คำตอบที่ 1
       คดีอะไรก็แล้วแต่อย่าเป็นคดี อาญา ก็แล้วกัน
ก่อนอื่นคุยกับผู้ที่มีสิทธิรับมรดกให้ได้ก่อน ตกลง กันให้ได้ชัวๆ

เสร็จแล้วไปที่วังไชยา ยื่นขออนุญาติมีอาวุธปืนโดยรับโอนมรดก จาก .... พร้อม สำเนาทะเบียนปืน ยื่นประกอบ ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ ก็จะให้ไปให้ผู้ที่มีอำนาจรับรอง ตรวจพิมพ์รายนิ้วมือ เสร็จแล้วก็มาที่บ้าน นอน รอใบ ป3.

เมื่อได้ ป3. มาแล้วก็ไปที่ ที่ทะเบียนปืนอยู่ ทำเรื่องตัดโอน เจ้าหน้าที่ก็จะขอให้ผู้จัดการมรดก เป็นผู้รับจัดการ ใครมีสิทธิ ไม่เอา ก็เซ็นชื่อยินยอม แต่ถ้า คนใดคน1 ไม่ยอมปืนไม่สามารถโอนได้ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะขอตรวจปืนพร้อมเก็บใบ ป4. เก่า แล้วให้ ใบตัดโอนกับเรามา เดินเรื่องต่อที่วังใชยา ที่วังไชยาก็จะขอตรวจปืนอีกครั้งด้วย เรียบร้อย จ่ายเงิน กลับบ้านไปนอนรอใบ ป4. จบครับ

ส่วนจะขอ ป3. ได้หรือไม่ในคดีที่ติดค้าง ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ดูก่อนนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ในกรณีของผมปืนเป็นของพี่ชายพี่ชายเสียชีวิตมีปืน 2 กระบอก พี่สาวเป็นผู้จัดการมรดก ผมกับพี่สาวไปอำเภอด้วยกัน แล้วพี่สาวแจ้งเจ้าหน้าที่ขอโอนปืนคือแบ่งกันคนละกระบอก พี่สาวเอาสมิทชีพ ส่วนของผมได้บาแรตต้า โดยเวลายื่นคำขอก็แนบคำสั่งศาลด้วย ก็เห็นโอนได้ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ในกรณีของท่านปืนกับที่อยู่อยู่คนละจังหวัด คงต้องไปยื่นคำร้องที่วังไชยยาพร้อมแนบสำเนาใบ ป4 พร้อมใบมอบฉันทะของพี่ชายในฐานะผู้จัดการมรดกคือตอนนี้อำนาจอยู่ที่ผู้จัดการมรดกว่า จะขายหรือโอนให้กับผู้ใด
ส่วนมีคดีอยู่ที่ศาลไม่ทราบครับต้องให้ผู้รู้ตอบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ขอบคูณ คุณเอ๋ ที่ช่วยชี้เจงครับ
1. เรื่องคดี เป็นคดี อาญาครับ ข้อหา ร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ ฯลฯ แต่ศาลยังไม่ตัดสินนะครับ แล้วจะมีผลต่อการขอมัยครับ
2. ส่วนผุ้รับมรดกและพี่ๆ ไม่มีปัญหาครับ ทุกคนรุ้ว่าปืนนี้ พ่อยกให้ผมตั้งแต่ยังไม่เสียชีวติ เพียงแต่จะทำให้มันถุกต้องตาม กม.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ขอบคุณ คุณเอ๋ ที่ช่วยชี้แนะ และอวยพร เรื่องคดีครับ
ขอบคุณหนุ่ย อีกท่านครับ
สงสัย ปืนขึ้นสนิมแน่ ไม่มีใครดูแลเลย เฮ้อออออออออ

แสดงความคิดเห็นย่อย