คำตอบที่ 1
       หน้าตาปืนซุ่มยิงขนาด .50 นิ้ว BMG.ก็ประมาณนี้แหละครับ กระสุนขนาดนี้ปกติใช้สอยเครื่องบินรบแบบใบพัดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง พอมาสมัยนี้ยิงเครื่องบินไอพ่นไม่ถึง/ไม่ทันกันแล้ว เลยต้องเอามาใช้ยิงหัวคนเล่นแทน
ด้วยขนาดและน้ำหนักมหึมาของหัวกระสุน ทำให้มีระยะหวังผลที่ไกลมาก แถมแรงปะทะสูงจนที่กำบังขนาดผนังอิฐบล็อกหรืออิฐมอญไม่สามารถต้านทานมันได้ เลยเป็นตัวเลือกที่เอาไว้ใช้สอยพวกสไนเปอร์ด้วยกันที่ชอบแอบอยู่ตามตึกในสงครามกลางเมืองซาราเจโว แบบยิงถล่มให้ทั้งผนังและคนกระจุยไปด้วยกันเลยไม่ต้องรอให้โผล่หัวออกมา ถูกเลือกมาใช้ในสงครามอิรักเพราะเป็นทะเลทรายที่โล่งๆ ทหารไอ้กันจะได้ไม่ต้องเสี่ยงตายเข้าไปยิงในระยะที่อาจถูกตามล่าได้ง่ายๆเมื่อเสร็จภารกิจแล้ว แบบว่ายิงไปแล้วจะได้มีเวลาหนีทันไง ไม่งั้นพวกแขกมันสวนด้วย RPG.แน่ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       แต่ในความเห็นของผม ทหารที่แน่กว่าทหารอเมริกัน น่าจะเป็นทหารอิสราเอลนะครับ ปืนซุ่มยิงของทหารยิวที่ใช้สอยพวกปาเลสไตน์นี่ก็คือ Ruger 10/22 แบบที่พวกเรามีใช้อยู่นี่เองแหละครับ
เดินไปสอยไปตามถนนหนทาง ทำยังกับว่าว่าสอยกะรอก กะแต ตามสวน ระยะหวังผลก็แค่ไม่เกิน 100 เมตรแบบนี้ซิถึงจะเรียกว่าแน่จริง แต่ถ้าโดนสวนกลับมาด้วยอาก้าก็คงต้องใช้ปืนกลการิลที่สะพายอยู่เอามาสู้นะ ไม่งั้นจะถือว่าต่อให้มากไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       อ้าวยังงี้อำเภอจะหาเรื่องออกใบอณุญาตรึป่าว----------.22เป็นอาวุธสงครามห้ามประชาชนมีไว้ครอบครองเหมือน.45และ357น่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เอ่อ...ผมลงข้อมูลเกี่ยวกับปืนไรเฟิลรุ่นนี้ไปหลายรอบแล้วเด้อ มันคืิอปืนไรเฟิลซุ่มยิง Barrett M82 ออกแบบโดยนาย Ronnie Barrett ในปีค.ศ.1982

ข้อมูลจำเพาะ
ขนาดลำกล้อง : .50 BMG (12.7 x 99 mm. NATO)
ระบบปฏิบัติการ : Short Recoil, Semi-Automatic
ระยะยิงหวังผล : 1,448 มม.
ความยาวลำกล้อง : 737 มม.
ความจุกระสุน : 10 นัดบรรจุด้วยซองกระสุนแบบกล่อง
กำลังขยายสูงสุดของกล้อง : 10 X
น้ำหนักตัวปืนเปล่า : 12.9 กก.
ความเร็วปากลำกล้อง : 2,800 ft/s หรือ 854 m/s (ใช้กระสุน M33 Ball)
ระยะยิงไกลสุด : 1,800 ม.
ความแม่นยำ : 1.5 - 2.0 MOA (กลุ่มกระสุนในระยะยิงเมื่อเทียบจากอัตราส่วนกลุ่มกระสุน 1 นิ้วในระยะยิง 100 หลา)

ส่วนการยิงทะลุฝาผนังบ้านเข้าไปนั้น ต้องดูกระสุนก่อนครับว่าเป็นแบบไหน ถ้ายิงใส่บ้านธรรมดาก่ออิฐถือปูนทั่วไปใช้ลูกธรรมดา (Ball) ก็พอจะทะลุทะลวงเข้าไปได้บ้างแล้วนะครับ แต่ไม่ได้ทะลุเข้าไปง่ายดายเหมือนยิงกระดาษเสียหน่อย แต่ถ้าไปเจอพวกผนังคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 20 มม.หรือมีชั้นแผ่นเหล็กกล้าหุ้ม อันนี้คงต้องพึ่งอำนาจการยิงของกระสุนเจาะเกราะธรรมดา (AP : Armor-Piercing) กับกระสุนเจาะเกราะเพลิง (API : Browning Armor-Piercing-Incendiary) แล้วละครับ แต่ผมว่าถ้าศัตรูอยู่ในบ้านหรือในรูก็สู้ปืนพ่นไฟไม่ได้หรอกครัู้บ พ่นเข้าไปทีวิ่งออกมาียังกับมดแตกรัง ไฟงี้ลุกท่วมตัว กลิ่นน้ำมัน กลิ่นเนื้อไหม้เหม็นคลุ้งไปหมด

แล้วปืนไรเฟิลซุ่มยิง Barrett M82 ยังไม่มีการจัดลงหน่วยทหารใดๆทั้งสิ้นนะครับ เนื่องจากอำนาจการยิงที่รุนแรงเกินไป และที่สำคัญราคาค่าตัวของปืนมันแพงเกินไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ส่วนนี้หน้าตาของกระสุน .50 BMG โดยท่าน submachine ครับ สนใจดูกระสุนแบบอื่นๆอีกเชิญที่ http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/question.asp?page=1&id=4021

1) .50" Browning Ball M33 (USA) ลูกธรรมดา

2) .50" Browning Tracer M1 (USA) ลูกส่องวิถี

3) .50" Browning Armor-Piercing M1 (USA) ลูกเจาะเกราะ

4) .50" Browning Armor-Piercing M2 (USA) ลูกเจาะเกราะ

5) .50" Browning SLAP (USA)

6) .50" Browning Incendiary M1 (USA)

7) .50" Browning Armor-Piercing-Incendiary M8 (USA) ลูกเจาะเกราะเพลิง

8) .50" Browning Armor-Piercing-Incendiary-Tracer M20 (USA) ลูกเจาะเกราะเพลิงส่องวิถี

9) .50" Browning Test, High Pressure Test M1 (USA)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       แล้วของค่ายโซเวียตมีมั่งไหมครับอยากเห็น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ของค่ายโซเวียตก็ก็อปปี้มาจากของค่ายโลกเสรีนั่นละครับ เพียงแต่ใช้ปลอกกระสุนยาวกว่าคือ 108 มม.เป็น 12.7x108 มม.เท่านั้น

ตอนนี้ก็เริ่มมีการแปลงมาใช้ปลอกยาว 99 มม.เหมือนของฝ่ายตะวันตกแล้วครับ เนื่องจากเหตุผลด้านการผลิตและการตลาด

แสดงความคิดเห็นย่อย