คำตอบที่ 91
       กรั่กๆกกๆกๆกๆกๆ
เอาไปลากท้ายเรือแข่งกะพี่บรรจง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 92
       หวัดดีครับ น้องที

รอกรุ่นนี้พี่ว่าไม่ค่อยดีหรอก เอาไปเพื่อนๆไม่ให้ใช้ครับ ก็ฟังเค้าพูดสิ

"มึงก็ลงเหยื่อทรอลิ่งประเภทที่กูมีโอกาสได้อัดปลาหน่อยซิวะ กูไม่ได้มาตกปลาทุกวันนะโว้ย ลงเหยื่อแบบนี้ปลาอะไรจะมาแหลกของมึง ไ......"

ก็โถโถ เราซื้อรอกรุ่นนี้มาใช้งาน จะให้ไปทรอลิ่ง CD 14, CD 18 แหมๆๆเพื่อนมันช่างใจร้ายจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 93
       เห็นแล้วก็อยากได้จังเลยสวยมากๆๆๆๆๆๆๆขอยืมมานอนซัก2คืนได้ป่าว.....ล้อเล่นครับ

ผมยังเสียดายจนถึงทุกวันนี้คือเมื่อก่อนผมมีอยู่2ชุด ทั้งธรรมดาและ2SPEED แต่มันหาคู่ต่อสู้ที่จะมาต่อกรด้วยน้อยมากในแถบน่านน้ำทางนี้ถึงมีก็น้อยถึงเจอก็แย่ไม่ใช่ปลาน๊ะครับแต่เป็นเราเพราะเรือแถบนี้เขาไม่มีเก้าอี้ให้นั่งอัดปลาเหมือนทางอันดามันหรอก แค่ถือคันกับรอกเปล่าๆก็แย่แล้วเลยตัดสินใจขายไปหมดเลย ยิ่งไต๋บางคนเห็นแล้วถามเราว่าจะเอามาตกปลาหรือ..แหมนึกว่าจะเอามาคว้านสมอเรือ...ฟัง! ฟัง!เค้าพูดซิ

งานนี้ผมยกให้น้าbj......ลงทุนถอยป้ายแดงมาเพียบเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 94
       ด่วน!!!!!!!.......แชกำบุกสันฉลาม......

กัปตันเดชาโทรมาบอกว่าวันนี้ไต๋หนึ่งได้มา20กว่าตัว

ส่วนกัปตันยอร์ชน่าจะได้พอๆกันรีบๆกันหน่อยน๊ะเพราะเมื่อปลายเดือนที่แล้วมันไปป่วนแถวเกาะลิ้นตอนนี้อยู่สันฉลามไม่รู้ว่าจะอยู่กี่วันและจะไปป่วนที่ไหนต่อยังไม่รู้อีกเหมือนกัน ท่านใดสนใจก็รีบหน่อยน๊ะจะบอกให้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 95
       น้าต้นหลิวอยู่ไหน รีบมา Update รายชื่อสมาชิกทริปนี้หน่อย ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 96
       สงสัยงานจะมากมั่งผมเองยังไม่กล้าโทรไปรบกวนเลย
หรือไม่ก็แอบไปเข้าบึงซ้อมเรียกกำลังอยู่หรือเปล่า ยังไงเปิดเผยตัวหน่อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 97
       http://larndham.net/moon/moon.php?month=9&thai_year=2550

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 98
       ขอบคุณน้าbj...ที่ช่วย..Update..รายชื่อสมาชิกผมดูเวลาที่โพสแล้วโอ้....ตั้งเกือบตี1.แล้วนอนไม่หลับหรือไม่อยากนอนครับ แต่ถ้านอนไม่หลับหมอ..แนะนำว่าให้เปิดน้ำอุ่นใส่อ่างความร้อนเอาแค่เราทนได้นอนแช่นานๆหน่อยพอเลือดลมเดินกล้ามเนื้อคลายตัวเราก็จะหลับง่ายขึ้นลองดูน๊ะผมป็นห่วงเรื่องสุขภาพและการพักผ่อนยังไงต้องหาเวลานอนให้ได้8ช.ม./วัน และที่สำคัญต้องกินนมก่อนนอนด้วยน๊ะสำคัญมากนักตกปลากระดูก-เอ็น-เส้น-เนื้อต้องแช็งแรงและการบำรุงดูแลเป็นพิเศษด้วยน๊ะ....ซิบอกไห้....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 99
       ปล.
สมาชิกลำดับที่ 1-10 ถ้าหากท่านใดไม่ไปด้วยเหตุผลที่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า...ฟังไม่ขึ้น...จะถูกเลิกคบเป็นเวลา 3 เดือน และจะโดนพี่ไพรวัลย์ปรับเป็นเงิน 3,600บาท
ดีมากครับน้า BJ แต่เลิกคบแค่ 3เดือนไม่ได้ครับน้อยไป
ต้องทั้งจำทั้งปรับคือ ต้องรับเลี้ยงอาหารวันกลับอีก 1มื้องามๆ กินเสร็จเพื่อนเลิกคบ 3เดือน...มันส์กว่า..ถ้ายังไม่มาเลี้ยงวันกลับ ให้พ้นสภาพความเป็นเพื่อนไป 6เดือน 555..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 100
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 101
       ต้องการกี่โลครับน้าโย..

ขนาดด้วย...ใหญ่-กลาง-เล็กผมต้องสั่งล่วงหน้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 102
       แต่อันนี้เอาไปด้วยก็ดีครับพี่ไพรวัลย์ "ทำน้ำพริกปลาทู"

ปลาทู...ประโยชน์เหนือราคา

ปลาทูเป็นอาหารทะเลชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในประเภทปลาผิวน้ำ สีของลำตัวด้านบนหลังเป็นสีน้ำเงินแกมเขียว ด้านท้องเป็นสีขาวเงิน
คนไทยนิยมบริโภคปลาทูตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเพราะราคาถูก เมื่อเทียบกับสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ ทำอาหารได้หลายอย่าง ย่อยง่าย รสชาดดี โดยเฉพาะปลาทางแถบจังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงครามและเพชรบุรี เพราะมีความมันมาก รสอร่อยกว่าปลาทูจากแหล่งอื่นๆ

จากหลักฐานทางด้านวิชาการของกองประมงทะเล พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นก้นอ่าวไทย จึงมีอาหารอุดมสมบูรณ์ จึงมีผลทำให้ปลาทูเหล่านี้มีสารอาหารต่างๆอยู่ในตัวมาก และประกอบกับปลาทูจะวางไข่บริเวณฝั่งตะวันตกของอ่าวไทย แถบจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และจะอพยพมาที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ ในช่วงสิงหาคม-ธันวาคม ดังนั้นปลาทูในช่วงนี้มีราคาถูกเพราะมีมาก รสอร่อย และเป็นปลาทูตัวโต หรือปลาทูสาว

ปลาทูเป็นแหล่งของสารอาหารประเภทโปรตีนอย่างดี จะเห็นได้ว่า ในปลาทูสด 100 กรัม มีคุณค่าทางสารอาหารคือ

พลังงาน 140 แคลอรี่ โปรตีน 20 กรัม ไขมัน 6.7 กรัม
แคลเซียม 170 มิลิกรัม ฟอสฟอรัส 60 มิลลิกรัม เหล็ก 11.9 มิลลิกรัม
วิตามินบี1 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.62 มิลลิกรัม ไนอะซิน 9.2 มิลลิกรัม
วิตามินซี 9.2 มิลลิกรัม

เนื่องจากปลาทูมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปลาอีกหลายๆ ชนิด โอกาสซื้อผิดมีมาก จึงขอแนะนำเพื่อเป็นข้อสังเกตดังนี้

1. ปลาทู มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rastrlliger neglectus หรือ ปลาทูสั้น ปลาทูเตี้ย แล้วแต่บางพื้นที่ เพราะลักษณะของลำตัวกว้าง แบน ป้อม สั้น ตาเล็ก ปากแหลมมน ไม่มีลายข้างตัว 3 เส้น ด้านบนของลำตัวมีสีน้ำเงินแกมเขียว ถ้าเป็นปลาสดจะมีสีน้ำเงินเข้มพาดตามยาวของลำตัว เนื้อปลาทูจะละเอียด นุ่ม มีมันมาก รสอร่อย
2. ปลาลัง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rastrelliger Kanagurta หรือ ปลายาว ปลาทูโม่ง หรือปลาโม่ง เพราะลำตัวกลม เรียวกว่าปลาทู ตาโต ปากแหลม ลำตัวด้านหลังมีแถบสีเขียวแกมน้ำตาล 2-3 แถบพาดตามยาว เนื้อหยาบ มันน้อย รสไม่อร่อย ราคาถูกกว่าปลาทู
3. ปลาทูปากจิ้งจก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rastrelliger faughni ลักษณะลำตัวเรียวยาวคล้ายปลาลัง แต่มีขนาดความยาวเท่าปลาทู ความกว้างของลำตัวน้อยกว่าปลาลัง ปากแหลม ด้านบนลำตัวมีสีน้ำเงิน แวววาว ด้านท้องมีสีขาวเงิน เนื้อหยาบ มันน้อย รับประทานไม่อร่อย (ผู้ขายมักเอามาขายรวมกับปลาทู)
4. ปลาทูแขก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Decapterus macrosoma ลักษณะคล้ายปลาทูปากจิ้งจก แต่มีเกล็ดหนามแข็งที่โคนหาง แนวเส้นข้างตัวโค้งลาด ลำตัวเรียวยาว แต่หนา มองดูค่อนข้างกลม ด้านหลังมีสีน้ำเงินแกมเขียว ท้องสีขาวเงิน ครีบสีขาวใส เนื้อหยาบ มันน้อย ปัจจุบันนิยมนึ่งแทนปลาทู หรือทำปลากระป๋อง
5. ปลาทูแขกครีบยาว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Decapterus maruadsi ลัษณะคล้ายปลาทูแขก แต่ลำตัวกว้างกว่า จึงมองดูแบน ตาค่อนข้างโต เนื้อแข็ง หยาบ รับประทานไม่อร่อย

การเลือกซื้อปลาทูนึ่งนั้น ให้พิจารณาดังนี้ ตัวจะสั้น ป้อม แบน ตาใส สีของปลาจะใส ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงินแกมเขียว หรือสีขาวของส่วนล่างก็ตาม กด เนื้อจะนิ่ม มีมันสีเหลืองเยิ้มอยู่ตามตัว ถ้าเนื้อแข็งแสดงว่าปลาไม่สด และเค็มเกิดนไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 103
       ปลาทูเป็นสินค้าพื้นเมืองอย่างหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม มีขายทั้งปลาทูสดและปลาทูนึ่ง เป็นที่นิยมบริโภคเพราะตัวใหญ่ มีความมันและเนื้อนิ่มปลาทูนึ่งของจังหวัดสมุทรสงครามก็รสชาดดี มีเอกลักษณ์ คือจัดวางเรียงในเข่งแล้วหักหัวงอพับลงมาอย่างมี ศิลปะทำให้ปลาทูอ้วนสั้น ไม่แข็งทื่อ เหมือนปลาทูนึ่งทั่วไป
ปลาทู เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่ง เล่ากันว่า เป็นปลาที่หากินไกลมากจะวางไข่ในอ่าวไทย แล้วไปผสมพันธุ์ที่ญี่ปุ่นแล้วพา ลูกว่ายน้ำกลับเมืองไทย กว่าจะถึงอ่าวไทยก็โตเต็มวัยกำลังน่ารับประทานพอดี

ขณะนี้จำนวนปลาทูกำลังลดน้อยลง เนื่องจากเรืออวน ลากหอยลาย และเรืออวนลากที่เจ้าของเรือสั่งจากประเทศเยอรมัน ทำให้น้ำเน่าเสีย ทำลายเกาะแก่งประการังที่เป็นที่วางไข่ของปลาทู ปลาหมึก ปลาทู ปลาหมึก จึงมีจำนวนลดน้อยลงมาก ปลาทู ที่จับได้มีขนาดค่อนข้างเล็กและจำนวนไม่เพียงพอกับความต้อง การของประชาชนในจังหวัด ทำให้ต้องสั่งซื้อจากจังหวัดสตูล
ข้อสังเกตของชาวประมงพบว่า ปลาทูที่เนื้อนิ่มกับอร่อย นั้นมี ๒ แห่ง คือ จังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดสตูล เพราะปลาจากที่ แหล่งอื่นเป็นดินทราย เนื้อจะแข็ง ขาดความมัน ไม่อร่อย และเป็นที่รู้กันว่าปลาทูจากเรือตังเกและเรืออวนลาก มีรสชาดที่ต่างกันชัดเจน ปลาทูโป๊ะจะมีตัวสีขาว แถบน้ำเงินสดใส ตาโต แต่ปลาตังเกและปลาอวนลาก จะมีตัวค่อนข้างหนา ไม่ได้ขนาด ตาแดง เนื้อแข็ง ไม่นิ่มเหมือนปลาโป๊ะ
กิจการขายปลาทูนึ่ง เป็นอาชีพที่ทำรายได้ดีพอควร มีทำกันเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว ทำขายกันตามความต้องการของตลาด กับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ส่งไปขายจังหวัดใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 104
       ชื่อ ปลาทู
ชื่อสามัญ INDO-PACIFIC MACKEREL
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ RESTRELLIGER NEGLECTUS
วงศ์ SCOMBRIDAE
ปลาทูสั้น SHORT -BODIE MACKEREL
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ RESTRELLIGER BRA CHYSOMA
ลักษณะ


ปลาทู มีลำตัวแป้นยาว เพรียว ตาโต ปากกว้าง จะงอยปากจะแหลม เกล็ดเล็กละเอียด มีม่านตาเป็น เยื่อไขมัน บนขากรรไกรมีฟันซี่เล็กๆ มีซี่เหงือกแผ่เต็มคล้ายพู่ขนนก มีครีบหลัง 2 อัน ครีบหลังอันแรกมีก้านแข็ง ส่วนอันหลังก้านครีบอ่อน ครีบท้องมีก้านครีบแข็ง 1 อัน ครีบอกมีฐานครีบกว้าง แต่ปลายเรียว สีตัวพื้นท้องขาวเงิน ผิวด้านบนหลังมีสีน้ำเงินแกมเขียว แบบนี้มีประโยชน์ช่วยพรางตัวให้พ้นจากศัตรู ขนาดของปลาทูยาวประมาณ 14-20 เซนติเมตร แต่เคยพบปลาทูที่มีความยาวถึง 25 เซนติเมตรมาแล้ว
แหล่งที่พบ

สมัยก่อนเชื่อกันว่า ปลาทูที่คนไทยนิยมรับประทานกันนี้ ว่ายน้ำมาจากเกาะไหหลำ ต่อมาเมื่อกรมประมงได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับปลาทู จึงพบว่าปลาทูไม่ได้มาจากแหล่งดังกล่าว แต่มีอยู่ทั่วไปในอ่าวไทย ปลาทูเป็นปลาผิวน้ำ (PELAGIC FISH) อยู่รวมกันเป็นฝูงในบริเวณใกล้ฝั่งน้ำลึก ไม่เกิน 30 เมตร มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียส ความเค็มของน้ำไม่เกินร้อยละ 32.5 แต่อาจทนความเค็มได้ถึงร้อยละ 20.4 จะพบปลาทูชุกชุมมากบริเวณที่มีน้ำไหลลงสู่ทะเล เช่น บริเวณก้นอ่าวไทย บริเวณปากแม่น้ำต่างๆ เพราะบริเวณดังกล่าวมีอาหาร อุดมสมบูรณ์ เกิดแพลงก์ตอน พืช และสัตว์ อันเป็นอาหาร ที่สำคัญของปลาทู ซึ่งพบได้บริเวณอ่าวไทย ฝั่งตะวันตก ตะวันออก และทะเลอันดามัน จึงกล่าวได้ว่าแหล่งปลาทูที่พบหนาแน่น อยู่ในน่านน้ำอ่าวไทย ไม่ใช่ที่เกาะไหหลำดังความเชื่อที่มีมาแต่เดิม
ความสัมพันธ์กับชุมชน
ปลาทู ปลาทองของไทย ใต้ฟ้าสยาม เหนืออ่าวประจวบคีรีขันธ์

จากนิยามที่กล่าวนำข้างต้นนี้ ชี้ให้เห็นความสำคัญของ "ปลาทู" นอกจากจะเป็นปลาที่รู้จักแพร่หลาย มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ พบมากที่อ่าวไทยทางฝั่งตะวันตก ตะวันออก และทะเลอันดามัน โดยเฉพาะ อ่าวไทยฝั่งตะวันตก เขตน่านน้ำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งที่มีปลาอยู่หนาแน่นแหล่งหนึ่ง

จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปลาทู เมื่อ พ.ศ. 2500 ของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีสภาพทะเลเหมาะ ต่อการวางไข่และการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ วัยอ่อน โดยเฉพาะปลาทู ดังนั้นจึงมีประกาศ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งขณะนั้น นายบรม ตันเถียร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ให้ปิดอ่าวไทยเขตน่านน้ำชายฝั่งตะวันตก นับตั้งแต่พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และบริเวณใกล้เคียง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2538 โดยจะปิดอ่าวเมื่อถึงฤดูปลาวางไข่ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม ของทุกปี ทั้งนี้เพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำมิให้สูญพันธุ์

กว่า 30 ปี ที่ผ่านมา ปลาทูได้ชื่อว่าเป็นปลา ที่จับได้มากที่สุดในท้องทะเลไทย และเป็นอาหารหลักของผู้คนแถบชายฝั่งทะเล คนที่อยู่ห่างไกลชายฝั่งทะเลพึ่งจะรู้จักปลาทู และบริโภคกันภายหลัง อย่างไรก็ตาม ปลาทูก็เป็นปลาที่ขึ้นโต๊ะ ซึ่งรับประทานกันตั้งแต่ระดับพื้นบ้าน จนถึงระดับเศรษฐี เพราะปลาทูเป็นเครื่องเคียงน้ำพริก จนมีชื่อเรียกกันติดปากว่า "น้ำพริกปลาทู" ซึ่งเป็นอาหารคู่บ้านของชาวไทยนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และคาดว่าคงอยู่ถึงอนาคตอย่างแน่นอน

จากการบันทึกของหมอบลัดเลย์ แสดงว่า คนไทยเราเริ่มรู้จักปลาทู ตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5 เดิมชาวไทยใช้โป๊ะเป็นเครื่องมือจับปลา ต่อมา พ.ศ. 2468 ไทยนำเรืออวนตังเกจากจีนเข้ามาใช้แทนโป๊ะ ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงชนิดเคลื่อนที่ สามารถจับปลา ได้มากกว่าโป๊ะ ในขณะที่การบริโภคปลาทู ยังอยู่ในวงจำกัด ส่วนใหญ่เป็นคนพื้นบ้าน แถบชายทะเล ดังนั้นจึงมีการแปรรูปปลาทูเป็นปลาทูเค็ม ส่งเป็นสินค้าออกต่างประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ ทำรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมากในขณะนั้น

ต่อมาการคมนาคมเจริญขึ้น เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ปลาทูสดถูกส่งไปยังต่างจังหวัด ต่างๆ มากขึ้น ทำให้ผู้คนรู้จักปลาทู อย่างแพร่หลาย ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายประเภท เช่น นำไปนึ่ง ทอด ต้ม แกง เป็นต้น นอกจากนี้ปลาทูยังมีราคาถูก รสอร่อยอีกด้วย ทั้งนี้ปลาทูจะมีรสอร่อยขึ้นอยู่กับ ความสดของปลาทู ซึ่งหลายคนไม่ทราบว่า จะเลือกปลาทูแบบไหนถึงจะอร่อย ดังนั้น การเลือกปลาทูว่าสดหรือไม่สด ให้สังเกต ลักษณะของปลาจะมีลูกตานูนดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวจะมีสีเขียว เป็นพื้น ส่วนท้องมีสีขาวหรือสีน้ำเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวเป็นเมือก ลื่นๆ จับ เหงือกมีสีแดงอมชมพู ปลาไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น จะเห็นได้ว่าปลาทูมีความ สัมพันธ์เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการกินขอวงชาวไทยมาช้านาน นับตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เดิมจำกัดในวงแคบๆ ได้แก่ ชนพื้นเมือง แถบชายทะเล ต่อมาขยายเป็นวงกว้าง จนปลาทูเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ทั้งชนพื้นเมืองที่ห่างไกลจากทะเล และประเทศใกล้เคียง ซึ่งต่างก็นิยมรับประทานปลาทู
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ

เนื่องจากปลาทูเป็นปลาทะเลที่ชุกชุม ในอ่าวไทย สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ปลาทูจึงเป็นปลาที่มีความสำคัญมากทางเศรษฐกิจ เพราะปลาทูนอกจากทำรายได้ภายในประเทศแล้ว ยังเคยครองตลาดสินค้าส่งออก ประเภทสัตว์น้ำมาแล้ว แต่ในปัจจุบันปลาทูแทบ ไม่มีเพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ ที่หันมานิยมบริโภคปลาทูกันมากขึ้น เนื่องจากอิทธิพลตะวันตกที่นิยมบริโภคอาหารทะเล และ ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการสัตว์น้ำ โดยเฉพาะในด้านช่วยลดปริมาณไขมันใน เส้นเลือด เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ แคลอรี่ต่ำ และย่อยง่าย มีส่วนให้คนไทย หันมานิยมบริโภคอาหารทะเลและปลาทูกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้เครื่องมือจับปลายังได้รับการพัฒนา จนสามารถจังปลาได้ปริมาณมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทำให้ปัจจุบันปลาทูเริ่ม ลดน้อยลง ราคาจึงสูงขึ้นหลายเท่าตัว

แต่อย่างไรก็ตาม ปลาทูก็ยังเป็นปลา เศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้แก่ชาวประจวบคีรีขันธ์ เพราะนอกจากจะซื้อขายกันภายในจังหวัดแล้ว ปลาทู ส่วนหนึ่งยังถูกส่งไปขายในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งในรูปของปลาทูสด และแปรรูป เป็นปลาทูเค็ม ปลาทูนึ่ง เป็นต้น จึงนับว่า ปลาทูเป็นปลาเศรษฐกิจของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โดยแท้

ฉนั้น คำกล่าวที่ว่า "ปลาทู ปลาทองของไทย ใต้ฟ้าสยาม เหนืออ่าวประจวบคีรีขันธ์" จึงเป็นคำกล่าว ที่ไม่เกินความจริง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 105
       @@@ปลาทูต้มยำน้ำใส@@@

ความเป็นมา
มันไม่มาครับ...อินทรีมันไม่มา...ปลาทูเลยโดน

ส่วนผสม
- ปลาทูสดควักไส้ล้างทำความสะอาด 3-4 ตัว
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
- น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูด 4-6 ใบ
- ข่าหั่นเป็นแว่น ๆ 6 แว่น
- ตะไคร้ทุบพอแตกตัดเป็นท่อน ๆ 1 ต้น
- พริกขี้หนูบุบพอแตก พอประมาณ
- ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า
- ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ
1. ปลาทูสดแล่เป็นชิ้น พักไว้หรือจะตัดเป็นชิ้น ๆ ทั้งกระดูกก็ได้
2. นำหม้อตั้งไฟใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด ใส่ใบมะกรูดฉีก ข่า ตะไคร้ และเกลือ พอเดือดและ
และกลิ่น ของเครื่องเทศที่ใส่มีกลิ่นหอมใส่ปลาทูดสดลงไปพอสุกยกลง
3. ปรุงรสดี น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกขี้หนูบุบ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย และผักชี ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟร้อน
4. ข้อควรระวัง เวลาใส่ปลาทูลงไปอย่าคน เพราะจะมีกลิ่นคาว

อื่นๆ
เอ้า...ยกไปตั้งกินหัวเรือคอยปลาอินทรี มาเฉี่ยวพลางๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 106
       เป็นกระทู้ชวนไปตกปลา หรือกระทู้สารคดี ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 107
      
เห็นภาพเลย มีเรดหรือเบียร์ด้วยยิ่งดี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 108
       น้าbj..ผมอ่านบทความของน้าต้นหลิว..แล้วได้รู้ในสี่งที่ผมยังไม่รู้อีกมากเลยแทบจะทุกกระทู้ที่ผมได้อ่านน้าต้นหลิวจะสอดแทรกความรู้และความสนุกเวลาอ่านตลอด ทั้งที่ชื่อลูกชายและชื่อทีมของผมคือ...ปลาทู.. แต่ผมกลับไม่มีข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับวงจรของปลาเลยว่าถิ่นกำเนิดจากไหน ทำไมต้องไปผสมพันธุ์ถึงญี่ปุ๋น แล้วว่ายมาอยู่ในอ่าวไทยให้พวกเราจับมาทอดจนตัวเหลืองมาวางข้างๆถ้วยน้ำพริกทำไม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 109
       สวัสดีทุกๆท่านสมากชิกใหม่ขอฝากเนื้อฝากตัวค่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 110
       สวัสดีค่ะคุณโยและคุณไพรวัลย์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 111
       สวัสดีเช่นกันครับ...คุณหนูนา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 112
       สงสัยผมจะถามน้าโย..ผิดแน่ๆเลยที่ว่าจะเอาปลาทูกี่โลคงจะน้อยใจว่าน้อยไปใช่ไหมล่ะจึงไม่ยอมตอบเสียทีงั้นเปลี่ยนใหม่ดีกว่าเอากี่เข่งครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 113
       คุณไพรวัลย์ กัปตันเป้ดีขึ้นหรือยังคะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 114
       ทริปนี้พี่ไพรวัลย์ตั้งใจจัดเป็นพิเศษ ผมเลยเกิดอาการเห่อ เช่นเดียวกับน้าต้นหลิว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 115
       เคยใช้แต่สายเอ็น MONO เที่ยวนี้ว่าจะทดลองเปลี่ยนมาใช้สายถักดูบ้าง ไม่รู้จะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 116
       รอกตัวนี้น้าต้นหลิว แกยังข้องใจอยู่ ว่าตอนนี้อยู่ที่ใคร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 117
       ลงรูปให้แล้ว นะครับน้าต้นหลิว กลัวน้าแกจะงอนพาลไม่ไปทริปนี้ด้วย เดี๋ยวงานจะกร่อยเอา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 118
       Oh...Yeh...ในที่สุดก็ออกมาโชว์จนได้...555

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 119
       คุณหนูนา...อาการล่าสุดขณะนี้โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจครับ เพราะทุกส่วนของร่างกายจากขยับไม่ได้เลยตอนนี้ขยับได้บ้างแล้วนั่งได้แต่ยังลุกขึ้นยืนหรือเดินยังไม่ได้ การรับรู้คำถามหรือคำสั่งได้ประมาณ90%แต่ช้าหน่อยพูดได้แต่ไม่มีเสียงออกเราต้องใช้วิธีดูที่ปากว่าพูดอะไรส่วนที่เสียงไม่มีนั้นหมอบอกว่ากระแสไฟฟ้าอาจทำให้กล่องเสียงมีปัญหาก็ได้ต้องขอเวลาอีกหน่อย.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 120
       ตั้งหน้า ตั้งตารอ (รอลุ้นว่าจะมีพายุหรือเปล่า)

แสดงความคิดเห็นย่อย