดคะเนให้หมายกองหิน ไปอยู่ที่ ตำแหน่งหัวเรือ พอเรือขยับได้ที่ ผมบอกให้เพื่อนๆทุกคน หย่อนสายลงไปได้ พวกเราตกปลากันทั้งๆที่ไม่ต้องทิ้งสมอ ลอยลำมันตกอย่างนี้แหละ และเพียงไม่นาน เราก็ได้ปลาตัวแรกของทริบนี้ขึ้นมาจากฝีมือของพี่เม้ง ปลาตัวแรก เล่น ผมต้องฉงน กับสีสันที่แดงแป๊ด มันเป็นปลาเก๋าแดง ที่หาตัวได้ยากมาก และเก๋าแดงตัวนี้ ก็ถูกนำมาต้มยำ เป็นอาหาร มื้อเย็น ที่สุดแสนจะอร่อยในวันนั้นเนื้อมันมีรสชาติ ที่อร่อยมากครับ หลังจากที่พี่เม้ง สอยเจ้าปลาเก๋าแดง ขึ้นมา ได้ไม่นาน เจ้าอ๋อง หนุ่มอารมณ์ดี จากเมืองจันทบุรีที่นั่งตกปลาท้ายเรือ ก็เล่นชัคเย่องัดปลาเก๋าระดับน้องๆ ลูกหมู ไซส์ 8 โล ขึ้นมานอนอ้าปากหวอในตระกร้าเป็นตัวที่ 2 ขณะเดียวกัน นายต้อง ก็กำลังเล่นเกมส์งัดข้อ กับปลาเก๋า อยู่ที่หัวเรือ ได้ฉลองเจิมคันที่ทำมาใหม่ ด้วยปลาเก๋า น้องๆ ลูกเช่นเดียวกับอ๋อง แต่ดูจะมีไซส์ใหญ่กว่าตัวของเจ้าอ๋อง นิดหน่อย แล้วความเงียบก็มาเยี่ยมเยือนพวกเราอีกครั้ง ปลาหยุดกินเหยื่อไปดื้อๆ ไต๋พจน์ ย้ายเรือไปยังหมายใหม่ แต่ก็เจอสภาพ น้ำเช่นเดียวกับหมายเมื่อครู่ที่เราพึ่งผ่านมา จวบจนตะวันลับขอบน้ำ ไต๋พจน์พาเราเข้าสู่ซากเรือจม ตามที่ระบุใน GPS แต่ก็ ไม่มีปลา เข้ามาฉวยเหยื่อเราเลยสักตัว เราจึงย้ายหมายไปยังหมายใหม่ ไต๋พจน์ต้องหยิบสมุด จดพิกัด เบอร์ดาว ที่เคยจดบันทึกพิกัดตำแหน่งซากเรือและแนวกองหิน ไว้เมื่อครั้นที่ขับเรืออวนลากอยู่ ผมก็พึ่งจะรู้เหมือนกันว่าไต๋เรืออวดลากทุกคนจะต้องรู้ตำแหน่งซากเรือจมและแนวกองหิน เกือบจะทุกแห่ง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องลากอวนผ่าน ยังตำแหน่งพวกนี้ ถ้าขืนไม่รู้แล้วลากอวน สุ่มสี่สุ่มห้า มีหวัง อวนขาดกระจาย นะซิขอรับ ผมจะเรียกสมุดจดเบอร์ดาว ของไต๋สุพจน์ ว่าตำราพิชัยยุทธ์ หลังจากเปิดตำราพิชัยยุทธ์ เลือกหาสมรภูมิ ที่จะพาเหล่านักรบ สู่สนามรบ ได้แล้ว ไต๋สุพจน์ก็แล่นเรือเข้าหาที่หมายยังตำแหน่งซากเรือ ตามพิกัดเบอร์ดาว ที่หมาย ซากเรือลำนี้ ไต๋พจน์บอกกับผมว่าเป็นซากเรือประมงที่ถูกเรือเดินทะเลชนขาด สองท่อน ที่ยังคงสภาพดีหลงเหลืออยู่จะเป็นส่วนหัวเรือ ส่วนท้ายเรือนั้นหายสาบสูญไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ที่หมายนี้เราก็ไม่ได้ปลาเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร เนื่องมาจากว่า เรือเราจอดอยู่บนซากเรือ แต่พอหย่อนสายลงน้ำ กระแสน้ำด้านล่าง มันก็พัดเอาเหยื่อของเรา หลุดเลยหมายออกไปไกล เราอยู่ที่หมายนี้จวบจนเกือบฟ้าสาง โดยที่ ไม่มีอะไรมาแตะต้องเหยื่อที่พวกเราส่งลงไปเลย ไต๋สุพจน์จึงยายเรือไปหาหมายเรือจมอีกลำ ซึ่งอยู่ไกล จากหมายนี้ วิ่งเรือไปอีก ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างวิ่งเรือย้ายหมาย ก็ของีบหลับเอาแรงก่อนดีกว่า ก็ทนเมื่อยล้าอ่อนเพลียนั่งลุ้นมาทั้งวัน ไต๋สุพจน์ขับเรือมาถึงหมายซากเรืออีกลำ เมื่อฟ้าสางพอดี แสงอาทิตย์ เริ่มส่องแสง จับท้องฟ้า สายลมพัดปะทะใบหน้า รู้สึกเย็นสบายดีแท้ ได้หลับพักผ่อนเอาแรงมาหลายชั่วโมง ตื่นขึ้นมารู้สึกร่างกายกระปรี่กระเป่า สดชื่นขึ้นเป็นกอง สภาพอากาศวันนี้ต่างจากเมื่อวาน อย่างสิ้นเชิง กระแสลมพัดเอื่อยๆ มันจะส่งผลที่ดีต่อ พวกเรา ไต๋เรือจะสามารถคำนวณตำแหน่ง ทิ้งสมอได้ง่าย ไต๋สุพจน์คุยให้ผมฟังว่า "หมายนี้มีหมอเล ขนาด 60-80 โลด้วยนะ ผมเคย พาแขก มาตกได้ตั้งหลายตัวแล้ว" "ไอ๋หย๋า ถ้ามันมีตัวจริงๆ ก็อย่าได้มากินคัน ของผมเลยสาธุ"่ ผมภาวนา อยู่ในใจ ถ้ามีมันอยู่จริงก็ขอให้มันอย่ามางาบ เหยื่อของพวกเราเลย ผมไม่อยากจะ ต่อกร กับมันเลยจริงๆ เก็บมันไว้ว่ายน้ำคลอเคลียอยู่คู่ซากเรือลำนี้ตลอดไปจะดีกว่า เพราะ ถ้ามันเกิดมากินเหยื่อของพวกเราจริง เราก็คงไม่มีปัญญาจะลากเอาตัวมันขึ้นมาบนเรือได้แน่ๆ ผมเชื่อเช่นนั้นจริงๆ ไต๋สุพจน์คำนวนทิศทางตำแหน่งทิ้งสมอเรือเสร็จ ก็แล่นเรือไปยัง จุดที่ จะทิ้งสมอ ผมลุกขึ้นไปทำหน้าที่เป็นเด็กเรือจำเป็นทำหน้าที่ คอยทิ้งสมอเรือ พอสายสมอตึงได้ที่ สายเบ็ดที่เกี่ยวเหยื่อ ไว้รอพร้อมอยู่แล้ว ก็ถูกหย่อนอย่างบรรจง น้องเบิรด์ และเพื่อนๆ ได้รับการต้อนรับจากฝูงปลาทั้งปลาแดงเขี้ยว ปลาอังเกย และปลาช่อนทะเล พี่เม้ง ตะกั่วป่าก็งัดเอา แดงเขี้ยวขึ้นมา ต่อจากนั้นก็งัดเอา ช่อนทะเล ขึ้นมาอีกตัว มันดำดิ่ง ต่อสู้ จนสุดฤทธิ์ จนสายเอ็นไปพาดพันกับสายของเพื่อนที่ลงสายไว้ท้ายเรือ กว่าจะเอาตัวขึ้นมาบนเรือได้ ก็เล่นเอาเพื่อนๆ ยื่นลุ้นกันใจหายใจคว่ำ ไปหลายตลบ เราพึ่งจะมาได้สนุกสนาน สมความอยาก ก็หมายแห่งนี้แหละ ความพยายามของไต๋สุพจน์
บรรลุผลเอาตอนที่เราใกล้จะเดินทางกลับเข้าฝั่ง เสียงเฮฮา ชักเริ่มจะดัง หลังจากที่เงียบหาย
ไปเกือบทั้งคืน ช่วงเวลาที่ผ่านมาสภาพอากาศที่ผันพวน แม้เราจะได้ปลาไม่มากมายก่ายกอง
แต่อย่างน้อย เราก็ได้ประสบการณ์อีกบทหนึ่งที่ เราได้เรียนรู้ จากท้องทะเล
"ปีนี้ทะเลมันแปลกๆ ยังไงชอบกล น้ำกับลมมันไม่ค่อยจะสามัคคีกันเลย"
ผมรู้สึกเช่นนี้จริงๆ เวลา เรากล่าวคำขอบคุณไต๋สุพจน์ที่ พยายามวิ่งเรือ
หาแหล่งปลาให้พวกเราตลอดทั้งคืน จนไม่ได้หลับได้นอน "ความสุขของพวกเรา
ไม่ได้อยู่ที่จำนวนปริมาณ ของปลา ที่ตกได้ แต่มันอยู่ที่ได้มาพักผ่อนท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ
ได้มาใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนบนเรือเพียงเท่านี้ เราก็ Happy กันแล้วละ"
ก่อนจากกัน ไต๋สุพจน์บอกเราว่า "หลังมรสุมสงบ ท้องทะเลราบเรียบ ปลามันคงเมาคลื่นอ่ะครับ"
สำหรับทริบนี้ก็จบเพียงเท่านี้แล้วพบกันใหม่ครับ |
Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved. Contact Webmaster |