คำตอบที่ 1
       มันไม่ค่อยมีอะไรเป็นมาตรฐานนักหรอกครับ ไอ้การเรียกขนาดกระสุน ต้องจำและคุ้นเคยกับมันไปเรื่อยๆถึงจะพอเข้าใจการเรียกชื่อ หรือขนาดกระสุน
มีเหตุผลหลายอย่างในการเรียกขนาดกระสุนแต่ละแบบ เช่น กระสุนขนาด 30-06 (เรียกว่า "สามสิบ ศูนย์หก") เลข 30 เป็นขนาดหน้าตัดกระสุน .30 นิ้ว เลข 06 ตัวหลังเป็นปีที่ผลิตคือ ค.ศ 1906
แต่ขนาด 30-30 ตัวแรกเป็นขนาดหน้าตัดเหมือนกัน แต่เลขตัวหลังเป็นน้ำหนักดินปืนที่บรรจุในปลอก
บางทีก็มีชื่อบริษัทฯที่ผลิตต่อท้าย เช่น .22-250 เรมิงตัน , .444 มาร์ลิน , .460 S&W } .45 โคลท์
มาตราวัดเป็นนิ้ว ใช้ในฝั่งอเมริกา ส่วนมาตราวัดเป็นมิลลิเมตรใช้ในฝั่งยุโรป แต่ถึงแม้ว่าทั้งสองมาตรฐานเมื่อเทียบเคียงกันแล้วจะมีขนาดเท่ากัน เช่น .38 กับ 9 มม.แต่การเรียกกระสุนว่า .38 จะเป็นกระสุนที่ใช้ในปืนลูกโม่ ส่วนกระสุนที่เรียก 9 มม.จะเป็นกระสุนที่ใช้ในปืนเซมิ-ออโตเมติกครับ เป็นการเรียกให้แตกต่างกันเพื่อระบุชนิดของระบบปืนที่ใช้กระสุน งง มากมั๊ย?

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ต้องขอโทษที่เบิ้ลคำตอบ...
ตามภาพกระสุนข้างบน จะเห็นว่า กระสุนที่ใช้กับปืนระบบเซมิ-ออโตเมติก มักเรียกตามมาตราเมตริกคือใช้หน่วยวัดเป็น มิลลิเมตร เช่น 9 มม. 10 มม. แต่พอมาเป็นกระสุนขนาด .45 นิ้ว ไม่ยักกะใช้ระบบเมตริก ดันไปใช้ระบบนิ้ว/ฟุต (น่าจะเรียกว่า 11 มม.)
เหตุผลเพราะกระสุนขนาดนี้ อเมริกัน เป็นคนสร้างและมีเชื่อเสียงมากในการใช้ร่วมกับปืน โคลท์ 1911 คนอเมริกันเลยเรียกกระสุนขนาดนี้ในระบบวัดของตัวเอง ไม่ยอมเรียกแบบมิลิเมตร ทั้งๆที่เป็นกระสุนที่ใช้กับปืน เซมิ-ออโต เอากับเค้าซิ!!!!!
จำง่ายๆว่า ถ้าเป็นตัวเลข"หลัง"จุดทศนิยม จะเป็นระบบ นิ้ว ซึ่งไม่ต้องออกเสียงอ่านคำว่า"นิ้ว"นะจ๊ะ ไม่งั้นเชยเลย
ถ้ามีตัวเลข"หน้า"จุดทศนิยมแล้วล่ะก็ต้องอ่านคำว่า มม. หรือมิลลิเมตร ตามหลังด้วยจ๊ะ
เรามักสับสน เช่นเรียกกระสุนว่า ".45 มม."หรือ .38 มม. ซึ่งถ้าเป็นขนาดนั้น มันเล็กกว่าหัวไม้ขีดอีก จะไปยิงใครตายล่ะจ๊ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       รับทราบจ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย