อาทิตย์,22 ธันวาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

ปลายฝนต้นหนาว
ตราด 18-20 ต.ค. 45

มาอ่านคนที่

ผู้ร่วมทริพ 1.ชนบท 2.แต๋ง 3.ต้น Newell 4.หลิม 5.หมูหยอง 6.โดม 7.ตี๋ 8.เป๋า 9.กอล์ฟ 10. มิ้น และ 11.เอี้ยง

ปลายฝนต้นหนาว ลมมรสุมที่เคยคึกคะนอง ปล่อยฝนเสียจนท้วมบ้านท้วมเมือง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันไปทั่วประเทศเริ่มจะซ่างซาลง ฝนฟ้าเริ่มจางหาย ลมหนาวก็เข้ามาเยือน บรรดานักตกปลาทะเลต่างลิงโลดกันอีกครั้ง ช่วงเวลาต่อจากนี้ จนสิ้นลมหนาว ท้องทะเลจะราบเรียบปราศจากคลื่นและเดิ่ง โตๆ ได้เวลา เตรียมตัวออกเรือ ไปตกปลาทะเลกันได้แล้ว เย้..ดีใจจัง ถึงแม้จะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจ ว่ามันหมดลมหมดฝนแล้ว ของมัน บ่แน่ดอกนาย สภาพอากาศทุกวันนี้ เป็นที่รู้กันอยู่ เห็นวันนี้อากาศปลอดโปร่งโล่งจมูก แต่วันรุ่งขึ้นละ ใครจะรู้ ว่ามันจะมีขี้มูกมาอุดตันรูจมูกก็เป็นได้....เน๊อะ..

ดังนั้นการตรวจสภาพคลื่นลมและดินฟ้าอากาศ ดูจะเป็นสิ่งจำเป็นต่อพวกเราเสียแล้ว ยิ่งทุกวันนี้ มี Internet ด้วยแล้ว ยิ่งสะดวกมากที่จะตรวจสอบเพียงเข้าไป ดูใน http://www.navy.mi.th/navymet/ ซึ่งจัดทำโดยกรมอุตุนิยมวิทยาของกองทัพเรือ


เราเปิดประเดิมฤดูการตกปลาทะเล กับเรือน้ำใจ ตี๋ใหญ่ แห่งบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด หลังจากเมื่อครั้ง เดือนเมษายน ที่ผ่านมา ตี๋ใหญ่ สร้างความมันส์ให้กับเรา ติดอกติดใจกันมาแล้ว เราจึงติดต่อจองเรือตี๋ใหญ่ตั้งแต่ครั้งกระนั้นทันที แต่เมื่อเปิดดูตารางปฏิทิน การจองเรือของตี๋ใหญ่ ก็ต้องตกใจ เมื่อตารางวันเวลา ถูกจับจองจนเกือบจะไม่มีวันว่าง ให้พวกเราได้แทรกเลย ที่พอจะเหลือให้เสียบได้ก็มีเพียง วันที่ 18-19-20 ต.ค. ช่วงนี้เท่านั้นที่ยังว่างอยู่ แต่พระจันทร์นี่สิ ขึ้น 11 ค่ำ แจ่มทั้งคืนแน่เลยงานนี้ สมาชิกที่จะไปร่วมชะตากรรมในครั้งนี้ มีนายต้น นายหมูหยอง นายหลิม นายโดม น้องมิ้น นายแต๋ง นายตี๋ คุณเป๋า นายกอล์ฟ คุณอี้ยง และผม รวมทั้งหมด 11 คน

เรือน้ำใจ เตรียมพร้อมแต่หัววัน เราออกเดินทางจากท่าเรืออรุณี เวลา 5โมงเย็น แล่นลัดเลาะมาตามลำน้ำเชี่ยว ออกสู่ทะเลอ่าวไทย มุ่งหน้าสู่เกาะช้าง ที่อ่าวสลัดเพ็ชร เพื่อไดร์หมึก ระหว่างที่เรือแล่นในคลองน้ำเชี่ยว เราก็เห็นเรืออวนรุนตาถี่ มีคานอวนยาวมาก กำลังจะออกไปจับปลา ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า "รัฐบาลท่านทักษิน มีคำสั่งห้ามประกอบการเรืออวนรุนตาถี่ นี่หว่าแต่เหตุไฉน เรือลำนี้ ถึงยังไม่สูญพันธ์ ไปจากน่านน้ำไทยอีก" และผมก็ได้รับคำตอบจากตี๋ใหญ่ มาว่า ทางจังหวัดผ่อนผัน ให้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมเท่านั้น พอเข้าเดือน พฤศจิกายน ถ้าพบเรือลำใดฝ่าฝืน ก็จะจับกุมทันที สาธุ! ขอให้มันจับจริงๆ เถอะวะ ผับผ่าดิ!!!!

เรามาจอดเรือทิ้งสมอที่อ่าวสลักเพ็ชร พร้อมกับอาหารมื้อแรกถูกยกมาเสริฟ หลังจากจัดการกับอาหารจนอิ่มท้อง ก็ถึงเวลาปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ นั้นคือ การตกหมึกหาเหยื่อให้ได้มากที่สุด ตี๋ใหญ่บอกกับเราว่า ค่ำคืนนี้ท้องฟ้าแจ่มใส จันทร์กระจ่าง ส่องแสงสว่างจ้า ปลาหมึกจะมาจับโยทะกาดีกว่าค่ำคืนเดือนมืด การตกหมึกดูจะได้ผลดีกว่าการ เฉอวน ซึ่งก็เป็นจริงดังคาด เมื่อพวกเราช่วยกันตกหมึกขึ้นมาได้มากกว่า 80 ตัว ในขณะที่การเฉอวนทั้ง 3 ครั้งได้หมึกมาไม่เกิน 150 ตัว รวมแล้วทริปนี้ เรามีเหยื่อ เพียง 200 กว่าตัวเท่านั้นเอง จำนวนหมึกเพียงแค่นี้ คงไม่พอกับการออกไปตกปลาที่หมายนอกเท่าไรนัก แต่เพื่อความมันส์ ที่รอเราอยู่ข้างหน้า ถึงจะมีเหยื่อเพียงน้อยนิด เราก็จะมุ่งสู่หมายนอก ตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก

รุ่งอรุณรับวันใหม่ เรือตี๋ใหญ่มาจอดทิ้งสมอ ห่างจากเกาะกูดไม่ไกลเท่าไรนัก เราตื่นขึ้นมารับอากาศที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ สูดโอโซน ยามเช้า เข้าไปเต็มปอด ขับไล่ความเมื่อยล้าเรียกความสดชื่น กระปรี่กระเป่า กลับคืนมาเพื่อเตรียมตัวต่อกรกับเหล่ามัจฉา ที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำกันทันที เบ็ดขนาด 7 โอ 2 ตัว ผูกด้วยสายเอ็นขนาด 80 ปอนด์ ยาว 2 เมตรครึ่ง ซึ่งเป็นชุดสายหน้าที่ผมเตรียมมาเผด็จศึกกับ ปลาเก๋าลูกหมู เกี่ยวปลาหมึกตัวขนาดตัวยาวกว่า คืบ หย่อนลงไปทางด้านหัวเรือ ตามด้วย เจ้าโดม นายตี๋ นายหลิม และท่านเป๊า ที่จับจอง พื้นที่ด้านหัวเรือ ส่วนทางด้านท้ายเรือ ก็มีเจ้าต้น หมูหยอง และแต๋ง ประจำหน่วยรบทางท้ายเรือ ทุกคนหย่อนเหยื่อลงไปหมดแล้ว แต่ปลากลับเมินเหยื่อที่เราส่งลงไป ไม่ฉวยเหยื่ออย่างที่เคยเป็นมา ผมเห็นว่ามันเงียบผิดปกติจึงตะโกนถาม "ตี๋ใหญ่ เรือจอดตรงหมายรึเปล่า" ตี๋ใหญ่ตอบกลับมาว่า "ตรงหัวกะบาน ปลาเลยพี่โย กองหินอยู่ตรงที่พี่นั่งนั้นแหละ" " เฮ้ย! พูดเป็นเล่น นี่ขนาดเหยื่อลงไปบนหัวกะบานมันแม่ง ยังไม่สนใจอีก" ผมได้แต่บ่นพึมพำ...

คงต้องใช้เทคนิคการยกคันขึ้นและลงอย่างช้าๆ ทิ้งตะกั่วกองที่พื้น ก่อนที่จะค่อยๆ ยกขึ้น ดูจะช่วยกระตุ้นให้ปลาสนใจเหยื่อ ขึ้นมาได้บ้าง ขณะเดียวกันก็ใช้มือขวาจับช่วยสายเอ็นที่ออกมาจากรอก ระหว่างฟรอกิ๊ฟ กับไกด์ตัวแรก ดึงขึ้นมา เพื่อที่เราจะได้รับความรู้สึกได้ดีเมื่อปลามากินเหยื่อ อ่ะได้ผล แฮ่ะ เมื่อสายเอ็นที่อยู่ในมือขวาถูกปลากระชากออกอย่างแรง ผมรีบปล่อยสายเอ็นในมือ พร้อมกับโน้มคันลดลงตามแรงดึงของปลาในขณะที่มือขวา ช่วยดึงสายเอ็นออกจากรอกออกไปอีกประมาณ 1 เมตร เราเรียกการกระทำแบบนี้ว่า "ส่งสาย" สับแดรกขึ้น ปากก็พร่ำออกมา "เสร็จตูแน่มึง" พอปลามันดึงอีกครั้งคราวนี้ละ จัดการวัดคันสวนขึ้นเต็มแรง ไส้ปลาแทบทะลักออกมากองนอกปาก มันคงตกกะใจ ว่าอยู่ๆ มีอะไรมากระชากลำไส้ ของมันหว่า ฮ่า! ปลายคันเบ็ดงองุ้มชี้ลงเกือบจรดผิวน้ำเบื้องล่าง ปลาตัวแรกของทริปนี้ เป็นปลาแดงเขี้ยว ขนาดประมาณ 3 กิโลกรัม จากนั้นก็เกี่ยวเหยื่อ หย่อนลงไปใหม่ ใช้วิธีการแบบเดิม ปลาเก๋าขนาด 6 กิโลกรัม ก็หลงกลเข้ามางับเหยื่อตามขึ้นมาเป็นตัวที่ 2 เล่นเอาน้องๆ ที่ร่วมทริปไปด้วย ค้อนจนตาคว่ำตาหงาย "พี่โยวางตะกั่วถึงพื้นเลยรึเปล่า" เสียงใครคนใดคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย ผมตอบไปว่า "ทิ้งตะกั่วให้กองที่พื้นครับ ปล่อยสายให้หย่อน ๆ ด้วย แล้วก็ใช้เหยื่อหมึกเป็นเด็กพาณิชย์นะ เลือกเอาประเภท ขาวๆ อวบๆ หน่อย อย่าไปเอาหมึกช่างกลมาเกี่ยวละปลามันกลัว มันไม่กล้าเข้าใกล้หรอก" จากนั้นไม่กี่อึดใจ หมูหยอง ก็งัดเจ้ากะพงแดง ไซร์ประมาณ 4 กิโลกรัมที่หลงเสน่ห์หมึกเด็กพาณิชย์ ตามด้วยนายหลิมที่ใช้หมึกเด็กมัธยมเกี่ยวเบ็ด ก็งัดปลาเก๋าไซร์ขนาด 4 กิโลกรัม ส่วนเจ้าตี๋ที่เลือกทำเลอยู่ทางท้ายเรือ บ่นกระปอดกระแปดออกมาว่า "สงสัยหมึกของผมจะเป็นหมึกช่างกล วะพี่ ปลาเห็นพากันหนีหมด ขอหมึกเด็กพานิชย์ขาวๆอวบๆ สักตัวดิ เผื่อปลามันจะกินบ้าง"

หลายคนได้อัดปลา แต่ยังมีอีกหลายคนยังคงเงียบ ปลาเริ่มจะกินเหยื่อห่างตัว เราจึงถอนสมอ ย้ายไปหมายใหม่ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากหมายเดิมเท่าไรนัก ใช้ระยะเวลาวิ่งเรือ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เราก็มาจอดเรือทิ้งสมอ เหนือกองหินใต้น้ำ ภาพฝูงปลาปรากฏอยู่เต็มหน้าจอ Sounder สีเขียว เต็มพรืดไปหมดหรือที่เราเรียกกันว่า "เชื้อ" อันที่จริงสีเขียวหรือ "เชื้อ" ที่เราเห็นในหน้าจอ Sounder มันคือภาพของลูกปลาตัวเล็กมากกว่า แต่มันก็เป็นเครื่องชี้บ่งว่า มันจะต้องมีปลาใหญ่แฝงตัวรวมอยู่ด้วยแน่ พวกเราหย่อนเหยื่อลงกันจนครบ เหลือก็แต่เจ้ากอล์ฟ ที่ออกอาการเมาเรือจนเงยหัวไม่ขึ้น นอนหัวมึนอยู่ในเก๋งเรือคนเดียว หมายนี้เราได้ปลาไซร์ขนาดพอดีจาน หรือที่เราเรียกว่า "ปลาจาน" เป็นส่วนใหญ่ นายเป๋า ที่ออกเรือตกปลาทะเล ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต เรียกเสียง ฮาให้เพื่อนได้ไม่น้อย เมื่ออัดปลา ด้วยใบหน้าเบี้ยวบูด แสดงอาการ ว่าปลามันคงจะตัวใหญ่ไม่น้อย คันนี่โก่ง จนหมดแอ็คชั่น แต่พอเด็กเรือจะเอาตะขอเกี่ยวปลาขึ้นมา ก็ปล่อย เสียง ฮา กลิ้ง เมื่อตัวที่ติดเบ็ดขึ้นมา มันเป็นปลาไหล หรือ ที่เราเรียกกันว่า "ไอ้เงี่ยว" ตัวเบ่อเริ่ม เลย อาหารมื้อเที่ยง ถูกยกมาเสริฟ จะด้วยความหิวโหย หรือเพราะรสชาติของอาหาร ผมก็สุดจะคาดคะเนได้ เพราะในเวลาไม่นาน อาหารทุกอย่างก็เกลี้ยง หายวับไปกับตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ...

เราย้ายหมายกันอีกครั้ง และครั้งนี้ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า จึงจะถึงหมายซากเรือจม ช่วงเวลานี้ใครใคร่นอนก็นอนใครใคร่กินก็กิน หรือใครไม่มีอะไรทำ ก็มานั่งล้อมวงเล่นไพ่ เป็นการฆ่าเวลา และยังเป็นการส่งเสริมการย่อยอาหารไปในตัว ขาเก่าหน้าเดิม กระเถิบเข้ามาล้อมวง จากนั้นวิชาคิดคำนวณตัวเลขก็เริ่มขึ้น เสียง ตีโง่ มืด มืด อมอีโต ดังอยู่เป็นระยะ ไม่ขาดสาย แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงดัง เฮลั่น แทรกออกมาจากวงรัมมี่ " น๊อค แล้ว น๊อคสี ดอกจิก ด้วย ฮ่ะ ฮา ฮ่า" เสียงตี๋ใหญ่ นั้นเองที่ร้องเฮ ลั่นด้วยความดีใจ ที่ตนเองน๊อคมืดสีดอกจิก แถมได้โง่อีกต่างหาก อย่างนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ใหญ่ ดอกจิก" ได้แล้วมั่ง..

แต่ก่อนที่จะถึงหมายซากเรือเราได้แวะตกปลาที่กองหิน เป็นอีกหมายหนึ่ง ที่เราได้ปลามาพอสมควรจากฝีมือของหมูหยอง ต้น โดมและหลิม ที่ช่วยกันสอยปลาอังเกย กันคนละหลายตัว จนสมควรแก่เวลาเราจึงถอนสมอมุ่งหน้าสู่ หมายซากเรือ เรามาถึงหมายซากเรือก็เป็นเวลาพลบค่ำ ตี๋ใหญ่สั่งลูกน้องกางแขนไฟ เปิดไฟเรียกปลาให้ออกมาจากซากเรือ ตามคำที่ตี๋ใหญ่อธิบายให้ฟัง น้ำค่ำคืนนี้ เดินเรียบไม่มีสะดุด เหยื่อก็เหลือน้อยลงทุกที นายต้น ทดลอง ปล่อยสายลอย ด้วยเหยื่อหมึกเป็น ปล่อยทุ่นให้ลอยอยู่ตำแหน่งปลายแสงไฟ ไม่นานนัก รอก Accurate Boss 870 Magnum ก็โดนกระชาก ส่งเสียง แกรก ร้องเรียกนายต้น อยู่ตั้งนาน กว่านายต้นจะไปถึง ปลามันก็มุดพาเข้าไปหลบซ้อนตัวอยู่ในซากเรือแล้ว ปลาตัวแรกจากไป โดยทิ้งปริศนา ให้นายต้น ขบคิดว่า "มันปลาอะไรฟ่ะ แรงโคตรดี" ถึงปลาตัวแรกจะขาดไป แต่มันก็สร้างความกะสันต์ ความอยาก ให้ หมูหยอง และนายหลิม หันมาเล่นสายลอยกันบ้าง มีปลามาฉวยเบ็ดหลายครั้ง ได้บ้างหลุดไปบ้าง เล่นเอาไม่ได้หลับได้นอน ต้องถ่างตาเฝ้าคันกันทั้งคืนยันเช้า ก็ปลามันกินเบ็ดอยู่เรื่อยๆ ถึงจะกินไม่จัด แต่ก็เพียงพอกระตุ้นต่อมตื่นตัวให้ตาสว่างได้ทั้งคืน จนกระทั่งเช้าวันใหม่ ผมตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงทักทาย กรี๊ด ลั่น จากรอก Shimano TLD15 รอกตัวเก่งของเจ้าหมูหยอง เล่นเอาเจ้าตัวกระโดดตัวลอยลืมตาย วิ่งพรวดเดียว จากหัวเรือถึงท้ายเรือ ไปวัดคันก่อนจะปั๊มแล้วอัด อัดแล้วปั๊ม ปลาอีโต้มอญ ไซร์สวย กระโดด สะบัดตัวเร้าๆ ขึ้นเหนือน้ำ เพื่อปลดสิ่งที่พันธนาการออกจากปากของมัน เบ็ดขนาด 4โอ ฝังเงี่ยงติดมุมปากมันจนแน่น ยากที่มันจะรอดพ้นคมตะขอ และมันก็เป็นปลาตัวสุดท้ายสำหรับหมายนี้ ก่อนที่เราจะอำลาเดินทางกลับเข้าสู่ฝั่ง

เรายังเหลือหมึก อยู่ประมาณ 10 กว่าตัว เราจึงแวะตกปลา อีก 1 หมาย น้ำลึก 30 เมตร ผมใช้อุปกรณ์ ชุด 10 ปอนด์ เกี่ยวหมึกเป็นตัวเล็ก หวังแค่เพียงปลาจานจากหมายนี้ สัก 3-4 ตัว แต่กลับโดนผิดคิว อัดปลาไม่ขึ้นจนสายขาดถึง 3 ครั้ง 3 ครา จนต้องเปลี่ยนเป็นชุด 30 ปอนด์ สายหน้า เป็นรีดเดอร์ลวดสริ่ง 50 ปอนด์ โดนปลากระชาก สายรีดเดอร์ 50 ปอนด์ ขาดสะบั้น อนิจจา ทริปนี้ โชคไม่อยู่ข้างเราเสียแล้ว ผมได้แต่สบถ ให้กับตนเอง จึงตะโกนบอกให้ตี๋ใหญ่ กลับเข้าฝั่ง เล่นน้ำ ที่เกาะขาม กันดีกว่า เราแวะเล่นน้ำที่เกาะขาม ก่อนกลับบ้าน ระหว่างเดินทางจากเกาะขามกลับเข้าฝั่ง หลิมปล่อยเจ้า CD-14 ขาวหัวแดง Trolling แล้วก็ได้ผล เมื่อรอก Penn international 30SW แว๊ดเสียงลั่น เมื่อเจ้า CD-14 ถูกอินทรีย์ งับเข้าเต็มปาก อินทรีย์ ตัวงามจากทะเลตราด เป็นตัวปิดทริปนี้ของเราได้อย่างสวยหรู

ทะเลตราดยังคงเป็นสวรรค์ของนักตกปลา ตราบใดที่ชาวตราดและนักตกปลา ยังช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมท้องทะเล ไม่มีพวกระเบิดปลา ไม่มีพวกใช้ยาเบื่อปลา และไม่มีพวกใช้ยาน๊อคปลา ชาวตราดมีจิตสำนึกในเรื่องนี้สูง และในอนาคตอันใกล้นี้ จะไม่มีพวกเรืออวนรุนตาถี่ ที่เป็นตัวทำลายระบบนิเวศท้องทะเลด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ทะเลตราด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาน้อยใหญ่มากมาย ตราบเท่านานแสนนาน ทะเลตราดยังคงเป็นสวรรค์ สำหรับนักตกปลา ตลอดไปตราบเท่านานแสนนาน ......

[หน้าต่อไป] [กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster