พุธ,4 ธันวาคม 2567 |
เรื่องเล่าคนตกปลา 250 ไมล์กับนายชนบทแล่นเรือโต้คลื่น ปลากระบึกที่สีชัง คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง บางเสร่ยังมีลุ้น ดอดไปฟันไอ้โฉม วันนี้ที่รอคอย มันแปลกดีนะ สายันรัญจวน ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ น้ำใจ โฉมเอยโฉมงาม แข่งขันตกปลาสัญจร#1 ปลายฝนต้นหนาว แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6 ลูกหมูจอมซ่าส์ โต้ลมหนาว เก่งกับเฮง เมษาฮาวาย เมื่อผมไปงานแข่งฯ ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ หูดำที่เกาะค้างคาว ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง มหาเฮง นักเลงโตสากดำ ฟ้าหลังฝน หลังมรสุมสงบ ตามล่าปลาจัมโบ้ บันทึกแห่งความทรงจำ คุณพริ้งลองของ อัดปลาโต้เดิ้ง เพื่อนรักต่างแดน เก๋าหน้าหวาน ไต๋ยอช์ตพาเพลิน สานสัมพันธ์คนตกปลา#1 หรรษาตะวันแดง บางเสร่รำลึก#4 ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก แดงจ๋าแดงจ่า ลีลาสละ ลูกหมูย่ำสวาท ผู้กล้าแห่งวารี ไต๋ระยอดนักสู้ สายสัมพันธ์คนตกปลา#2 มือใหม่หัดเหวี่ยง ผู้พันอินทรี สัตว์ประหลาด ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี จิตสังหาร ลากมาอุ้ม ปริศนาที่เร้นลับ ดอนตะวันแดง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3 ปลายักษ์ในตำนาน ราพาร่าพรางตัว สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4 อินทรีหลังโขด ท่องไปกับตะวันแดง รวมดาวกระจุย บุกรังสีทอง สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4 อยากอัดไอ้หลาม ปลอบขวัญที่กำพวน วาฮูนักวิ่งน้ำลึก วังสีทอง กุเลาเกมส์พันธ์ดุ รางวัลชีวิต สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5 ธิดาย่ำสวาท กุเลาเกมส์คนวัยมันส์ เมษาพาเพลิน |
มิตรภาพไร้พรมแดน ผู้ร่วมทริบ 1.เฮียอรุณ 2.เฮียวีระ 3.เฮียเป็ด 4.พี่แป้น 5.ฮ๊วก 6.นายชนบท ปลอบขวัญที่กำพวน จากวันนั้นเป็นต้นมา นายชนบทได้แต่นั่งๆ นอนๆ นับวัน ที่จะมาถึง ด้วยใจที่เต้นระทึก ก็แหม คนมันไม่เคยไปนี่หว่า จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงไหว จริงม่ะครับท่าน กระทั้งเหลือเวลาอีก 1 วันก่อนจะถึงวันเดินทาง เฮียอรุณ ก็ส่งข่าวแจ้งมาว่า"คุณโย พวกเราไม่ได้แข่งที่สตูลแล้วนะ" ประโยคเพียงสั้นๆ ประโยคนี้ ทำให้คนฟังคำ ถึงกับอึ้ง กิม กี่ เหมือนถูกไฟฟ้าช๊อต ชาไปทั้งร่าง หัวใจของนายชนบทแทบแตกสลาย ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะเผยอปากเอ่ย ถามออกไปว่า "ทำไมละเฮีย" เฮียอรุณอธิบายให้ฟังว่า "เมื่อสักครู่ ผมโทรไปเช็คเรือ เจ้าของเรือบอกผมว่า คนจัดงานได้เอาเรือบุษบาไปให้นักตกปลามาเลแล้ว" เฮียอรุณกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด นายชนบทพอได้ฟังดังนั้นถึงกับใบ้ รับประทาน "อ้าว แล้วเขาไม่โทรมาแจ้งเราก่อนเลยรึเฮีย"นายชนบทถาม เฮียอรุณตอบกลับมาว่า "ไม่โทรมาเลย นี่ดีนะ ที่คุณโยแนะนำให้ผมโทรไปเช็คทางเรือก่อน ไม่งั้นพวกเราขับรถไปกันเก้อแน่ เงินมาเลมันคงใหญ่กว่าเงินไทย " คราวนี้น้ำเสียงเฮียอรุณกล่าวด้วยอารมณ์ชักจะขุ่นมัว "แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปกำพ่วนกัน เฮียเป็ดกำลังติดต่อเรืออยู่ ได้ข่าวยังไงผมจะโทรมาบอกคุณโยอีกที ครับ" ถึงแม้ความฝันที่จะไปสตูลจะแตกสลาย เฮียอรุณ ก็ยังมีทริบ 'ปลอบขวัญที่กำพ่วน'ไว้คอยรักษาหัวใจที่บอบช้ำ "สตูลเราจะไปกันเมื่อไหร่ก็ได้ เอาไว้ฤดูกาลหน้าเราค่อยไปกัน เรือตกปลาที่ยินดีต้อนรับคนไทยมีเยอะแยะ ไป" เฮียอรุณกล่าวทิ้งท้าย รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้านายชนบท และลืมเรื่องที่จะไปสตูลชั่วขณะ หันมาสนใจกำพ่วนแทน วันเดินทางมาถึง นักตกปลาที่พลาดรักจากสตูล มารวมตัวกันที่บ้านเฮียวีระ รถตู้ TOYOTA รุ่น Commutor จอดรอค่อยสมาชิกที่เดินทางมาสมทบ สัมภาระถูกลำเลี้ยงเข้าไปในรถตู้ จนเป็นที่เรียบร้อย สมาชิกทั้ง 8 คน นำทีมโดย เฮียวีระ เฮียเป็ด เฮียอรุณ ผู้พันถวัลย์ พี่แป้น สาเก ซัง เพื่อนพี่แป้นชาวอาทิตย์อุทัย ฮ๊วก และ นายชนบท เมื่อทุกอย่างพร้อม คาราวานคนผิดหวังจากสตูลจึงได้ฤกษ์ เดินทางลงใต้สู่จังหวัดระนอง เป้าหมายข้างหน้าคือ 'กำพ่วน' ดินแดนคนใจดี คาราวานคนผิดหวังจากสตูล ต้องพบกับสายฝนตลอดเส้นทางของการเดินทาง เหมือนกับว่า ฟ้าสงสาร หรือไม่ก็คงสมน้ำหน้าพวกเขา จึงร่ำไห้ปล่อยน้ำฝน เสียจนถนนหนทางเจิ่งนอง ทำให้การเดินทาง ต้องใช้ เวลามากกว่าปกติ "พี่แป้น เราจะแวะหาอะไรกินที่ไหนดี นี่เกือบจะ 2 ทุ่มแล้วนะ" เฮียอรุณเอ่ยปากถาม ขณะที่รถ แล่นผ่าน ด่านตรวจ แถวสุขสำราญ "เออ นั้นสิ ชักหิวแล้วด้วย ไอ้ผมนี่เรื่องกินเรื่องใหญ่สะด้วย โชเฟอร์ เจอร้านอาหาร ข้างทางแวะเลยนะ" พี่แป้นกล่าว แต่จนแล้วจนรอด จากสุขสำราญมาจนถึงกำพ่วน ไม่ม ีร้านอาหาร ข้างทาง เลยสักร้านเดียว "เอาไงดีเฮีย ผ่านมาจนถึงกำพ่วนแล้ว ไม่เจอสักกะร้าน ขับรถเลยไป คุระบุรี เลยมั๊ย ที่นั้น มีร้านอาหารแน่ ผมหิวจนหน้ามืดแล้ว" พี่แป้นกล่าว "เอ๊ะ นั้นมันป้ายร้านอาหาร นี่ แวะเข้าไปเลย สงสัยจะพึ่งมาเปิด" เฮียเป็ดกล่าว ไม่นานสำรับอาหารที่แต่ละคนช่วยกันสั่งก็ถูกยกมาเสริฟ ไม่น่าเชื่อเลยว่า ความหิวจะทำให้คนเรา เห็นอะไรก็อยากกิน ไอ้นี่ก็น่ากิน ไอ้นั้นก็อยากกิน เลยสั่งมาสะเพียบ เห็นอาหารตั้งบนโต๊ะ แล้วตกใจ "นี่มันกินกัน ทั้งหมู่บ้านนะพี่แป้น" นายชนบทถาม " ฮา ฮะ ผมหิวจนหน้ามืด เลยสั่งสะเพลินลืมนับว่ากี่อย่าง ล่อมาสะล้นโต๊ะ เลย ฮะ ฮา ฮ่า" พี่แป้นกล่าวพร้อมกับเปล่งเสียงหัวเราะด้วยความอารมณ์ดี หลังอาหารมื้อเย็นผ่านพ้นไป คาราวานคนผิดหวัง จากปากบารา ก็เดินทางต่อไปยังที่พัก ที่นั้นคือ 'ศูนย์วิจัยพืชพันธ์และสัตว์น้ำทางทะเล' ของมหาวิทยาลัยเกษตร ไม่น่าจะเชื่อเลยว่าที่แห่งนี้จะเคยประสพกับมหันต์ภัยสึนามิ ถ้าไม่มีซากปรักหักพังของที่พักอาศัย ที่คงเหลือไว้ เพียงแต่ต้นเสา และซากรถกะบะ ให้เป็นประจักษ์พยานด้วยแล้วคงไม่มีใครเชื่อ เพราะเขาได้บูรณะพัฒนา สถานที่ พัก ใหม่เพียบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ตามสถานที่พักพึงจะมี "ป่ะ ช่วยกันขนของเข้าที่พัก เตรียมประกอบเบ็ด ให้พร้อม ไว้ด้วยเลย พรุ่งนี้เราจะตื่นแต่เช้า เดี๋ยวจะไม่มีเวลาทำ" เฮียอรุณกล่าว คืนนี้ทุกคนคงนอนหลับเป็นตาย เช้าวันรุ่งขึ้น สมาชิกทุกคนตื่นมาพร้อมหน้าพร้อมตา บางคนก็อาบน้ำปะแป้งแต่งตัวชุดลุย เรียบร้อย อาหารเช้านี้ มีกาแฟ แกล้มด้วยขนมตามแบบชาวใต้ เมื่อท้องอิ่มก็ถึงเวลา จ่ายตลาดเพื่อเตรียมเสบียงกรังพวกเครื่องดื่ม และน้ำแข็งทั้งสำหรับดองปลาและแช่น้ำดื่ม สำหรับลงเรือ จากที่พักไปท่าเทียบเรือไม่ไกลเท่าไร เดินไปพอเหงื่อออกซึมๆ ก็ถึงแล้ว สมาชิกจึงช่วยกันขนสัมภาระคนละไม้คนละมือ เดินไปลงเรือแทนถือเป็นการ ออกกำลัง กายไปในตัวระหว่างนั้น "เรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันดีกว่า" เฮียวีระเสนอความคิดระหว่างขนสัมภาระลงเรือ "เอาดิเฮีย จะเล่นแบบไหนดี ทีมผมมีคุณโย กับผู้พันถวัลย์ ทีมพี่แป้น กับเพื่อน และทีมเฮีย ทั้งหมดก็ 3 ทีม เล่นแบบไหน ว่ามาเล้ย" เฮียอรุณกล่าว "ใครได้ตัวใหญ่สุด มื้อเย็นนี้กินฟรีแล้วกัน 2 ทีมที่เหลือจ่าย ดีมั๊ย" เฮียวีระเสนอ กติกาแบบง่ายๆ เฮียอรุณ เห็นพ้องยอมรับกติกา จะมีก็เพียงพี่แป้นที่รู้สึกจะหนักอกหนักใจ สมาชิกทีม ตัวเองไม่น้อย "ไอ้เพื่อนญี่ปุ่นผมคนนี้ไม่รู้จะสู้แดดรึเปล่า กลัวมันเห็นแดดแล้วจะร้องขึ้นเกาะ ไปนอนจังเลยวะ ฮา! " พี่แป้นกล่าว ก่อนจะก้าวขาลงเรือ ไม่ช้าไม่นานเรือทุกลำ ก็ทะยานออกจากปากคลองสู่ทะเล โดยมีสันคลื่นลูกมโหฬาร ขวางหน้า "ไอ๋หยา โคตรพ่อโคตรแม่คลื่น เลยนี่หว่า เฮีย" นายชนบท ถึงกับตะลึงงัง เมื่อเห็นขนาดลูกคลื่นใหญ่โต ซัดชายฝั่ง เสียงดัง 'ตูม ตูม' "ไม่มีอะไรหรอกครับคุณโย แค่เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น" เฮียอรุณกล่าว ขณะคลื่นลูกโตๆ โถมซัดหัวเรือ ดันเรือให้ลอยขึ้นทั้งลำ "วู้ มันส์จริงๆ อย่างกับเล่นกระดาน โต้คลื่น จริงๆด้วย" นายชนบท แหกปากร้อง ด้วยความมันส์ในอารมณ์ แต่ลูกคลื่นก็มีเพียงสั้นๆ พอผ่านพ้นชายฝั่งออกมา ทะเลก็เรียบ เงียบกริบ ต่างกัน ราวฟ้ากับนรก "แล้วนี่เราจะไปหา เหยื่อกันที่ไหนครับเฮีย" นายชนบทเอ่ยปากถาม "นั้นไงตรงเรือพี่แป้น กับเรือเฮียวีระ จอด นั้นแหละ" เฮียอรุณกล่าวพร้อมชี้นิ้วให้ดูเรือ 2ลำที่กำลังลงอวนดักปลากุแรอยู่ "เฮ้ย อารายกัน นั้นเขาเก็บอวน แล้วเร๊อะ พึ่งจะลงไปเมื่อกี้ เองนี่" นายชนบทเปล่งเสียงด้วยอารามไม่เชื่อสายตาตัวเอง "ช่าย แถวนี้ ลูกปลาชุม ลงอวน แผล็บเดียวก็ได้เยอะแล้ว อีกอย่างนะ คนแถวนี้จะเอาแค่พอตก ไม่กอบโกยหมดเหมือนบางที่ ที่เราเคยไปมา หรอก" ผู้พันถวัลย์กล่าวเสริม "ป่ะเดี๋ยวเราวิ่งไปเทียบเรือบังขาว ขอแบ่งเหยื่อกับเขา เราไม่ต้องออกแรง ให้เหนื่อย ฮะฮ่า" เฮียอรุณกล่าว บังแก่ แบ่งเหยื่อ ส่วนมากเป็นปลาหลังเขียว หรือปลากุแร จากบังขาว มาแค่พอตก ประมาณ 30 ตัว เมื่อมีเหยื่อแล้ว จะรอช้าอะไรอยู่อีกเล่า เท้าซ้ายยันแคลมเรือบังขาวก่อนจะออกแรงถีบเปรี้ยง ให้เรือแยกจากกัน "ขอบคุณมากนะครับพี่แป้น ที่แบ่งเหยื่อให้ พี่ค่อยๆ ช่วยไต๋เก็บอวนแล้วกันนะครับ ส่วนทีมผม ขอลวงหน้าไปก่อนละ บ่าย บาย ฮะ ฮา ฮ่า!" นายชนบท กล่าวติดตลก ก่อนที่บังขาวจะกดหางเรือให้ใบจักรจมน้ำ ตีน้ำส่งกำลังขับเคลื่อน เรือหางยาวทะยาน สู่หมายตกปลา ตลอดระยะทางที่เรือวิ่งผ่าน ไม่น่าเชื่อเลยว่าทะเลที่นี่ จะไม่มีเศษขยะพวก ถุงพลาสติก ขวดน้ำหรือแม้แต่เศษโฟมให้เห็นสักชิ้นเดียว ทะเลแห่งนี้สะอาดและบริสุทธิ์จริงๆ บังแก่บังคับถือหางเรือแล่นมาได้พักใหญ่ เสียงเครื่องยนต์คูโบตา ก็เบาเสียงลง เป็นสัญญาณ บอกให้รู้ว่า ได้มาถึงหมาย แล้ว แนวหินผาตลอดแนวยาวข้างเกาะ แบบนี้แหละ แหล่งหากิน ชั้นเยี่ยม ของปลากะมง ยามที่คลื่นซัดหินผาแล้วเกิดฟองแตดกระจาย อย่างเช่นวันนี้ด้วยแล้ว มันน่าจะมีตัวเหลือเกิน มัวแต่ชื่นชมทัศนียภาพข้างเกาะจนเพลิน เสียงบังแก่ ก็ตะโกนเสียงดังจนต้องตื่นจากภวังค์ ที่กำลังเคลิ้ม "เดี๋ยวแวะ ตีป๊อบ แถวนี้ก่อน เผื่อมีตัว เอ้า ตีกันได้เลย" สิ้นเสียงบังแก่ ผู้พันถวัลย์ก็ก้าวขาขึ้นไปยืนท้ายเรือ ก่อนจะเงื้อแขน หวดคันส่งเหยื่อป๊อบสีสดใส เสียงคันแหวกอากาศดัง 'ขวับ'ส่งเหยื่อป๊อบพุงดิ่งไปข้างหน้า เหยื่อป๊อบเริ่มวาดลวดลาย เริงระบำ เย้ายวนส่ายก้นยวนยั้ว ปลากะมงเจ้าชูสักตัว ไม้ที่หนึ่งผ่านไป ไม่มีกะมงเจ้าชู ขึ้นมาไล่งับเหยื่อป๊อบสักตัว ไม้ที่สองเริ่มใหม่ คราวนี้เฮียอรุณ รวมวงไพบูลย์ ขอหวดป๊อบด้วยคน หวดไปเป็นสิบไม้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม จนคนตก เริ่มส่ออาการ ตามสังขาร เสียงลมหายใจดังฝืดฟาด ฝืดฟาด "อารายกันเฮีย ยังไม่ทันไรเลย ยื่นหอบซี่โครงบาน สะแล้ว" นายชนบทเอ่ยปากแซว บังแก่ เมื่อเห็นเช่นนั้น คงจะอดสงสารไม่ไหว จึงเอ่ยปากขึ้นมาว่า "ป่ะเก็บเบ็ด แถวนี้คงไม่มีตัว เดี๋ยวไปเล่นสละ กันดีกว่า" บังแก่ พูดจบก็เร่งเครื่อง ส่งให้เรือทะยานแหวกน้ำสู่ ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว บังแก่ใช้เวลาไม่นานนักก็พามาถึงหัวเกาะ แห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่บังแก่บอกว่า ปลาสละ ชุกชุมดีนัก "เอ้า ลงเบ็ดได้ น้ำไหลกำลังดี น่าจะโดนกันบ้างละนะ" บังแก่กล่าว ผู้พัน ถวัลย์ เฮียอรุณรวมทั้งนายชนบท กุลีกุจอ ไปช้อนปลากุแร ขึ้นมาเกี่ยวเบ็ดก่อนจะนำไปหย่อน ลงข้างกาบเรือ ระหว่างการรอคอยปลาฉวยเบ็ดนี้ ก็คงไม่อะไรดีไปกว่าการ สนทนา ตามประสา คนตกปลา ทันใดนั้นเอง คันเบ็ดของผู้พันถวัลย์ ก็แสดงอาการกระตุ๊ก แรงๆ ก่อนที่ ปลายคัน จะโน้มลง "ปลากินแล้ว พี่หวัน" เฮียอรุณ ร้องตะโกน เตือนให้ทราบ แต่ยังช้าไปกว่า ประสาทสัมผัส ของผู้พันถวัลย์ ที่ชักคันขึ้นมาถือก่อนจะตะหวัด วัดคันสะ 2 จึ๊ก "อยู่" คำพูดสั้นหลุดออกมา จากปาก ผู้พันถวัลย์ ปลายคันยังงองุ้ม อุปสรรค์อย่างหนึ่ง ของการตกปลาด้วยเรือหางยาว ก็เรื่องพื้นที่ อัดปลาที่นักตกปลา จะไม่สะดวกนักกับพื้นที่แคบๆ บางที่จะต้องนั่งอัดปลา ยืนอัดไม่ได้ เดี๋ยวหัวทิ่มลงน้ำแล้วมันจะได้ไม่คุ้มเสีย "ถ้าจะใหญ่เสียด้วย มื้อเย็นนี้เรากินฟรี แน่แล้วพี่หวัน ฮ่า" เฮียอรุณส่งเสียงเชียร์ เพื่อนร่วมทีม เริ่มเห็นอาหารมื้อเย็นชุดใหญ่ลอยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว "เห็นเงาลางๆแล้ว ไอ้ช่อน รึเปล่า" บรรดากองเชียร์ส่งเสียงลุ้นปลาดังลั่น "ม่ายช่าย ไอ้ช่อน ไอ้หลามตะหากเล่า" บังแก่ ผู้เชี่ยวชาญ ฟันธง ดังเปรี้ยง ว่าไอ้ตัวที่ ผู้พัน ถวัลย์ กำลังอัดอยู่นี้ เป็น 'ปลาฉลาม' "ว้า...ไอ้หลามหูดำ จริงๆ ด้วย ตัดสายปล่อยไปเหอะ อดเลยอาหารมื้อเย็นชุดใหญ่ของตู ดันมากินด้ายนะเอ็ง" ผู้พัน ถวัลย์ สบถเสียงออกมา ตามริมฝีปากที่เปิดเผยอ จากนั้นเป็นต้นมา ทั้งเฮียอรุณ นายชนบทหรือแม้แต่ผู้พัน ถวัลย์ ต่างโดน ฉลามหูดำสอยเหยื่อ จนสายเบ็ดจนขาดเรียบ "ท่าจะไม่ไหวสะละม้าง บังแก่ ไอ้หละ หมายนี้มันฟันคมเสียเหลือเกิน ฉวยเบ็ดทีไรขาดทู๊กที เลยอ่ะบัง ฮะ ฮ่า" นายชนบทเอ่ยปากแซว บังแก่ ที่คุยนักคุยหนาว่า 'หมายเด็ด ปลาสละ' แต่ไหง กลับมีแต่ฉลามหูดำ ล้วนๆ บังแก่ ค้อนขวับเข้าให้ "เออ คนตัวดำ นี่เวลาค้อนก็น่ารักไปอีกแบบ เน๊อะ เฮียอรุณ ฮ่า!" นายชนบทยังส่งเสียง แซวบังแก่ต่ออีกดอก " งั้นเก็บเบ็ด ย้าย เดี๋ยวจะได้ไอ้หละมีเขี้ยวขึ้นมาจริงๆ บังแก่ จะดังไม่หยุด หึหึ" บังแก่ กล่าวพร้อมขว้างค้อน มาให้อีกดุ้นเบ่อเร้อ บังแก่ย้ายเรืออีกครั้ง คราวนี้ หมายหมั่นปั้นมือ กับอินทรี สักตัว "บังไปหาโสกปลาทู ไปลอยสายอินทรี กันดีกว่า" นายชนบทเสนอ บังแก่ก็สนองโดยไม่อิดออด "งั้นไป หมายกองหิน ด้านนู้น ผมได้อินทรีที่นั้นบ่อยๆ" บังแก่ กล่าวจบก็เร่งเครื่อง หันหัวเรือ พุ่งตรงไปยังหมายหินกอง "เอ้า ช่วยกันโสกหาเหยื่อ กันหน่อยนะครับ จะได้เหยื่อไป ตกปลาเร็วๆ" บังแก่ออกคำสั่ง ทั้งเฮียอรุณ นายชนบท จึงหันมาช่วยกันโสกเหยื่อหาปลาทูสัก 3-4 ตัว บังแก่ใช้เวลาไม่นานนัก ก็มีปลาสีกุนลงมาว่ายน้ำในขังเหยื่อ เกือบ 10 ตัว "สีกุนแค่นี้ คงพอได้แล้วมั้ง ปล่อยสายลอย สักเส้นดูหน่อยสิ" เสียงผู้พันถวัลย์ร้องบอก นายชนบทเมื่อได้ยินดังนั้น จึงหยิบคันเบ็ด ที่เตรียม ไว้ลอยสายขึ้นมาผูกทุ่น ก่อนจะช้อนปลาสีกุนมาเกี่ยวเบ็ดแล้วปล่อยไปทางท้ายเรือ "น้ำสวยลมพลิ้ว ดีอย่างนี้เดี๋ยวมีเฮ แน่เฮีย" นายชนบทเริ่มปล่อยแมงโม้ บาง แต่จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไปนานเท่าไร ไม่อาจจะล่วงรู้ รู้แต่เพียงว่า มันช่างนานเหลือเกิน น้ำที่ว่าเดินดีๆ ก็พาลมาหยุดเดินเสียแล้ว "น้ำไม่ไหลแล้ว ทำไงดี บังแก่" นายชนบทเอ่ยปากถาม บังแก่ "เดี๋ยวผมจะลากเหยื่อรอบกองนี้ดู เผื่อมีตัว เก็บเบ็ดมาเช็คเหยื่อดู ดีกว่า ว่าเหยื่อตายรึยัง" บังแก่ร้องบอก นายชนบทไม่รังรอ รีบหยิบคันมากรอสายเก็บ เพื่อเช็คเหยื่อทันที "อ้าวเฮ้ย มันหายไปทั้งยวงเลยเฮีย" นายชนบท ถึงกับตะลึง งัง เมื่อพบว่าชุดปลายสายที่ผูกเบ็ดไว้นั้นขายหายไปทั้งเส้น "มันแอบย่องมางาบ ตอนไหนวะเนี่ย" นายชนบทถึงกับสบถเสียบงดังออกมา ด้วยความเจ็บใจ ชุดปลายสายถูกผูกขึ้นใหม่ ปลาสีกุน ตัวเท่าฝามือ ถูกนำมาเกี่ยว ก่อนจะโยนออกไปข้างเรือ ในขณะที่บังแก่ ยังคงถือหางเรือแล่นด้วยความเร็วช้าๆ หรือที่เราเรียกมันว่า 'ต๊อก ต๊อก' พอเรือเลี้ยววนเข้าสู่รอบที่ 2 เท่านั้นรอก Newell P220F ก็ส่งเสียงร้องดังลั่น คันเบ็ดโน้มลง "มันเอาเข้าให้แล้ว" นายชนบทร้องด้วยความดีใจ ก่อนจะพุงตัวพรวดเข้าไปดึงคันออกมา จากกระบอก "โอ้ โห เฮียแรงมันเอาเรื่อง ตัวนี้ถ้าจะตัวใหญ่ไม่ใช่เล่น" นายชนบทกล่าวไป พร้อมกับอัดปลาไปด้วย ความระมัดระวัง และทะนุถนอม "เอาเนียนๆ เลยนะคุณโย มื้อเย็น ชุดใหญ่ กินฟรี รออยู่แค่เอื้อมนี้แล้ว" เฮียอรุณ ทำหน้าที่กองเชียร์ที่แสนดีเอ่ยปากเตือน การต่อสู้ระหว่าง คนกับปลา ได้เปิดฉากเริ่มต้นขึ้นแล้ว เวลาผ่านไปพักใหญ่ นายชนบทยังไม่สามารถพิชิตปลาตัวนี้ลงได้ และไม่มีทีท่า ว่าเกมส์ จะจบลงได้โดยง่ายเสียแล้ว "อ้าวบัง ไม ไม่ หยุดเรือให้ผมได้อัดปลาละบัง ดูผมดิ โดนปลาอัดจนหอบซี่โครงบาน แล้วนะ ปลาอะไรฟ่ะ โคตรอึดเลย" นายชนบทถึงกับสบถเสียงดัง บังแก่เมื่อ เห็นอาการนายชนบท ก็พอจะรู้สถานการณ์ จึงหยุดเรือปล่อยให้นายชนบท ได้อัดปลาสะดวกขึ้น ด้วยสายเอ็นเพียง 10 ปอนด์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะสยบ ปลาอินทรี ที่กำพ่วนด้วยเวลาที่รวดเร็วได้ เวลายังคงเดินผ่านไป คู่ต่อกรนายชนบทเริ่มส่ออาการเหนื่อยล้า แล้วใน ที่สุดมัน ก็ยอมสิโรราบต่อนายชนบท ให้บังแก่ใช้ตะขอเกี่ยวขึ้นมาบนเรือได้เป็นผลสำเร็จ "เย้ มื้อนี้เรามีสิทธิกินฟรีแล้ว ฮะ ฮา" เฮียอรุณตะโกนร้องด้วยความสะใจ บังแก่ ย้ายหมายอีกครั้ง ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่เดิมเท่าไหร่นัก และที่หมายนี้ บังแก่ก็ใช้วิธี วิ่งเรือลากเหยื่อ ต๊อก ต๊อกไปรอบๆ กองหินเหมือนเดิม และใช้ได้ผลดี ในสถานการณ์น้ำ ไม่ยอมเดินแบบนี้ เมื่อคันเบ็ดของผู้พันถวัลย์โค้งวูบ ตามด้วยเสียงกรีดร้องอย่างแผ่วเบา ของรอก Stella 8000 HA ผู้พันถวัลย์หยิบคัน ขึ้นมาหวัดทันที "ตูม ตูม" เสียงปลาสละตัวงาม กระโดดตัวลอย เมื่อมันกระสาคมเบ็ด "เฮ้ยไอ้หละนี่หว่า ธ่อ นึกว่าจะเป็นอินทรี ดันเป็น ไอ้หละเสียนี่" เสียงผู้พัน ถวัลย์บ่นพึมพำ เวลาผ่านไปไม่นานนัก ปลาสละตัวนั้นก็มาสงบนิ่งข้างกาบเรือ มันจัดเป็น ปลาสละ ไซร์เข้าประกวดเลยก็ว่าได้ บังแก่ย้ายหมายอีกครั้ง แต่ก็ยังอยู่รอบๆบริเวณเกาะเดิม คราวนี้ย้าย ไปทาง หัวเกาะแทน และเมื่อเรือตีวงเลี้ยวโค้งเท่านั้น คันเบ็ดชุดเดิม ก็ถูกกระชากอย่างแรง เสียงกรีดร้องแหบๆ จากรอก Stella ตัวเดิมดังขึ้นมาอีกครั้ง นายชนบทที่นั่งใกล้คันมากที่สุด ถึงกับทะลึ่งพรวดลุกขึ้นไปคว้าคันขึ้นมา ก่อนจะวัดคัน ไป 1 ที "ม่ะ เฮียอรุณ ตัวนี้เป็นของเฮีย" นายชนบทเอ่ยปาสกเรียกเฮียอรุณ มาทำหน้าที่เพชฌฆาต การแบ่งกันอัดปลา ถือเป็นการแบ่งปันความสุขให้กันอีกอย่างหนึ่ง "มาเลยเฮีย คราวนี้เป็นทีของเฮียอรุณที่จะต้องโชว์ฝีมือ การอัดปลา บ้างละนะ"นายชนบท เอ่ยปากย้ำอีกครั้ง "อินทรี รึเปล่า ถ้าไม่ใช่อินทรีผมไม่อัดนะ" เฮียอรุณยังอิดออด ไม่ยอมลุกขึ้น มารับคันไปอัดง่ายๆ "อินทรีชัวร์แท้แน่นอนเลยเฮีย เห็นม่ะ มันไม่กระโดด เหมือนตัวของพี่หวันเลย มารับไปอัด สะดีๆ" นายชนบทกล่าวแกลมขู่ เฮียอรุณจึงยอมรับคันไปอัดแต่โดยดี เกมส์การต่อสู้ระหว่างคนกับปลา ปะทุขึ้นอีกครั้ง และดูท่าเกมส์จะต้องยืดเยื้อไม่จบลงได้โดยง่าย "มันปลากะเบน รึเปล่าวะ" เสียงเฮียอรุณ พึมพำออกมาจากริมฝีปาก ซึ่งบัดนี้เริ่มทำปากจู่ และใช้ปากช่วยหายใจผ่านลมเข้าปอด "เฮ้ย เฮีย หอบแดร๊กแล้วรึ อารายกัน ยังไม่ทันไรเลย" เสียงผู้พัน ถวัลย์ส่งเสียงแซว เฮียอรุณพยายาม ถือคัน ค่อยๆ ออกแรงงัดปลา แต่ก็ยังงัดไม่ขึ้นปลาเจ้ากรรมตัวนั้น ยังคงดำดิ่ง กลบดานอยู่ข้างล่าง วิ่งไปซ้ายที ขวาที อยู่อย่างนั้น จวบจนเวลาผ่านไปเนินนาน ปลาคงสงสารคนตก กลัวว่าคนตกจะหมดแรงไปเสียก่อน มันจึงยอมเชิดหัวขึ้นสู่ผิวน้ำ ให้เฮียอรุณ ลากมันเข้ามาสู่คมตะขอ ที่บังแก่เตรียมไว้คอยท่าเป็นผลสำเร็จ "อินทรี จริงๆ ด้วย ตัวใหญ่กว่าตัวแรก สะอีก แหมมันสู้มันส์ดีจริงๆ เล่นเอาเหนื่อยแทบตาย ฮะ ฮา ฮ่า" เสียงเฮียอรุณกล่าวด้วยความดีใจ เมื่อสามารถพิชิตอินทรี ตัวนั้นลงได้ ในขณะที่กำลังชื้นชมผลงานของเฮียอรุณอยู่นั้น สายตาของนายชนบท ก็เหลือบไปเห็นฝูงปลากะมงจำนวนมาก กระโดด ขึ้นไล่ฮุบลูกปลาอยู่ข้างเกาะข้างหน้า "เอ๊ะ ฝูงปลากะมงขึ้นอยู่ข้างหน้า บังแก่ วิ่งเรือไปเล่นแม่งเลย" นายชนบทตะโกนร้อง ด้วยอาการ ตื่นเต้น บังแก่ หันขวับไปมองก่อนจะโยกคานหางเรือเลี้ยวไปยังฝูงปลาที่กำลังขึ้นเล่นน้ำ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังช้าเกินไป ปลามันมุดน้ำหายไปก่อนที่เรือจะไปถึง บังแก่ จึงร้องบอกว่า "เดี๋ยวลองตีป๊อบ ข้างเกาะนกนี้ดู ไอ้ฝูงเมื่อกี้ มันก็อยู่แถวๆรอบเกาะนี้แหละ" บังแก่ กล่าว ผู้พัน ถลัวย์ สนองตอบทันที เหยื่อป๊อบ สีสวยสด ตัวเดิม ถูกหวดออกไปยังข้างเกาะ 'ตูม' "เฮ้ย มีตัว มันเล่นเหยื่อผมแล้ว " เสียงผู้พัน ถวัลย์ร้องตะโกน ด้วยความสะใจ คราวนี้ไม่รู้ใครเป็นใคร ดูมันชุลมุนวุ่นวายไปหมด บังแก่ ก็ยังพลอยมาร่วมวงไพบูลย์ 'ขอหวดป๊อบด้วยคน' "นู้น ๆ บังแก่ ปลาขึ้น น้ำเดือดทางโน้น อีกแล้ว วิ่งเรือไปเลยเร็ว" เสียงนายชนบทคนเดิมตะโกนร้องบอก บังแก่ หันเรือวิ่งเข้าจุด 'น้ำเดือด' ทันที "โอ้โห้ ปลาขึ้นล้อมรอบเรือ เราเลย คุณโย ตีไปทางหัวเรือ นู้นเร็ว ไอ้ตัวใหญ่มันโผล่หัวขึ้นมาที่นั้น" เฮียอรุณ กล่าวพร้อมชี้นิ้วให้ดูวงน้ำกว้าง นายชนบทไม่รอช้า เงื้อแขนหวดคัน ดีดเหยื่อ พุงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นเอง ดูเหมือนสาย PE 2 ที่กำลังคลีตัวออกจากสปูน จะวิ่งออกเร็วกว่าปกติ "เฮ้ย เหยื่อยังไม่ตกน้ำเลย ทำไมสายวิ่งออกจากสปูนเร็วจัง วะ" นายชนบทตะโกนร้องเสียงหลง " อ้าว นั้นเหยื่อใคร ครับนั้น ไปล่อนกนางนวล เข้าสะแล้ว" เสียงบังแก่ ตะโกนร้องบอก "ก๊ากกกก คุณโย ตกได้นก ขำว้อย ตกปลามา 30 กว่าปี พึ่งจะเจอคนตกได้นกก็ครั้งนี้แหละ ฮะ ฮะ ฮา" เฮียอรุณพูดไป ขำกลิ่งไปดูนายชนบทโน้มคันอัดนกนางนวล แต่นายชนบทขำไม่ออก เพราะนึกสงสาร นกเจ้ากรรมดันทะลึ่งบินไม่ดูตาม้าตาเบ็ด กว่าจะปลดสายเบ็ดที่พันปีกทั้งสองข้างออกจากตัวนกได้ เสียเวลาไปนานเอาเรื่อง "เอ้า บินกลับบ้านไปสะ ที่หน้าที่หลัง อย่าทะลึ่งมาขว้างทางเบ็ดใครเขาอีกละ" นายชนบทกล่าวจบก็ปล่อยนกน้อยตัวนั้นบินกลับสู่รังมันไป "ดู เด่ะ มัวแต่เสียเวลากับนก ปลาเลยไม่ได้สักตัว ดวงตูทำมันเฮงขนาดนี้วะ" นายชนบทบ่นพึมพำ นึกสงสารดวงชะตาของตนเอง จวบจนได้เวลาต้องกลับเข้าที่พักในเวลาบ่ายคล้อย ถ้ามืดแล้วจะวิ่งเรือลำบาก เพราะเรือไม่มีอุปกรณ์ GPS บอกเส้นทาง "นี่คุณโย ผมว่าเราน่ามาจัดงานสานสัมพันธ์กันที่นี่ ดูบ้างนะ"เฮียอรุณเสนอแนะ ระหว่างที่เราแล่นเรือกลับเข้าฝั่ง "ผม ยังช้ำกับงานสานสัมพันธ์ ครั้งที่แล้ว อยู่เลยไม่อยากคิดถึงมันอีก และตั้งใจจะลืมงานนี้ไปเสีย" นายชนบท หวนคิดถึง เรื่องราว ที่เกิดขึ้นในงานครั้งที่แล้ว ที่มันยังฝั่งใจเขาอยู่ "เราก็เล่นเฉพาะพวกเราดิ เอาแต่เพื่อน เรามาสังสรรค์กันแบบครั้งก่อนๆ ผมว่ามันสนุกดีจะตายไป" เฮียอรุณยังขยักขยอก ให้จัดงานสานสัมพันธ์ "เอา ตกลง เมื่อเฮียต้องการผมจะจัดอีก จัดมันที่ กำพ่วน นี่แหละ" นายชนบทตัดสินใจเด็ดเดียว กระทั้งเรือมาถึงท่าเทียบเรือ ทีมเฮียวีระ กับทีมพี่แป้นกลับมาถึงฝั่งก่อนพวกเรา กำลังช่วยกันขนของขึ้นจากเรือ "ไหนเฮียอรุณ ได้อะไรมาบ้าง" เฮียวีระชะโงกหน้ามาถามทันทีที่เรือเทียบฝั่ง "ได้ไม่มากเท่าไรเลย สงสัยมื้อเย็น ผมจะได้เป็นเจ้ามือ" เฮียอรุณ ตอบแบบถ่อมตน โดยหารู้ไม่ว่า บังแก่ กำลังยกเอาปลาอินทรี ทั้ง 2 ตัวขึ้นจากลังน้ำแข็ง พอพี่แป้น และเฮียเป็ด แลเห็นปลาอินทรี ทั้ง 2 ตัวที่บังแก่ถืออยู่เท่านั้นก็อุทานออกมาเกือบจะพร้อมกันว่า "อู้ หู ได้อินทรีใหญ่ตั้ง 2 ตัว เสร็จกัน พวกเราไม่ต้องเถียงกันแล้ว ยอมแพ้เฮียอรุณ" พี่แป้นกล่าว "อื่ม ใช่ นี่กำลังเถียงกันอยู่เลยว่า ปลาสละ ของใคร ตัวใหญ่กว่ากัน พอเห็นปลาทีมคุณโย ชี้ขาดไปเลย ผมกับพี่แป้น เป็นเจ้าภาพร่วมแล้วมื้อนี้ ฮะ ฮ่า" เฮียเป็ด กล่าว ทะเลบ้านกำพ่วน ยังคงรักษาความบริสุทธิ์ ของสภาพแวดล้อมและธรรมชาติให้คงอยู่คู่ท้องทะเลแห่งนี้ เพราะชาวบ้านแห่งนี้ไม่จับสัตว์น้ำแบบล้างผลาญเหมือนที่อื่น เขาจับแค่พอกินพอใช้ เรืออวนลาก หรือเรืออวนลุน ไม่มีให้เห็นแม้แต่ลำเดียว นี่ก็เป็นเพราะชาวบ้านแถบนี้เขารักษ์และห่วงแหน ท้องทะเลบ้านเขามาก นึกไปแล้วก็ต้องขอบคุณเจ้าของเรือบุษบาที่ยกเรือให้นักตกปลาชาวมาเลเซียไป ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีโอกาสได้มาชมทะเลที่สวยงามที่กำพ่วนนี้ เป็นแน่แท้ แล้วพบกันใหม่ นะครับ สวัสดี............
|
Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved. Contact Webmaster |