คำตอบที่ 2
ข่าวนี้เปล่าครับ...
ปืนโอนลอยซะด้วย...
คนร้ายยิงอริจากพิษรักบีบีมอบตัว
มือปืนวัยโจ๋ ยิงอริดับ 2 ราย จากพิษรักผ่านบีบี เข้ามอบตัวพร้อมปืน 9 ม.ม.ของกลางแล้ว เผยถูกรุมทำร้าย ส่วนเพื่อนยังเจ็บหนัก ตร.ประสานรอมอบตัว
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล( บก.สส.บช.น). พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ร่วมกันแถลงข่าวการเข้ามามอบตัวของ นายเอกรินทร์ สุขสาคร อายุ 21 ปี ชาว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร1 ใน 2 ผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นบริเวณวัดบางกระดี่ ถนนบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เป็นเหตุให้ นายสิทธิชาติ พุกรัตกุด อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 1 โรงเรียนอาชีวศึกษาธนบุรี และนายชุมพร สาหร่ายทอง อายุ 25 ปี ถึงแก่ความตาย ส่วน นายณัฐกิตติ์ แจ้งสว่าง อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อกลางดึกวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชนวนเหตุสังหารโหดเพราะพิษรักแรงหึงที่ฝ่ายเพื่อนผู้ตายจับได้ว่าแฟนสาวแอบ ติดต่อกับฝ่ายมือปืนทางโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอรี่ หรือ บีบี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัว พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ยี่ห้อกล็อค จำนวน 1 กระบอกและเครื่องกระสุนขนาด 9 มม. 8 นัด โดยนายเอกรินทร์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ บก.สส.บช.น.เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบสวน นายเอกรินทร์ ให้การรับสารภาพทั้งสภาพใบหน้าบวมปูดว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนข้างบ้านคือ นายสุระ พรมมาลี อายุ 17 ปี ได้พากันขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน ฎช 1446 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุไปนั่งกินดื่มในร้านซิงค์บาร์ ย่านพุทธมณฑลสาย 4 พอเมาได้ที่ นายสุระ ได้ขอกุญแจรถจากตนไปขับ โดยให้ตนนั่งไปเป็นเพื่อนไปที่วัดบางกระดี่ ซี่งนายสุระบอกแต่ว่า จะไปรับหญิงสาวชื่อมุข ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ติดต่อกันผ่านทางโปรแกรมสนทนาทางบีบีมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์มานั่งดื่มกินด้วย
แต่เมื่อเดินทางไปถึงนายสุระได้ติดต่อ หญิงคนดังกล่าวอีกครั้ง โดยมุขบอกนายสุระให้รอ อยู่แถบนั้น จากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นประมาณ 10 คน ซึ่งดักรอได้เข้ามารุมทำร้ายตนและนายสุระ โดยใช้ไม้ตีเข้ามาที่บริเวณใบหน้าของนายสุระจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็ได้รุมกระทืบตน เมื่อเห็นท่าไม่ดี ตนจึงตัดสินใจหยิบอาวุธปืนที่นำติดรถไปด้วยนั้น ออกมากระหน่ำยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นคู่อริประมาณ 7 นัด จนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวหลบหนีไป ก่อนที่ตนกับนายสุระจะขับรถหลบหนีอย่างรวดเร็ว กลับไปที่บ้านพักที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อตั้งหลักก่อนไหว้วานให้เพื่อนๆพาขับรถหลบหนีไปกบดานในพื้นที่ จ.ขอนแก่น
จากนั้นได้พาตัวนายสุระ ที่ถูกไม้ตีเข้าที่บริเวณใบหน้าจนศีรษะ กรามหักและกะโหลกร้าวต้องเข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ขอนแก่น-รามาฯ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นตนได้พูดคุยปรึกษากับญาติแล้วเห็นว่าน่าจะเข้ามอบตัว กับตำรวจ เนื่องจากตนถูกทำร้ายก่อนเลยต้องชักปืนออกมายิงเพื่อป้องกันตัว จึงตัดสินใจนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเข้ามามอบตัวกับตำรวจที่ บก.สส.บช.น.ในวันนี้ นายเอกรินทร์ กล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวพบว่า เป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง นายเอกรินทร์ อ้างว่าซื้อปืนต่อเจ้าของเดิมมานานแล้วในราคา 65,000 บาท เนื่องจากที่บ้านทำธุรกิจสวนดอกไม้จำเป็นต้องมีอาวุธปืนไว้เฝ้าทรัพย์สิน แต่ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อตัวเอง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องริบไว้ตรวจสอบว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ ใช้ก่อเหตุหรือไม่ ส่วนนายเอกรินทร์ จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.ขอนแก่น รามฯ เพื่ออายัดตัว นายสุระ แล้วแต่ปรากฏว่าไม่เจอตัวตามที่นายเอกรินทร์บอก จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปทางญาติของนายสุระ โดยทางญาติของนายสุระยืนยันว่าจะนำตัวนายสุระมามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งตนเชื่อว่า นายสุระ คงหนีไปไหนต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน คาดว่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ศันสนีย์ หุยะพันธุ์ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นญาติของ นายสิทธิชาติ พุกรัตกุด อายุ 17 ปี ผู้ตาย กล่าวว่า ขณะนี้ศพของ นายสิทธิชาติ และ นายชุมพร ถูกนำออกจาก รพ.ศิริราช มาเก็บไว้ที่วัดบางกระดี่ ซึ่งตามความเชื่อของชาวมอญแล้วโดยช่วงหลังสงกรานต์ปีหน้าศพจะถูกนำออกมาตั้ง สวดและฌาปนกิจต่อไป โดยหลังจากนี้อยากให้ตำรวจทำคดีให้ยุติธรรมมากที่สุดเนื่องจากทราบมาว่าญาติ พี่น้องของผู้ต้องหาต่างก็มีชื่อเสียงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ทั้งนั้น.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์