คำตอบที่ 11
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับมรดกอันแสนสวยกระบอกนี้ด้วยครับ สวยและสภาพดีจริงๆ
เรื่องนำปืนเก่าไปตีทะเบียนนี่ผมไม่ทราบว่าจะต้องทำยังไงแต่ขอตอบเรื่องอื่นก็แล้วกันนะ
ตามภาพใน ค.ต ที่4 ที่ระบุไว้ใต้ลำกล้องซ้ายว่า CHOKE 18.4(ม.ม.) และ ลำกล้องขวา 18.3 ( ม.ม.) คือขนาดความกว้างของปากลำกล้อง และการเหนี่ยวไกหน้าจะเป็นการยิงลำกล้องขวาก่อนซึ่งมีลำกล้องหรือการบีบของโช๊คน้อยทำให้ม่านกระสุนบานมาก ส่วนการเหนี่ยวไกหลังจะเป็นการยิงที่ลำกล้องซ้ายซึ่งโช๊คแคบกว่าจะมีม่านกระสุนแคบตามไปด้วยและหวังผลได้ไกลกว่าด้วย ใช้ยิงซ้ำในกรณีเป้าหมายเคลื่อนที่ออกห่างไปหลังจาการยิงนัดแรกผิด
ตามภาพใน ค.ต ที่5 ตัวเลขในวงกลมรูปไข่ที่ระบุว่า 12-70 หมายถึงปืนมีขนาด เกจ 12 ซึ่งเป็นกระสุนปืนลูกซองที่ใช้ทั่วไปในขณะนี้ ส่วน 70 หมายถึงความยาวของรังเพลิงปืนที่ยาว 70 ม.ม. ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าใช้ยิงกับกระสุนปืนลูกซองขนาดมาตรฐานได้ครับ( แต่ควรเป็นกระสุนแรงต่ำ)
จากขนาดรังเพลิงทำให้ผมคิดว่าปืนกระบอกนี้ไม่น่าจะมีอายุมากถึง 80-100 ปี เพราะปืนลูกซองโบราณจริงๆจะไม่ทำรังเพลิงยาวถึง 70 ม.ม. จะมีสั้นๆแค่ 62.3-65 ม.ม.เพราะยุคนั้นกระสุนยังมีความยาวแค่นั้นอยู่ อายุปืนจริงๆน่าจะไม่เกิน 60 ปีเป็นอย่างมาก
การวัดว่ากระสุนขนาดไหนจะใช้ได้กับรังเพลิงขนาดอะไร ต้องวัดจากปลอกที่ยิงออกไปแล้วตามภาพ จะเห็นว่าปลอกกระสุนสีดำที่ยิงออกไปแล้วจะมีปลายปลอกยื่นออกมาจากปลอกที่ยังไม่ได้ยิงอีกประมาณ4-5 ม.ม. เพราะฉะนั้นถ้าเราเอากระสุนที่ยาวกว่ารังเพลิงไปยิง ปลายปลอกจะถูกขอบรังเพลิงบีบไว้ทำให้เกิดแรงดันสูงในรังเพลิงจนทำให้ปืนแตกได้ง่ายๆ
ปืนสวยมากครับ เป็นนกนอกด้วยคลาสสิคดีจริงๆ เอาปืนเดี่ยวมาให้ชมบ้างนะครับ...ชอบ