คำตอบที่ 5
เรื่องจริงไม่ใช่จำลอง
เหตุเกิดที่อำเภอโป่งน้ำร้อนติดชายแดนเขมร ปี 2525 ก็ประมาณ 25 ปีแล้ว ผมตอนทำไร่อยู่ที่บ้านบึงชนังทำไร่มันสัมประหลัง อยู่กับครอบครัว แล้วก็มีลูกจ้างอยู่ 2 คนคืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม หลังจากกินข้าวประมาณ 3 ทุ่มเราก็หลับด้วยความอ่อนเพลียเพราะทำงานมาทั้งวันประมาณตี 1 ผมก็สดุ้งตื่นเพราะหมามันเห่าอยู่ที่ท้ายบ้านท้ายบ้านจะติดกับเขา ผมลุกขึ้นไปแอบดูที่ช่องหน้าต่าง จากแสงจันทร์ข้างแรมผมเห็นเงาตระคุ่มของคนประมาณ 3-4คนในมือของมันจากเงามันเป็นปืน AK47 แน่โจรเขมร ผมปลุกลูเมียให้ลงนอนกับพื้นบอกไม่ต้องตกใจ ผมคว้าลูกซองออโต้บราวนิ่งของเบลเยี่ยม กด 3 นัดซ้อนใส่กลุ่มอยู่ข้างหน้าแล้วรีบย้ายที่กำบังนอนลงกับพื้น กลิ้งไปที่ประตู เสียง AK 47 ดังตอบมาหูดับไปหมดเพราะมันยิงระยะแค่ไม่ถึง 5 เมตร เสียงปืนดังก้องไปหมดในความเงียบ จากแสงไฟที่แลบผมสวนไปอีก 2 นัด แล้วรีบบรรจุกระสุนลงในหลอดแม็กใหม่ แสงไฟและเสียงรถเสียงคนทำให้พวกมันถอยขึ้นเขา ไป ประมาณ 10 นาที่ตชด.ที่อยู่ห่างจากบ้านผมประมาณ 1 กม.ได้ยินเสียงปืนก็เลยรีบมาที่เกิดหลังจากเคลียที่เกิดเหตุ พบศพโจรเขมร 3 ศพ อยูที่หน้าบ้าน 2 ศพ ตรงกระตูหน้าบ้านอีก 1 ศพ และรอยเลือดพร้อมลอยลากคงมีคนเจ็บ ขึ้นเขาไปเนื่องจากเป็นเวลากลางคืนทางตชดเลยไม่ตาม นี่ถ้าไม่ได้ปืนลูกซองผมคงไม่รอดแน่ (ขณะเกิดเหตุผมไม่ใช้ไฟฉายเลยเพราะกลัวโดนสวน)บ้านผมพรุนไปหมดนับปลอกกระสุนAK 47 ได้ 130 นัด นี่ถ้ามันแบก RPG มาด้วยผมคงตายแน่ๆ ตชดแนะนำให้ทำบังเกอร์ในบ้านด้วย ผมทำไร่อีก ปีกว่าๆพ่อก็เลยบอกให้ขายเพราะช่วงนั้นโจรเขมรจะชุมมากเพราะความอดหยากก็เลยต้องข้ามมาปล้นอาหารทางฝั่งไทย ที่ต้องเอาชีวิตรมาทิ้งก็มาก ชาวบ้านตายเพราะมันก็ไม่น้อยนี่แหละสงครามไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย