คำตอบที่ 1
สวัสดีครับ...คุณ MR.HANGMAN 9 MM. ....
ดูจากชื่อ และรสนิยมจากคำถามก่อนหน้านี้ ... ผมก็ขอ
เสนอปืนระดับกลาง กระสุน 9 mm. แล้วกันนะครับ
.... ในที่นี้จึงขอพูดถึง bul m5 commander 9 mm.
ซึ่งถือเป็นปืนระดับกลาง หรือ compact มีความคล่องตัว
ในการใช้งาน และพกพา ไม่เทอะทะจนเกินไป ด้วย
ขนาดลำกล้อง 4 1/4 นิ้ว .... แต่บรรจุกระสุนในแม็กกาซีน
ได้ถึง 18 นัด .... แถมบวกในรังเพลิงอีก 1 นัด ... ถือว่า
มากเกินพอ สำหรับการพกพาด้วยแม็กกาซีนแค่อันเดียว
... เพราะจากสถิติของการยิงต่อสู้ จะใช้กระสุนเพียงไม่
เกิน 3 นัด ...
.... bul m5 เป็นปืนสัญชาติอิสราเอล ... ประเทศที่อยู่
ท่ามกลางความร้อนระอุของสงครามตลอดเวลา .... จึงมี
ความจำเป็นที่ต้องพัฒนาทั้งอาวุธ และบุคลากร อย่างต่อ
เนื่อง ....
bul m5 ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยกลุ่มคนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับ
การใช้อาวุธโดยตรง เช่น เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักกีฬา
วิศวกรทางด้านอาวุธ และผู้ประกอบการโรงงาน จึงถือได้
ว่า bul m5 เป็นปืนพกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองการ
การใช้งานโดยแท้น่ะครับ....( ไม่ได้เชียร์เกินจริงนะครับ )
เดี๋ยวดูกันต่อ....
ลักษณะทั่วไปของ bul m5 เป็นปืนระบบ "ซิงเกิ้งแอคชั่น"
ตามแบบ 1911 ซีรีย์ 70 ผู้ลือลั่น .... กล่าวคือ มีไกที่
เรียบคม แต่ไม่มีนิรภัยเข็มแทงชนวน เหมือนปืนสมัยใหม่
ทั่วไป .... เข้าใจว่า .... การตัดระบบนิรภัยเข็มแทงชนวน
... ก็เพื่อหวังผลในการยิงแบบซิงเกิ้ลแอคชั่นโดยแท้ ....
ให้เกิดความนุ่มนวล เรียบเนียน .... เพราะฉนั้น จึงขนาด
ว่ากันว่า ปืน bul m5 สามารถนำเข้าร่วมการแข่งขัน
IPSC ได้เลย โดยไม่ต้องปรับปรุงส่วนใดเพิ่มเติม ...
.... รูปร่างภายนอก .... ถูกสร้างขึ้นด้วยการนำเอา ความ
เป็น Colt 1911 มาผสานรวมกับหลักการอกแบบที่เอื้อต่อ
การหยิบจับตามหลักสรียศาสตร์ของ CZ 75 จึงถือได้ว่า
... bul m5 น่าจะเป็นคำตอบที่คุณ MR.HANGMAN 9MM.
ต้องการที่สุดแล้วจากคำถามก่อนหน้านี้...
.... ระบบความปลอดภัยของ bul m ใช้เพียงระบบเข็ม
แทงชนวนแบบเข็มเฉื่อย บวกกับ ใช้คันเซฟแบบ 1911
และห้ามไดหลังอ่อนแบบ 1911 .... แต่เพียงเท่านี้ ก็ถือว่า
เกินพอ เมื่อเทียบกับปืนรีวอลเวอร์ ...
... ระบบการทำงานทั่วไปก็ยกของ 1911 มาเลยทีเดียว
ทั้งการขัดกลอนหน่วงเวลา แบบ เบราว์นิงก์ โคล์ท ...
หมายถึง .... ลำกล้องลดตัวด้วยบาเรลลิงค์(ห่วงโตเตง)
ใช้การขัดกลอนของริบ ที่สันบนลำกล้อง ขัดกลอนกับ
ร่องบากใต้โครงสไลด์ .... ถือเป็นระบบที่คลาสสิค ที่ใช้
มานานนม..ครับ
.... วัสดุที่ใช้ ... เน้นให้ง่ายต่อการดูแลรักษา จึงเลือกทำ
สไลด์ ด้วยสเตนเลส เสริมร่องลายกันรื่น ทั้งหน้า-หลัง
... สันสไลด์ทำผิวฟินิสซาตินเพื่อลดการสะท้องของแสง
ในขณะที่ด้านข้างปัดวาว เพื่อให้ดูหรูมีคุณค่า .... โครง
ปืนฉีดขึ้นรูปเป็นเนื้อเดียวด้วย พลาสติกโพลิเมอร์ ....
มีน้ำหนักเบา ไม่แพ้เหงื่อ สารเคมี และไม่เป็นสนิม ....
แต่ส่วนตัวเห็นว่า พลาสติกของ bul m มีเนื้อที่แข็งเกินไป
เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ เช่น กล็อค ... การที่ใช้โพลิเมอร์
มาทำโครง ปกติแล้วจะสามารถลดแรงรีคอล์ย ลงได้ถึง
10 % แต่ของ bul m-5 จะลดได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่ ...
อันนี้ไม่แน่ใจ..ครับ
... เสริมความแข็งแรงของโครงปืนด้วยซับเฟลมสเตนเลส
ขนาดใหญ่ และคุลมพื้นที่มาก .... โดยใช้เทคนิคทางการ
สร้างด้วยการใช้กาวผสานซับเฟลม ให้เป็นเนื้อเดียวกับ
โครงโพลิเมอร์ได้เป็นอย่างดี ...จุดนี้เองที่น่าจะเป็นสิ่งที่
สร้างความน่าเชื่อถือได้สูงในด้านความแข็งแรงทนทาน
ของ bul m-5....
.... ลำกล้องของ bul m ว่ากันว่า เป็นลำกล้องระดับแข่งขัน
เสริมความมันวาวภายในลำกล้อง เพื่อลดแรงเสียดทาน
โดยหวังผลด้านความเร็วของกระสุน ... ซึ่งจากการทดสอบ
ของต่างประเทศ ก็ได้ผลตามนั้นจริง ๆ ...ครับ
.... แต่งซิ่งจากโรงงานมาหลายจุด ... ไม่ว่าจะเป็น หงอน
นกสับเจาะโปร่งแนวปืนแข่งขัน , เซาะลายกันรื่นหน้าหลัง
แบบคัสตอม , ห้ามไกหลังอ่อน แบบไฮบีเวอร์เทล ของ
ชิฟ แมค คอร์มิค , ไกเจาะโปร่งแบบคัสตอม , ขยาย
ช่องคายปลอกแบบปืนจากสนามแข่ง , ห้ามไกแบบแทค
ติคอล บริหารง่าย-สวยงาม , ศูนย์ต่อสู้แบบโลว์ โปรไฟล์
ของชิฟ แมคคอร์มิค .... เป็นต้น ...ครับ
.... ข้อมูลเพียงเท่านี้...ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการตัดสินใจ
นะครับ .... แต่ส่วนตัวแล้ว ... ปืนกระบอกนี้ ... มีสิ่งที่ยัง
ไม่ถูกใจเห็นจะเป็นเรื่อง พลาสติกไม่นิ่ม และศูนย์ทั้ง
หน้า - หลัง ที่ใช้สีดำสนิท ... ทำให้เล็งเป้าหมายได้ยาก
... หากจะแต้มจุดขาวแบบทรีดอท ... คิดว่า..น่าจะสมบูรณ์
ขึ้นมากเลยครับ .... ขอให้โชคดีกับการเลือกปืนมาประจำ
กายนะครับ