WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


รวบรวมภาพ Jeep จากอดีตถึงปัจจุบันทุกรุ่น โดยพี่จ่าชาตรี TMVC
chatree
จาก จ่าชาตรีTMVC
118.174.48.190
พุธที่ , 8/6/2554
เวลา : 15:26

อ่านแล้ว = 16631 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไม่เคยรู้จักรถ Jeep แต่หากถามว่ารถ Jeep มีความเป็นมาเช่นไร คิดว่าคงมีน้อยคนที่จะรู้ ยกเว้นผู้ที่คลั่งไคล้ หรือพวกแฟนพันธุ์แท้เท่านั้น

เรื่องราวของรถ Jeep เริ่มต้นในปี 1940 เมื่อกองทัพสหรัฐอเมริกาต้องการรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับใช้งานทั่วไปในราชการทหารจึงประกาศให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆเข้าประมูล โดยทางกองทัพต้องการรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยรถที่ได้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ต้องเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อสำหรับผู้โดยสาร 3 คน
2. ต้องมีความเร็วอย่างน้อย 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
3. น้ำหนักรถไม่เกิน 1200 ปอนด์
4. น้ำหนักบรรทุก 600 ปอนด์
5. ความกว้างฐานล้อ 75 นิ้ว
6. สูง 36 นิ้ว
7. กระจกหน้าพับได้ พร้อมติดตั้งปืนกลขนาด .30 คาลิเปอร์

ปรากฎว่าทาง อเมริกัน แบนตั้ม ( AMERICAN BANTAM) ซึ่งมี แฟรงค์ เฟนน์ (FRANK FENN) ดำรงตำแหน่งประธาน ได้มอบหมายให้ คาร์ล โพรบสต์ (KARL PROBST) วิศวกรที่ปรึกษาให้เป็นผู้ออกแบบและได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ผลิตด้วยการส่งมอบแบบรถตัวอย่างได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด แม้จะมีน้ำหนักและส่วนสูงเกินกว่ากำหนดก็ตาม ส่วน วิลลี่ โอเวอร์แลนด์ ผู้ร่วมประมูลอีกรายไม่สามารถส่งแบบรถตัวอย่างได้ทัน

รถยนต์ต้นแบบจาก อเมริกัน แบมตั้ม ได้ทำการทดสอบในวันที่ 23 กันยายน 1940 เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ 3 จังหวะ ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 45 แรงม้า ฐานล้อกว้าง 79 นิ้ว น้ำหนักรวม 730 ปอนด์ ความสำเร็จของอเมริกัน แบมตั้ม ในครั้งนี้ ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มอีก 1,500 คัน

ต่อมา ฟอร์ด และวิลลี่ โอเวอร์แลนด์ มีโอกาสได้ผลิตเช่นกัน โดยได้รับแบบพิมพ์เขียวของรถ GPV ซึ่งในขณะนั้นเป็นสมบัติของรัฐ โดยรถของทั้ง 3 ค่ายมีรูปร่างคล้ายกัน โดยวิลลี่ใช้ชื่อว่า QUAD เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 60 แรงม้า ส่วนฟอร์ด ใช้ชื่อว่า PYGMY

และนับเป็นความโชคร้ายของอเมริกัน แบนตั้ม เมื่อกองทัพเลือกให้วิลลี่เป็นผู้ผลิตหลักและฟอร์ดเป็นผู้ผลิตอันดับรอง เนื่องจากอเมริกัน แบนตั้ม ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือพอที่จะผลิตรถยนต์ GPV ได้ทันตามกำหนดในระหว่างสงคราม

ทางวิลลี่ จึงถือโอกาสโฆษณาว่าเป็นผู้ออกแบบรถ Jeep แต่คณะกรรมการสมาพันธ์การค้า ได้ทำการสืบค้นความเป็นมาและประกาศว่าวิลลี่ไม่ได้เป็นผู้สร้าง ผู้ออกแบบตัวจริงคือ อเมริกันแบนตั้ม แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงคาร์ล โพรบสต์ ซึ่งถือเป็นผู้ให้กำเนิดรถ Jeep ตัวจริง
หลังสงครามรถ Jeep กลายเป็นรถยอดนิยมไปโดยปริยาย วิลลี่ไม่เสียเวลาแม้แต่น้อยรีบออกแบบและผลิตรถยนต์สำหรับพลเรือนในรูปแบบต่าง ๆ ในสายการผลิตของ CJ ตั้งแต่ CJ-2A, CJ-3A, CJ-5, CJ-7 และ SCRAMBLER

ต่อมาในปี 1953 ไกเซอร์ เฟรเซอร์ (KAISER-FRAZER) ได้ซื้อวิลลี่ โอเวอร์แลนด์ แต่บริษัทก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่จวบจนปี 1963 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น KAISER JEEP INTERNATIONAL CORPORATION ปี 1970 ก็ถูกขายให้กับบริษัท AMERICAN MOTOR CORPORATION (AMC)


ในปี 1980 ก็มาถึงยุคของ CJ-8/SCRAMBLER ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ทางบริษัท AMC จึงได้พัฒนา COMPACT SIZE ในชื่อ XJ / CHEROKEE ในปี 1984

ครั้นปี 1992 ได้ผลิต ZG GRAND CHEROKEE ด้วยเครื่องยนต์ 4.0 ลิตร เวอร์ชั่น A พร้อมเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกด้วยเครื่อง 5.2 ลิตร V-8 ซึ่งถือเป็น COMPACT SUV ชั้นสูง และก่อนสิ้นทศวรรษในปี 1999 ได้ออก GRAND CHEROKEE 4.0 ลิตร I-6 และ 4.7 ลิตร V-8 เครื่องยนต์ OVER HEAD CAM SHAFT

สำหรับตลาดนอกอเมริกาเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ QUADRA-DRIVE ซึ่งถือเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทันสมัยมากที่สุดในปัจจุบัน

ส่วนWRANGLER ภายหลังหมดยุค CJ ในปี 1987 Jeep ได้นำ WRANGLER MODEL YJ มาทดแทน โดยใช้คอนเซ็ปต์เดิมมากที่สุด ครั้นปี 1997 ได้พัฒนาจากแหนบหน้า/หลัง ที่เคยใช้ใน YJ เป็น COIL SPRINGและ LINK ARM ในMODEL TJ จบจนถึงรุ่นปัจจุบัน

64 ปี ที่ผ่านมายานยนต์รูปทรงกระจังหน้าซี่ ยังคงยืนหยัดอยู่ในหัวใจผู้รักอิสระ จนถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระในการเดินทาง เมื่อมาถึงวันนี้จึงสามารถกล่าวได้ว่า มันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ จนกลายเป็นตำนานหน้าหนึ่งของรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่คลาสสิคแต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง

ปัจจุบันรถ Jeep อยู่ในการดูแลของบริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       Jeep Bantam BRC-60- Prototype 1940
ผลิตปี ค.ศ 1940 จำนวนที่ผลิต 70 คัน
ผลิตโดยบริษัท American Bantum Car Company of Bulter ใช้เวลา 49 วันหลังจากเซ็นสัญญา ถูกส่งมอบที่ Camp Holabird ,MD เมื่อวันที่ 23 ก.ย1940 รถคันแรกของล็อตนี้อยู่ภายในสัญญา" Old Number One"
โดย Willys and Ford ได้ใช้ต้นแบบรถนี้ในการผลิตรถของตัวเองเพื่อแข่งขันกับ Bantam เพื่อการเซ็นสัญญากับกองทัพสหรัฐด้วย






 แก้ไขเมื่อ : 8/6/2554 19:05:07

 แก้ไขเมื่อ : 8/6/2554 19:17:50

 แก้ไขเมื่อ : 9/6/2554 1:51:25

 แก้ไขเมื่อ : 9/6/2554 1:53:34





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 118.174.48.190 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 15:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107241

คำตอบที่ 2
       Jeep Bantam BRC-60- Prototype 1940

 แก้ไขเมื่อ : 8/6/2554 15:32:12

 แก้ไขเมื่อ : 8/6/2554 19:06:11

 แก้ไขเมื่อ : 9/6/2554 1:54:15





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 118.174.48.190 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 15:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107242

คำตอบที่ 3
       Jeep Bantam BRC-60- Prototype 1940

 แก้ไขเมื่อ : 9/6/2554 1:55:19





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.105.237 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 01:44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107281

คำตอบที่ 4
       Jeep Bantam Pilot- Prototype 1940





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.105.237 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 02:17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107282

คำตอบที่ 5
       Jeep Willys Quad- Prototype 1940

ผลิตปี ค.ศ 1940 จำนวนที่ผลิต 2 คัน Willys ได้ผลิตรถรุ่นนี้ออกมา 2 คันเพื่อใช้ในการนำเสนอให้กับกองทัพสหรัฐก่อนที่จะผลิตจริงออกมาเป็นล็อตใหญ่ และก็ประสบ ความสำเร็จ โดยQuad รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 60 แรงม้าที่ชื่อ "Go-Devil" อย่างไรก็ตามรถรุ่นนี้มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก ที่เกิดพิกัดของกองทัพสหรัฐและจำเป็นต้องทำการปรับแต่งใหม่อย่างมาก ถ้าเปรียบว่ารถคันแรกของ Bantam เป็นต้นกำเนิดของยุค Jeepล่ะก็ Quad ก็ เปรียบเสมือนภาพลักษณ์ต้นแบบของรถตระกูล Willys ต่อ ๆ มาก็ว่าได้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.105.237 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 02:20   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107283

คำตอบที่ 6
       Jeep Willys Quad- Prototype 1940






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.105.237 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 02:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107284

คำตอบที่ 7
       Jeep Ford Pygmy - Prototype 1940
ผลิตปี ค.ศ 1940 จำนวนที่ผลิต 2 คัน
"Pygmy" เป็นรถต้นแบบของฟอร์ด ได้ถูกส่งมอบให้กองทัพสหรัฐในเดือนธันวาคม ค.ศ.1940 เพื่อทดสอบและแข่งขันกับBantam และ Willys รูปทรงต่างๆคล้ายกับรถ 2 ยี่ห้อแรก ยกเว้นเครื่องที่ใช้เครื่องรถบรรทุกของฟอร์ด ส่วนประกอบอื่นๆที่แปลกออกไปคือ ฝากกระโปรงที่แบนราบ ไฟหน้าที่หุบเข้าไปข้างในกระจังหน้า






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.105.237 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 02:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107285

คำตอบที่ 8
       Jeep Ford Pygmy - Prototype 1940






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.105.237 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 02:29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107286

คำตอบที่ 9
       Jeep Budd Ford- Prototype 1940

ผลิตปี ค.ศ 1940 Ford Budd Pygmy เป็นรถต้นแบบ ถูกออกแบบให้มีความแตกต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ เล็กน้อย สร้างโดยบริษัท Budd Corporation ในปี ค.ศ. 1940 การออกแบบทำได้ลงตัวให้มากที่สุด Ford Budd โดยกองทัพบกสหรัฐเอมริกาไม่ปฏิเสธและให้ความสนใจของการออกแบบ รถต้นแบบ Ford Budd รถต้นแบบที่เห็นทั่วไปในปี 1940 ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 118.174.50.123 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 15:46   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107318

คำตอบที่ 10
       Jeep Budd Ford- Prototype 1940





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 118.174.50.123 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 15:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107319

คำตอบที่ 11
       Jeep Ford GP 1941

ผลิตปี ค.ศ 1941 จำนวนที่ผลิต 4,456 คัน
เป็นรุ่นที่ต่อมา ที่ฟอร์ดได้ทำการผลิตตามคำสั่งของกองทัพจำนวน 1500 คัน รุ่นนี้มีความคล้ายคลึงกับรุ่นต้นแบบ (pygmy) ที่ฟอร์ดพึงพอใจมาก สำหรับชื่อรุ่นของรถรุ่นน ี้มีที่มาที่ตรงกันข้ามกับความเชื่อส่วนใหญ่ว่า GP มาจากคำว่า General Purpose แต่ที่แท้จริงความหมายของ GP คือ รหัสทางการผลิตของฟอร์ด "G" หมายถึง Government Contract vehical และ "P" เป็นรหัสรถตรวจการที่มีความกว้างฐานล้อ 80 นิ้ว สำหรับชื่อ Jeep Ford GP ไม่มีการะบุที่มาอย่างชัดเจนมี แต่การสันนิษฐานว่าอาจมาจากชื่อตัวการ์ตูนในเรื่องป๊อบอาบบ้างก็ว่าอาจมาขากคำว่าจุดประสงค์ทั่วไปที่แปลว่าอเนกประสงค์ซึ่งย่อว่า GP






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.216.152 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 22:29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107349

คำตอบที่ 12
       Jeep Ford GP 1941





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.216.152 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 22:33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107350

คำตอบที่ 13
       Jeep Willys MA 1941

ผลิตปี ค.ศ 1941 จำนวนที่ผลิต 1,553 คัน
คือรุ่นต่อมาของบริษัท Willys ที่ผลิต และพัฒนาขึ้นมาภายใต้สัญญาการผลิตรถ จำนวน 1500 คันในปี 1941 เช่นเดียวกันกับ Bantam BRC-40 , รถรุ่นนี้เปรียบเหมือนภาพในกระจกเงาของ BRC-40 เพียงแต่มีอุปกรณ์มากขึ้น แล้วก็มีกำลังมากกว่า MA ได้รับเลือกโดย กองทัพให้เป็นรถต้นแบบ "Basic Version" กระจังหน้าหม้อน้ำเป็นแบบเชื่อมคล้ายบานแกร็ด "Slat grill" นี้ ส่วนใหญ่ถูกส่งไปใช้งานในประเทศรัสเซีย ภายใต้สัญญาการให้ยืมอุปกรณ์เพื่อต่อสู้สงคราม






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.216.152 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 22:39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107351

คำตอบที่ 14
       Jeep Willys MA 1941





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.216.152 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 22:42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107352

คำตอบที่ 15
       Jeep Bantam BRC-40 1941

ผลิตปี ค.ศ 1941 จำนวนที่ผลิต 2,675 คัน
ในเดือนมีนาคมปี 1941 กองทัพสหรัฐได้เรียกบริษัท Bantam,Willys,Ford ให้ผลิตและส่งมอบรถแบบนี้บริษัทละ 1,500 คัน ในครั้งนั้นบริษัท Bantam ได้ผลิตรถ BRC-40 ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมมาเป็น กระจังหน้าแบบเรียบ ฝากระโปรงหน้าเรียบ ไฟหน้าไปอยู่ด้านข้างของฝากระโปรง ทั้งนี้รถรุ่นนี้ได้ประกอบออกมาทั้งหมด 2,675 คัน ในปลายปี 1941






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.216.152 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 22:45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107353

คำตอบที่ 16
       Jeep Bantam BRC-40 1941






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.216.152 พฤหัสบดี, 9/6/2554 เวลา : 22:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107355

คำตอบที่ 17
       Jeep Willys MB Slat-Grille (1942)

ผลิตปี ค.ศ 1942 จำนวนที่ผลิต 25,808 คัน
โดยการออกแบบที่กระจังหน้าเป็นตะแกรงเหล็กดัดคล้าย ๆ กับ ฟอร์ด GP รุ่นก่อน
และความแตกต่างนี้ทำให้เป็นเอกลักษณ์โดนเด่นกว่ารุ่นก่อน และ Willy MB Slat-Grille
มีจุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ตรงฝาท้ายด้านหลัง ได้ทำอักษรตัวนูน "Willys" ขึ้นมาใหม่ด้วย
ตะแกรงเหล็กดัด ได้รับการเปลี่ยนแปลงจนได้มาตรฐานแล้ว ก็ให้มีการประทับตราที่ตะแกรงไว้
โดยใช้อักษรว่า "MB" ไว้ประมาณ 200 ชิ้น จนเรารู้จักและชื่นชอบจนทุกวันนี้
ผู้ที่ออกแบบโดย "Reg Hodgson Edmonton"
และอัลเบอร์ตา กองบรรณาธิการกองทัพบก Motors, ลงนิตยสารอย่างเป็นทางการของสมาคมทหารรักษายานพาหนะ (Hodgson reg)


 แก้ไขเมื่อ : 11/6/2554 10:12:49





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 1.47.126.62 เสาร์, 11/6/2554 เวลา : 10:10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107480

คำตอบที่ 18
       Jeep Willys MB Slat-Grille (1942)





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 1.47.126.62 เสาร์, 11/6/2554 เวลา : 10:23   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107481

คำตอบที่ 19
       Jeep Willys MB (stamped grille) 1942-1945

รายละเอียดของรถ
พลประจำรถ 1 นาย
น้ำหนักสุทธิของรถ 1,230 กก.
น้ำหนักบรรทุก 544 กก.
ระยะสูงพ้นพื้น 210 มม.
ยาว 133.25 นิ้ว
กว้าง 62 นิ้ว
สูง 69.75 นิ้ว
เครื่องยนต์ Willys ฟอร์ด 4 กระบอกสูบเรียง L -, 134.2 CI,
การบีบอัด 6.48:1
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง แก็สโซลีน
แรงม้า 4,000 รอบต่อนาที
เพลาหลัง Dana Spicer 4.88:1 23-2,
เพลาหน้า Dana 25
ระบบพยุงตัวรถ แบบแหนบแผ่น , เครื่องผ่อนอาการสะเทือน
ระบบไฟฟ้า 6V.
มุมถึงลาด 45 องศา
มุมจากลาด 34 องศา
ลุยน้ำได้ลึก 21 นิ้ว
ฐานล้อ 80 นิ้ว
ขนาดยาง 6.00 x 16






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 182.53.41.172 พุธ, 15/6/2554 เวลา : 12:32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107795

คำตอบที่ 20
       Jeep Willys MB (stamped grille) 1942-1945





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 182.53.41.172 พุธ, 15/6/2554 เวลา : 12:33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 107797

คำตอบที่ 21
       Jeep Willys W-LU 440-M-PERS-1 (1942)





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 202.91.18.217 จันทร์, 20/6/2554 เวลา : 21:06   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108112

คำตอบที่ 22
       Jeep Willys W-LU 440-M-PERS-1 1942





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 202.91.18.206 จันทร์, 20/6/2554 เวลา : 21:08   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108113

คำตอบที่ 23
       Jeep Ford GPW M-201 (1942-1945)
ในการผลิตรถรุ่นนี้ M201 ได้มีการปรับปรุงทางเทคนิคและที่สำคัญที่สุดคือ ระบบไฟแผงควบคุมของปุ่มสวิทเริ่มติดตั้งเครื่องมือโดย Jaeger, mounts และวงจรต่าง ๆ ภายในรถจากระบบไฟ 6 โวลต์ เปลี่ยนเป็น 24 โวลต์ โดยกองทัพได้รับการตอบรับอย่างดีผลิตโดย Hotchkiss จำนวน 19,000 คัน

 แก้ไขเมื่อ : 22/6/2554 16:04:36





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 118.174.13.9 พุธ, 22/6/2554 เวลา : 12:13   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108281

คำตอบที่ 24
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 118.174.13.9 พุธ, 22/6/2554 เวลา : 16:05   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108314

คำตอบที่ 25
       Jeep Ford GPW (1942-1945)
ผลิตปี ค.ศ. 1942 - 1945 จำนวนที่ผลิต 639,235 คัน
รุ่นนี้ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย ในหลายสมรภูมิสงคราม ถือว่าเป็นรุ่นที่ก้าวเข้าสู่ความเป็นรุ่นมาตรฐานของ Jeep เพราะว่าในขณะนั้น บริษัท Willys มีกำลังการผลิตที่จำกัด ไม่ทันต่อการใช้งาน ทางกองทัพสหรัฐจึงติดต่อให้บริษัท ฟอร์ดผลิตรถ Jeep ขึ้นตามรูปแบบ เดียวกันกับของ Willys (บางแหล่งข้อมูลบอกว่า Willys ว่าจ้างช่วงต่อให้ Ford เพราะทางบริษัทผลิตไม่ทัน) รถรุ่นนี้รูปแบบตะแกรง หน้าปั๊มขึ้นรูป พร้อมซ่อนไฟหน้าหุบเข้าไปข้างในกันชน และฝากระโปงแบบเรียบ โดย Willys ใช้เครื่อง 4 สูบ ชื่อ "Go-Devil" L-head 134 I4 ใช้ไฟระบบ 6 โวลท์ และที่แปลกกว่ารุ่นอื่นคือ ไฟหน้าเป็นแบบขอเกี่ยว สามารถหันกลับมาส่องข้างหลังด้านเครื่องได้ด้วย ในกรณีที่ต้องซ่อมเครื่องเวลากลางคืน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.24.212 จันทร์, 27/6/2554 เวลา : 20:04   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108755

คำตอบที่ 26
       Jeep Ford GPW (1942-1945)






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 115.67.24.212 จันทร์, 27/6/2554 เวลา : 20:09   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 108759

คำตอบที่ 27
       Jeep Ford GPA (1942-1943)

รถจี๊ปสะเทินน้ำสะเทินบกถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท Ford Motor จากส่วนประกอบของฟอร์ด GPW 1 / 4 ตัน 4x4 รูปแบบการตกแต่งภายในคือคล้ายกับ GPW ที่ยางอะไหล่และสมอที่เก็บไว้บนดาดฟ้าด้านหลังกว้านบนดาดฟ้าด้านหน้าและชั้นวางปืนไรเฟิลถูกติดตั้งบนกระจกหน้ารถ ใบพัดและหางเสือถูกติดตั้งอยู่บนด้านหลัง รถจี๊ป สถาปนิกออกแบบเรือเรือสะเทินน้ำสะเทินบก, บริษัทเดียวกับที่ออกแบบ DUKW รถบรรทุก 2 ตัน1 / 2 ระบบสะเทินน้ำสะเทินบก ที่ถูกผลิตขึ้นโดยฟอร์ดในช่วงสงครามโลกครั้งที่เริ่มต้นในปี 1942 และสิ้นสุดมีนาคม 1943 โดยไม่ได้เป็นที่นิยมหรือประสบความสำเร็จกับทหารสหรัฐ และถูกตัดสินมีขนาดเล็กเกินไป ไม่เหมาะกับกับการเคลื่อนย้ายลำเลียงพล อย่างไรก็ตาม GPA ก็ถูกส่งให้กับสหภาพโซเวียตภายใต้การเช่าและยืม โซเวียตอย่างต่อเนื่องเพื่อการผลิต (เป็น GAZ 011) หลังจากที่ได้ข้อสรุปโดยทำสัญญากับฟอร์ด






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 1.46.31.60 จันทร์, 25/7/2554 เวลา : 17:50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110375

คำตอบที่ 28
       Jeep Ford GPA (1942-1943)






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chatree จาก จ่าชาตรีTMVC 125.25.109.178 อังคาร, 26/7/2554 เวลา : 12:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 110433

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,4 ธันวาคม 2567 (Online 6953 คน)