คำตอบที่ 1
       .380 เป็นปืนกึ่งอัตโนมัติ ส่วน .38 ส่วนใหญ่เป็นปืนสั้นชนิด รีวอลเวอร์ ถ้าความแรง .38 น่าจะแรงกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ปืน กึ่งอัตโนมัต .380 เกือบทั้งหมดที่ผมเคยเห็นมา เป็นระบบรีคอย ดังนั้นลูกกระสุนจะค่อยมีให้เลือกหลากหลายเท่า .38 อาจจะแรงน้อยกว่า นิดหน่อย แต่ก็เพียงพอต่อการเข้าคุกข้อหา ฆ่าคนตาย ต่างจาก .32 ออโต้ ที่ .32 ออโต้ที่นับวันจะหาลูกยาก ข้อดีของปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .380 มักจะพบว่าค่อนข้างแม่นยำ ยิงซ้ำได้เร็ว แรงรีคอยไม่รุนแรง อนุภาพของกระสุนเพียงพอต่อการฆ่าคน หรือป้องกันตัว และส่วนใหญ่จะออกแบบปืนมาให้มีขนาดกระทัดรัด และมีไม่น้อยที่ใช้โครงอัลลอย ผมเห็นคุณสุภาพสตรี นิยมใช้กันมาก เพราะส่วนใหญ่ยิงแล้วจะชอบใจ ผมไม่เข้าใจเหมอนกันว่าทำไมเขาไม่ทำแบบลูกดกมา แต่เข้าใจว่าคงจะทำมาเพื่อพกซ่อน

พูดถึงความแรงของกระสุน ผมอยากตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม่เราต้องใช้กระสุนที่แรงมากๆ ติดปืนในเมื่อเราใช้ปืนแค่ป้องกันตัว แต่ถ้าเราจะจู่โจม หรือตั้งรับในที่มั่น ผมว่าน่าจะเหมาะกว่า ทุกวันนี้ผมใช้ลูกซ้อม .38 หัวตัดติดปืน พกซ่อนของผม แต่ก็เลือกลูกสดๆหน่อย ผมว่ามันหยุดคนได้ดีกว่าลูกแรงสูงเสียอีก(อันนี้พรรคพวกที่เขาเคยใช้ เขาเล่าให้ฟัง ) อีกอย่างเราคงไม่ได้ยิงทะลุไม้หนาๆ นิ้วสองนิ้ว หรือเหล็กหนาๆ เพื่อป้องกันตัวหรอกครับ การยิงป้องกันตัวส่วนมากเกิดในที่โล่ง ครับ ไอ้ประเภทยิงกันไปวิ่งหลบกันไปอันนั้นมันในหนังครับ ในชีวิตจริงแค่ได้ยินเสียงปืน ต่างฝ่ายก็เปิดแนบแล้ว โจรมันก็กลัวตายเหมือนกับเรานี่แหละครับ

ถ้าได้ปืน .380 ราคาไม่เวอร์มาก สภาพดีๆหน่อย ส่วนมากก็มักจะสภาพดีเพราะเจ้าของไม่ค่อยยิง ก็น่าสนใจ สมัยก่อนผมยังเคยอยากได้ CZ83 ยิ่งตัวที่เขาออกมารุ่นหลังๆ งานเรียบร้อย น่าสนใจครับ แต่มีเพื่อนจะขายโคลท์ .380 ราคา เจ็ดหมื่นกว่า อันนี้ขอบายครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       นี่ล่ะครับคำตอบที่ผมต้องการ ขอบคุณครับ
เป็นอันว่า .38 รุ่นแรงน้อยกว่า .380 ใช่เปล่าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ลองอ่านตาม link นี้เลยครับ http://www.gunstactics.com/readarticle.php?article_id=14 ละเอียดมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       คำตอบที่ 3
นี่ล่ะครับคำตอบที่ผมต้องการ ขอบคุณครับ
เป็นอันว่า .38 รุ่นแรงน้อยกว่า .380 ใช่เปล่าครับ


จาก ปิยะ คนบ้านนอก 117.47.46.173 ศุกร์, 13/2/2552 เวลา : 21:37

--------------------------------------
ผมไม่ว่าอย่างนั้น แต่ แต่นะครับ กระสุน .38 มีขนาด หัว ความแรง (ในบ้านเรา)ให้เลือกมากกว่า ครับ

ปล.ผมไม่ค่อยเชื่อพวกนักทดสอบปืนเท่าไหร่ครับ บางรายรับเงินเขา จนบางทีทะเลาะกัน วิกแตก ก็มี ทดสอบปืนกระบอกไหน ไม่เห็นว่ามันไม่ดี ผมเชื่อพรรคพวกของผมที่มีหน้าที่ ใช้ปืน พวกนี้(พวกแถวหนึ่ง)ยิงของจริงมาเยอะครับ บางคนยิงมากจนประสาทหลอน จนต้องเอามาเฝ้าสนามยิงปืน ทั้งที่ยังหนุ่มๆ อยู่ พวกแถวสอง เห็นลงแข่งปืนยาวอยู่หลายคน ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       อืม..หรือว่าพอๆกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ลูกซ้อมหัวตัด .38 แรงน้อยกว่า ลูกจริง .380 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ลองอ่านตาม link นี้เลยครับ http://www.gunstactics.com/readarticle.php?article_id=14 ละเอียดมาก


จาก ติ๊ก 58.8.187.134 เสาร์, 14/2/2552 เวลา : 08:18

................................................................

ขอบคุณมาก ดีจริงๆ รู้มากขึ้นเยอะเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       กรณีเป็นลูกธรรมดาเหมือนกัน ขอความคิดเห็นส่วนตัวหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       กระสุน .380 AUTO ทั่วๆไปน้ำหนักหัวกระสุนอยู่ที่ประมาณ 60-100 เกรน และกระสุน .38 Spl. หนักประมาณ 158-170 เกรน ทั้งสองชนิดมีความเร็วหัวกระสุนพอๆกันคือ 850-1,000 ฟุตต่อวินาที

ดังนั้น ในความเร็วที่เท่ากันหัวกระสุนที่หนักกว่าย่อมมีแรงปะทะหรือความรุนแรงมากกว่า

ผมเลยสรุปว่า กระสุน .38 Spl. รุนแรงกว่า .380 Auto ครับ

แต่รูปทรงของปืนกึ่งอัตโนมัติ .380 AUTO สามารถพกซ่อนได้แนบเนียนกว่าปืนลูกโม่ขนาด .38 Spl.และมีวงกระสุนที่มากกว่าประมาณ 2-3 นัดขึ้นไป มันก็มีข้อดีตรงนี้แหละครับ ขนาด .380 AUTO เลยยังเป็นที่นิยมกันอยู่ในรูปแบบปืนพกซ่อนสำหรับผู้มีฐานะหน่อย เพราะกระสุนมันแพงง่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       มี 380 อยู่กระบอกนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       กระจ่างครับพี่น้อง ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ผมก็อยากได้ .380 แต่มันไม่มีกระสุนซ้อมยิงให้ยิงเล่นนี่สิครับ ตอนนี้เลยมามองๆ .38 s&w bodyguard

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       กระสุนซ้อมมีขายครับ

ของ Bullet master

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       เคยมีคนเอากระสุนหน้าแปลกๆมาลงถามว่าเป็นกระสุนอะไร? เพิ่งเปิดเจอในเวปว่า กระสุนที่มีหัวเป็นพลาสติกสีสดใสนี่ เป็นกระสุนใช้ฝึกในการต่อต้านผู้ก่อการร้าย หัวกระสุนที่เป็นพลาสติกบรรจุสีไว้ ยิงโดนตรงไหนก็มีสีเลอะที่จุดนั้น

ระยะยิงให้แม่นยำก็แค่ 7-10 เมตร เพราะไม่มีดินขับ ใช้แค่แรงดันของแก๊บท้ายปลอก คล้ายๆปืนเพ้นท์บอลแต่นั่นใช้แรงดันก๊าซดันลูกสีให้โดนเป้าหมาย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       คำตอบที่ 14
กระสุนซ้อมมีขายครับ

ของ Bullet master
----------------------------
ของท่านจะขายเท่าไหร่ครับ (ราคาแบบกันเองๆน่ะ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
      
คำตอบที่ 16

ของท่านจะขายเท่าไหร่ครับ (ราคาแบบกันเองๆน่ะ)

จาก กระบี่อันดามัน

++++++++++++++++++++++++++

555+ไม่ขายครับ มีแค่ที่เห็นแหละครับผมซื้อที่สนามยิงปืนแถวบ้าน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       อิอิอิอ...แหม ก็นึกว่าจะปล่อย จะได้ขอราคามิตรภาพ ผมคงต้องไปท่องคาถาเพื่อไปสะกดจิตให้เจ้าของปืนเขาปล่อย S&W ฺBodyGuard ให้ผมแล้วหละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ขอรูปสมิธ 2 นิ้ว (ไม่มีนก) หน่อยครับพี่น้อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ผมมีตัวนี่ครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       เอาสเปคของกระสุนยี่ห้อ PMC Starfire มาให้ดูกัน

ขนาด .380 หัวรูหนัก 95 เกรน ความเร็ว 925 ฟุต/วินาที แรงปะทะ 180 ฟุต/ปอนด์
ขนาด .38+p หัวรูหนัก 125 เกรน ความเร็ว 950 ฟุต/วินาที แรงปะทะ 251 ฟุต/ปอนด์

หัวกระสุนบานแฉ่ง ขยายขนาดหน้าตัดออกไปได้เกือบเท่าตัว สมัยนี้เลือกใช้กระสุนที่มีคุณภาพสูง ออกแบบหัวกระสุนดีๆ หน้าตัดแค่ .38 ก็พอแล้วครับในการใช้งาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       ท่านสมีเจี๊ยบ อุ๊ย สมีเฒ่า ครับ ลูก .38+p ใช้กับปืนของท่านคำก้อน ที่โชว์อยู่ด้านบนน่ะ ได้หรือเปล่าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       ลูกปืนผมใช้กับปืนใครก็ได้ครับ แต่ปืนใครพังผมไม่รับรู้ด้วยนา....55555

ระดับกระสุน .38+P พอจะใช้ได้กับปืนสมิธฯโครง J ได้อยู่ครับ มันไม่ถึงกับโม่แตกหรอก แต่ไม่ควรใช้บ่อยๆเพราะมันทำให้ปืนทรุดโทรมเร็วกว่าปกติ ผมเองมีสมิธฯ M 36 รุ่นแรกๆ ยังเคยเอากระสุนของบุลเล็ต มาสเตอร์ หัวหนัก 170 เกรน +P+ ยิงซะด้วยซ้ำไป(เสียวปืนแตกเหมือนกัน) กดไป 2 โม่ยังไม่เป็นไรเลย
แต่ถ้าเป็นสมิธฯโครงใหญ่ขึ้นไปอย่างโครง K , ล่ะก็ใช้ได้สบายมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       คำตอบที่ 2
ปืน กึ่งอัตโนมัต .380 เกือบทั้งหมดที่ผมเคยเห็นมา เป็นระบบรีคอย
จาก 230e สีแดง

+++++++++++++++++++++++
ขอท้วงท่าน 230e สีแดง นิดนึง
ปืน .380 โดยมากจะเป็นระบบโบลวแบ็ค(Blow back) ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ครับถูกต้อง ครับ ผมว่าจะแก้หลายครั้งแล้ว มันแก้ไม่ได้

ขอบพระคุณครับที่ติง ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       อยากดูรูปสมิท โครง เจตริน 2 นิ้ว ไม่มีนก ทุกรุ่น ใครมีแบ่งปัมผมหน่อยครับ พี่น้อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       " เจตริน" ยาวแค่ 2 นิ้วเองเหรอ? เพิ่งรู้นะเนี่ย

เข้าเรื่องดีกว่า ปืนสมิธ แอนด์ เวสสัน โครงเล็กสุดคือ โครง J ที่ทำมาในรูปแบบซ่อนนกไว้ในโครงปืนก็มีแค่ 2 แบบเท่านั้น คือ แบบ บอดี้การ์ด อย่างของท่านคำก้อนซึ่งแบบนี้ มีโครงหุ้มนกไว้แต่มีแป้นนกให้ง้างนกได้ด้วย ทำให้ยิงได้ทั้ง ดับเบิ้ล/ซิงเกิ้ล (รูปร่างเหมือน"อูฐ"เนอะ)
ส่วนอีกแบบในรูปนี้ เป็นแบบเซนเทนเนี่ยน ใช้โครงหุ้มนกไว้มิดชิด ง้างนกจากภายนอกไม่ได้ ใช้ยิงดับเบิ้ลอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น ทั้งสองแบบมีนกนะครับ แต่ซ่อนเอาไว้ภายในโครงปืนเท่านั้น ต้องเรียกว่าปืนนกใน ไม่ใช่ปืนไม่มีนก......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       พึ่งขอเขามาครับ ทะเบียนปี 18

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       ขอบคุณมากครับ เป็นบุญตา แต่ว่าของกระบี่อันดามันเข้าตาครับพี่น้อง ถ้าสภาพสวยเดิม เขาซื้อหากันประมาณเท่าไหร่
(เรื่องราคาถ้าไม่สะดวกตอบ ก็ไม่เป็นไรนะครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       ของเก่าราคาก็ไม่น่าจะเกินครึ่งของปืนรุ่นปัจจุบัน อย่าง สมิธฯ ชีพ 637 ก็ประมาณ 70000

แสดงความคิดเห็นย่อย