คำตอบที่ 2
เรื่องยิงปืนในงานศพนี่ผมเองก็ไม่เคยเห็นเพราะไม่ค่อยได้มีโอกาสไปงานศพตามต่างจังหวัดมากนัก เท่าที่เห็นก็เป็นการจุดพลุ ที่เอากะลามะพร้าวมาประกบกันเท่านั้น น่าจะเป็นการแสดงถึงฐานะของเจ้าภาพในงานซะมากกว่า ส่วนการใช้ปืนยิงแทนพลุก็คงจะเพราะหาคนทำพลุไม่ได้เลยมักง่ายเอาเสียงปืนเป็นการแสดงความมีฐานะแทน ซึ่งไอ้เรื่องนี้คงห้ามกันยากโดยเฉพาะในต่างจังหวัด แบบว่าเสียเท่าไหร่ไม่ว่า เสียหน้าเป็นไม่ได้ บางครั้งกลายเป็นคนตายขายคนเป็นไปเลย คือลูกๆหลานๆต้องมาเป็นหนี้เป็นสินมากมาย เพราะต้องจัดงานให้ยิ่งใหญ่รักษาหน้ากันเข้าไป ค่านิยมแบบนี้ควรเลิกได้แล้วนะครับ
ส่วนยิงปืนในงานแต่งงานพอมีเหตุผลอยู่บ้าง เพราะสมัยก่อนยังมีโจรผู้ร้ายชุกชุม หนทางก็เปลี่ยว แถมตอนยกขันหมากมาสู่ขอก็จะทำกันในตอนเช้ามืด เลยต้องมีการยิงปืนข่มขวัญเพื่อให้พวกที่คิดจะมาปล้นขันหมาก ได้รู้ว่าถ้าแหลมเข้ามาเป็นโดนนะเฟ้ย! อะไรทำนองนั้น ปัญหาที่เคยได้ยินก็คือคนที่ยิงมักมีอาการมึนเมาสุรา คึกคะนอง หรือเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่เงอะงะแต่อยากแสดงศักดาว่าข้ายังแน่ ผลออกมาก็มีการตายหรือบาดเจ็บกันไปทำให้งานมงคลต้องมีเหตุเศร้าสลดอยู่เนืองๆ...แถมถ้ามีการปล้นจริงๆ ผมว่าพวกอวดเก่งนี่คงไม่มีใครดวลปืนกับโจรตามเจตนาหรอกครับ วิ่งโกยอ้าวก่อนเป็นพวกแรกๆซะล่ะมั๊ง 
ผมคิดหาข้อดีไม่ได้เลยสักนิดเดียวครับ นอกจากเรื่องเดียวที่ดูเข้าท่าหน่อยของท่านสมีเฒ่าคือการข่มขวัญโจร...
