อาทิตย์,22 ธันวาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
วันที่ 19-21 ส.ค. 48
เรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ ไต๋เปีย จังหวัดตราด
ผู้ร่วมทริพ 1.ชนบท 2.คุณโฟ 3.พี่เหนี่ยว 4.จ่านันท์ 5.พร

นักสู้ผู้ไม่เคยท้อหยิบ อาวุธประจำกาย ขึ้นมาตรวจสอบเตรียมพร้อม เพื่อที่จะออกไปกรำศึกอีกครั้ง ในการครั้งนี้เขาได้รวบรวมกำลังพลพร้อมสหายคู่ใจ และไต๋เรือคู่หูที่ไว้ใจและเชื่อมั่นในฝีมือ นามว่า “ เปีย ” เป็นผู้ขับยานพาหนะ ที่ชื่อว่า “ ป.เปียเจริญทรัพย์ ” เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตามคำบัญชาจากใจตนเอง และ เมื่อวันดีเดย์มาถึง พวกเขาก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางสู่สนามประลองยุทธ์ อาวุธต่างๆ ถูกขนย้ายมาลงเรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ ในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม ตามกำหนดการ ที่ได้วางไว้ เมื่อสหายผู้ร่วมออกศึกเดินทางมาสมทบครบทุกคน เสบียงกรังก็จัดหาจนครบครัน เรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ จึงได้ฤกษ์เบิกโรงเคลื่อนตัวออกจากคลองน้ำเชี่ยวมุ่งหน้าสู่เกาะหวาย ในเพลานั้นทันที.......

จากข่าวที่ได้รับรายงานมาสองสาย ระบุว่า แก๊งค์ลูกหมูกำลังกำเริบอย่างหนัก เนื่องมาจาก หน่วย ปราบปราบ ได้หยุดการลาดตระเวนในช่วงลมมรสุมเข้า มานานหลายเดือน กับอีกข่าวจากสหายปลาทู ที่อาศัยอยู่ทะเลตราดว่า ‘ บัดนี้ปรากฏข้าศึก อินทรีฟันคม เข้ามาไล่กัดกินปลาทูในเขตน่านน้ำไทย จำนวน มากสร้างความหวาดวิตกให้กับฝูงปลาทู ที่กำลังจะขยายเผ่าพันธ์ในเขตน่านน้ำนี้เป็นอย่างมาก สหายปลาทูจึงส่งสารขอความช่วยเหลือ มายังหน่วยสอยอินทรี ให้จัดส่งกำลังพล ไปปราบปรามอินทรี ฟันคม ที่กำลังก่อความเดือดร้อนให้กับสหายปลาทูอยู่ในขณะนี้ เมื่อได้รับข่าวสารเช่นนี้ ‘ หน่วยสอยอินทรี ' จึงถูกเรียกตัวให้ปฏิบัติภารกิจ ทั้ง 2 ภารกิจนี้ทันที โดยมีพี่เหนี่ยว เป็นผู้นำหมู่ ‘ อาวุธเล็ก ' นำกำลังพลจำนวน 1 คะยุ่ม ออกไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ทันที โดยมีภารกิจหลักอยู่ 2 อย่างคือ ‘ จับกุมหัวหน้าแกงค์คือเก๋าลูกหมูตัวแสบและสอยอินทรีตามที่สหายปลาทูร้องขอมา ' โดยเรียกภารกิจนี้ว่า ‘ ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี ' “ ไต๋เปีย งานนี้เน้นลูกหมูเป็นหลักนะ ” คุณโฟ กล่าวกับไต๋เรือผู้ถือพังงาควบคุมเรือ ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าไปเกาะหวาย “ รับทราบครับผม แต่ขอด ูเหยื่อในคืนนี้ก่อนนะครับ ไม่รู้ว่าหมึกจะมีหรือเปล่า คราวที่แล้วไม่ได้หมึกเลยสักตัว ถามพี่โยดูก็ได้ ” ไต๋เปีย กล่าวพร้อมกับแสดงความกังวลใจเรื่องเหยื่อ อย่างเห็นได้ชัด เพราะเหยื่อเป็นตัวแปลที่สำคัญที่จะทำให้ภารกิจในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้หรือไม่ (เหยื่อไม่มีก็ไม่ต่างอะไรกับปืนบ่มีลูก) “ อื่ม ใช่ครับ ทะเลตราดเดี๋ยวนี้เป็นอะไรไปก็ไม่รู้ มันผิดปกติ ปลาหมึกหายหน้าไปจากทะเลตราดนานร่วมจะ 4 อาทิตย์ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ” นายโย ชนบท กล่าวเสริม คำพูด ของ ไต๋เปีย “ น้ำมันมีสีขาวขุ่นๆ เหมือนน้ำจะเสียหรือไงนี่แหละครับ ” ไต๋เปียสรุป ก่อนที่เรือจะมาถึงเกาะเหลายา จุดหมาย ที่เรา จะไดร์หมึกกันในคืนนี้ “ เดี๋ยวก็รู้สาย รายงานมาว่าหมึกเข้าที่เหลายา ” ไต๋เปียอธิบายก่อน จะตะโกนสั่ง ให้เจ้าปั๋งเด็กเรือ ให้ทิ้ง สมอเรือ “ ปั๋ง ทิ้งหมอเลย ”

ตูมมมมม ! เสียงสมอเรือหล่นลงน้ำ สายสมอถูกโรยสายออกไป ก่อนจะมัดให้แน่น เมื่อได้ ระยะ ที่ พอเหมาะ “ เอ้ามัดหมอเลยปั๋ง ” แสงไฟสว่างพรึบ รอบลำเรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ กิจกรรมหาเหยื่อ เป็นเครื่องกระสุน ได้เปิดฉากเริ่มขึ้นแล้ว “ ป่ะ จ่านันท์ ไปช่วยกันตกหมึก ” พี่เหนี่ยวเปิดฉาก นำทีม เข้ารุกทันที โยทะกาสีขาวและหลากหลายสีสัน ถูกส่งลงน้ำเพื่อไปหลอกล่อ ปลาหมึก หนวดยาวให้ หลงกลใช้หนวดมากอดรัด โยทะกาที่มีหนามเหล็กแหลมคม “ โยกเข้าไป เอ้าโยกเข้าไป จ่านันท์ อย่าอู้ ” เสียงกำชับ อันเด็ดขาด ของผู้นำดังลั่น เวลาลุล่วงเดินผ่านไปไม่นาน จ่านันท์ ผู้ที่กำลัง มันส์กับการโยกคันเบ็ด ก็ดังขึ้นด้วยความดีใจ “ เฮ ..ผมได้หมึกแล้วครับหัวหน้า ” จ่านันท์ จั่วหมึก กล้วยตัวงามขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าคืนนี้มีหมึกชัวร์ และก็จริงดังที่คาดไว้ หลังจากนั้นปลาหมึกใหญ่น้อย ก็ถูกสอย ทยอยลงห้อง ขังเหยื่อ นับร้อยกว่าตัว

กิจกรรมตกปลาหมึกยังคงดำเนินต่อไป ใครที่ทดฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว ก็ปลีกตัวไปหลับนอน ส่วนใครที่ทนตาแข็ง นอนไม่หลับ ก็ตกหมึกกันต่อไป ยิ่งดึกเท่าไรปริมาณประชากรปลาหมึกก็ยิ่ง เพิ่มมากขึ้น “ เดี๋ยว ก่อนสว่างผมจะพาไปถล่มปลาอังเกยไซร์ประมาณ โล 2 โล ซ้อมยืดเส้น ยืดสายก่อนแล้วกัน ” ไต๋เปียแจ้งกำหนดการ ให้กับสมาชิกทราบ จนเวลาผ่านไปประมาณ ตี 4 เรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ ก็เคลื่อนตัวมาถึงพิกัดกองหิน “ อ้าวหย่อนเบ็ดได้เลย ระวังไอ้สากด้วยนะ แถวนี้ มีไอ้สากเหลืองด้วยนะครับ ” ไต๋เปียกล่าวจบ พี่เหนี่ยวก็ดีดตัวเด้งขึ้นจากเตียงนอน ร่างกาย สดชื่น กระปรี่กระเป่ามากกว่าใครเพื่อน “ ตื่น ตื่น ตื่น ลุกมาซ้อมมือกันได้แล้ว ” เสียงอันเฉียบขาด ของ พี่เหนี่ยว ปลุกให้สมาชิก รีบลุกขึ้นมาคว้าคันเบ็ด ก่อนจะช้อนปลาหมึกนำมาเกี่ยวเบ็ดแล้วหย่อนลงน้ำ เพียงตะกั่วกระทบพื้น ก็ได้เรื่อง เมื่อ จ่านันท์ วัดคันดังตุ๊บคันโค้งโก่งงอปลายงุ้ม “ จ่านันท์ นี่ Hot จริงๆ ลงเหยื่อปุ๊บ ปลาก็กินปั๊บ เชื่อรึยังหมอนี่มีดวงเพชฌฆาต ” พี่เหนี่ยว เป็นปลื้ม กับจ่านันท์ “ อึ๊บของพี่ก็โดนเข้าให้แล้ว หย่อนปุ๊บกินปั๊บ จอดเรือเข้าหมายอย่างนี้สิ ถึงจะเรียกว่ายี่ห้อ ป.เปีย ” พี่เหนี่ยว จ่านันท์และนายชนบท ต่างช่วยกันงัดปลาอังเกย ปลาข้างปาน และกระรีซี ไซร์พอดีจาน ขึ้นมาลงในตะกร้า ตัวแล้วตัวเล่า เวลาผ่านไปไม่นานจำนวนปลาอังเกยก็เกือบจะเต็มตะกร้า เช้านี้ถือว่าเป็นช่วงเวลา ที่ตกปลาสนุกมากช่วงหนึ่ง ทุกคนดูวุ่นวาย สาระวนกับการตกปลา การเกี่ยวเหยื่อ และการปลดปลา

จนกระทั้งแสงสีทองผองอำไผเดินทางมาเยือน ความสนุกจึงยุติลงเมื่อไต๋เปียพูดขึ้นมาว่า “ ป่ะ พี่เก็บเบ็ด เดี๋ยวจะไปตกปลาตะคอง กับโฉมงามที่โขดหลังคุ้ม ” ไต๋เปีย บอกให้เก็บเบ็ดพร้อม กับแจ้ง พิกัดและกำหนดการที่จะดำเนินการ ต่อไป ก่อนอรุณรุ่งสาง เรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ วิ่งแหวกน้ำบาน มุ่งหน้าสู่เกาะคุ้มในยามเช้ามืด เพื่อไปซ้อมมืออีกแห่งก่อนที่จะเข้าสู่สมรภูมิ ที่แท้จริง ‘ ตูมมมม !' เสียงสมอเรือหลงน้ำ เป็นสัญญาณเสียง ปลุกให้พวกเราค่อยๆ คืบคลาน ลุกออกมาจากเก๋งเรือ มาจัดเตรียมอุปกรณ์และจัดทำชุดสายหน้าใหม่ ให้เหมาะสมกับสมรภูมิ ที่เรากำลังจะเผชิญหน้า ในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้ ตัวเบ็ดขนาด 2 โอจำนวน 2 ตัวผูกเข้ากับสายเอ็นขนาด 40 ปอนด์ยาว 4 ถึง 5 เมตร ตะกั่วขนาดเล็ก พอถ่วงให้เหยื่อไม่ปลิวไปตามความแรงของกระแสน้ำ หมึกตัวขนาดพอดี ไม่ใหญ่และยาวเกินไปถูกช้อนขึ้นมาบรรจงฝังคมตะขอลงใต้ผิวของมัน อย่างระมัดระวังแต่รวดเร็ว ก่อนจะนำไปหย่อนลงน้ำ พอตะกั่วเตะพื้นดินก็ให้กรอสายกลับ ให้เหยื่ออยู่เหนือพื้น สัก 1 ถึง 2 เมตร เป็นอันเสร็จ พิธีการ จากนั้นก็ถึงเป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอย “ อึ๊บบบบบบ อยู่ แล้ว ” ทุกสายตา หันขวับไปยังต้นกำเนิดเสียงทันที่ได้เห็นมันคือภาพของพี่เหนี่ยว ผู้นำชุดกำลังรั้งคัน อัดปลาจนคันโกร่ง โค้งงอ “ วู้ ..... ใหญ่แน่ๆ พี่ เหนี่ยว ตัวนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนพี่ ” กองเชียร์ประจำเรือต่างช่วยลุ่น เอาใจช่วย “ ไอ้กรำ ครับผู้พัน ปลาแชกรำ ตัวใหญ่ด้วยระวังเบรก หน่อยนะปากมันบาง ” เสียงร้องบอกของไต๋เปีย ที่ตะโกนร้องออกมา เมื่อมองเห็น สีเงินยวง ส่องประกายวาววับ อยู่ใต้ผิวน้ำก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นปลาอะไร “ เยี่ยมครับพี่เหนี่ยว ฝีมืออัดปลานิ่งมากครับ ” เพื่อนๆ กล่าวแสดง ความยินดีพร้อมกับชื่นชม กับปลาเกมส์ตัวแรก การซ้อมในครั้งนี้ถือว่าสำเร็จตรงตามเป้าหมาย “ อ้าวนั้น จ่านันท์ โดนของ ใหญ่ เข้าให้แล้วนั้น ” จ่านันท์ ยืนอัดปลา เซไป เซมา ตามเรือที่เอียงวูบวาบ เมื่อถูกคลื่นซัด ในขณะที่ มือก็ยังกุมคันเบ็ด รักษา สถานการณ์ ชิงความได้เปรียบและเสียเปรียบกันอยู่ ช่วงนี้ ฝ่ายใดพลาดพลั้ง ไปเพียงน้อยนิด มีสิทธิจะเป็นผู้พ่ายแพ้ ได้ทันที “ ลดเบรกลงหน่อยนะจ่านันท์อย่าอัดเบรกแน่นเกินไปละให้ปลามันดึงสายออกได้บาง ” บรรดากองเชียร์ รุมกันสั่งรุมกันสอน จ่านันท์ เพราะถือว่ายังใหม่อยู่กับการตกปลาทะเล ในที่สุดโทรฟี่ ชิ้นงามของจ่านันท์ ก็ถลาร่อนขึ้นสู่ผิวน้ำ มันเป็นปลาโฉมงามไซร์ใหญ่ พอดู และเป็นการปิดการซ้อมมือ ต่อจากนี้เราจะเขาสู่สนามรบที่จริงจังกันแล้ว

อากาศวันนี้แสนจะปลอดโปร่งโล่งจมูกท้องฟ้าแจ่มใส ลมพัดโชยมาเอื่อยๆ เป็นระยะๆ ขุนพลหน่วย พิฆาตอินทรี กำลังเคลื่อนพล คืบคลานเข้าสู่พิกัด ‘ สมรภูมิหินกองห้าร้อย ' เพื่อปฏิบัติภารกิจ เข้ายึด และสุ่มโจมตี อินทรีคะนองเดช ที่อาจหาญเข้ามางาบสหายปลาท ูจนเดือดร้อนไปทั่วทุกย่านน้ำ ที่มัน ปรากฏตัว “ เปีย เดี๋ยวไปหาหมายโสกปลาทู ไปลอยสาย เล่นอินทรีกันดีกว่า ” ผมเสนอ ความ เห็น ไต๋เปียก็เห็นพ้อง ไม่ขัดค้าน เมื่อไม่มีใครปฏิเสธ ดังนั้น ‘ ลุยโลด ' เรือ ป.เปีย เจริญทรัพย์ จึงหันหัวเรือ วิ่งสู่หินกองห้าร้อย ทันทีที่สิ้นเสียงสั่งลุย “ เดี๋ยวแวะตกปลาเก๋าสักหมาย นะเปีย หาหมายที่มีปลาทู อยู่ด้วยละ จะได้โสกหาปลาทูไปล่ออินทรีด้วย ” ผมคุยกับไต๋เปีย ระหว่างที่เรือวิ่งไปยังหินกองห้าร้อย “ ได้เลยพี่เดี๋ยวจัดให้ ” ไต๋เปียน้อมรับด้วยความยินดี ภารกิจแรกของเรากำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้แล้ว เวลาผ่านไป ไม่นานเรือของพวกเราก็เดินทางมาถึงจุดหมาย มองดูจากจอ Sounder ปรากฏเชื้อปลามากมาย เขียวเต็มจอ “ อ้าว หย่อนสาย ลงได้เลย หมาย นี้เคยทำหลุดไว้หลายตัวไม่น่าพลาด ” ไต๋เปีย สาธยายสรรพคุณของหมายนี้ให้พวกเราฟังเสร็จสรรพ

“ ป่ะไม่ลอง ก็ไม่รู้ เกี่ยวหมึกหอมตัวใหญ่ลงไปล่อมันเลยครับคุณโฟ ” คุณโฟจัดการ ช้อนหมึกตัวใหญ่ มาเกี่ยวเบ็ด ก่อนจะหย่อนลง ไปหลอก ล่อ ยั่วน้ำลายปลาเก๋าลูกหมูที่หลบอยู่ในรูในถ้ำ ให้ออกมา งับเหยื่อ ขณะเดียวกันไต๋เปีย ก็ทำหน้าที โสกซาบิกิ หาปลาทู ไป เป็นเหยื่อตกปลาอินทรี “ วู้ ได้แล้ว เป็นไงปลาติดเบ็ดทุกตาเลยนี่ไง ” ไต๋เปีย โชว์ลีลาโสกปลาทู หน้าที่โสกปลาเหยื่อ จึงเป็นงานของ ไต๋เปีย ไปโดยปริยาย ข้างฝ่ายคุณโฟ หลังจาก หย่อนเบ็ดลงน้ำ ก็ตั้งหน้าตั้งตา รอลูกหมูจะมางาบ ด้วยใจมุ่งมั่น แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ว่าเจ้าลูกหมูจะมางาบเหยื่อสักที “ ทำไมวันนี้เรืออวนลากคู่ มันพากันมา ลากอวนสวนสนามกันแถวนี้นะ ” พวกเราอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ มีเรืออวนลากคู่ มาทำประมง มากมายกว่าเมื่อก่อน “ รู้แล้วว่าทำไมปลามันถึงไม่กินเหยื่อ ก็เพราะเรืออวนพวกนี้มันลากอวนเฉียดเรือเรา ไปมา นี่เอง ” อุปสรรค์ ของการตกปลา อีกอย่างหนึ่งก็คือเรืออวนลากคู่นี่เอง เสียงโซ่ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงปากอวน มันจะตีเข้ากับกองหินจนเกิดเสียงดัง โป้ง เป้ง ปลาที่ไหนมันจะกล้าโผล่หัวออกมากินเหยื่อ ละครับ เฮอะ !

ไม่อยากจะคิดเลยว่าระบบนิเวศวิทยาของพื้นด้านล่างจะป่นปี้เพราะเรืออวนลากคู่ ทำลายไปขนาดไหน ที่อาศัยของปลาเก๋าบริเวณข้างเกาะรังและเกาะกูด ก็คงจะเหลือเพียง ‘ ภาพในอดีต ' ไว้เล่าให้ อนุชนคนรุ่นหลังได้รับฟังถึงความชุกชุมและความอุดมสมบูรณ์ของปลาเก๋า ณ ที่แห่งนี้ ในอีกไม่นาน นี้เป็นแน่ “ เก็บเบ็ด ไปลอยสายเล่นอินทรีกันดีกว่าครับคุณโฟ ปลาเก๋ามันไม่กล้าออกจากรูหรอก เรืออวนลากกันสวนสนามออกอย่างนี้ ” ผมกล่าวกับคุณโฟ เพื่อนรักก่อนที่จะไปบอก ให้ไต๋เปีย เปลี่ยนแนว ไปตกปลาอินทรีแทน ภารกิจจับกุมแก๊งค์ลูกหมูในครั้งนี้เป็นอันต้องยุติไปโดยปริยาย ตะวันบ่ายคล้อย เรือ ป.เปียเจริญทรัพย์ ก็ได้มาลอยลำที่หินกองห้าร้อย เป็นจุด Killing Zone หรือพื้นที่สังหาร อาวุธเบา สาย 10 ปอนด์ ถูกหยิบขึ้นมาคอยซุ้มโจมตี ปลาอินทรี ที่เข้ามากัดกินปลาทู ตามที่ได้รับรายงาน ไต๋เปียจัดการคว้าคัน ของพี่เหนี่ยวมาสาวสายเอ็นวัดระยะเพื่อที่จะผูกทุ่น “ น้ำไหลแรงมาก วางทุนสัก 20 เมตรนะพี่โย ” ไต๋เปียแนะนำ ระดับทุ่นลึก “ เอามันลึกขนาดนี้เลยนะ ด้ายเล้ยยยย ” หลังจากจัดการมัดทุ่นโฟม ก็นำปลาสีกุนมาเกี่ยวเบ็ด โดยใช้เบ็ดตัวแรกสะกิดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณสันคอของปลาสีกุน ตะขอเบ็ดที่เหลือปล่อยห้อยไว้ จากนั้นก็โยนปลาสีกุนลงน้ำ

ทันทีที่มันสัมผัสกับผิวน้ำ มันก็ทะยานตัววิ่งจู๊ด ปรับเบรกให้อ่อนๆ ค่อยๆ ดึงสายส่งให้ปลาวิ่งไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ และสายต้องตึงตลอด พอได้ระยะประมาณ 60 เมตร ก็จัดแจงตั้งระดับเบรก พร้อมกับเปิด คลิ๊กสัญญาณเสียง ก่อนจะนำไปปักไว้ยังกระบอกปักคัน “ พี่เหนี่ยว อากาศอย่างนี้นะ น้ำสวยพลิ้ว ไหวอย่างนี้นะ แล้วยิ่งเป็นช่วงเวลานี้ด้วยนะ ผมสังหรณ์ว่ามันต้องมีตัวแน่นอน ” ระหว่างที่กำลังนั่ง สนทนา กับพี่เหนี่ยว ยังไม่ทันจะขาดคำ คันเบ็ดของคุณโฟ ที่อยู่มุมด้านซ้ายท้ายเรือ ก็ถูกแรงดึง กระชากจนคันโค้งวูบ พร้อมกับเสียงสัญญาณแกรกดังลั่นสนั่นเรือ ‘ แกร๊กกกกกก ' “ เฮ้ย...ปลากิน แล้ว ” เราตะโกนร้องออกมาเกือบจะพร้อมกันเมื่อเห็นคันถูกปลากระชากจนโค้งวูบ คาตาอย่างนั้น คุณโฟ รีบคว้าคัน รับหน้าที่เป็นมือสังหาร อัดปลาด้วยลีลาที่แช่มช้อย สุขุมและเยือกเย็น สมกับเป็นมือ เพชฌฆาต อินทรีจริงๆ ในขณะเดียวกัน คันในมือของไต๋เปียก็โดนปลากระชากอย่างแรง ไต๋เปีย ตะหวัดวัดคันเพื่อย้ำคมเบ็ด ไป 3 ฉึก

ก่อนจะยื่นส่งคันให้พี่เหนี่ยว รับหน้าที่เป็นมือสังหาร คู่กับคุณโฟ “ มาเลย อย่างนี้พี่ช๊อบชอบ ” พี่เหนี่ยวแสยะยิ้มรับคันมาอัดปลาด้วยมาดที่สุขุม เกมส์การต่อสู้กำลังพันตูกัน อย่างตื่นเต้นและเร้าใจ เวลาผ่านไปไม่นาน อินทรีทั้งสองตัวก็มาสยบที่ข้างเรือ ให้ไต๋เปียใช้ตะขอเกี่ยว ขึ้นมาบนเรือได้ อย่าง สำเร็จ “ วู้ เยี่ยมมากเยี่ยม สะใจจริงๆ ไซร์ใหญ่เท่ากันเลย ” พี่เหนี่ยว ปลื้มกับปลาอินทรี ทั้ง สองตัว พวกเราไม่รอช้าให้เวลาผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ รีบช้อนปลาสีกุนตัว ต่อไป มาเกี่ยว เบ็ด แล้วโยนลงน้ำ ทันทีที่มันสัมผัสกับผิวน้ำ ปลาสีกุนตัวนั้นก็ใส่เกียร์หมา วิ่งจู๊ด ออกไปทาง ท้ายเรือ อย่างรวดเร็ว เหมือนกับมันได้เห็นมัจจุราชฟันคม ที่กำลังจะเข้ามางาบมัน และก็จริงดังที่ได้คาดคิดไว้ เมื่อสายเอ็นถูกกระชากไหลออกจากรอกไปอย่างรวดเร็ว พี่เหนี่ยวรับหน้าที่ เผด็จศึกกับปลาอินทรี อีกครั้ง การเฝ้าซุ้มโจมตี ปลาอินทรี เป็นไปตามแผน เราสามารถจับกุม ปลาอินทรี ได้หลายตัว ที่หลุด รอดไปบ้างก็มี เพียงชั่วโมงเศษ เราสอยปลาอินทรี ได้ถึง 6 ตัว แต่ละตัว มีขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้นจนตะวัน ลาลับ ความมืดเข้ามาครอบงำ ปลาอินทรี ก็ลาหายไปพร้อมกับแสงตะวัน ภารกิจสอยอินทรี จึงมีอัน ต้องยุติลง “ เดี๋ยวกลางคืน จะเป็นเวลาของปลาอังเกยกับปลาสาก เตรียมรีดลวดไว้ได้เลยครับ ” ไต๋เปีย สาธยายให้เราฟัง “ อะไรนะที่นี่มันเหมือนร้านอาหารย่าน RCA ของปลาเลยนี่หว่า ” สมาชิกท่านหนึ่งเอ่ยปาก แสดง ความเห็น “ เออใช่ หินห้าร้อยนี่แหละเป็น RCA ของปลาละครับ กลางวันเป็นของปลาอินทรีมาเที่ยว พอตกกลางคืน เป็นคิวของ ปลาสากกับอังเกยที่ชอบท่องราตรี ” ไต๋เปียอธิบายให้ฟัง แสดงว่าคืนนี้เราไม่ต้องย้ายไปไหน แล้วอยู่เฝ้าดูปลามาเที่ยว RCA ที่นี่แหละ

เหยื่อหมึกตายที่มีอยู่ถูกนำมาเกี่ยวเบ็ด ถ่วงด้วยตะกั่วขนาดใหญ่ เพราะน้ำเริ่มไหลเชี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ และแล้วจ่านันท์ ก็ประเดิมด้วยปลาสาก จากนั้นปลาสากไซร์จัมโบ้ ก็เข้าตะลุมบอนเหล่านักสู้ ทำให้ จ่านันท์ต้องยกธงขาวยอมแพ้ ปล่อยให้ พี่เหนี่ยวถูกฝูงปลาสากสลับกับปลาอังเกย รุมเพียงคนเดียว ขณะที่กำลังอัดปลาเพลินๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นสายเอ็นที่ปล่อยสายลอยเอาไว้ เกิดอาการผิดปกติ “ เอ ทำไม สายลอย ท้ายเรือมันวิ่งไปทางหัวเรือฟะ ไปดูหน่อย ซิ ” เจ้าเอ รีบไปหยิบคัน ขึ้นมา “ เหมือนมีปลาติด ” เจ้าเอ พูดพร้อมกับหมุนรอกกรอสายเอ็นเข้ามา มีอาการขัดขืนบ้างเล็กน้อย “ ไอ๋หย่า ปลาอังเกยตัวใหญ่สะด้วย ” เจ้าเอ ร้องแปลกใจ เมื่อเห็นปลาที่แอบมากินสายลอย เป็นปลาอังเกย ไซร์เกิน 2 โล และก็ยังมีอังเกยที่มากินสายลอย เป็นตัวที่ 2 ขนาดไล่เลี่ยกับตัวแรก “ เป็นไปได้ยังไง กันละ หึ ปลาอังเกย กินสายลอย แปลกวุ่ย เที่ยวนี้ ” เจ้าเอ บ่นพึมพำขณะที่กำลังปลดเบ็ด ออกจาก ปากปลา คืนนี้ปลาเข้าฉวยเหยื่อหมึกตายเป็นว่าเล่น สมาชิกอัดปลาจนเมื่อยและอ่อนล้า จนทน ไม่ไหวยอมแพ้ หลบเข้าไปนอนทีละคน เหลือเพียงพี่เหนี่ยวอยู่ตกปลากับเจ้าเอเพียงสองคนต่อไป คืนนี้ไม่มีใครอึดและอดทนเท่าพี่เหนี่ยวไปได้แล้ว......

เรื่องราว “ ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี ” ในครั้งนี้ก็ขอจบลงไว้เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณไต๋เปีย พันเอกเฟื่องวิทย์ (พี่เหนี่ยว) พันเอกมานิตย์ (คุณโฟ) จ่านันท์ และผู้ร่วมทริบทุกท่าน

 

[กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster