คำตอบที่ 1
       กระสุนขนาดไหนที่มีอำนาจหยุดยั้งคนได้ดีเยี่ยม?.....เป็นคำถามที่กว้างจัง ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คงต้องบอกว่ากระสุนที่มีขนาดใหญ่ๆ ความเร็วสูงๆ เช่นกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม.กระมัง? แต่ตอบแบบนี้กลัวโดนกำปั้นทุบหน้าน่ะ......
เอาแคบลงมาหน่อยก็แล้วกันนะครับ กระสุน"ปืนพก"แบบไหนที่มีอำนาจหยุดยั้งคนได้ดีเยี่ยม เพราะที่อ้างอิงมามันมีกระสุนยิงช้างปนมาด้วยนะ( .600 ไนโตรฯ)
ต้องเข้าใจก่อนว่า กระสุนปืนพกที่ทำมาเพื่อหยุดยั้งคนนั้น จะเอาแต่แรงปะทะหรือหยุดยั้งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคำนึงถึงคนยิงด้วยว่าสามารถใช้ปืนที่มีกระสุนขนาดนั้นได้ดี คือยิงถูกเป้าหมายได้ง่าย ควบคุมปืนให้ยิงต่อเนื่องได้ดี
ม่ายงั้นต่อให้มีกระสุนที่มีอำนาจหยุดยั้งดีเยี่ยม ยิงโดนใครก็กระเด็นไป 5 เมตร แต่คนยิง ยิงไม่ถูกเป้าหมายเพราะแรงสะท้อนถอยหลังรุนแรงยิงไปนัดเดียวนิ้วมือหักแบบนี้ก็ไม่ไหวแน่ๆครับ
เพราะฉะนั้นผมฟันธงว่า กระสุนที่หยุดยั้งคนได้ดีเยี่ยม มีความแม่นยำสูงยิงโดนเป้าหมายได้ไม่ยาก ยิงซ้ำต่อเนื่องได้รวดเร็วน่าจะเป็น .45 ACP หรืออีกชื่อคือ 11 มม.นั่นเองนะ
ขนาดอื่นๆที่ว่ามานั่น ผมว่าอำนาจหยุดยั้งอาจมากกว่า .45 แต่ความแม่นยำ และความง่ายในการควบคุมปืนสู้ .45 ไม่ได้ครับ เหมาะจะเป็นกระสุนล่าสัตว์มากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณคับ

กระสุน .45 เท่าที่ผมทราบมา มันมีอำนาจในการหยุดยั้งคนมาตั้งสมัยสงครามโลกเเล้วคับ ยอมรับคับว่า กระสุน .45 คุมปืนง่าย เเรงถีบใม่มากจนเกินไปคับ เเต่ระยะหวังผลไม่ค่อยไกลเหมือน RIFLE คับ

เเต่ก็เเปลกดีนะคับ ที่กระสุน .45 กับมีอานุภาพที่เหนือกว่า กระสุน 7.62 x 39 MM ของเจ้า AK47 เเละก็เหนือกว่ากระสุนไรเฟิลของ SPRINGFIELD ขนาด .30-06 น่ะคับ

ส่วนกระสุนขนาด .45 COLT จะนิยมใช้กับพวกปืนลูกโม่กะมั้งคับ ปืนอื่นเเทบไม่ค่อยเหนเลยคับ

ถ้า .600 ยิงช้างตายด้วย .338 LAPUA MAGNUM ก็ล้มช้างตายด้วยกะมั้ง


อีกปืนนึงผมก็ชอบมากเหมือนกัน คือเจ้า AMT HARDBALLER ที่ใช้กระสุน .45 ACP เหมือนกันคับ มีปรากฏในหนัง TERMINATOR คนเหล็กภาคเเรกน่ะคับ เเถมติดลำกล้องยาวพร้อมส่องเลเซอร์จากกล้องยาวด้วยคับ

ปล.กระสุน .50 GI ใหญ่จังน่าจะเเรงมากเอาการ

ขอบคุณคับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       เอาข้อมูลมาจากไหนครับที่ว่า กระสุน .45 ACP มีอานุภาพเหนือกว่า กระสุน 7.62X39 mm.หรือ .30-06???
ถึง .45 ACP จะมีหน้าตัดใหญ่กว่าก็จริง แต่ความเร็วแค่ 900 กว่าฟุต/วินาที แต่ทั้งสองขนาดนั่นมันมีความเร็วมากกว่าตั้ง 3 เท่าตัวนะครับ
แหมเอากระสุนปืนพกไปเทียบชั้นกับกระสุนปืนไรเฟิลได้ยังไงกัน ถ้าเปรียบเทียบกับรถให้เห็นภาพ .45 ACP ก็คงเป็นแค่รถโตโยต้า อัลติส ส่วนพวกนั้นเค้าเป็นพวกรถพอร์เช่ หรือ เฟอร์รารี่ อะไรทำนองนั้นแหละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ท่านสมีเฒ่า

ก็ตอนไอ้กันไปรบที่หมู่เกาะแถบมหาสมุทรแปซิฟิกแล้วเจอกับกองทัพไอ้ยุ่น ไอ้กันมันเอาปืนไรเฟิลใช้กระสุน .30-06 ยิงใส่ ผลคือยิงไอ้ยุ่นบาดเจ็บจริงแต่หยุดมันไม่อยู่ เลยเจอพี่ยุ่นมีลูกฮึดลุกขึ้นมาเอาปืนยิงสวนหรือใช้ดายปลายปืนกับดาบซามูไรไล่ฟันไล่แทงพวก GI ตายตกตามกันไปตั้งเยอะ แต่พวกที่โดนปืนกล Thompson หรือหลวงพี่ Colt M1911 ยิงปุ๊บเป็นลงไปนอนจุกแอ๊ก หมดแรงลุกขึ้นมาสวนแทบทุกราย ตอนหลังทหาร GI มันเลยเน้นแต่ปืน 2 รุ่นนี้ พวกที่ใช้กระสุน .30-06 มีหน้าที่ยิงเก็บระยะไกลกับตามไปซ้ำแทนไงครับ เรื่องของเรื่องก็คือกระสุน .30-06 ยิงแล้วมันชอบทะลุออกไป ไม่ค่อยฝังในแบบกระสุน .45 ผลมันถึงออหกมาเป็นแบบนี้ไงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ส่วนกระสุนอาก้าหรือ 7.62x39 มม. M43 มันก็คล้ายกับกระสุน .30-06 ตรงที่อำนาจทะลุทะลวงมันสูง แต่ในขณะเดียวกันอำนาจสังหารมันต่ำครับ เพราะยิงเปรี้ยงเข้าไปมันชอบทะลุออกหลังกับชอบฝังในนิ่งๆ ไม่มีรายการอาละวาดฟาดหัวฟาดหางตีลังกาฝากสะเก็ดในโพรงบาดแผลแบบกระสุน 5.56x45 mm. NATO ครับ กองทัพรัสเซียมันถึงต้องวิจัยกระสุน 5.45x39 mm. กับปืน AK-74 มาแทนไงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ใช่คับ ผมจึงเลยเริ่มชอบกระสุน .45 เพราะเหตุนี้ใงคับ เพราะอานุภาพมันไม่เหมือนกระสุนปืนพกทั่วไป อย่าง 9 MM , .38 , .40 เปนต้น

ถ้ายังงี้มีความเปนไปได้ที่ UMP45 จะเข้ามาประจำการเเทน MP5 ก็มีสูงมั้งคับ

ส่วนกระสุน 5.45 x 39 MM ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะเเรงกว่าปืน AK47 จิงรึเป่าน่ะคับ เเต่ถ้าให้ผมเดาก็คงจะใม่จิงเสมอไป

ถ้าจะถาม ผมอยากรู้มากเรื่องอานุภาพของขนาดกระสุนไรเฟิลที่นิยมใช้กับปืนหลายรุ่นน่ะคับ เอาที่นิยมสุดก่อนเลยเเล้วกัน อย่างกระสุนไรเฟิล

7.62 x 51 NATO
7.62 x 54 RUSSIAN

ใม่มีหลักการถ่ายโอนพลังงานจลใส่เป้าหมายเหมือนกับกระสุนไรเฟิล .30-06 SPRINGFIELD ใช่ใม๋คับ

ถ้าใช่อำนาจในการหยุดยั้งก็จะงั้นๆล่ะสิคับ เน้นอำนาจทะลุทะลวงเปนหลักนี้เองคับ

เเละถ้าใม่ใช่ล่ะก็ อยากจะเอามาเทียบกับกระสุน 5.56 x 45 NATO ใครเเรงกว่ากันจังคับ คืออยากรู้น่ะคับ


ขอบคุณคับคืออยากรู้น่ะคับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       หน่วย SWAT หรือหน่วยปฏิบัติการเขาก็ยินดีใช้ปืน H&K MP5 ต่อไปครับ เพราะกระสุน 9 มม.ถ้าใช้ลูก JHP ก็ยิงคนร้ายคว่ำในนัดเดียวได้นะครับ ที่สำคัญมันจุกระสุนได้มากกว่า H&K .45 UMP นะครับ

แล้วจริงๆกระสุน .30-06 Springfield อานุภาพมันก็ไม่ได้ด้อยนะครับ เขาปรับปรุงจนสามารถเพิ่มทั้งอำนาจสังหารและอำนาจหยุดยั้งได้แล้ว แต่ว่าเนื่องจากการพัฒนาของดินขับ เขาถึงเปลี่ยนไปใช้กระสุน 7.62x51 mm. NATO กันมากกว่า เพราะมีความยาวของกรสุนลดลงแต่อานุภาพเพิ่มขึ้น

ส่วนกระสุน 7.62x54 mm. R (R ย่อมาจากคำว่า Rimmed แปลว่ากระสุนมีขอบจานท้ายไม่ใช่ Russian ครับ) ยุคนี้ก็ไม่ต่างกันครับ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จึงสามารถปรับปรุงให้กระสุนให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ แต่ผมว่าจะให้กระสุนดีแค่ไหนถ้าคุณยิงไม่โดนเป้าหมาย ให้ใช้กระสุนขนาด 20 มม.ก็ไร้ประโยชน์ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       เข้าใจเเล้วคับ วีวัฒนาการของกระสุนสมัยก่อนเเละสมัยนี้มันต่างกัน สมัยใหม่กระสุนเรี่มมีการพัฒนาการที่สูงขึ้นคับ อานุภาพก็จึงเรี่มรุนเเรงขึ้นกว่าสมัยก่อนคับ

ใช่คับกระสุนหัวรู JHP หยุดยังคนใช้ได้เเล้วคับ

9 MM บรรจุกระสุนได้เยอะ นัดมันเปนข้อดีของมันนั้นเอง

ส่วน 7.62 x 54 ดันเข้าใจผีดคีดว่า R = รัสเซีย

สรุป กระสุนที่ผมกล่าวมาหลายขนาด อานุภาพจะเเรงมากกว่าสมัยก่อนขึ้นมาอีกด้วยวีวัฒนาการสมัยใหม่นัน้เอง ยกเว้น AK47 ที่อำนาจในการหยุดยั้งยังอยู่ในเกณปานกลางอยู่ ยังใม่ค่อยเเรงเท่าใรนี้เอง

ขอบคุณคับบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ตำนานเรื่องทหารอเมริกันเปลี่ยนปืนมาใช้ Colt 1911 และกระสุน .45 ACP นี่มันมีหลายตำนานจังครับ
ตำนานเวอร์ชั่นของผม มันเป็นเรื่องไอ้กันไปลุยกับคนพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ที่เรียกตัวเองว่า โมโร อยู่ในหมู่เกาะลูซอน ประมาณว่าพวกนี้เป็นนักรบอาจจะล่าหัวมนุษย์ด้วยมั๊ง
ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเสียอีกนะครับ นาวิกโยธินของอเมริกายังใช้ปืนพกประจำกายเป็นปืนลูกโม่ของสมิธขนาด .38 อยู่ ส่วนปืนยาวน่าจะเป็นยี่ห้อ เครกส์แบบลูกเลื่อนขนาดกระสุนไม่แน่ใจ ซึ่งไม่น่าใช่ขนาด 30-06 แน่ๆ
ตอนลุยกันแบบประชิดตัวปืนยาวอาจบรรจุกระสุนไม่ทันเพราะเป็นปืนแบบลูกเลื่อน ปืนพกลูกโม่ 6 นัดก็เลยต้องงัดออกมาใช้ ผลอย่างที่รู้ๆกันว่า .38 หยุดพวกโมโรไม่อยู่ในนัดเดียว ตายกันเป็นเบือทั้งกองร้อยด้วยดาบและหอกของคนป่าเหลือรอดมาไม่ถึง 10 คน
ไอ้กันเลยต้องรับเอาปืน 1911 และกระสุน .45 มาประจำการแทนด้วยประการฉะนี้
ส่วน .30-06 นั่นผมยอมรับว่าอำนาจทะลุทะลวงมันสูงจนอาจจะไม่ฝังอยู่ในร่างกายคนเวลาโดนยิง แต่เชื่อผมเหอะ...ถ้าคุณเห็นรูกระสุนออกแล้ว คุณคงเห็นได้ว่าคนที่มีรูขนาดนั้นบนร่างกาย ไม่น่าจะเดินได้แล้วนะครับ อย่าว่าแต่วิ่งเข้าใส่เลย....ผมว่านะไอ้กระสุนไรเฟิลที่มีความเร็วสูงตั้งแต่ 2,000 ฟุต/วินาที ขึ้นไปมันไม่อาศัยแระปะทะของหน้าตัดหัวกระสุนแล้ว เอาแค่ช็อคเวปที่สร้างโพรงบาดแผลชั่วคราวในเนื้อเยื่อก็ทำให้เหยื่อหมดสภาพได้ทันทีแล้ว
คนนะครับไม่ใช่ควายโดน 30-06 เข้าไปเต็มๆหน้าอก นัดเดียวถ้าไม่หยุด ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       แหม ท่านสมีเฒ่า

ก็พวกพี่ยุ่นแกมีลูกฮึดในสายเลือดแบบลูกบูชิโดไงครับ ประเภทกูตายมึงต้องตายตกตามกันไปด้วย โดนยิงแรกๆผมว่ามันก็ยังชาๆแผลอยู่นะ ยิ่งประเภทยิงแล้วทะลุออก มันก็ไม่ตายทันทีหรอกครับ เหมือนเราใช้ลูกหัวแข็งยิงสัตว์ใหญ่ เช่น กระทิง ควายป่า หรือช้าง บางทีนัดเดียวเอาไม่อยู่เพราะยิงไม่โดนจุดตายมัน แล้วกระสุนดันทะลุออกไปอีก แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่ตายนะครับ ตอนหลังมันตายเพราะเสียเลือดเยอะจากแผลทะลุออกครับ แต่ก่อนตายมันก็มีลูกฮึด วิ่งชาร์จจนคนยิงบางทีก็ตายตกตามกันหรือเจ็บปางตายกลายเป็นคนพิการไปเลยก็มี

ถ้าเป็นคนไม่โดนจุดตายแถวหน้าอกขึ้นไป ผมว่ามันไมตายทันทีหรอกครับ ฉะนั้นพี่ยุ่นแกจะลุกขึ้นเอาดาบไล่ฟันไล่แทงหรือยิงสวนพวก GI ให้ตายตกตามกันสักศพสองศพผมว่าไม่แปลกนะ

ป.ล. ท่านสมีเฒ่า ปืนยาวของนาวิกฯที่ท่านว่า ผมว่าเป็นปืนไรเฟิล M1892 Krag-Jørgensen ที่ใช้กระสุน .30-40 Krag นะท่าน จุกระสุนแค่ 5 นัดแต่พวกมาเป็นร้อยแบบนี้ ให้ปืนกลยังไม่รู้ว่าจะเอาหรือเปล่านะท่าน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       แหม..ท่านคาลาฯ
ผมก็บอกแล้วว่าคนนะครับไม่ใช่ควาย ยังเอาความอดทนของทหารญี่ปุ่นตัวเล็กนิดเดียว ไปเทียบกับสัตว์ที่มีน้ำหนักร่วมสองตันแบบนั้นได้ยังไงกัน
ยอมรับว่าการยิงสัตว์ป่าขนาดนั้นด้วยกระสุน 30-06 ซึ่งเป็นกระสุนชั้นยิงกวาง นัดเดียวคงเอาไม่อยู่แม้กระสุนจะเข้าหัวใจก็เถอะ แต่ถ้าเป้าหมายเป็นคนเดินดินด้วยกันแล้ว ถ้า .45 โดนจุดไหนแล้วหยุดคนได้ 30-06 โดนจุดนั้นคนนั้นก็ต้องหยุดเหมือนกัน แถมท้ายอาจมากกว่าแค่หยุดด้วยซ้ำไปนะครับ เช่นถ้าเรามาดูสเปคกัน
กระสุน .45ACP หัวกระสุนหนัก 230 gr. ความเร็ว 900 fps. แรงปะทะเท่ากับ 414 ft/lbs.
กระสุน 30-06 หัวกระสุนหนัก 185 gr. ความเร็ว 2,651 fps. แรงปะทะเท่ากับ 2,808 ft/lbs.!!!!!!!!!! แรงปะทะมากกว่ากันตั้ง 6-7 เท่า
เพราะฉะนั้น ถ้า .45 ยิงโดนหัวไหล่คน หัวกระสุนไปตุงที่กระดูสะบักหลังทำให้ทรุดลงอยู่กับที่ได้ ผมว่าถ้าคนนั้นโดน 30-06 ที่หัวไหล่ กระสุนอาจทะลุกระดูกสบักแล้วช็อคเวฟของกระสุนที่มีความเร็วตั้ง 2,651 กับ แรงปะทะขนาด 2,808 อาจฉีกกล้ามเนื้อบริเวณนั้นออกทำให้แขนข้างนั้นหลุดออกไปเลย!!!!!
หรือถ้า .45 ยิงเข้าหน้าท้องกระสุนไปตุงติดอยู่ในไต แต่ถ้าโดน 30-06 เข้าที่จุดเดียวกัน ผมก็ว่า ไตข้างนั้นน่าจะเละตุ้มเป๊ะรวมทั้งกระเพาะปัสสาวะคงระเบิดออกมาด้วยแน่ๆ
ผมยังคงดื้อและเชื่ออย่างหัวปักหัวปำว่า
1. กระสุน .45 ACPถูกเปลี่ยนเข้ามาทดแทน กระสุนขนาด .38 ในปืนพกประจำกายทหาร ไม่เกี่ยวกับปืนไรเฟิลหรือกระสุนไรเฟิล
2.กระสุน .45 ACP มีอำนาจหยุดยั้งคน"น้อยกว่า"กระสุน 30-06 ในทุกกรณีครับ ไม่ว่าคนๆนั้นจะอยู่ในสภาพจิตใจแบบไหน ตัวใหญ่แค่ไหน อยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน โดนกระสุนเข้าตำแหน่งไหน กระสุน 30-06 หยุดคนๆนั้นได้ดีกว่า .45 ACP แน่นอน
เหตุผลยืนยันอีกข้อนึงคือ กระสุน สไนเปอร์ยอดนิยมขนาด .308 พัฒนามาจากกระสุน 30-06 นี่แหละครับ โดยทำปลอกให้สั้นลงแต่พัฒนาดินขับให้มีประสุทธิภาพดีขึ้น คำขวัญของพวกสไนเปอร์คือ "นัดเดียวจอด"

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       แหมท่านสมีเฒ่า

ท่านสมีเฒ่าท่านต้องแยกให้ออกระหว่างอำนาจหยุดยั้งกับอำนาจสังหารของกระสุนนะครับ อำนาจ 2 ตัวนี้บทบาทมันต่างกันนะครับ "อำนาจหยุดยั้ง" คืออำนาจการยิงที่ทำให้ศัตรูหยุดการโจมตีแล้วเปลี่ยน ใจไม่กระทำต่อหรือหมดความสามารถที่จะต่อสู้กับเราอีก ส่วน "อำนาจสังหาร" คืออำนาจในการทำให้ศัตรูเสียชีวิตหรือหมดประสิทธิภาพในการต่อสู้แทบจะทันที พูดๆง่ายก็คือนัดเดียวร่วงนัดแหละครับ

ผมกเรียนไปแล้วว่า .30-06 ไม่ใช่ยิงแล้วไม่ตาย ตายน่ะมันตายแน่ครับ เพียงแต่เจ้าลูกหัวแข็งของกระสุน .30-06 ของทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถ้าท่านสมีเฒ่าลองยิงใส่พวกบังเกอร์กระสอบทรายดู กระสุนแทบไม่เสียรูปทรงเลยนะ ยิ่งถ้ามาเจอกับพวกคนอึดๆนี่มีโอกาสสูงที่จะเจอสวนกลับก่อนตายนะครับ เหมือนตอนผมเจอพวกว้าแดงใกล้ตายแล้วเจอยิงสวนนั่นแหละ ขนาดโดนเอ็ม 16 กับเอชเค 33 ยิงเข้าไปตั้งหลายนัดจนพรุน พอตอนเราเข้าเคลียร์พื้นที่มันยังอุตส่าห์เอาปืนอาก้ายิงสวนก่อนตายอีก จนทหารผมบาดเจ็บตั้ง 2-3 นายนะ ส่วนผมกระสุนเฉี่ยวหมวกเคฟลาร์เป็นรอยถากยาวเลย ทุกวันนี้ยังเก็บไปดเป็นอนุสรณ์ูว่าเราเคยเฉียดตายมาแล้ว

ในกรณีกระสุน .30-06 ก็เป็นไปได้ว่ากระสุนชนิดนี้จะทำงานได้ดีเมื่อใช้กับร่างกายใหญ่ๆหนาๆของฝรั่งด้วยกัน เช่น พวกทหารนาซีแบบนี้ เพราะร่างกายพวกนี้ทั้งใหญ่ทั้งหนา โอกาสที่กระสุนจะทำงานได้เต็มที่มีสูง เลยมีอานุภาพสูงทั้งอำนาจสังหารทั้งอำนาจหยุดยั้งแต่ก็ไม่เสมอไปทุกราย

ส่วนพวกเอเชียตัวเล็กๆอย่างทหารญี่ปุ่น ด้วยความเร็วของกระสุน .30-06 ที่สูงมันก็เลยทะลุออกหลังเป็นส่วนใหญ่ แล้วยิ่งวิธีการรบของพวกทหารญี่ปุ่นก็คือการวิ่งเข้าชาร์จข้าศึกแบบไม่กลัวตาย แล้วสมรภูมิในหมู่เกาะแปซิฟิกส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ป่ากับทุ่งหญ้า สูง จึงมีโอกาสสูงที่พวก GI จะต้องรบแบบประชิดตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเป็นไปได้สูงว่ายิงโดนไปแล้วแต่ไม่หยุดสามารถการชาร์จหรือตายในทันที ทำให้ข้าศึกสามารถสวนกลับได้อีกครั้งก่อนตาย หรือถ้า่เรียกภาษาชาวบ้านก็คือยิงหรือแทงสั่งลานั่นแหละครับ

คราวนี้เราต้องมาดูตำแหน่งที่ถูกยิงมันโดนตรงไหนของข้าศึกละครับ ถ้าโดนตั้งแต่หน้าอกขึ้นไปผมว่าก็ตายแทบจะในทันทีแน่นอนครับ แต่ถ้ายิงโดนท้องหรือต้นขาลงมา ม้ันก็มีโอกาสสูงที่ศัตรูอึดๆจะฮึดสู้สวนกลับ ก่อนจะรู้สึกตัวและเสียเลือดมากตายเอง

ถ้าลองมาดูกระสุน 5.56 มม.หรือ 7.62 มม. (.308 วินฯ) เดี๋ยวนี้สิท่านสมีเฒ่า พอยิงโดนเป้าหมายกระสุนจะเสียรูปทรงเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ 5.56 มม.บางทีแตกออกเป็นสะเก็ดไปยาวตลอดบาดแผลเลยนะครับ ผมว่าถ้ากระสุน .30-06 สมัยก่อนเป็นกระสุน 5.56 มม.สมัยนี้ ตำนานพี่ยุ่นชาร์จก่อนตายจะไม่เกิดขึ้นหรอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       เป็นความรู้ดีคับ จะศึกษา

แสดงความคิดเห็นย่อย