WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


military vehicle history

จาก kittipongs juc 245
203.154.149.146
ศุกร์ที่ , 13/8/2547
เวลา : 16:49

อ่านแล้ว = 4052 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       วันนี้ขอมาในรูปแบบใหม่ที่จะหาข้อมูลความเป็นมาของจี๊ป โดยแปลมาจากผู้มีประสพการณ์ จากอเมริกา ถ้ามีความผิดพลาดประการใดขอน้อมรับแต่ผู้เดียว หรือถือซะว่าอ่านผ่านๆก็ได้

ในปี1939(2482) ได้เกิดไอเดียที่จะผลิตรถทหารที่สามารถใช้ได้ในทุกพื้นที่ขึ้นมา,ประวัติศาสตร์ของ JEEP ก็ได้เริ่มต้นตั้งแต่ตรงนี้เอง และก็ได้เจริญงอกงามขึ้นมาตามลำดับ ด้วยรูปร่างที่เป็น ทรงสี่เหลี่ยมซึ่งผ่านสงครามมา3ครั้งแล้วใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้. JEEP เป็นรถที่น่าเชื่อถือมากที่สุด,ใช้กันมากที่สุด และเป็นรถที่ใช้ในการสงคราม. กล่าวได้ว่าการรบภาคพื้นดินเป็นหน้าที่ของ JEEP ส่วนทางอากาศเป็นหน้าที่ของเครื่องบินกันเลยในช่วง wwII
เรื่องราวของ นั้นเกิดจาก ทีมวิศวกร อเมริกัน ในปี1939ได้รับคำสั่งจากกองทัพว่าต้องการรถที่จะมาแทนที่ มอเตอไซค์ที่มี ไซด์คาร์ที่ใช้กันตั้งแต่ wwI ซึ่งก็ไม่ได้รวมรถที่มีใช้อยู่แล้วเช่น Ford model T ที่ไม่ตรงตามเสป็คของกองทัพ,ดังนั้นกองทัพจึงได้ร่างเสป็คสำหรับผู้ที่จะประกวดราคาและชนะการผลิตขึ้นมาดังนี้
1.จะต้องรับ น.น.ได้ 600 ปอนด์
2.ระยะล้อ ต้องน้อยกว่า 75นิ้ว
3.สูงน้อยกว่า36นิ้ว
4.เครื่องยนต์จะต้องวิ่งได้ 30-50 ไมล์/ชม.
5.ต้องมีรุปทรงสี่เหลี่ยม
6.ต้องมีระบบส่งกำลัง2แบบและขับเคลื่อน4ล้อ
7.ต้องสามารถพับกระจกหน้าได้
8.ต้องมีที่นั่งอีก3ที่
9.ต้องมีไฟพรางต่างๆ
10.น.น.รวมต้องน้อยกว่า1200ปอนด์
มีบริษัทเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด135 บริษัทฯ แต่มีเพียง3บริษัทฯที่สามารถเสนอได้ตามเสป็คคือ
Ford Motor company
Willy-Overland
Bantum car company

ใน3บริษัท Bantum ถือว่าโดดเด่นมากที่สุดเพราะสามารถเสนอพิมพ์เขียวให้กับ วอชิงตัน ดีซี ภายใน 5วันหลังจากนั้น ส่วน Willyส่งแบบมาช้าที่สุดและราคาก็ค่อนข้างแพงถ้าผลิต.
จากนั้น Bantum ก็ได้รับให้ทดลองผลิตออกมา 70คันแต่ไม่ผ่านการทดสอบ และในขณะเดียวกันก็ได้เกิดสงคราม ขึ้นในยุโรป ในที่สุดบริษัทที่เหลือก็ได้เป็นผู้ผลิตรถซึ่งได้รับการยอมรับในที่สุด การจัดอันดับ Willy ไดัรับการยอมรับมากที่สุด รองลงมาเป็น Ford และ Bantumในที่สุด

ปัญหาที่ตามมา ของรถ Willy 1/4ตัน คือต้องขนสัมภาระค่อนข้างหนัก ตามที่เสป็คกำหนด ทาง วิศวกรได้ศึกษา ที่จะ ตัดชิ้นส่วนไม่จำเป็นออก,ทำ ตัวถังให้เบาลง,พ่นสีบางลง เมื่อทดลองชั่งน.น. ดูสามารถลดลงไป อีก7 อาวน์
Willy เป็นรถที่ใช้ได้ในทุกสถานะการณ์ ขณะเดียวกันก็ได้ใช้อุปกรณ์ ร่วมกับ Ford และ Bantum ด้วย,ในปี1941 ทางกองทัพสหรัฐฯ มีความต้องการรถขับเคลื่อน 4ล้อเพิ่มเติม ราคาในตอนนั้น 738.74 เหรียญ Willy ชนะการประกวด แต่ Ford เป็นผู้ผลิตให้ตามแบบพิมพ์เขียวของ Willy ส่วน Bantum ได้เป็นผู้ผลิตรถพ่วงแทน.




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ภาพประกอบครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Khun R 210.4.134.11 ศุกร์, 13/8/2547 เวลา : 17:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1165

คำตอบที่ 2
       มีต่อภาค2แต่ขอเวลาจิ้มกด หน่อยนะครับ กว่าจะได้มาใช้เวลา วันเต็มๆเลยแหละ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก กิตติพงษ์ เจยูซี 245 203.107.198.167 เสาร์, 14/8/2547 เวลา : 07:29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1167

คำตอบที่ 3
       หวัดดีครับ รายละเอียดดีจังเลย ผมมี Wagoneer J3000 กระบะ ทุกอย่างเดิมหมด ไม่ทราบว่าเพื่อนในเวปท่านใด มี PTO สำหรับเกียร์้เดิมของรถรุ่นนี้บ้าง ถ้าไม่ใช้ผมสนใจครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

GPmania จาก GPmania 202.129.17.116 เสาร์, 14/8/2547 เวลา : 08:12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1168

คำตอบที่ 4
       ดีมากเลยครับ ที่ช่วยเพิ่มพูนความรู้เรื่องจี๊บ ภาพประกอบก็เยี่ยมครับ ผมเคยซื้อหนังสือJeep ที่คนไทยเอามาแปลขาย ภาพสวยดีครับ แต่เนื้อหาแปลมาเป็นไทยยังอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร อ่ะหรือเราโง่เองล่ะเนี่ย....555



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โป้ง 203.113.67.6 เสาร์, 14/8/2547 เวลา : 17:00   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1169

คำตอบที่ 5
       วันนี้มาดูในภาคสองซึ่งเป็นตอนจบ

ชื่อ JEEP นั้นมีที่มาหลายหลาก เท่าที่น่าจะเป็นไปได้น่าจะมาจาก การยอมรับ รถ Ford ว่าเป็นรถ เอนกประสงค์ General Purpose หรือ GP เมื่อชาวอเมริกันออกเสียงยาวๆก็เพี้ยนไปเป็น JEEP บางเรี่องก็ว่ามาจาก การ์ตูน ป๊อปอาย ซึ่งก็ใช้คำนี้มาก่อนที่จะมีรถ JEEP ซะอีก.
Willy ถือว่าเป็นผู้ที่ได้กรรมสิทธิ์ยี่ห้อ JEEP ไป หลัง wwII ซึ่งทำให้ Bantum รู้สึกผิดหวังมาก เพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ ที่คิดรถต้นแบบ JEEP มาตั้งแต่แรกและสมควรเป็นผู้ถือครองสิทธิ์ ของ JEEP. ชื่อ JEEP ได้ใช้กันมาเรื่อยจน Willy ขายต่อให้กับบริษัท Kaiser Corp และ บริษัทAmerican Motor Corp ในปี1970 และปี 1987บริษัทChrysler ก็ได้เป็นผู้ครอบครอง ยี่ห้อ JEEP จวบจนปัจจุบัน.
Willy รุ่น MBหรือทางกองทัพสหรัฐฯ เรียกว่า Truck ¼ Ton 4*4 เป็นรุ่นที่แทบเรียกได้ว่าเป็นเครื่องจักรที่พื้นฐานมากที่สุด คือมี 4สูบ แบบ L-Head สามารถใช้รอบ ได้ถึง 4000 rpm บนทางตรงจะได้ไกลถึง 100ก.ม.เลย, กรองอากาศ มี การปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น,กรอง น.ม.เครื่องเลื่อนให้สูงขึ้นเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา,แถมยังมีหลังคาแบบพับได้,ใช้แบตเตอรี่ 6โวลท์,ไฟหน้าออกแบบให้ปรับเพื่อส่องเครื่องยนต์ได้ในเวลาฉุกเฉิน,เครื่องยนต์เป็นตัวต้นกำลังให้กับระบบเรด้า,เครื่องเชื่อม,และอุปกรณ์ช่วยในการลงจอดของเครื่องบิน และมีการ ออกแบบในเรื่องการเก็บเสียงเพื่อ ไม่ให้รบกวนสัญญาณ วิทยุเป็นอย่างดี,มีระบบ ส่งกำลัง3สปีด และ เกียร์ Hi/Lo ,ผลิตออกมาในช่วง wwII กว่า 350000 คัน.
รุ่นแรกเข้าประจำการที่ อังกฤษ ก่อน สหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมสงครามเสียอีก มันได้ถูกเข้าประจำการในการต่อสู้กับนาซีที่บุกอังกฤษ, และยังได้ส่งเข้าประจำการแถบ แปซิฟิคจนกระทั่งปี1943 มีการนำมาใช้กับพลเรือนมากขึ้น.
JEEP มีส่วนช่วยสนับสนุนกิจกรรมต่างๆเช่น ช่วยสร้างสะพาน,ถนน,ส่งเสบียง,สัมภาระต่างๆ.
ครั้งแรกได้มีการทดสอบความทนทานโดยส่งไปยังประเทศจีน ซึ่งตอนนั้นมีปัญหากับพม่า, JEEP ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆมากมาย ประสิทธิภาพสูง สามารถ ขับที่ความเร็วตั้งแต่ 3-60 ไมล์ ต่อ ชั่วโมง, สามารถ ไต่ได้ถึง40องศา,ขับเป็นวงกลมได้ในรัศมี 30ฟุต,ขับมุมเอียง ทั้งซ้ายและขวาได้ถึง 15องศา โดยไม่ลื่นไถล, เท่าที่มีการบันทึกไว้ JEEP ได้ใช้ในการไต่เขาที่ สวิสเซอแลนด์,ลุยหิมะที่เบลเยี่ยม. แม้ว่ารถถังได้เข้ามามี บทบาท ต่อมาแต่ก็ไม่สามารถใช้งานได้เหมือน JEEP
JEEP ผลิตออกมาจากสายการผลิต คันละ 1.5นาที, มีการผลิตแบบพิเศษ ออกมาเพื่อ ใช้ในกิจการต่างๆ เช่น งานตัดไม้,ขนลาก , ลากรถวิทยุ และความจริง สามารถ ลากของได้ถึง 25 ตัน ที่ความเร็ว20ไมล์ ต่อ ชั่วโมง,กระจกสามารถพับลงมาเพื่อใช้ในการลำเรียงคนเจ็บ หรือเปลพยาบาล.
หลังสงครามสงบมีทหารหลายคนที่ต้องการจะได้ ไว้เป็นเจ้าของเพราะทราบดีถึงสมรรถนะ แม้แต่องค์การของรัฐเองก็ทีความต้องการเช่นกัน.
Willy รุ่นก่อนสงครามเรียกว่ารุ่น CJ-2A ผลิต ออกมา กว่า 73000 คันในปี 1946 และ 60000คัน ปี 1947 ส่วน JEEP รุ่นอื่นๆได้มีการพัฒนาสมรรถนะเพิ่มขึ้น, JEEP เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ ของอเมริกัน ชน ด้วยเหตุนี้เจ้าของหลายๆคนได้ใช้มันอย่างหนัก กล่าวได้ว่า หนักกว่าตอนรบในสงครามซะอีก.
การสิ้นสุดยุค ของJEEPในปี 1981ซึ่งมีการยกเลิกการผลิต และก็ได้นำโมเดลใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ เช่น HMMV ซึ่งมีคอมพิวเตอร์ ก็เริ่มเข้ามา มีบทบาทมากขึ้น,มีความทนทานต่อระเบิด TNT หรือ ขับใต้น้ำ ฯลฯ AM General เป็นผู้ชนะในการประกวดแบบ และ ยังเป็นผู้ ออกแบบ และผลิตเครื่องยิงจรวด ซึ่งได้แสดงให้เห็นในสงครามอ่าวเปอเซียร์ที่ผ่านมา.


JEEP ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเป็นพาหนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากอดีตจนปัจจุบัน และมันก็สมควรที่จะได้ประดับเหรียญสดุดีในการต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน.

แล้วพบกันใหม่นะครับ.



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 203.154.149.146 จันทร์, 16/8/2547 เวลา : 08:57   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1173

คำตอบที่ 6
       ข้อมูลอีกหน่อยครับ
http://www.weekendhobby.com/offroad/jeep/Question.asp?ID=2535



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Khun R 210.4.134.11 จันทร์, 16/8/2547 เวลา : 09:39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1174

คำตอบที่ 7
       มีข้อมูลอีกหน่อยครับ อยู่ในเมนู "หน้าแรก" ของหน้าเวปบอร์ด TMVC เรา หรือ คลิกไปที่
http://www.weekendhobby.com/jeepmilitary/index.asp ก็ได้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

eastern จาก จิงโจ้ป่า 203.150.217.114 จันทร์, 16/8/2547 เวลา : 10:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1176

คำตอบที่ 8
       วันนี้ เรามาดูอีกยี่ห้อหนึ่ง ที่มี ความเป็นมาไม่แพ้ กับรุ่นอื่นๆ และบ้านเราก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ นั่นคือ รถ Dodge
Dodge ผลิตออกมามี4รูปแบบ คือ
1.แบบ มิลิทารี่ 4*4 ผลิตออกมาระหว่างปี 1941-1968
2.1/2 ตัน WC ผลิตออกมาระหว่างปี 1941-1943
3.3/4 ton M series ผลิตออกมาระหว่างปี 1950-1968
4. 1 ton civilian power wagon ผลิตออกมาระหว่างปี 1946-1968

แต่ละแบบจะเหมือนกันที่ไฟหน้า กลมตั้งอยู่บนบังโคลน แบบใหญ่ และ กระจังหน้า ขอเรียกทับศัพท์ ว่า brush guard คือจะเป็นช่องใหญ่ๆ เหลี่ยมๆ และ ก็มีชื่อเรียกต่างๆนาๆ เช่น Power wagon,weapon carriersหรือบางครัั้ั้งก็เรียกว่า beeps.

บางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่า WC ย่อมาจาก Weapon carrier บางคนก็เรียกว่า wwii rigs.

ในแต่รุ่นก็มีการแบ่งการเรียกชื่อออกไปต่าง เช่น wc40 คือรุ่นหลังคาแข็ง ของรุ่น 1/2 ตัน wc, รุ่น wc24 เป็นรถบัญชาการ,wc17 รถขนของทุกอย่าง,wc27 รถพยาบาล.




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก กิตติพงษ์ เจยูซี 245 61.90.8.7 อังคาร, 31/8/2547 เวลา : 22:20   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1256

คำตอบที่ 9
       dodge wc 51





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 61.90.8.7 อังคาร, 31/8/2547 เวลา : 22:30   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1257

คำตอบที่ 10
       dodge wc 51 เหมือนกัน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 61.90.8.7 อังคาร, 31/8/2547 เวลา : 22:34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1259

คำตอบที่ 11
       มาต่อภาค สอง กัน
รุ่น wc เหล่านี้ถ้าตัวเลขแสดงต่ำกว่า50 จะ หมายถึงรุ่น1/2ตัน ถ้าสูงกว่า50จะ หมายถึงรุ่น3/4ตัน ,
รุ่น M จะเข้ามาในช่วงท้ายๆสงคราม wwII เช่น รุ่นM 37 ซึ่งจะไกล้เคียงกับ ¾ ตัน แบบกระบะ และ รุ่นM 43 ก็จะเหมือนรุ่นรถพยาบาล,จุดเด่นคือฝากระโปรงเป็นแบบชิ้นเดียว นั่นคือ บานพับจะอยู่ด้านหลัง,ไม่เหมือนกับรุ่น power wagon ที่ยังคงใช้ฝากระโปรงแบบแยก 2ชิ้น ซึ่งบานพับจะอยู่ตรงกลาง จนกระทั่งปี1970 เลย
รุ่น power wagon มีการเปลี่ยนแปลงเลขรุ่นอยู่บ่อยๆ จาก wdx(1945-1947) จนถึงรุ่น wm300(1960-1971) มีอะไหล่บางรายการหลายๆรุ่นสามารถใช้แทนกันได้.
เครื่องยนต์เป็นแบบแถวเรียง6สูบ,และก็ได้นำมาใช้ในรุ่นพลเรือนทั่วไปด้วยแต่ก็มีข้อแตกต่างบ้างตามการนำไปใช้งาน เช่น เลขเครื่อง,ความกว้างของกระบอกสูบ. รุ่นที่ผลิตในแคนาดา และรุ่น power wagon ที่ใช้สำหรับพลเรือนในอเมริกา ตั้งแต่ปี1961 จะใช้เครื่อง แบบ261,6สูบ ซึ่งสามารถ มองเห็นความแตกต่างโดยการวัด กล่าวคือ รุ่น 230 จะมีความยาวตัวเครื่อง 23นิ้ว แต่รุ่น 251 จะยาว 25 นิ้ว(วัดจาก น๊อต ต้วแรก กับตัวท้าย) นอกนั้น มองไม่เห็นความแตกต่างอี่นๆ.

รุ่น WC ½ ตัน ได้ผลิตออกมา 80000 คัน ซึ่งมีเอกลักษณ์ ที่ กระจังแบบ มลโค้ง และ กระโปรงจะ เอียงเล็กน้อย, แบบเปิดประทุนมีใช้กันมากในพวกชาวนา และจะไปดัดแปลงหลังคาเป็นแบบ พลเรือน ซึ่งช่วยให้อบอุ่นกว่าเมื่อใช้ในหน้าหนาว.

(to be continued)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 61.90.8.62 พุธ, 1/9/2547 เวลา : 23:26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1276

คำตอบที่ 12
       wc53





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 61.90.8.62 พุธ, 1/9/2547 เวลา : 23:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1277

คำตอบที่ 13
       wc84 ambulance





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 61.90.8.62 พุธ, 1/9/2547 เวลา : 23:29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1278

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณพี่ kittipongs ที่ให้ความรู้ ผมมี time line เพิ่ง serch มาจาก WEB





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Song-MITSU 202.57.188.3 เสาร์, 16/10/2547 เวลา : 10:59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1589

คำตอบที่ 15
       ขอบคุณมากครับ คุณ Song-MITSU ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เลย แต่ชาว มิลิทารี่ ยินดีต้อนรับ ครับ ส่วนเรือง time line ที่ให้มานี้ ดีมากเลยครับ หลายๆคนจะได้รู้ อายุ ของรถแต่ละรุ่น, ผมว่า บอร์ด ของพวกเรา้เริ่มมา กันได้ดีแล้วละครับ ช่วยกันหาความรู้มาแบ่งปัน กับพวกสมาชิก...ช่วงหลังผมงานค่อนข้างยุ่ง เลย บางเรื่อง อาจขาดๆ หายๆไป



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kittipongs juc 245 61.90.8.92 เสาร์, 16/10/2547 เวลา : 21:42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1590

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,4 ธันวาคม 2567 (Online 7140 คน)