คำตอบที่ 1
       การขายปืนห้ามโอนภายใน 5 ปีทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย??? ก็ขายหลังจาก 5 ปีไปแล้วซิครับ...ถามด้าย

ล้อเล่นนะอย่าโกรธกันเลย คือทางการเค้าก็ห้ามอยู่ทนโท่ไม่ให้โอนกันภายใน 5 ปี เพราะปืนโครงการมันราคาถูก ขายให้ข้าราชที่มีความจำเป็นต้องใช้ปืนป้องกันตัวไม่ใช่ขายปืนราคาถูกเอาไปขายต่อหากำไร หรือทำตัวเป็นนายหน้าซื้อปืนแล้วขายให้กับคนอื่น
ทีนี้ถ้าคุณอยากขายเอาเงินมาใช้จริงๆเพราะเห็นว่าเงินจำเป็นกว่าปืน การขายโดยวิธีโอนลอยก็ทำได้ครับไม่ผิดกฎหมายฉบับไหน แต่ที่เค้ากลัวกันตรงที่ว่าคนซื้อปืนไป ก็โอนปืนเป็นชื่อของเค้าไม่ได้เพราะทะเบียนมันตีตราหราอยู่ว่าห้ามโอนภายใน 5 ปี และถ้าคนที่ซื้อปืนคุณไปดันเอาปืนที่มีชื่อคุณในทะเบียนไปยิงคนตายหรือเอาไปประกอบอาชญากรรมอื่นๆคุณก็ซวยแน่ๆ
ถ้าตำรวจเค้าจับได้หรือได้ปืนมาเป็นของกลาง การตรวจสอบจากทะเบียนปืนก็จะทำให้คนที่มีชื่อในทะเบียนปืนตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับผู้กระทำผิดได้ ทั้งๆที่ขายปืนและโอนลอยไปนานแล้วนั่นแหละครับ
ถ้าคุณอยากได้เงินโดยเสี่ยงที่จะต้องไปแก้คดีแบบนี้ ก็ขายไปเถอะครับไม่มีใครห้ามได้ ตัวใครตัวมัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เยี่ยม ครับ คุณ สมีเฒ่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ที่ท่านสมีหนุ่ม..อุ๊ยสมีเฒ่า ว่ามาน่ะถูกต้องแล้วครับ


แล้วท่านเป็นผู้ที่จะซื้อหรือจะขายล่ะครับ ของผมทีทั้งห้ามโอนภายใน 5 ปี และห้ามโอนยกเว้นมรกดตกทอด แต่ผมไม่ขายทั้งสองอย่าง เพราะซื้อใหม่มันแพง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ถ้าร้อนเงินจริงๆก็เซ็นสัญญาซื้อขายลงวันที่ที่ปืนสามารถโอนได้ไว้ ปืนเก็บไว้กับเราก่อนครบ 5 ปีแล้วค่อยไปโอนกัน ถ้าขายในราคาที่ซื้อมาหรือถูกกว่ามีคนเอาแน่ตรับ 5 ปีไม่นานเกินรอแถมอีก5ปีราคาไม่รู้จะขึ้นอีกเท่าไร แต่ถ้าจะขายเอากำไรหมดสิทธิ์ครับไม่มีใครซื้อหรอกครับ ถ้าคนซื้อกลัวเราเอาไปยิงเล่นจนปืนโทรมก้อลงน้ำมันใส่กล่องล็อคกุญแจเลยครับ ยากมั้ยครับ ถึงเวลาคนขายอย่าไปโกงเขาละเจอคดีอาญาแน่.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       การขายปืนสวัสดิการที่ห้ามโอน ไม่ได้เป็นการผิดกฎหมาย แต่ผิดคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       "การขายปืนสวัสดิการที่ห้ามโอน ไม่ได้เป็นการผิดกฎหมาย แต่ผิดคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ครับ "
ประกาศ คำสั่ง กฏกระทรวง มันก็คือกฏหมายครับ ที่ถูกออกโดยฝ่ายบริหาร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       แล้วถ้าขายฝากละครับ หรือจำนำ ผลจะเป็นอย่างไรครับ น่าจะทำได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ขอครั้งเดียว เดี๋ยวจะออกไปแล้ว

คำตอบที่ 6
"การขายปืนสวัสดิการที่ห้ามโอน ไม่ได้เป็นการผิดกฎหมาย แต่ผิดคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ครับ "
ประกาศ คำสั่ง กฏกระทรวง มันก็คือกฏหมายครับ ที่ถูกออกโดยฝ่ายบริหาร



จาก ticker 117.47.73.115 อังคาร, 20/7/2553 เวลา : 10:08
--------------------------------------------------------------------------------

รัฐไม่สามารถจำกัดสิทธิในการจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของประชาชนที่ได้มาและครอบครองถูกต้องตามกฎหมายได้ เช่นห้ามไม่ให้เราโอนปืนให้แก่ลูกเราหรือผู้อื่น คำสั่งกระทรวงมหาดไทยไม่ได้สั่งห้ามให้ชาวบ้านอย่างเราโอนปืนสวัสดิการ แต่เป็นเงื่อนไขของโครงการในการจัดจำหน่ายอาวุธปืน บรรดาประกาศหรือคำสั่งดังกล่าวเป็นการสั่งให้นายทะเบียนใช้อำนาจในฐานะนายทะเบียนในการใช้ดุลย์พินิจในการออกใบ ป3 ให้กับผู้ที่ขอรับโอนปืนกระบอกดังกล่าว ประกอบกับผู้ซื้อได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขในโครงการแล้วจึงขอเข้าร่วมโครงการ ดังนั้นเมื่อได้ปืนมาแล้วจะตะแบงว่าที่ยอมเข้าโครงการเพราะแค่อยากได้ปืน เมื่อได้มาแล้วก็จะขอไม่ยอมรับเงื่อนไขของโครงการอีกต่อไป จะชอบหรือไม่

ถามว่าถ้านายทะเบียนบ้าจี้ไม่เชื่อประกาศหรือคำสั่งดังกล่าว แต่จัดการให้มีการโอนปืนกระบอกที่ห้ามโอนภายใน 5 ปี ใครจะเป็นผู้รับผิด คนรับผิดไม่ใช่ชาวบ้าน แต่เป็นนายทะเบียน โทษที่ได้รับคือขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ทำผิดตาม ม.157

ดังนั้น ดังนั้น ดังนั้น ประกาศหรือคำสั่งดังกล่าว ไม่ได้เป็นการสั่งการให้ประชาชนกระทำหรือไม่กระทำการใดๆ แต่เป็นการสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำหรืองดกระทำ ประกาศหรือคำสั่งนั้นจึงไม่ใช่กฎหมาย แม้จะออกโดยฝ่ายบริหารตามความเข้าใจของท่าน ผมเข้าใจแค่นี้ เรียนมาน้อย


 แก้ไขเมื่อ : 31/8/2553 13:14:55

 แก้ไขเมื่อ : 31/8/2553 13:22:00

 แก้ไขเมื่อ : 31/8/2553 13:25:48

ถูกต้อง นะครับบบบบ จาก : Roengrit(Roengrit) 26/1/2554 16:28:28 [180.180.147.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ที่นี่ยังต้องการคนที่รู้จริงคอยแนะนำครับท่าน 230e ได้อ่านความเห็นของท่านแล้ว
กระจ่างครับได้คำตอบที่ชัดเจนครับ
ผมว่าแค่ไปยื่นเรื่องก็โดนด่าแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ผมซื้อมาแล้วครับ 2กระบอก กระบอกแรก smith M 60 ซื้อมาจาก สห.ทหารอากาศ 15000 บาท ที่หัว ป 4. เขียนห้ามโอนภายใน 5 ปี ผมเลยทําสัญญา 2ใบ เขียนเองถือกันคนละใบ มีพยาน 2 คนแล้วเซนต์สลักหลัง ป 4.พร้อมสําเนาบัตรและทะเบียนให้ผมมา ผมถืออยู่ 5ปี จึงไปโอน ตอนนี้ ป 4.เป็นของผมเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนกระบอกที่ 2 cz 75 B ซื้อนายทหารเรือ 30000 บาท ทําเหมือนกระบอกแรก แต่กระบอกที่ 2 ที่หัว ป 4.ไม่เขียนห้ามโอนภายใน 5 ปี ผมเลยไปขอ ป 3.ดู ทางอําเภอแจ้งโอนไม่ได้เป็นปืนสวัสดิการเจ้าของเดิมถือครองยังไม่ครบ 5 ปี ผมก็ถืออยู่จนครบ 5 ปีแล้วไปขอ ป 3.ได้มาเรียบร้อย พอไปแจ้งจําหน่ายปืน เจ้าของเดิมเสียชีวิตเสียแล้ว ต้องไปโอนให้เป็นของลูกสาวซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกก่อน แล้วก็โอนมาเป็นชื่อผมครับ เมื่อวานนี้ ป 4.ออกเป็นชื่อผมเรียบร้อยแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ผมทำสัญญาจำนำครับ และเอาสัญญาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ใกล้เคียงไว้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
      
แล้วแต่ท่านว่า จะสู่ขอตามประเพนี หรือ จะฉุด...

โอ้....เข้าใจเปรียบ จาก : eddypajero(eddypajero) 29/12/2553 13:33:14 [223.207.90.252]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ถ้าให้ถูกกฏหมายจริงๆ ก็ต้องรอให้ครบ 5 ปี จึงทำการรับโอนมาเป็นชื่อของท่าน ไม่งั้น ถ้าปืนมาอยู่กับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มี/ ใช้ อวป. กระบอกนั้น ก็เป็นการผิดกฏหมายอยู่ดีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ตามมาหาความรู้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ในหลักเกณฑ์ฯ ก็แจ้งไว้แล้วนี่ครับ
ว่า ทำอย่างไรถึงจะไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าวครับ คริ คริ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       คำตอบที่ 6 ชัดเจนถูกต้องแล้วครับ ถ้านายทะเบียนอาวุธปืนคนไหนฝ่าฝืนก็เข้าข่ายมีความผิดตาม มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิดทั้งทางวินัย และทางอาญา โดยทางวินัยอาจถึงขั้นไล่ออก แต่ก็เคยมีนายทะเบียนบางท้องที่เขากล้าทำเพราะได้รับผลประโยชน์ที่สูงจนไม่กล้วโดนไล่ออก (ขอสงวนไม่บอกว่าอำเภอไหน) เอาเป็นว่าวัตถุประสงค์ของโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดการเป็นอย่างไร ก็ควรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์นั้นก็แล้วกัน อย่าไปหาทางฝืนเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       คำตอบที่ 16
คำตอบที่ 6 ชัดเจนถูกต้องแล้วครับ ถ้านายทะเบียนอาวุธปืนคนไหนฝ่าฝืนก็เข้าข่ายมีความผิดตาม มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิดทั้งทางวินัย และทางอาญา โดยทางวินัยอาจถึงขั้นไล่ออก แต่ก็เคยมีนายทะเบียนบางท้องที่เขากล้าทำเพราะได้รับผลประโยชน์ที่สูงจนไม่กล้วโดนไล่ออก (ขอสงวนไม่บอกว่าอำเภอไหน) เอาเป็นว่าวัตถุประสงค์ของโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดการเป็นอย่างไร ก็ควรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์นั้นก็แล้วกัน อย่าไปหาทางฝืนเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Pa Long 110.49.205.138 อังคาร, 28/12/2553 เวลา : 10:02
------------------------------------------------------------------------------

คำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ห้ามไม่ให้นายทะเบียน เอาง่ายๆนายอำเภอท้องที่ ออก ป.3 ให้แก่บุคคลที่ขอรับโอนปืนที่เข้าร่วมโครงการ ภายใน 5 ปี ทำให้ใครเสียหายตาม ป.157 หรือครับ ผมว่ามันไม่เข้าข่ายองค์ประกอบของมาตรานี้ การที่นายทะเบียนท้องที่ไม่ปฏิบัติตามคำสี่งของกระทรวมหาดไทย โดยปล่อยให้ออก ป.3 แก่ผู้ขอรับโอนปืนหรือปล่อยให้มีการตัดโอนปืนที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ใครเสียหายหรืออันนี้ต้องพิสูจน์ ผู้เป็นเจ้าของปืน ผู้รับโอน ผู้ออก ป.3 ผู้ตัดโอนปืน ใครเสียหายที่เข้าองค์ประกอบของ ป.157 หรือครับ

ขออนุญาตลอกเขามา ครับ


กฏหมาย: มาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต...เป็นอย่างไร?
ขณะนี้สังคมให้ความสนใจเรื่องมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากประชาชนตื่นตัวกับเรื่องสิทธิและเสรีภาพกันมากขึ้น แนวโน้มที่ประชาชนจะเรียกร้องเอาผิดกับเจ้าพนักงานเมื่อพบเห็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดต่อหน้าที่จึงมีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยหลักแล้วมาตรานี้เป็นเรื่องการเอาผิดเจ้าพนักงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ดังนั้นเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไปและเพื่อประโยชน์สูงสุดของการบังคับใช้กฎหมาย จึงควรศึกษาว่าหลักกฎหมายของมาตราดังกล่าวมีว่าอย่างไร

เหตุใดจึงต้องมีการบัญญัติเรื่องการลงโทษเจ้าพนักงานไว้โดยเฉพาะ

เนื่องจากบุคคลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานนั้นถูกกำหนดให้มีบทบาทในสังคมที่เหนือกว่าบุคคลธรรมดาบางประการ ซึ่งมีผลมาจากอำนาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติและต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย จึงต้องมีการบัญญัติกฎหมายขึ้นมาเพื่อคุ้มครองและควบคุมบุคคลผู้เป็นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ในการคุ้มครองเจ้าพนักงานจะต้องมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักงานปฏิบัติการในหน้าที่ หากมีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติตามหน้าที่ ผู้กระทำต้องรับโทษในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือ การทำร้ายเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติตามหน้าที่มีผลให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้น เป็นต้น ในขณะที่การควบคุมเจ้าพนักงาน กฎหมายก็ได้บัญญัติขึ้นมาเพื่อจำกัดขอบเขตการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานไม่ให้กระทำการเกินกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานนี้ได้บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

จะเห็นได้ว่า เจ้าพนักงานนั้นเป็นบุคคลที่กฎหมายกำหนดให้ทั้งอำนาจ หน้าที่และความรับผิดในการปฏิบัติการ ซึ่งอาจได้รับทั้งคุณและโทษจากบทบัญญัติของกฎหมายจึงต้องกระทำการด้วยความระมัดระวัง และหากกระทำการนอกขอบเขตที่กฎหมายให้ไว้ ก็มีมาตรการลงโทษเจ้าพนักงานไว้เป็นการเฉพาะซึ่งมีบทลงโทษที่หนักยิ่งกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป

ใครคือเจ้าพนักงาน...?

เจ้าพนักงาน หมายความถึง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย ซึ่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2490 ได้อธิบายถึงความหมายของเจ้าพนักงาน ว่าหมายถึง “ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งโดยทางการของรัฐไทย ให้ปฏิบัติราชการของรัฐไทย” จากคำพิพากษานี้จึงสามารถวางองค์ประกอบของการเป็นเจ้าพนักงานได้ 2 ประการ คือ

1.ต้องมีการแต่งตั้ง และ

2.เป็นการแต่งตั้งให้ปฏิบัติราชการ

กล่าวคือ ถ้าไม่มีการแต่งตั้งแม้จะได้ปฏิบัติราชการก็ไม่เป็นเจ้าพนักงาน หากจะเอาผิดก็ต้องมีกฎหมายบัญญัติขึ้นอีกโดยเฉพาะ หรือมีการแต่งตั้งหรือมอบหมายให้มีหน้าที่โดยเฉพาะแต่มิได้แต่งตั้งให้ปฏิบัติราชการ ก็ไม่เป็นเจ้าพนักงานเช่นเดียวกัน เช่น ราษฎรช่วยจับคนร้ายแม้จะเป็นงานของทางราชการแต่ราษฎรผู้นั้นก็ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน การที่นายอำเภอตั้งราษฎรคุมผู้ต้องหาไม่ทำให้ราษฎรเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมผู้ต้องหานั้น ราษฎรปล่อยผู้ต้องหาจึงไม่เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานปล่อยผู้ต้องคุมขังให้หลบหนีไป (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2474) หรือในกรณีที่ผู้ปฏิบัติงานในองค์กรของรัฐ เช่น รัฐวิสาหกิจ อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปา ที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานแต่ปฏิบัติหน้าที่ราชการก็ไม่เป็นเจ้าพนักงาน เพราะไม่มีการแต่งตั้งให้ปฏิบัติราชการ จึงต้องมีกฎหมายเข้าไปควบคุมและคุ้มครองอีกฉบับหนึ่ง คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของพนักงานในองค์กรของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 เป็นต้น

ในทำนองเดียวกัน แม้จะมีการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ แต่ถูกให้ไปทำงานอื่นนอกหน้าที่ราชการของตน ก็ไม่เป็นเจ้าพนักงาน เช่น ให้ข้าราชการครูไปทำงานคุรุสภาซึ่งไม่ใช่หน้าที่ราชการจึงไม่เป็นเจ้าพนักงาน หรือ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2499 ที่ว่า “หนังสือข่าวทหารอากาศ ไม่ปรากฎว่าเป็นราชการของกองทัพอากาศ ผู้ทำหนังสือจึงไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน” เป็นต้น

เมื่อเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต

“มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”

มาตรานี้แยกการกระทำเป็น 2 ความผิด คือ

1. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

คำว่า “โดยมิชอบ” หมายความถึง โดยมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งเจ้าพนักงานมีอยู่ตามกฎหมาย ดังเช่นคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2521 ที่วินิจฉัยว่า “การกระทำโดยมิชอบนั้น เฉพาะตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้นโดยตรงที่ได้รับมอบให้มีหน้าที่นั้นๆ ถ้าการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของเจ้าพนักงานแล้ว ย่อมไม่มีความผิด”

ถ้าการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ ไม่อยู่ในหน้าที่หรืออยู่ในหน้าที่แต่เป็นการกระทำที่ชอบด้วยหน้าที่โดยสุจริต ก็ไม่เป็นความผิด ดังนั้นถ้ามีหน้าที่ต้องปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นก็เป็นการกระทำความผิดตามมาตรานี้

องค์ประกอบของความผิดมาตรานี้อยู่ที่ มูลเหตุชักจูงใจ คือ “มีเจตนาพิเศษ” ที่ต้องการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งรวมถึงความเสียหายในทุกๆด้านโดยไม่จำกัดเฉพาะความเสียหายที่เป็นทรัพย์สินเท่านั้น เช่น ความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเสียหายแก่เสรีภาพ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น เจ้าพนักงานตำรวจจับผู้ที่กระทำผิดความฐานมีสุราผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง แล้วทำร้ายร่างกายผู้ถูกจับกุม การทำร้ายนี้ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจขณะจับกุม แต่เป็นทำร้ายหลังการจับกุมแล้ว จึงไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2479) แต่ถ้า เป็นพนักงานสอบสวน ในระหว่างสอบสวนไปทำร้ายผู้ต้องหาเพราะไม่ยอมรับสารภาพ เช่นนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อเกิดความเสียหายแก่เขาย่อมมีความผิดตามมาตรานี้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2508) หรือ เจ้าพนักงานมีหน้าที่ในการออกใบสุทธิจดเปลี่ยนแปลงข้อความไม่ตรงกับความจริงและผิดระเบียบ เพื่อให้เขานำไปแสดงต่อผู้บังคับบัญชาในการขอบำเหน็จความชอบนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายจึงมีความผิดตามมาตรานี้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407-410/2509) เป็นต้น

2. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

คำว่า “โดยทุจริต” ตามความหมายนี้ คือการใช้อำนาจในหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นจากการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น และที่สำคัญคือ “ต้องมีหน้าที่” คือ การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัตินั้นต้องอยู่ในหน้าที่ ดังนั้นหากไม่อยู่ในหน้าที่หรืออยู่ในหน้าที่แต่ทำโดยชอบและโดยสุจริต ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้ การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต สามารถพบได้ในหลายกรณี เช่นพนักงานที่ดินไม่โอนที่ดินตามคำสั่งนายอำเภอ โดยทุจริตและอาจเสียหายแก่ผู้อื่น (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2512) เจ้าพนักงานเทศบาลมีหน้าที่เก็บเงินลักเอาใบเสร็จเก็บค่ากระแสไฟฟ้าซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อีกผู้หนึ่งไป เพื่อไปเรียกเก็บค่ากระแสไฟฟ้าแล้วเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2503) หรือ นายตำรวจจับคนนำพลอยหนีภาษีไม่นำส่งดำเนินคดี เอาพลอยไว้เสียเอง เป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677/2525)

การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีลักษณะคล้ายคลึงกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่มีข้อแตกต่างอยู่ที่ว่าการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่จะเป็นความผิดได้นั้น จะต้องเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หากการกระทำนั้นไม่เกิดความเสียหายแล้วย่อมจะไม่เป็นความผิดตามมารา 157 ในขณะที่การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตไม่ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าการกระทำนั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่ แม้ไม่เกิดความเสียหายก็ยังคงถือว่าเป็นการกระทำความผิดได้

สรุป

จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า หลักการกระทำความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญานี้ ต้องมีองค์ประกอบดังนี้ ผู้กระทำต้องเป็นเจ้าพนักงาน และที่สำคัญต้องเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่กระทำการตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ และในการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นการกระทำโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ดังนั้นหากขาดองค์ประกอบข้อใดข้อหนึ่งไปก็ไม่อาจถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนจะเป็นความผิดตามกฎหมายอื่นหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงแต่ละเรื่องไป

สราวุธ เบญจกุล
โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม
รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม


ยาวหน่อย ถ้าความเห็นไม่ถูกใจ ขออภัย

 แก้ไขเมื่อ : 28/12/2553 19:04:48

OK ครับผมเห็นด้วยกับข้อมูลของคุณ อธิบายได้ชัดเจนดีมากครับ ในเรื่อง เจ้าพนักงาน ม. 157 ให้10เต็มอาญา2 จาก : ak47(ak47) 1/2/2554 2:07:10 [58.97.35.116]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ตาม หลักเกณฑ์ ใน คต.ที่15

ไม่ได้เป็น ประกาศ หรือ คำสั่งของ กระทรวงแต่อย่างใด เป็นเพียงข้อกำหนด สำหรับผู้ประสงค์ จะซื้อ อวป. ตามเงื่อนใขดังกล่าวเท่านั้น

ดังนั้น ผู้ครอบครอง จะขาย หรือผู้ประสงค์จะซื้อต่อ ไม่ได้ทำผิดกฏหมาย เพราะ ไม่มีกฏหมายบัญัติเอาใว้

แต่ทั้งนี้ กองทะเบียน อวป. ได้ ประทับตรา ห้ามโอน ตามเงื่อนใข ดังนั้น นายทะเบียน อวป. จึงไม่สามารถ ออก ใบ ป3.ให้ผู้ประสงค์จะซื้อต่อได้

โดย ถือเป็นเหตุผลในการใช้ดุลยพินิจของนายทะเบียน

แต่ถ้า นายทะเบียนบางท้องที่ ยินยอมให้ดำเนินการได้ ก็ถือว่า เป็นดุลยพินิจ ของนายทะเบียนท้องที่นั้นๆไป

ในกรณีเช่นนี้ รัฐไม่ไช่ผู้เสียหาย ดังนั้น รัฐจะดำเนินคดี กับนายทะเบียนท้องที่ ตาม ม.157 มิได้ เพราะไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ผมไม่ทราบรายละเอียดว่าเงื่อนไขนี้กำหนดขึ้นโดยใคร เป็นคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย หรือไม่ เหมือนกับสมัยหนึ่งที่ท่านวันมูฮำหมัด นอมัดทา เป็นรัฐมนตรี เคยมีคำสั่งไม่ให้นายทะเบียนออกใบอนุญาต ป.3 ซื้อปืนลำกล้องยาวได้ ถ้าเป็นคำสั่งแบบเดียวกันนี้ คือ เป็นคำสั่งของรัฐมนตรีกำหนดเงื่อนไขห้ามโอน ถ้านายทะเบียนอนุญาต(ไม่ใช่อนุญาตินะครับ)ให้โอนได้ อาจจะมีความผิดฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาได้ แล้วก็จะมีความผิดตามพรบ.ข้าราชการพลเรือน ถ้าเงื่อนไขห้ามโอนไม่ได้เป็นคำสั่งของกระทรวงแล้วละก็งานนี้คงได้มีเฮแน่ มันไม่เหมือนกรณีที่ดินสปก.นะครับ นั่นกฎหมายระบุชัดเจนไว้เลยว่าห้ามโอน แต่นีพรบ.อาวุธปืนไม่ได้ห้ามโอนครับ ความเห็นส่วนตัวครับผิดถูกขออภัย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ลุงวันนอร์ผม ออกหนังสือแจ้ง ให้แค่ สั้น1 ยาว 1 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ถ้าต้องการซื้อปืนสวัสดิการ ที่ยังไม่ถีง 5 ปี แต่รู้เขาทำอย่างไร สามารถโอนมาได้แล้ว ( มือที่ 2 ) แต่เราต้องการซื้อต่อ เป็นมือที่3
จะต้องทำอย่างไรบ้าง ตอนนี้ อายุปืน เเค่ 2 ปี ทะเบียบปี 51

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       โมฆียกรรม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       ท่านผู้เกี่ยวข้องกับปืนโครงการฯออกมาให้ความกระจ่างด้วยเถิดครับ จะได้ชัดเจนเกี่ยวกับการห้ามโอนภายใน 5 ปี นั้นคืออะไร แต่ในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าในเมื่อเราตั้งใจซื้อมาแล้วก็ไม่ควรจะขายเพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ และจะผิดเจตนารมของผู้ทำโครงการฯ / ขอแถมคำถามอีกหนึ่งคำถามครับ กระผมซื้อปืนโครงการ(ลูกโม่ .38) สน.สก. ใช้มาไม่ถึง 5 ปี ปัจจุบันทำงานอยู่ภาคใต้(พื้นที่เสี่ยงต้องการลูกดกๆ)จึงอยากซื้อ 9 มม. อีกสักกระบอก จะผิดเงื่อนไขใดของโครงการฯหรือไม่.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       วิธีการผมก็พอทราบครับ รู้แต่ว่าเป็นวิชามาร บอกในนี้ไม่ได้ ส่วนคุณโฮมถามว่าจะซื้อต่อเป็นมือที่ 3 ต้องทำอย่างไรนั้นก็ไม่ยากนี่ครับขนาดมือ 1 มามือ 2 ยังไม่มีปัญหา วิธีการก็เหมือนกันแหละครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ก็ซื้อขายกันในที่ๆไม่มีคนรู้สิครับ ตำรวจจะได้ไม่จับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       เรื่องห้ามโอนภายใน5ปี ผมไม่อ้างหลักกฎหมายนะครับ ผมเอา กอ ฮอ ตัวทำละลายหมึก อักษรที่ประทับไว้หายเลย ผมทำมาแล้ว โอนได้แล้ว มีเพือนท่านใดจะยกหลักกฎหมายอีกก็ได้ครับ ป.อ 264 265

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       ถ้าต่างจังหวัดอาจจะชิกแซกได้ถ้าปลัดกับนายอำเภอเล่นด้วยแต่ใน ก.ท.ม ตอนตัดโอนท่านจะโดนตรงนี้แหละครับเพราะมวดเลขซีลี่และทะเบียนแยกกันชัดเจนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       ขอบคุณครับที่ให้ข้อมุล ไม่เสี่ยงดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย