คำตอบที่ 1
       มีประกันหรือเปล่าครูดำ ถ้ามีให้ประกันคุยแทนเราเลย แต่ถ้าหากไม่มีเราก็ต้องดูหลายเรื่องประกอบ เช่น กฎหมายใครผิดใครถูก(กรณีรถใหญ่ต้องผิดเสมอไปมันก็ไม่ใช่เสมอไป) แต่ในด้านมนุษย์ธรรมเราก็ต้องดูเป็นเรื่องๆไป ขอเอาใจช่วยให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขออนุญาตแนะนำนิด..นะครับ
๑.เมื่อขับรถยนต์ต้องดูป้ายจราจรเป็นสำคัญว่า มีป้ายแสดงสัญลักษณ์ว่ามีทางแยกรวมรึกไม่ หากไม่มีก็จะมีไฟแดง และผู้ใช้เส้นทางจราจรต้องถือปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นสำคัญ หาก ผู้ขับต้องระมัดระวัง..เช่นชะลอรถ และระมัดระวัง แม้จะเป็นทางเอกก็ตาม ก็พึงระวัง เพราะเมื่อตรวจสถานที่เกิดเหตุจะทราบว่าผู้ใดขับมาเร็วจนเบรกไม่ทันหรือไม่ทันได้เบรก แสดงว่าทางเอกไม่ใช่ผู้ถูกทั้งหมดเสมอไป
๒.หากต่างประมาททั้งสองฝ่ายยอมต้องรับผิดซึ่งกันและกัน แต่หากมีผู้ได้รับอันตรายแก่กาย ผู้ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยย่อมมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย
๓.ส่วนกรณีนี้ ให้ถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า...เขียนแผนที่เกิดเหตุอย่างไรและวินิจฉัยอย่างไร
และขั้นตอนให้ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บตามหลักมนุษยธรรมก่อน เพื่อรับรองประกันความดี เป็นใบเบิกทางในการพิจารณาคดีในการรอลงอาญา
๔.หากเจ้าของคดีแจ้งว่า ฝ่ายเราผิด ก็ดำเนินการเจรจาต่อรอง
๔.๑.ให้นำพฤติการณ์ของเขา เข้ามีส่วนรับผิดชอบ (ส่วนลด)
๔.๒.ชดใช้ตามสมควร เช่น ได้ประกันไปแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราประกันไว้แล้ว
๔.๓.การเจรจาในชั้นนี้ ให้คุยเองไม่ต้องผ่านเพื่อนหรือผู้รู้มาก และดูเงินในกระเป๋าจ่ายไหวไหม
๔.๔.ขอความเมตตา สงสาร แสดงน้ำใจ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกับเขา คนไทยใจอ่อนพูดง่าย (หากฝ่ายตรงข้ามไม่วางกล้าม)
๔.๕...อื่นๆ อีกมากมาย..เดี๋ยวเอาอะไหล่จี๊ปมาขายสวน
.....เออ...ให้คนอื่นแนะนำด้วย...เพราะต่างเคยมีประสบการณ์มาเกือบทั้งนั้น....อิอิ..วิธีนี้เคยเจ๊ง..เฮ๊ย.เจ๊ากันมาแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ขอบคุณครับท่านทั้งสอง ปัญหาก้คือฝ่ายผมไม่มีประกันก็เลยต้องต่อสู้เองครับคุณเสมา
เจ้าของคดีเขียนแผนที่ให้ฝ่ายผมได้เปรียบ แต่ผมอ่านประเด็นข้อ 1. ของคุณชัยรถของผมมีรอยเบรกแต่เอาไม่อยู่เขาออกมาตัดหน้าครับ ฝ่ายผมไม่ค่อยมีเงิน ซ่อมรถเอง 20,000 และบอกเจ้าของคดีขอช่วยตามหลักมนุษยธรรม 10,000 เขาไม่ยอมขอแสน ถ้าให้เขาฟ้องไม่ทราบจะสู้ได้หรือเปล่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       มาให้กำลังใจ ค่อยคิดค่อยอ่านค่อยแก้ไขครับ ถามครับ ไม่มีประกันนี่หมายถึงประกันอะใรครับ ไม่มี พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือเปล่าครับครูดำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       สวัสดีครับ ครูดำ กรณีรถชนกันแล้วมีผู้บาดเจ็บ กฎหมายจะดูว่าผู้ใดเป็นฝ่ายประมาท ครับ อาจจะมีฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายก็ได้ ผู้ประมาทจะต้องรับผิดทางอาญาจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ความร้ายแรง ถ้าประมาททั้งสองฝ่ายก็โดนทั้งคู่ สำหรับในทางแพ่งแล้วจะดูว่าผู้ใดประมาทมากกว่ากัน การประมาทคือการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่

กรณีของครูดำข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอฝ่ายครูดำประมาทหรือไม่ ขอให้ใจเย็นๆปลอบใจตัวเองและคู่กรณีว่าเป็นเรื่องบาปกับเคราะห์ ต้องพิเคราะดูว่าฝ่ายเราถูกร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเเปล่า อีกฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บแค่ไหนควรจะได้รับชดใช้เพียงใด เรื่องนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก ไม่ใช่เฉพาะคู่กรณี ถ้าถึงที่สุดพูดกันแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ปล่อยให่เขาฟ้องไป แล้วไปไกล่เกลี่ยในศาลง่ายกว่าเพราะมีกรรมการสุดท้ายจริงๆไม่มีทางออกอย่างอืน ให้นำเงินจำนวนพอสมควรไปวางศาล ก็จะมีเหตุอันควรปรานีศาลรอลงอาญาได้

ที่สำคัญนึกถึงอกเขาอกเรา สมมุติว่าเราเป็นฝ่ายคู่กรณีเราจะทำอย่างไร ขอให้ตกลงกันได้นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       คดีจราจรเป็นคดีแพ่ง ผู้เสียหายต้องยื่นฟ้องค่อศาลเพื่อเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อร่างกายและทรัพย์สิน การที่จะบอกว่าใครถูกใครผิดพนักงานสอบสวนก็บอกไม่ได้นะครับ เป็นดุลพินิจของศาลเท่านั้น ส่วนข้อหาที่พนักงานสอบสวนจะตั้งนั้นก็เป็นแค่ประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุขนทำให้ได้รับบาดเจ็บ (สาหัส เพราะรักษาตัวจนไม่สามารถทำงานได้เกิน 20 วัน) ทีนี้มาดูว่าใครประมาท ในเมืองหรือที่ชุมชนห้ามขับเกิน 60 กม/ชม พิสูขน์จากรอยเบรครถ หรือ ใครอยู่ในเส้นทางที่ต้องให้ทางคนอื่นผ่านไปห่อน ในกรณีออกซอยจะต้องให้ทางตรงไปก่อนเสมอ และอีกอย่างตำแหน่งและจุดที่ชน จะสามารถบอกได้ว่าสุดวิสัยหรือไม่ หลังจากชนแล้วการช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ทำมากน้อยขยาดใหน ทุกอย่างมีส่วนเกี่ยวข้องกันไปหมด บางคนกลัวเสียประวัติไม่อยากมีคดีความ ไม่ต้องกลัวครับ มันเป็นคดีลหุโทษที่ยอมความกันได้ หรือหากเป็นข้าราชการก็ไม่มีผลทางวินัยครับ เพราะไม่ใช่คดีทางอาญา เอาใจข่วยให้ตกลงกันได้ด้วยดีนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       สวัสดีครับ ครูดำ ใจเย็นๆครับ รถไม่มีประกันภาคสมัครใจก็น่าจะมีประกัน พรบ.ทั้งสองฝ่าย
ใช้สิทธิ์ ตามประกัน พรบ.ให้เต็มที่ก่อนครับ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2553 คปภ.ได้ปรับเพิ่มความคุ้มครองสำหรับประกันพรบ.ดังนี้ครับ
1.หากเป็นผู้ประสบภัย-รักษาได้ 50000บาท/คน
-เสียชีวิต เสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร คุ้มครอง 200000บาท
-กรณีที่นอนโรงพยาบาลเป็นคนไข้ในของ รพ.จะสามารถเบิกค่าชดเชยรายวัน
วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน(ตรงนี้แนะนำให้คู่กรณีไปใช้สิทธ์ครับ)
2.หากผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับเอง เบิกค่ารักษา ได้ 15000 บาท แต่หากเขาเป็นฝ่ายถูกจะเบิกค่ารักษาจากประกันของคู่กรณีได้อีก35000บาทเช่นกัน
เมื่อใช้สิทธ์ตามพรบ.เต็มที่แล้วก็เจรจาครับ อย่ามองว่าใครผิดใครถูก แสดงความจริงใจในการที่จะดูแลเขา ลองทำตามคำแนะนำข้อ 4.3 และ4.4 ของพี่ชัยให้เต็มที่ครับ กลับกันครับอย่างที่พี่นายหงอกบอก ถ้าคนเจ็บเป็นเรา จะทำอย่างไร พูดคุยกันครับอย่ายืนกระต่ายขาเดียว ยืดหยุ่นไปครับ คนไทยด้วยกันครับ หากผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้วค่อยว่าอีกทีครับ ขอให้ตกลงกันได้นะครับ
โทรหาผมได้ครับ 084-688-8066

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ที่สำคัญครับ ช่วงที่คู่กรณีนอนพักฟื้น จะผิดหรือถูก เราควรจะต้องดูแลคู่กรณีเต็มที่ แล้วพอดีขึ้นแล้วค่อยตกลงกัน ผมว่าทุกอย่างจะพูดง่ายขึ้น เหมือนพี่เขยผมรถยนต์ขับข้ามเลนมาชนจนต้องตัดแขนและขา คนที่ชนหนีและไม่เคยมาดูแล สุดท้ายเราฟ้อง คู่กรณีบอกไม่มีเงิน ขอผ่อนชำระ ทุกวันนี้ก็ไม่เคยผ่อน สุดท้ายก็คิดว่าเป็นเวรกรรมครับ ก็ลองดูส่งกำลังใจช่วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       น่าสงสารพี่เขยคุณเขียวซึมจัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       มาให้กำลังใจครับ...ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี...ค่อย ๆ พูดจากัน น่าจะตกลงกันได้ครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมน่ะครับ ครูดำ...ไม่ทราบเหตุเกิดท้องที่ไหน.(เอ่ะจะทราบไปทำไม)
เอาเป็นว่า ท่านได้เจรจากับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโดยตรงรึไม่...รึว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้เยาว์... หากพนักงานสอบสวนวินิจฉัยในเบื้องต้นว่า...ท่านไม่ผิด..ผู้ได้รับบาดเจ็บเองเป็นผู้ประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียวล่ะก็..พนักงานสอบสวนก็จะไม่ฟ้องคดีอาญาท่าน การที่ท่านแสดงน้ำใจช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมนับว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยม และสมควรที่จะแสดงออกของคนไทยครับ ผมก็อยากให้คำแนะนำว่า
๑.ให้เจรจาโดยตรงกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแท้ๆ..ห้ามบอกว่าพ่อแม่ ลุงป้าน้าอา น้าเขย หลานสาว หลานชาย ผู้ว่า นายอำเภอ ไม่ยอม ผมยอมแต่คนเหล่านั้นไม่ยอม น่ะ
๒.หากผู้ได้รับบาดเจ็บเองไม่ยอมแสดงว่า..เขาคิดว่าเป็นฝ่ายถูกต้อง. เราต่องอธิบายให้เขาเข้าใจ ให้พนักงานสอบสวนช่วยอธิบายให้เขาเข้าใจ เออ..พี่ผิดอย่างนี้ก็ยังจะเรียกสูงอีก...สู้คดี...ไปก็แพ้หยุดเถอะ..แต่หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เช่น ขับรถจักรยานยนต์ในว่ากลางคืนรถเกิดดับสตาร์ไม่ติดรถทางเอกวิ่งมาแล้วเห็นในระยะกระชั้นชิดเบรกเอาไม่อยู่.อย่างนี้..คำวินิจฉัยก็เปลี่ยนไป
๓.หากเขาไม่ยอมฟัง..ก็หาคนที่เขาเชื่อถือและรู้ข้อเท็จจริงมาอธิบายให้เขาเข้าใจ
๔.อย่างที่บอกต้องหมั่นไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ จะได้รู้เขารู้เราว่า..แท้จริงเขาต้องการอะไร ..เช่นรู้ว่าเขาผิดยังต้องการสู้เพื่อศักดิ์ศรี จะเรียกเงินเยอะๆ เพื่อให้เราได้รับความเดือดร้อนเที่ยวขึ้นศาลบ่อยๆ ที่เรียก ๑ แสนไปไม่ต้องการหรอก..เจ็บใจที่เขานอนจมกองเลือดยังบอกว่าขับรถประสาอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ และพยายามจะหลบหนีอีกหากหม้อน้ำไม่แตกไปแล้ว ....อย่างนี้เราก็จะทราบว่า..ที่จริงเขาเจ็บใจไม่ต้องการเงิน ก็สนองตอบในสิ่งที่เขาต้องการเช่น ขอโทษน่ะ
๕.หากเขายังไม่เข้าใจอีก ก็แสดงว่า เขากำลังจะหา...ค่างวดรถไถนา
๖.ก็เตรียมสู้คดี หากพนักงานสอบสวนไม่ฟ้องเราก็สบายหน่อย..แม้พนักงานสอบสวนไม่ใช่ศาลก็เป็นผู้รวบรวมพนยานหลักฐานต่างๆ ไว้ในสำนวน ชี้แสดงสถานที่เกิดเหตุว่าผู้ใดมาอย่างไร ใครปฏิบัติตามกฎจราจร ประมาท รึไม่ หากถือปฏิบัติตามกฏจราจร ขับรถไม่เร็วย่อมหยุดทันไม่เกิดเหตุ แสดงว่าอีกฝ่ายผิดเต็มๆ
๗.เตรียมติดแก๊สแทนน้ำมัน..เทียวขึ้นศาล...และสู้คดี หาทนายฝีมือหน่อย ชนะแน่หากไม่แพ้
ผมเชื่อว่าในโลกนี้..คำขอโทษ..สวัสดี..รอยยิ้ม..มันบาดหัวใจคนไทย เชื่อเถอะคนไทยใจอ่อน..ไม่งั้นพนักงานสอบสวนรู้ว่าเราถูก....ยังจะให้เราเจรจา เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีกเหรอ.เพราะคำว่าสงสารคนเจ็บ..คนด้อยโอกาส คนจน คนขอทาน..ขนาดไม่ใช่ญาติเรายังช่วยเหลือครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย